บทที่ 5 ออกรบ (2)
1/
บทที่ 5 ออกรบ (2)
แม่ทัพหญิงของจวนหลง
(
)
已经是第一章了
บทที่ 5 ออกรบ (2)
บทที่ 5 ออกรบ (2) “เอาล่ะคุณหนู พวกข้าออกเดินทางกันเถอะ!” ฝูหลิงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว คล้ายกับว่าในชั่วพริบตาที่หลงเส้าจิ่นพยักศีรษะ นางก็ใช้ท่าปลาหลีฮื้อกระโจนขึ้นมาจากพื้น น้ำตาในดวงตาหยุดไหลโดยพลัน มายืนข้างกายหลงเส้าจิ่นราวกับคนที่ไม่ทุกข์ร้อนอันใด เปลี่ยนสีหน้าได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ หลงเส้าจิ่นเหงื่อตก ลองถามดูว่า ตอนใดที่สาวใช้ข้างกายตนสามารถแง่งอนได้เช่นนี้ ไม่พูดอันใดให้มากความอีก หลงเส้าจิ่นก็ให้คนจูงม้ามาตัวหนึ่ง นางในยามนี้ก็ถึงเวลาที่ควรออกเดินทางได้แล้ว “แยกย้ายกันเถิด แยกย้าย พวกข้าจะออกเดินทางกันแล้ว” เพราะก่อนหน้านี้ฝูหลิงโหวกเหวกโวยวาย หน้าประตูจวนจึงมีคนใช้ในจวนหลงมารวมตัวกันหนาแน่น ฝูหลิงไล่ออกไปทีละคนให้คนใช้พวกนั้นสลายตัว พลิกตัวขึ้นขี่หลังม้า หลงเส้าจิ่นหันศีรษะปราดตามองดูจวนหลงในยามนี้ ร่างกายของหลงลุ่ยฉียังเปราะบางมาก ดังนั้น จึงไม่ได้มาส่ง หันตัวกลับไป หลงเส้าจิ่นก็ออกเดินทางไปรบ ฝูหลิงมองคุณหนูของตนที่อยู่สูงส่งเหนือผู้คน คุณหนูในชุดทหารแลดูใจกล้าอาจหาญ ความกระตือรือร้นราวกับลุกโชติช่วงขึ้นมาในใจของนาง ใครบอกว่าเป็นสตรีแล้วสู้บุรุษไม่ได้เล่า คุณหนูของพวกเขาเผยท่วงท่าสง่างามแล้วก็ดูโหดเหี้ยมพอตัวเลยไม่ใช่หรือ “ยังไม่ไปอีกหรือ” หลงเส้าจิ่นมองฝูหลิงที่จ้องตนอยู่อย่างเหม่อลอย อดใช้น้ำเสียงที่เยือกเย็นสักหน่อยไม่ได้ ไม่รู้จริง ๆ ว่าพานางไปด้วยแล้วจะลำบากเปล่า ๆหรือไม่ ฝูหลิงเก็บความคิดของตนไปโดยพลัน แลบลิ้นอย่างขี้เล่น จากนั้นก็ตามหลังม้าศึกของหลงเส้าจิ่นไปอย่างกระตือรือร้น ที่ประตูใหญ่เมืองหลวง ทหารชั้นยอดหมื่นนายท่าทีสง่าผ่าเผย เรียงกองแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ประหนึ่งเป็นหมาป่าล่าเนื้อตัวเดียวกัน แววตาเกรียงไกร หากข้าศึกอยู่เบื้องหน้า เกรงว่าคงจะถูกพวกเขาฉีกเป็นชิ้น ๆ ได้ในชั่วพริบตา เบื้องหน้ากองทัพ มีคนสวมเสื้อแพรสีเหลืองสดเตะตาผู้หนึ่ง ยังไม่ทันได้เดินเข้าไปใกล้ หลงเส้าจิ่นก็ใจเต้นแรง ท้ายที่สุด ก็ได้พบกันแล้ว หลงเส้าจิ่นมองใบหน้าที่คุ้นเคยเหล่านั้น เรื่องราวในอดีตชาติก็ผุดขึ้นมาอยู่เบื้องหน้า ในอดีตเมื่อไม่นานมานี้ คนผู้นั้นสัญญากับตนว่าจะรักกันชั่วฟ้าดินสลาย และในอดีตเมื่อไม่นานมานี้ คนผู้นั้นขับไล่ตนจากที่สูงให้ได้รับความอัปยศอดสู ความโปรดปรานรักใคร่ หรือความปองร้ายทำลายก็ช่างเถิด ในชาตินี้ หวังเพียงไม่ต้องมาเกี่ยวข้องอันใดกันอีก หลงเส้าจิ่นไม่รู้ว่าตนเองใช้พละกำลังมากมายเพียงใดจึงทำให้ตนดูเหมือนไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนใจ นางขี่ม้าไปข้างหน้าอย่างเฉยชา จนกระทั่งอยู่ต่อหน้าคนผู้นั้นจึงลงจากม้ามาถวายบังคม “หม่อมฉันหลงเส้าจิ่นถวายบังคมฮ่องเต้ ฮ่องเต้ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่น ๆ ปี” “ลุกขึ้นเถิด แม่ทัพหลงไม่ต้องมากมารยาท” จุนหลินเย่มองหลงเส้าจิ่นที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้าตน สายตาที่สงสัยใคร่รู้มองหลงเส้าจิ่นอย่างประเมินโดยไม่หยุดหย่อน เหตุใดกัน เพิ่งเคยพบกันเป็นครั้งแรกแท้ ๆ เขากลับรู้สึกคุ้นเคยกับหลงเส้าจิ่นอย่างแปลกประหลาด ประหนึ่งว่าพวกเขารู้จักกันมาเนิ่นนานแล้วอย่างไรอย่างนั้น จุนหลินเย่ตกใจกับความคิดแปลก ๆ ของตน ทว่า กลับนึกไม่ออกว่าเกิดปัญหาขึ้นที่ใด ยิ่งไปกว่านั้น เขายังรู้สึกถึงไอแห่งความแค้นจากร่างของหลงเส้าจิ่นอีกด้วย แม้ว่าหลงเส้าจิ่นจะปกปิดไว้เป็นอย่างดี แต่ยังไม่อาจหลีกพ้นการรับรู้ของเขาไปได้ เป็นถึงโอรสสวรรค์ ประสาทสัมผัสของเขาอยู่ในขั้นที่สามารถรับรู้ถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ ประหลาดเสียจริง ทว่า ต่อให้เป็นเช่นนี้ จุนหลินเย่ก็ไม่ได้แสดงอาการใดออกมาแม้แต่น้อย คนนอกมองดูแล้ว เขาเพียงแค่มีท่าทีของสุภาพบุรุษผู้หนึ่งที่ข่มขู่บ้างเอ็นดูบ้าง มีทั้งใจดีและแข็งแกร่ง แต่หลงเส้าจิ่น ฝ่ามือกลับชุ่มไปด้วยเหงื่อ สีหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นซีดขาว หลงเส้าจิ่น นี่เจ้าเปราะบางเช่นนี้เชียวหรือ หลงเส้าจิ่นเหยียดหยามตนเองในใจไปหนหนึ่ง “แม่ทัพหลง? เหตุใดถึงเหม่อลอยเช่นนั้นล่ะ”จุนหลินเย่จ้องหลงเส้าจิ่นอย่างไม่กะพริบตา “ทูลฮ่องเต้ เหล่าทหารควรออกเดินทางแล้ว” หลงเส้าจิ่นไม่พูดอันใดอีก พลิกตัวขึ้นขี่หลังม้าในทันใด สะบัดบังเหียนไปอยู่เบื้องหน้าทหารชั้นยอดทั้งหมื่นนาย ท่าทีเช่นนี้ของหลงเส้าจิ่น มีความเมินเฉยตีตัวออกห่างได้อย่างงดงามจริง ๆ กายสวมชุดทหารทั้งตัว ปรากฏเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของนางให้เห็นเด่นชัด ในชั่วพริบตา จุนหลินเย่มองจนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทว่า ก็ปรับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติใด จุนหลินเย่ให้คนหิ้วสุรามากาหนึ่ง รินจนเต็ม ส่งให้หลงเส้าจิ่นจอกหนึ่ง “ขอให้แม่ทัพหลง ชักธงรบก็ชนะศึก กลับคืนมาในเร็ววัน” “ขอให้ทหารกล้าของข้าห้าวหาญดั่งพยัคฆา ปกป้องชาติบ้านเมือง!” จากนั้นก็ยกแก้วให้กับทหารชั้นยอดหมื่นนายในทันใด กล่าวจบ จุนหลินเย่ก็ดื่มสุราในจอกหมดภายในอึกเดียว “ปกป้องชาติบ้านเมือง!” “ปกป้องชาติบ้านเมือง!” “ปกป้องชาติบ้านเมือง!” ต้องบอกเลยว่า จุนหลินเย่เป็นเจ้านายที่มีความสามารถในการปลุกใจทหารมาก เขาพูดเช่นนี้ เป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่ทหารชั้นยอดทั้งหมื่นนาย เพียงครู่เดียว คำขวัญปกป้องชาติบ้านเมืองก็ทะลวงไปถึงขอบฟ้า ทรงพลังยิ่งนัก หลงเส้าจิ่นก็ยกสุราดื่มในอึกเดียว “ขอน้อมรับคำมงคลของฮ่องเต้” หลงเส้าจิ่นหมุนตัว เผชิญหน้ากับทหารจำนวนมาก “แคว้นยู่หลิวสืบทอดมาร้อยปี หรือว่าแคว้นเล็ก ๆ อย่างหานเย่นนั้นคิดจะรังแกก็รังแกได้เล่า เหล่าทหารกล้าฟังคำสั่ง การออกรบครั้งนี้ จักต้องให้แคว้นหานเย่นชดใช้ เลือดต้องล้างด้วยเลือด ชำระแค้นให้กับพี่น้องร่วมท้องของเราที่ต้องตายไป!” “เลือดต้องล้างด้วยเลือด!” “เลือดต้องล้างด้วยเลือด!” “เลือดต้องล้างด้วยเลือด!” ทหารกล้าจำนวนมากร้องตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกัน ตะโกนความโกรธแค้นที่สุมอยู่ในอกของพวกเขามานานออกมา! ด่านชายแดนของแคว้นถูกแคว้นที่เป็นศัตรูล่วงละเมิดย่ำยี พี่น้องท้องเดียวกันเป็นร้อยล้านคนต้องตายอย่างอนาถบนลานทราย จะให้พวกเขาไม่โกรธแค้น สงบจิตสงบใจอยู่ได้อย่างไรเล่า ในเรื่องปลุกขวัญกำลังใจทหาร หลงเส้าจิ่นก็ได้เรียนรู้จากท่านพ่อมาไม่น้อย เห็นเหล่าทหารขวัญกำลังใจดีแล้ว หลงเส้าจิ่นก็สะบัดบังเหียนไปข้างหน้า ไม่หันไปมองจุนหลินเย่อีกแม้สักนิด เศษดินปลิวว่อน ทหารชั้นยอดหมื่นนายค่อย ๆ เคลื่อนออกไปไกล จนกระทั่งมองไม่เห็นร่องรอยใด ๆ จุนหลินเย่ยืนอยู่ที่เดิม ริมฝีปากบางเม้มแน่น จากนั้นก็คลายออกในทันใด มองไปยังทิศทางที่เหล่าทหารจากไป นัยน์ตาลึกล้ำ ดวงตาทั้งสองข้างสงบนิ่งราวกับบ่อน้ำ ไม่มีคลื่นอันใดมารบกวนได้ หลงเส้าจิ่น ข้ารอให้เจ้าคว้าชัยกลับมา ข้าจะรอเจ้า ตลอดทางที่หลงเส้าจิ่นนำทัพเหล่าทหาร นางไม่กล้าโอ้เอ้แม้สักนิด คราวนี้ ด่านชายแดนที่พวกเขาต้องไปเป็นกองหนุน คือ ด่านชายแดนสุดขอบฝั่งตะวันออกของแคว้นยู่หลิวที่ชื่อว่า ด่านชายแดนเมืองโม่ จากเมืองหลวงไปถึงที่นั่น หากรีบออกเดินทางโดยไม่หยุดพักก็ต้องใช้เวลาเกือบสิบวัน หลงเส้าจิ่นนำแผนผังเส้นทางการเคลื่อนทัพออกมาดูรอบแล้วรอบเล่า ท้ายที่สุดก็วางลงอย่างหมดหนทาง ยามนี้เส้นทางการเคลื่อนทัพของพวกเขาเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น จากความเร็วของการเคลื่อนพลในตอนนี้ ไปถึงที่นั่นอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาเก้าวัน “ฝูหลิง ประกาศคำสั่งลงไป ให้กองพลทั้งหมดตั้งค่ายพักผ่อนกันที่นี่” ดูสีท้องฟ้าแล้ว หลงเส้าจิ่นก็พลิกตัวลงจากหลังม้า กำชับลงไปในทันใด พอจัดหาที่พักให้ทหารทั้งหมื่นนายเหล่านั้นได้แล้ว หลงเส้าจิ่นจึงจะมีเวลาเดินลาดตระเวนในค่ายทหาร เร่งเดินทางมาสิบกว่าลี้ ทหารพวกนั้นแต่ละคนล้วนมีท่าทีที่เต็มไปด้วยความอ่อนเพลีย เห็นหลงเส้าจิ่นเดินลาดตระเวนในค่าย แต่ละคนก็แสดงความเคารพอย่างไม่สมัครใจเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นก็รีบนั่งพัก “แม่ทัพของพวกข้าเดินตรวจสอบค่าย พวกเจ้าก็ทำท่าทีเช่นนี้หรือ!” ไม่รู้ว่าเป็นคนที่เท่าใดที่แสดงความเคารพต่อหลงเส้าจิ่นอย่างขอไปที ในที่สุด ฝูหลิงก็โมโหแล้ว นางคว้าคอเสื้อของทหารผู้นั้นไว้ ก่อนยกทหารผู้นั้นขึ้น หลงเส้าจิ่นคิดจะห้าม แต่ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 5 ออกรบ (2)
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A