บทที่ 14 มาถึงเมืองโม่
1/
บทที่ 14 มาถึงเมืองโม่
แม่ทัพหญิงของจวนหลง
(
)
已经是第一章了
บทที่ 14 มาถึงเมืองโม่
บทที่ 14 มาถึงเมืองโม่ “ทหารกองนี้เดิมทีเป็นกองทัพที่ชนะศึก เพียงแต่ ข้าคิดไม่ถึงมาก่อนว่านางจะใช้เพียงแค่เวลาสั้นๆก็สามารถสยบคนทั้งหมดได้ จุดนี้ เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของข้าจริงๆ” จุนจื่อซิวไม่เคยละสายตาไปจากกองทหารนับหมื่นคนที่อยู่ทางด้านหน้าเลย เพียงแต่ เป้าหมายหลักที่เขามองคือคนที่อยู่หน้าสุดของกองทัพนั้นต่างหาก หลายวันมานี้ คนลึกลับที่คอยตามหลงเส้าจิ่น จริงๆแล้วก็คือจุนจื่อซิวและอู๋หมิงนี่เอง “เจ้านาย หลงเส้าจิ่นจะสามารถนำทหารไปออกรบได้จริงหรือ?” จนถึงตอนนี้ อู๋หมิงก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมฮ่องเต้จึงมอบหมายเรื่องที่สำคัญเช่นนี้ให้แก่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง เขายอมรับว่าวิทยายุทธของหลงเส้าจิ่นนั้นยอดเยี่ยม แต่ว่า นำทหารไปออกรบ ไม่ใช่เพียงแค่วิทยายุทธยอดเยี่ยมก็ถือว่าเพียงพอแล้ว อู๋หมิงสารภาพตามตรงว่า หากเป็นตัวเขาเองที่ต้องนำทหารไปออกรบ แม้กระทั่งสิ่งพื้นฐานอย่างเช่นรูปแบบการเดินทัพ ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้เรื่องเลย ดังนั้นตรงจุดนี้ อู๋หมิงจึงรู้สึกสงสัยอย่างมาก เขาถึงขนาดคิดว่า หากเป็นเจ้านายของตนเองเป็นผู้นำทหารไปออกรบ ผลลัพธ์จะออกมาเหมือนกันหรือไม่? อู๋หมิงมองไปที่เจ้านายของตนเอง แล้วมองไปยังคนที่อยู่ด้านหน้าสุดของกองทัพ แล้วแอบก้มหัวลง จุนจื่อซิวไม่ทันสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของอู๋หมิง เขาไม่เคยละสายตาไปจากหลงเส้าจิ่นที่อยู่ด้านหน้าได้เลย เรื่องที่เสด็จพี่มอบหมายให้ทำ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เหนือการควบคุมเล็กน้อย เขาต้องหาวิธีที่จะทำให้ทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอย เมื่อมีความคิดเช่นนี้ จุนจื่อซิวจึงตามกองทัพของหลงเส้าจิ่นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล และคอยหลบซ่อนอยู่เป็นระยะๆมาโดยตลอด แต่หลงเส้าจิ่นก็ไม่ได้สังเกตเห็นว่ากองทัพของตนเองมีคนคอยจับตามองอยู่ หลงเส้าจิ่นเดินอยู่ด้านหน้าสุดของกองทัพ สายตาของนางจับจ้องไปที่ทางข้างหน้าตลอดเวลา ยิ่งเข้าใกล้เมืองโม่มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องระมัดระวังมากขึ้นเท่านั้น ถ้าหากมีกองทัพของศัตรูแอบซุ่มโจมตีอยู่ระหว่างทาง นางจำเป็นจะต้องวางแผนการรบให้ออกมาได้อย่างแม่นยำในทันที เรื่องเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครในขบวนทัพอยากให้เกิดขึ้น แต่ว่า บางครั้งสวรรค์ก็ไม่เป็นใจ ดังนั้น หลงเส้าจิ่นจึงต้องนำทุกเรื่องที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นมาพิจารณาทั้งหมด เพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งรับไม่ทันถ้าหากต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ฉุกเฉิน ยิ่งเข้าใกล้เมืองโม่ สีหน้าของหลงเส้าจิ่นยิ่งดูเคร่งเครียด ระยะทางระหว่างกองทัพของหลงเส้าจิ่นกับเมืองโม่ใกล้เข้ามาทุกที คิ้วของหลงเส้าจิ่นเริ่มขมวดเข้าหากัน ยิ่งแสดงว่าเข้าใกล้เข้าไปทุกทีแล้ว บรรยากาศยิ่งคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นขึ้น จนนางแทบจะหายใจไม่ออก นางพยายามสะกดกลั้นกลิ่นเลือดที่อยู่ในจมูกของตนเอง แล้วค่อยๆพากองทัพของตนเองเข้าใกล้เมืองโม่ ในที่สุด ช่วงบ่ายของการเดินทางวันที่เก้า หลงเส้าจิ่นก็สามารถพากองทัพของตนเองเดินทางมาจนถึงเมืองโม่ได้สำเร็จ ยืนอยู่ที่ด้านล่างประตูเมืองโม่ ผู้ใต้บังคับบัญชาของหลงเส้าจิ่นเดินไปข้างหน้าเพื่อจะเคาะประตู “ใคร!” เสียงเคาะประตูทำให้ทหารยามที่เฝ้าประตูเมืองของเมืองโม่รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้เมืองโม่กำลังอยู่ระหว่างการทำศึกสงคราม ผู้ที่มาเคาะประตู หรือจะเป็นกองทัพศัตรูที่คิดจะเข้ามาโจมตี? เสียงที่กล่าวถามของทหารคนนั้น ทำให้ทหารอีกนับร้อยที่ป้องกันเมืองอยู่รู้สึกหวั่นใจ แต่ละคนจึงถืออาวุธที่อยู่ในมือของตนเองขึ้นมาทันที และแต่ละคนก็มองลงไปเบื้องล่าง อาวุธที่อยู่ในมือก็เตรียมจ่อไปยังคนที่อยู่ด้านล่างคนนั้นทั้งหมด “ทัพเสริมจากเมืองหลวง” เสียงไม่ดังนัก แต่ก็ทำให้ทหารที่เฝ้าเมืองได้ยินอย่างชัดเจน ทหารนับหมื่นที่หลงเส้าจิ่นนำมายังคงยืนอยู่ที่เดิมอย่างเป็นระเบียบ แต่ละคนมีท่าทีที่ดูมีพลัง “ทัพเสริม! ทัพเสริม! พวกเจ้าเป็นทัพเสริมจริงๆ!” เกรงว่าตนเองจะฟังผิดไป ทหารที่เฝ้าเมืองคนนั้นจึงพูดย้ำอยู่หลายรอบ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่คนของหลงเส้าจิ่นจะตอบกลับไป ทหารนับร้อยที่เฝ้าเมืองอยู่ ต่างก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจขึ้นมา! “เร็ว เร็ว เร็ว รีบเปิดประตูเมืองเร็วเข้า! ทัพเสริมมาถึงแล้ว!” “เร็วสิ! เมืองโม่ของพวกเรามีคนมาช่วยแล้ว!” “ฝ่าบาททรงส่งทัพเสริมมาช่วยพวกเราแล้ว! รีบเปิดประตูเมืองเร็วเข้า!” เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีที่ดังก้องอยู่เหนือกำแพงเมืองโม่ ทหารที่คอยรักษาเมืองเหล่านั้น ต่างวางอาวุธที่อยู่ในมือลง ทนไม่ได้ที่จะเปิดประตูเมืองให้เร็วขึ้น เร็วขึ้นกว่านี้ แม่ทัพใหญ่ที่คอยปกป้องเมืองโม่มีนามว่าลิ่งหูกางยี่ เขาเติบโตที่ชายแดนเมืองโม่ตั้งแต่เล็กจนโต จึงรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเมืองโม่แห่งนี้ ในเวลาเดียวกัน ก็รู้จักแคว้นหานเย่นซึ่งมีชายแดนติดกับแคว้นยู่หลิวเป็นอย่างดี ครั้งนี้แคว้นหานเย่นใช้การโจมตีเชิงรุก ต้องขอบคุณลิ่งหูกางยี่ที่สามารถควบคุมสถานการณ์ในเมืองโม่ได้ จึงสามารถใช้คนที่เหลืออยู่เพียงแค่สองพันกว่าคน ช่วยกันปกป้องเมืองโม่ไว้ได้ ใช่แล้ว เดิมทีทหารที่ปกป้องเมืองโม่มีอยู่หมื่นนาย แต่ว่า ครั้งนี้แคว้นหานเย่นใช้การโจมตีเชิงรุก ทำให้ทหารหมื่นนายที่ปกป้องเมืองโม่ถูกทำลาย จนเหลืออยู่ปกป้องเมืองโม่เพียงแค่สองพันกว่านายเท่านั้น “แม่ทัพลิ่งหู! ฝ่าบาทส่งทัพเสริมมาแล้ว! ถึงหน้าประตูเมืองแล้ว!” ทหารคนนั้นรีบวิ่งไปที่ห้องทำงานของลิ่งหูกางยี่ด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับตะโกนเสียงดังและคุกเข่าลงที่พื้น ถ้าลองมองอย่างละเอียด ก็จะพบว่าในตาของทหารคนนั้นมีน้ำตาเอ่อล้นอยู่ เดินทีลิ่งหูกางยิ่งตั้งใจที่จะถามทหารว่าใช่กองทัพของศัตรูหรือไม่ แต่เมื่อได้ฟังข่าวนั้นอย่างรวดเร็วเสียก่อน เขากลับรู้สึกตื่นเต้นกว่าทหารคนนั้นเสียอีก ขณะนั้นยังไม่ทันได้คิดว่าชุดทหารของตนเองยังไม่ได้เปลี่ยนให้เรียบร้อย ก็รีบวิ่งออกไปทันที เมื่อทหารคนนั้นเห็นว่าแม่ทัพของตนเองวิ่งผ่านตนเองออกไป จึงไม่รีรอที่จะวิ่งตามออกไปอย่างทุลักทุเล ขณะที่ลิ่งหูกางยี่เพิ่งจะไปถึงประตูเมือง หลงเส้าจิ่นก็ได้นำกองทหารหมื่นนายของตนเองเข้ามาในเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลิ่งหูกางยี่มองดูหลงเส้าจิ่นที่เดินเข้ามา ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่เขาเองก็ไม่ได้ถามอะไรมาก แล้วจึงยืดคออย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะมองดูทางด้านหลังของหลงเส้าจิ่น เกรงว่าตนเองจะสูงไม่พอ จึงได้เขย่งเท้าขึ้นด้วย แต่มองดูอยู่สักพัก ก็ยังมองไม่เห็นคนที่ตนเองอยากจะพบ เขาจึงรู้สึกแปลกใจ ดังนั้นจึงหันกลับมามองหลงเส้าจิ่นที่เพิ่งจะลงจากหลังม้า ดูแล้วรู้สึกว่ามีท่าทีการเดินที่อ่อนช้อยเล็กน้อย แต่ก็ยังเดินเข้าไปหา “น้องชาย ท่าน ท่านแม่ทัพล่ะ?” ลิ่งหูกางยี่ลังเลอยู่สักพัก แล้วจึงเอ่ยถามสิ่งที่ตนเองสงสัยออกมา ในเมื่อทัพเสริมมาถึงแล้ว แล้วทำไมจึงไม่มีแม่ทัพนำทัพมาล่ะ? แม่ทัพ? เมื่อได้ยินสิ่งที่แม่ทัพผู้ปกป้องเมืองเอ่ยถามออกมา หางตาของหลงเส้าจิ่นก็กระตุกแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นางมองดูทหารนับหมื่นที่นางพามา แล้วหันกลับไปดูแม่ทัพผู้ปกป้องเมืองที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครารุงรัง ผิวหนังดำคล้ำที่เต็มไปด้วยบาดแผลทั้งเก่าและใหม่ ชุดเกราะเปื้อนไปด้วยเลือดที่ยังไม่ทันแห้งสนิท นัยน์ตาสีดำเป็นประกายที่คอยมองซ้ายมองขวา เหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่ “ท่านแม่ทัพมีนามว่าอะไร?” เมื่อเห็นการแต่งตัวของคนผู้นั้น หลงเส้าจิ่นก็คิดว่าคงจะต้องเป็นแม่ทัพที่คอยปกป้องเมืองผู้นั้นแน่นอน “ข้ามีนามว่าลิ่งหูกางยี่ ขอถามหน่อยน้องชาย ท่านแม่ทัพของพวกเจ้าอยู่ที่ไหน? ทำไมจึงไม่เห็นเงาของท่านแม่ทัพเลย?” แต่เขาไม่มีทางที่จะคิดได้เลยว่าน้องชายที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้ คือท่านแม่ทัพที่เขาคิดถึงอยู่ จริงๆแล้วจะโทษที่ลิ่งหูกางยี่ถามเช่นนี้ก็ไม่ได้ เพราะหลงเส้าจิ่นเอง นอกจากเรื่องที่เดินนำหน้าขบวนทัพแล้ว ส่วนอื่นไม่มีอะไรที่ดูคล้ายแม่ทัพเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นการที่ลิ่งหูกางยี่ถามออกมาเช่นนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 14 มาถึงเมืองโม่
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A