ตอนที่390เอาคืน

ตอนที่390เอาคืน ถ้ายอดขายของเรื่อง《ส่วนความทรงจำ》ออกมาเละเทะเหมือนกับที่คนภายนอกคาดการณ์ไว้ย่อมส่งผลกระทบถึงตำแหน่งของจิรภาสในบริษัทเค.เอฟอย่างแน่นอนอาจมีคนบางส่วนเกิดข้อกังขาในความสามารถและการวางแผนของเขา ซึ่งในสถานการณ์แบบนี้จะสร้างความกดดันให้จิดาภามากกว่าเดิมเธอเป็นคนที่ต้องการพิสูจน์ว่าสิ่งที่จิรภาสเลือกนั้นถูกต้องที่สุด!เขาคือราชาของวงการนี้และจะไม่มีใครมาโค่นเขาได้ แต่ทว่า……สถานการณ์ในตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก และที่ร้ายแรงกว่านั้นก็คือมีโพสต์บนอินเทอร์เน็ตที่เจ้าของโพสต์บอกว่าตนเป็นคนในเคยทำงานอยู่ในกองถ่ายแห่งหนึ่งจึงมีเพื่อนในวงการพอสมควรดังนั้นเธอจึงได้เห็นการตัดต่อในช่วงท้ายของภาพยนตร์แล้วและเธอบอกว่าทักษะการแสดงของจิดาภานั้นห่วยมากเป็นเพียงดาราที่สวยแต่รูปจุดไคลแมกซ์ของเรื่องก็อยู่ในโฆษณาหนึ่งนาทีนั้นแล้วจึงแนะนำให้ทุกคนไม่ต้องไปดูจะดีกว่า ความจริงโพสต์แบบนี้บนอินเทอร์เน็ตไม่สามารถเรียกความสนใจได้มากนักแต่บังเอิญที่โพสต์นี้ดันถูกโพสต์ก่อนวันฉายเพียงหนึ่งวันบวกกับคนๆนี้ยกเหตุผลที่ไม่ควรไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งมีทั้งความจริงและเท็จปนกันไปหมดความคิดเห็นที่เกินจริงจึงนำมาซึ่งความสนใจของทุกคน อีกทั้งยังถูกส่งต่ออย่างรวดเร็วความคิดเห็นเหล่านี้จึงส่งผลกระทบต่อแฟนภาพยนตร์ไม่มากก็น้อย จนตอนนี้ภาพยนตร์เรื่อง《ส่วนความทรงจำ》จึงถูกตัดสินว่าเป็นภาพยนตร์ห่วยแตกไปแล้ว สามารถวางแผนใหญ่ชักใยอยู่เบื้องหลังได้ขนาดนี้นอกจากคู่แข่งแล้วจะเป็นใครไปได้?เพื่อยอดขายพวกเขาสามารถทำได้ทุกวิถีทางใช้วิธีสกปรกแบบนี้เพื่อเหยียบบริษัทเค.เอฟให้จมดิน เรื่องเลวร้ายต่างๆมารวมกันทำให้การออกฉายครั้งแรกของภาพยนตร์เรื่อง《ส่วนความทรงจำ》ช่างน่าเป็นห่วงเหลือเกิน ด้านพรยศไม่เห็นบริษัทตอบโต้อะไรเสียทีจึงเปิดเผยท่าเต้นใหม่ของตัวเองท่อนหนึ่งและยังในช่วงท้ายของวิดิโอเขาใช้วิธีการส่งต่อเพื่อประกาศบอกแฟนคลับว่าเขาจะจับฉลากแจกตั๋วภาพยนตร์เรื่อง《ส่วนความทรงจำ》ทั้งหมดหนึ่งร้อยใบให้กับแฟนคลับเพื่อเป็นการขอบคุณที่แฟนคลับสนันสนุนเขามาโดยตลอดและยังเป็นการขอบคุณจิดาภาที่เคยช่วยเขา บุคลิกของพรยศนั้นดูเป็นกันเองอยู่แล้วบรรดาแฟนคลับก็อยากจะสนันสนุนเพราะรู้สึกว่าเขาเป็นกันเองกับทุกคน แน่นอนว่าบรรดาแฟนคลับไม่ได้สนใจตัวภาพยนตร์มากนักแต่พุ่งความสนใจไปยังไอดอลของพวกเขาล้วนๆ ในตอนหลังการเดินสายโปรโมทของภาพยนตร์เรื่อง《เงาดำ》ก็ทำตามภาพยนตร์เรื่อง《ส่วนความทรงจำ》ทุกอย่างกองถ่ายของจิดาภาไปถึงไหนพวกเขาก็ตามไปถึงนั่นอีกทั้งยังมีลูกไม้มากมายตามกัดบริษัทเค.เอฟไม่ปล่อยเลยพวกเขาต้องการใช้โอกาสนี้ในการทำให้บริษัทของตัวเองเป็นที่รู้จักในวงการมากขึ้น ใครจะไปรู้ว่าบริษัทเค.เอฟจะทำภาพยนตร์ห่วยแบบนี้?โอกาสที่ดีขนาดนี้พวกเขาไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือ “ภพยนตร์เรื่อง《เงาดำ》เป็นผลงานของบริษัทไหน!ทำไมใช้วิธีสกปรกแบบนี้เหมือนกับพวกปรสิตที่เกาะไม่ปล่อย!”พี่นัฏดูข่าวไปด้วยพลางเอ่ยขึ้นอย่างโมโหเธอเป็นคนพูดตรงๆแบบนี้อยู่แล้วยิ่งในสถานการณ์แบบนี้จึงอดไม่ได้ที่จะด่า “เหมือนว่าจะเป็นบริษัททำโฆษณาที่ผันตัวมา”จิดาภาตอบกลับอย่างเรียบเฉย “ฉันได้ยินตฤณบอกว่าตอนนี้ที่บริษัทวุ่นวายไปหมดฝ่ายโปรโมทและฝ่ายประชาสัมพันธ์ต้องทำโอทีทุกวันแต่ก็เหมือนว่าสถานการณ์จะยังไม่ดีขึ้นถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปยอดขายคง……” “การต่อสู้ครั้งนี้ถือว่ายากลำบากจริงๆ”จิดาภาวางโทรศัพท์ลงแววตาของเธอฉายแววเป็นกังวลออกมา สำหรับเธอแล้วยอดขายไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดเธอแค่ไม่ต้องการให้ความพยายามของจิรภาสสูญเปล่าเพราะวิธีสกปรกของคนพวกนั้น “เดี๋ยวฉันจะขอร้องให้เพื่อนๆญาติพี่น้องทุกคนไปดูให้หมด!”พี่นัฏโพล่งขึ้นพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความ จิดาภามองพี่นัฏที่กำลังยุ่งวุ่นวายจิตใจของเธอก็ไม่อาจสงบลงได้ …… ณห้องทำงานประธานบริษัทเค.เอฟ Rickนำข้อมูลตัวเลขล่าสุดวางลงบนโต๊ะของจิรภาสคิดถึงวิธีการที่นักลงทุนของภาพยนตร์เรื่อง《เงาดำ》ใช้แล้วก็อยากจะหัวเราะ“พวกเขาทำการโปรโมทอย่างทุ่มเทจริงๆอีกทั้งยังช่วยเราโฆษณาฟรีๆ” “ทางบอร์ดบริหารมีการเคลื่อนไหวอะไรไหม?” “ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรครับเหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าฝ่ายนั้นกำลังรนหาที่ตาย”Rickตอบกลับด้วยน้ำเสียงสนุกสนานเขาอยากรู้ว่าตอนสุดท้ายสีหน้าของฝ่ายตรงข้ามจะเป็นอย่างไร เขาชอบงานท้าทายแบบนี้ที่สุดฉายาของบริษัทเค.เอฟคือผู้ชนะของวงการบันเทิงสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ทุกครั้งโดยไม่ต้องเปลืองแรงครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ครั้งหนึ่ง วิธีการที่ฝ่ายคู่แข่งใช้นั้นต่ำมากอย่าว่าแต่จิรภาสเลยแม้แต่เขาและตฤณยังขี้เกียจจะสนใจ ถึงแม้ภายนอกจะมีข่าวไม่เห็นแนวโน้มเติบโตของ《ส่วนความทรงจำ》แต่คนในบริษัทกลับไม่ทุกข์ร้อนอะไรเพราะพวกเขารู้ว่าเค.เอฟไม่มีทางแพ้แน่นอน พวกเขาอยากใช้บริษัทเค.เอฟเป็นเบาะในการปีนขึ้นไปให้สูงก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะตกลงมา “กำหนดฉายพรุ่งนี้ทำตามแผนเดิมและช่วงเวลาสำคัญให้เพิ่มรอบฉายอีกสองรอบ”จิรภาสกวาดตามองเอกสารบนโต๊ะพลางเอ่ยขึ้นเสียงเย็น “ด้านเวลาต้องหลบเลี่ยงฝ่ายตรงข้ามไหมครับ?” “ไม่ต้องพล็อตเรื่องและเอฟเฟ็กต์ห่วยๆแบบนั้นหลังจากฉายรอบแรกจะมีคนมาดูอีกหรือไง?”จิรภาสเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ ฝ่ายตรงข้ามถนัดการทำโฆษณามากด้านการตลาดก็มีกลยุทธ์แต่เสียดายที่พวกเขาไม่เข้าใจตลาดภาพยนตร์แถมยังเลือกคู่แข่งผิด บริษัทเค.เอฟไม่สนใจยอดขายของการฉายครั้งแรกเพราะเขามั่นใจในคุณภาพของภาพยนตร์วันฉายวันที่สองสามยอดขายจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนแต่《เงาดำ》พึ่งชื่อเสียงของนักแสดงเป็นสำคัญพอจบการฉายรอบแรกก็ถึงช่วงที่ยอดขายจะตกลงเรื่อยๆ โฆษณาแบบหน้ามืดตามัวรังแต่จะเป็นการขุดหลุมฝังตัวเอง “รับทราบครับผมจะรีบติดต่อแต่ละโรงภาพยนตร์” จิรภาสอยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปีเขาสามารถนั่งอยู่บนตำแหน่งนี้ได้นั้นพึ่งสมองและสองมือในการวางแผน เขาไม่เคยปฏิเสธที่จะเล่มเกมกับศัตรูเขาก็เหมือนผู้ชายทั่วไปที่ชอบการเอาชนะและท่าทางน่าสังเวชของฝ่ายตรงข้ามหลังจบเกม ในที่สุดก็ถึงวันออกฉายวันแรก! เวลาฉายของภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องไล่เลี่ยกันเนื่องจาก《เงาดำ》ใช้ชื่อเสียงของนักแสดงในการโปรโมทการฉายรอบแรกที่นั่งจึงเกือบเต็มหาตั๋วแทบไม่ได้ถึงพล็อตเรื่องจะไม่สนุกฝีมือการแสดงจะห่วยก็ยังมีแฟนคลับคอยสนับสนุนการทำธุรกิจแบบนี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในตลาดภาพยนตร์ เทียบกับ《ส่วนของความทรงจำ》ยอดขายนั้นธรรมดาแต่ไม่มีใครรู้ว่าจิรภาสได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านภาพยนตร์มานั่งดูบริเวณโซนวีไอพีของโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ล้วนเป็นนักวิพากษ์ที่มีชื่อเสียงผู้กำกับและบล็อกเกอร์ที่มีอิทธิพลสิ่งที่จิรภาสต้องการคือยอดขายที่เพิ่มขึ้นหลังจากวันนี้ต่างหาก! หนึ่งชั่วโมงหลังจากการฉายรอบแรกจบลงยอดขายของภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องแตกต่างกันเป็นอย่างมากแต่เสียงวิพากษ์วิจาร์ของคนดูกลับผกผันกับยอดขาย คนส่วนหนึ่งมาดู《เงาดำ》เพราะตัวนักแสดงหลังออกจากโรงก็มีแต่คำพูดหล่ออย่างนั้นหล่ออย่างนี้จากนั้นก็เซลฟี่กับโปสเตอร์หน้าโรง อีกส่วนหนึ่งก็รู้สึกว่าคิดผิดที่ซื้อตั๋วเรื่องนี้บ่นว่าพล็อตเรื่องขยะฝีมือการแสดงของนักแสดงห่วยแตก……