[ 2 ] อัญมณี วัฒนา […ปัจจุบัน] [1.2]   1/    
已经是第一章了
[ 2 ] อัญมณี วัฒนา […ปัจจุบัน] [1.2]
.....นี่แหละค่ะ ความเป็นมาของหนู หนูชื่ออัญมณี วัฒนา หรือเรียกสั้นๆว่า อัญหรือหนูอัญก็ได้ค่ะ ชื่อนี้คุณปู่เป็นคนตั้งให้หนู เพราะสำหรับท่านหนูมีค่าดั่งอัญมณี แม้หนูจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากความเกลียดชังและไม่ตั้งใจของคนที่เป็นพ่อและแม่แท้ๆก็ตาม ถ้าเรื่องของหนูเป็นนิยาย ป่านนี้ในบ้านหลังนี้ก็จะต้องมีครอบครัววัฒนาอาศัยอยู่กันอย่างมีความสุขทั้งห้าชีวิต นั่นก็คือ คุณปู่ คุณยาย คุณพ่อ คุณแม่ และหนู แบบนั้นเรียกว่าจบอย่างแฮปปี้เอ็นดิ่ง พ่อกับแม่ที่ทะเลาะเบาะแว้งก็จะต้องกลับมารักกันพรอตเรื่องนิยายที่หนูเคยอ่านมันเป็นแบบนี้ แต่เผอิญเรื่องมันไม่ได้เป็นแบบนั้นนะสิค่ะ สิบเก้าปีของหนูในบ้านวัฒนา กลับมีเพียงคุณปู่ คุณยายและหนูแค่นั้นค่ะ...เรื่องราวต่อจากนี้ต่างหากค่ะที่เป็นสาระ มันเป็นเรื่องของหนูค่ะ หนูขอแนะนำตัวอีกครั้งนะคะ หนูชื่ออัญมณี อายุครบสิบเก้าปีแล้วหนูเกิดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา การจัดงานฉลองวันเกิดในวันนั้นของหนูยิ่งใหญ่มากๆ คุณปู่จัดงานให้อย่างสมฐานะของหนู หนูมีคุณปู่ที่ร่ำรวยมาก และท่านก็รักและตามใจหนูทุกๆอย่าง หนูเติบโตมาบนกองเงินกองทอง เสพสุขได้อย่างเต็มที่ตลอดสิบเก้าปี และในคืนนี้หนูกำลังแต่งตัวอย่างสวยงาม ไปร่วมงานวันเกิดเพื่อนในกลุ่มที่ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา “เสร็จแล้วค่ะคุณหนู” พี่เลี้ยงคนที่สองในชีวิตของหนูเอ่ยบอก เมื่อเธอค่อยๆลอกสติ๊กเกอร์แทททูลวดลายผีเสื้อที่ไม่ซ้ำใครที่ไหล่ด้านหลัง “ลายแปลกดีนะคะ” “แน่นอนค่ะ เป็นแทททูที่สั่งทำพิเศษค่ะ เป็นไงค่ะหนูดูเป็นไงค่ะ” “น่ารักมากค่ะ” พี่เลี้ยงเอ่ยออกมาด้วยความจริงใจ ชุดเกาะอกสีม่วง คาดทองกระโปรงฟูยาวแค่เข่า สีของชุดเข้ากับสีของแทททูมากๆ เธอเหมือนผีเสื้อจริงๆ “ว่าแต่คุณท่านจะไม่ว่าเหรอคะ มันดูจะโป้นิดๆในสายตาของคุณท่าน” “หนูจะใช้ผ้าคลุมไหล่ค่ะ” อัญมณีพูดพร้อมกับหยิบผ้าคลุมไหล่สีทองมาคลุมไว้ “เป็นไงคะ” “โอเคค่ะ” รถคันหรูค่อยๆชะลอเพื่อเข้าที่จอด เบาะหลังมีหญิงสาววัยสิบเก้าปีนั่งเคียงข้างมากับตุ๊กตาหมีไซด์ขนาดเกือบเท่าตัวเธอเลยก็ว่าได้มันคือของขวัญวันเกิดสำหรับเพื่อนสาวที่อัญมณีเตรียมมาให้ “เชิญครับคุณหนู” คนขับรถเดินลงมาเปิดประตูรถฝั่งที่เธอนั่ง ให้อย่างนอบน้อม ก็อย่างที่บอกหนูนะเสพสุขบนความมั่งคั่ง ความร่ำรวยนี้ หนูคงต้องขอขอบคุณคุณย่าที่หนูรู้จักแต่เพียงในรูป ทำไมนะเหรอ ก็ลองคิดดูว่าถ้าคุณย่าไม่เสีย หนูจะมีโอกาสได้เกิดมามั้ย แม้หนูจะไม่รู้จักท่านแต่หนูก็กราบไหว้ท่านทุกวันด้วยความสำนึกในบุญคุณอย่างมหาศาล เมื่อก่อนครอบครัววัฒนาไม่ได้ร่ำรวยอะไรเลย ก็แค่พอมีพอกิน เท่าที่หนูทราบคุณปู่คุณย่าเริ่มต้นจากการเป็นนายหน้าขายที่ดินที่ต้องขยันมาก เงินต่อเงิน จากเป็นนายหน้าพวกท่านก็ข้ามขั้นมาเป็นเจ้าของที่ดิน เจ้าของห้องเช่า เจ้าของคอนโด เจ้าของตลาด และพวกท่านก็เปิดให้เช่าทุกอย่างจนเปลี่ยนฐานะจากที่แค่มีกินเป็นร่ำรวยเหลือกินเหลือใช้ และมันก็ส่งต่อมายังเธอที่เป็นหลานแท้ๆของคุณปู่ มรดกครึ่งหนึ่งของคุณปู่ท่านบอกว่าเป็นของหนู เพราะอีกครึ่งหนึ่งพ่อของหนูได้มันไปแล้วนั่นเอง เป็นไงละคะสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น ตอนนี้สิ่งมีชีวิตนี้กลายเป็นเศรษฐีนีอย่างช่วยไม่ได้ “เชิญครับ” พนักงานของร้านกล่าวเชิญหนูอัญ หลังจากที่เธอโชว์แทททูสำหรับเข้างาน อ่อ! หนูลืมบอกค่ะ แทททูนี้เป็นแบบที่สั่งทำพิเศษ ของหนูเป็นลายผีเสื้อ ลายแบบหนูมีสมาชิกอีกสองสามคนที่เหมือนกัน มันก็เหมือนบัตรเชิญ แล้วแต่ว่าใครจะเอามันไปแปะไว้ตรงไหนของร่างกาย แต่จะเข้างานได้ต้องเป็นคนที่มีมันเท่านั้น “ยายอัญ! ช้าจังเลยนะย๊ะ” เฟิร์น เจ้าของงานในคืนนี้เดินเข้ามาหาหนูอัญทันที เราสองคนสนิทกันมาก ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะเรารวยพอๆกันก็ได้ “สุขสันต์วันเกิดจ๊ะ” ฉันโอบกอดเธอไว้ และขยับให้เฟิร์นเห็นของขวัญที่คนขับรถแบกมันอยู่ตอนนี้ “ว้าวววว!!!!” เฟิร์นตื่นเต้นกับของขวัญที่หนูอัญเตรียมมา เธอนำทางให้หนูอัญและคนขับรถไปยังโต๊ะที่วางของขวัญ พนักงานของร้านต้องกางโต๊ะเพิ่มอีกหนึ่งตัวเพื่อวางของขวัญชิ้นนี้ของหนูอัญ มันใหญ่โดดเด่นกว่าของใครทุกคน และเป็นไปอย่างที่คาด หนูอัญเป็นที่สนใจของเพื่อนๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว อ๊ะ! มาถึงตรงนี้คงคิดว่าหนูเป็นพวกชอบโอ่ ชอบอวด หรืออยากเป็นคนที่น่าสนใจใช่มั้ยคะ ซึ่งอย่างหลังอาจจะเกิดขึ้นในชีวิตหนูจริงๆ ที่เป็นจุดที่น่าสนใจแต่นั่นมันช่วยไม่ได้ สิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดมาอย่างหนูดันเกิดมาด้วยน้ำเชื้อที่ดีของพ่อและแม่ หนูจึงจัดเป็นความสวยงามและความน่ารักดึงดูดผู้คนที่พบเห็นอย่างช่วยไม่ได้ มาถึงตอนนี้คงไม่มีใครคิดว่าหนูคือเด็กที่โชคร้ายแล้วใช่มั้ยคะ ใช่ค่ะ! หนูก็ไม่เคยคิดว่าการที่หนูไม่มีพ่อกับแม่หนูจะโชคร้าย เพราะฉะนั้นในทุกๆวันที่ผ่านไปของชีวิต บอกได้เลยว่า หนูมีความสุขสุดๆ หนูไม่มีความอิจฉาริษยาใคร หนูมีเพื่อนๆมากมายเพราะหนูไม่ได้ถือว่าตนรวยและสวยแล้วต้องหยิ่งหรือต้องเลือกคบเพื่อน หนูคบเพื่อนทุกชนชั้น รวย รวยมาก ปานกลาง จน จนมาก คนเหล่านั้นแหละที่เป็นเพื่อนของหนูค่ะ กรี๊ดดดด เสียงกรีดร้องลั่นของเหล่าเพื่อนๆที่สนุกสนานกับท่วงทำนองเพลงที่เปิดดังก้องกังวาลให้กับพวกเราได้ออกท่วงท่ากันอย่างเต็มที่ และแน่นอนหนูก็เป็นหนึ่งในนั้น หนูไม่มีเคอร์ฟิว อยากกลับตอนไหนก็ได้ แม้ตอนนี้จะใกล้เที่ยงคืนมากแล้วก็ตาม “ไปห้องน้ำ” หนูอัญตะโกนร้องบอกเพื่อน เมื่อเธอที่ผละออกมาแล้วถูกคว้าแขนไว้ ส้มพยักหน้ารับรู้และยอมปล่อยแขนเธอ เธอจึงต้องเดินฝ่าวงล้อมเพื่อนๆที่ยังคงวาดลวดลายมา และเสียงดังพวกนั้นก็จางลงเมื่อเธอออกมาจากห้องอาหาร เฮ้ยยยยย หนูอัญสูดอากาศข้างนอกที่แสนจะสบายด้วยบรรยากาศสดชื่น ก็ร้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา วิวก็สวย อากาศก็ดี แม้จะมีกลิ่นไอของน้ำบ้างแต่โดยรวมแล้วถือว่าอากาศดีมาก และไหนจะเสียงเครื่องยนตร์ของเรือบ้างบางเวลาจากที่ไกลๆ ให้ความรู้สึกถึงชีวิตติดดินจริงๆ หนูอัญเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว แต่เธอไม่ได้กลับเข้าไปยังร้านโดยทันที เธอกลับเดินไปตามทางเท้าที่มีรั้วกั้นไปตามริมขอบแม่น้ำ สายลม ท้องฟ้ายามเที่ยงคืนสวยจริงๆ หนู้อัญยังเดินไปเรื่อยๆ สลับมองขึ้นสูงบ้างมองไปไกลบ้างแบบนี้ไปเรื่อยๆ เท้าก็ขยับไปเรื่อยๆตามสายตาที่มองไปไกลๆ “ไม่!!! ไม่ ไม่ ไม่!!!!” “นั่นแกสั่งฉันเหรอ” หนูอัญหยุดการย่างเท้าทันที โอ้! นี่เธอเดินมาไกลขนาดนี้เลยเหรอ “ให้โอกาสผมเถอะครับท่าน” ฮาฮาฮา “แกไม่รู้จักฉันอย่างงั้นเหรอ” เสียงบทสนทนาที่ดังมาจากอีกด้านที่เป็นเหมือนป่า เธอมองซ้ายมองขวา แถวนี้แสงสว่างน้อยมาก และเสียงนั่นก็ดังมาอีกครั้ง “ได้โปรดอย่าฆ่าผม ผมจะบอกว่ามันอยู่ไหน” ฆ่า! โอ้ยยยยย!!! นี่มันเรื่องอะไรกัน...ความสงสัยและความอยากรู้อยากเห็นในตัวของมนุษย์ย่อมเกิดขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่ไม่ใช่เป็นปกติ...แทนที่เธอจะวิ่งกลับไปทันที เธอกลับเดินเข้าใกล้แหล่งบทสนทนานั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็นแบบที่เธอจะต้องมาเสียใจทีหลังแน่นอน ดวงตากลมโตเบิกว้างอย่างพยายามเพ่งมอง เธอเห็นผู้ชายหลายคนพวกเขาสูงใหญ่เกินกว่าจะเป็นคนเอเชีย อ้า! เธอเห็นหนึ่งคนกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ ดวงตาเบิกโพลงใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และเมื่อพวกที่ยืนอยู่ขยับหลีก... อ๊ะ! อัญมณีแทบจะยกมือปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน เมื่อมีร่างชายหนึ่งคนนอนคว่ำดวงตาเบิกโพลง ที่หน้าผากมีรูที่มีเลือดออกมา โอ้วววว! เขาตายแล้ว เธอตัวสั่นเทา นี่เธอ!มารู้เห็นอะไรเข้าแล้ว ‘ฆาตกรรม’ มันคือการฆาตกรรม ตายแล้ว!!! หนูอัญก่นร้องอยู่ในใจ เธอต้องไปแล้ว รองเท้าส้นสูงเธอต้องถอดมันออกก่อน ใช่ๆ สติๆ หนูอัญพยายามมีสติในสภาวะคับขัน เพราะหลังจากนี้เธอจะใส่เกียร์หมาวิ่งป่าราบเลยคอยดู วู้ววววววว ฟิ้ววววววว จู่ๆสายลมก็พัดมาจากทางด้านหลังของเธอ ควับ! จู่ๆคนที่เธอเห็นแต่แผ่นหลัง ก็หันกลับมา รองเท้าคู่สวยอยู่ในมือเรียบร้อย ดวงตากลมโตเผลอไผลไปสบตากับดวงตาสีเทาอ่อน !!!!! “มีคนอยู่ตรงนั้น!” เสียงต่ำแต่แฝงไปด้วยอำนาจ หนูอัญไม่รีรอเธอหันหลังกลับ มือมัวแต่ยึดจับรองเท้าจนทำให้ผ้าคลุมไหล่ล่วงหล่นเผยไหล่เปลือย อย่างไม่ตั้งใจ หนูอัญไม่ลืมว่าตรงนี้แสงน้อย แม้จะสบตากับฆาตกรแต่เขาก็เห็นหน้าเธอไม่ชัดแน่ๆ เธอมั่นใจและอีกอย่างเธออยู่ในมุมอับ “บ้าจริง!” เมื่อผ้าคลุมไหล่เกี่ยวพันกับต้นไม้ เธอจึงจำต้องทิ้งมันและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ดีนะที่เธอมักจะเป็นนักกรีฑาให้กับสีที่ตนประจำอยู่ยามที่โรงเรียนมีกีฬาสี ความรวดเร็วไม่ต้องพูดถึงชั่วพริบตาเธอก็ทิ้งห่างจากสถานที่เกิดเหตุไปอย่างรวดเร็ว “นี่ครับนาย” เจ้าของดวงตาสีเทารับผ้าคลุมไหล่สีทองอ่อนมาถือไว้ ถ้าลมไม่พัดมามีหรือเขาจะรู้ว่ามีคนแอบสุ่มดูอยู่ กลิ่นน้ำหอมที่ลอยมาตามลมทำให้เขารู้ตัวเป็นกลิ่นเดียวกับผ้าคลุมไหล่ผืนนี้ “เอาตัวมันไป และกำจัดศพซะ ฉันจะไปรอฟังข่าวที่รถ หวังว่าพวกที่ตามไปจะจับพยานได้นะ” “ครับนาย” เหล่าลูกน้องที่เหลือขานรับคำสั่ง
已经是最新一章了
加载中