[ 5 ] โถ่วววว!!! หนูอัญ [2.2]   1/    
已经是第一章了
[ 5 ] โถ่วววว!!! หนูอัญ [2.2]
อัญมณียังเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่กับบ้าน จนถึงวันที่คนของแก้วตามารับ “สวัสดีค่ะ ดิฉันมาตารี คนที่คุณแก้วตาส่งมารับคุณอัญมณีค่ะ” มาตารีรายงานตัวกับคุณอัฐและกอแก้ว “ฉันเป็นแม่ของแก้วตา เธอเจอลูกสาวฉันบ้างมั้ย” “อ่อค่ะ เมื่อสองปีก่อนค่ะ คุณแก้วตาสบายดีค่ะ เธอฝากบอกคุณกอแก้วว่าไม่ต้องเป็นห่วงเธอค่ะ” มาตารีโกหก “ดีแล้ว เมื่อวันก่อนที่เขาโทร.มา เสียงเขาก็ร่าเริงมีความสุขดี” มาตารียิ้มออกมา “คุณยายคุณปู่ หนูพร้อมแล้วค่ะ” หนูอัญวิ่งเข้ามากอดคนที่เธอเอ่ยเรียกและสลับหอมแก้มผู้เป็นที่รักทั้งสอง “เอ๋! คนนี้คือ” “คนที่แม่ส่งมารับหนู” “คุณแต่งตัวแปลกจัง ไม่ร้อนเหรอคะ” หนูอัญเอ่ยถาม เธอไม่เคยเจอผู้หญิงที่ใส่ส่าหรีแบบเต็มองค์ขนาดนี้แบบใกล้ๆ แม้เครื่องประดับจะไม่เยอะ แต่เธอก็เห็นแต่ลูกตาคนตรงหน้าเท่านั้น “ดิฉันชินนะคะ” มาตารีแอบลอบยิ้มเมื่อได้เห็นบุตรสาวของเจ้านายผู้เป็นที่รัก เธอสวยน่ารักมากจริงๆอย่างที่คาดไว้ แล้วแบบนี้เธอจะรอดพ้นจาก ชอว์ได้อย่างไรกัน ใครๆก็รู้ว่าชอว์ปฎิบัติกับผู้หญิงแบบไหน ทำให้มาตารีอดวาดอนาคตของอัญมณีไม่ได้เลยว่าเธอจะต้องเจอกับอะไร เพราะวันนั้นชอว์เองก็แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจเจ้านายตนอย่างมาก “ท่านหญิง มาตารีขออนุญาตถามนะคะ ว่าชอว์เขาจะรู้ได้อย่างไรกันคะว่าเราส่งตัวจริงไปให้เขา” “เจ้าลืมของขวัญที่ข้ามอบให้อัญมณีแล้วเหรอ” “กำไลนั่น จริงด้วย มันคือของประจำตัวแทนท่านหญิง” “ใช่! เด็กคนนั้นอาจจะไม่รู้ความหมายของมัน แต่ชอว์รู้แน่นอน เจ้าก็แค่สังเกตหน่อยว่าวันเดินทางอัญมณีสวมมันเหรอไม่ก็พอ” มาตารีลอบมองชำเลืองข้อมือเล็กและเธอก็ยิ้มออกมา อัญมณีสวมมันอยู่ “หนูไปแล้วนะคะ แล้วหนูจะซื้อของมาฝากคุณปู่และคุณยายเยอะๆเลย” “แค่หนูมีความสุขมากๆเท่านั้นก็พอจ๊ะ” “หนูรักคุณปู่กับคุณยายนะคะ แล้วอย่าลืมนะคะ ว่าอย่าบอกใครนะคะว่าหนูไปไหนแม้แต่ยายเฟิร์น” กอแก้วพยักหน้ารับปาก สำหรับอัญมณีเธอขอกันไว้ก่อนดีกว่า ยิ่งคนรู้น้อยเป็นดีที่สุด “เอ่อ! เรากำลังจะไปไหนกันคะ” “ขึ้นเครื่องคะ” หนูอัญสงสัย เพราะเธอไม่ได้ลงที่ด้านหน้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รถตู้สีดำขับเลยไปอีกทาง ทำไมเป็นแบบนั้น “คุณอัญมณีย้ายไปขึ้นรถคันนั้นได้เลยค่ะ” อัญมณีมองรถคันนั้น คันที่มาตารีบอก มีรถสีดำอีกคันจอดรออยู่ “ทำไมต้องย้ายรถด้วยคะ” “ไปเถอะคะ ไม่มีอะไรหรอกคะ รถคันนั้นสามารถเข้าไปในลานจอดเครื่องบินได้ค่ะ” มาตารียังคงรักษาระดับความปกติไว้ เพราะอีกภาระกิจหนึ่งคือเธอต้องยึดกระเป๋าเดินทางของอัญมณีไว้ แม้แก้วตาจะมั่นใจว่าการเดินทางครั้งนี้อัญมณีคงไม่พกตุ๊กตาเซรามิคไปด้วยแน่ๆ แต่เธอก็ไม่อยากประมาท ให้อัญมณีไปแต่ตัวแบบนั้นเธอมั่นใจสบายกว่าว่ามีแต่กำไลเท่านั้นที่เธอจะพกพาไปเป็นการแสดงตัวตนต่อชอว์ แต่เมื่ออัญมณีไม่ยอมขยับ มาตารีจึงส่งสายตาให้คนขับ ซึ่งเขาก็ลงจากรถและเดินอ้อมไปฝั่งประตูด้านที่อัญมณีนั่งอยู่ทันที และเมื่อรถที่มาทีหลังเคลื่อนไหว รถคันที่จอดรออยู่ก็เคลื่อนไหวเช่นกัน ประตูเบาะหลังถูกเปิดออก อัญมณีมองคนที่ก้าวลงมา เธออ้าปากค้าง คนอะไรหล่อน่ากลัวมาก ผู้ชายร่างสูงแต่แววตาน่ากลัวเหลือเกิน เขายืนนิ่ง แต่สายตาเขามองมาทางนี้ เขาจะใช้ดวงตาคู่นั่นยิงเลเซอร์ระเบิดรถเหรอยังไงกัน “เชิญครับ” คนขับรถกล่าวอย่างสุภาพ และพยายามนับหนึ่งถึงสิบ เพราะเขาคิดไว้แล้วว่าถ้าเธอไม่ลงมาดีๆ ก็คงต้องใช้กำลังกันบ้าง หนูอัญแม้จะเยาว์วัยแต่เธอก็ฉลาดและความลับเกี่ยวกับตัวเธอไม่มีใครบนโลกใบนี้รู้นอกจากตัวเธอ...บรรยากาศมันไม่ใช่เลย ทุกอย่างรอบข้างดูลึกลับมาก เธอไม่โทษใครหรอกแม้แต่ตัวเองกับสถานการณ์คับขันตอนนี้ ก็คุณยายบอกว่าเป็นแม่เธอนี่น่า สายตาเธอมองไปรอบๆ สมองคิดแต่เพียงว่าแค่วิ่งก็พอ วิ่งเท่านั้น ไม่ปงไม่ไปมันแล้ว....สวิสเซอร์แลนด์ ตึก ตัก ตึก ตัก ฟู่ ทำไมจู่หนูอัญถึงรู้สึกขนลุกแปลกๆ แค่เขาคนนั้นขยับก้าวเดินมาทางรถที่เธอยังไม่ยอมออกไปสักที พรึ่บ! หนูอัญยอมออกมาจากรถ เธอพยายามที่จะลงมาแบบสงบทั้งๆที่หัวใจเธอเต้นแรงมาก ฟิ้ววววว หนูอัญหันหลังให้กับทุกคน เธอออกวิ่งทันที ชอว์ยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นภาพนั้น เขาไม่ได้วิ่งตาม และไม่บ่อยนักที่รอยยิ้มจะเกิดขึ้นบนหน้าชอว์กับเรื่องที่ไม่น่าขบขันเลยสักนิด ปึก! โอ้ยยยย! หนูอัญร้องออกมาพร้อมกับที่เธอหงายหลังก้นกระแทกพื้นอย่างจัง และเมื่อดวงตาเปิดกว้าง เธอก็เห็นชายร่างสูงใหญ่ในชุดดำสองคนที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ ซึ่งเธอก็ชนเข้าอย่างจัง หนูอัญยังนั่งอยู่กับพื้น เธอก้มหน้าลง สองต่อหนึ่ง ซึ่งหนึ่งเสียเปรียบทุกกระเบียดนิ้ว เพราะเป็นสองต่อหนึ่งที่หนึ่งเป็นเพียงลูกเป็ดกับสองเป็นเหมือนเสือโคร่ง กึกกึกกึก เสียงฝีเท้ากับเงาที่ทอดยาวมา ค่อยๆ เคลื่อนมากระทบร่างบอบบางของเธอ และสถานการณ์ก็เป็นสามต่อหนึ่ง! “ลุกขึ้น!” เสียงแห่งอำนาจที่น่าขนลุกมากๆ พูดไทยชัดมากหน้าตาไม่ให้เลยสักนิด “ไม่!” หนูอัญร้องบอก เธอก้มหน้าลงและเอี้ยวคอหันไปด้านหลัง ทำไมนะ! เธอถึงรู้สึกว่าคนข้างหลังน่ากลัวกว่าสองคนข้างหน้าหลายเท่านัก “ไม่อยากไปเที่ยวแล้วเหรอ” ชอว์เอ่ยถาม “ไม่ไป” “งั้นพากลับไปส่งบ้านก็ได้” “ไม่เอา” หนูอัญที่มัวแต่ต่อล้อต่อเถียงอยู่กับชอว์ เธอไม่รู้ตัวเลยว่ารถที่นั่งมา ได้เคลื่อนจากไปเสียแล้ว อ้ากกกก!!!! พรึ่บ! หนูอัญร้องออกมาเมื่อจู่ๆ เงาของคนด้านหลังก็ทาบทับบนร่างเธอพร้อมกับลมหายใจของเขา เมื่อเขานั่งย่อเข่าซ้อนด้านหลังเธอ เขาเข้ามาแบบที่เธอไม่รู้ตัวเลย มารู้ตัวอีกทีเขาก็ประชิดตัวเธอแล้ว “นั่งตรงนี้ไม่ร้อนเหรอไง” ชอว์พูดพร้อมกับมองเห็นข้อมือเธอ เพราะแสงจากดวงตางูมันสะท้อนเข้าตาจนเขาต้องย่อตัวลงมามองให้เห็นชัดๆ “ไม่ร้อน และจะนั่งมันแบบนี้ต่อด้วย!” “เอาสิ! อยากทำอะไรก็ทำเลย ไม่มีใครว่าเธอหรอก” หนูอัญหันหลังกลับมาอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินดังนั้น ซึ่งชอว์มัวแต่สนใจมองกำไลข้อมือเธอ ควับ! ใบหน้าที่สัมผัสกันอย่างไม่ตั้งใจ ปลายจมูกของคนทั้งสองสัมผัสกัน ดวงตาถูกดึงมามองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าโดยอัตโนมัติ คุ้นๆ เมื่อดวงตาสบประสานกัน ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับทั้งสอง แต่พวกเขาก็นึกไม่ออก ต่างรู้สึกเพียงแต่ว่าดวงตาของคนตรงหน้ามันไปสะกิดใจพวกเขาอย่างมาก และชอว์พึ่งจะได้เห็นใบหน้าเธอคนนี้ชัดๆเป็นครั้งแรก เด็กนี่! หน้าตาสะสวยไม่เบาเลย พรึ่บ! หนูอัญตกใจ หัวใจเธอเต้นแรง เธอขยับออกและรีบลุกหนีให้ห่างจากเขาอย่างรวดเร็ว หน้าเธอแดง ใจเธอเต้นแรงไปแล้ว “อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นจะร้องเรียกให้คนมาช่วย” ชอว์หลี่ตาและหันไปมองรอบๆ ด้านหนึ่งห่างออกไปคือถนน อีกด้านคือพื้นน้ำข้างๆสนามบิน ส่วนด้านบนก็ท้องฟ้าที่สาดส่องแสงแดดแรงกล้าที่เขาไม่ค่อยชอบมันนัก ชอว์ไม่ชอบกลางวัน ปกติเขาจะพักผ่อนในเวลากลางวัน เขาจะออกล่าในเวลากลางคืน ชีวิตเขามันคือแบบนี้ “ช่วยเรื่อง?” หนูอัญมุ่นคิ้วทันที หรือว่าเธอจะตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุ เขาอาจจะไม่ได้จะทำอะไรก็ได้ “เอ่อ สงสัยหนูจะเข้าใจอะไรผิดไป งั้นหนูขอตัวนะคะ” ! แค่สองก้าว แขนกำยำก็ยื่นมาขวางหน้าเธอไว้ทันที ฟาด!!! ควับ!หนูอัญ!เมื่อเธอยกขาจะฟาดเข้าจุดยุทธศาสตร์ความเป็นชายใส่ชอว์ ขาเธอก็ถูกมือกำยำคว้าไว้อย่างรวดเร็วแบบที่ห่างจากเป้ากางเกงชอว์แบบเฉียดฉิว ถ้าเขาช้าอีกนิดหรือเธอเร็วอีกหน่อยเธอก็คงไม่พลาด แต่เมื่อเธอพลาดแล้ว ท่อนขาเล็ก เรียวก็ตกอยู่ในกำมือของชอว์และเขาก็ไม่มีทีท่าจะปล่อยง่ายๆเสียด้วย “ปล่อยเค้านะ!” หนูอัญที่ยืนด้วยขาข้างเดียวพยายามดึงขาตัวเองกลับ แต่ก็ไม่สำเร็จ เธอจึงกระโดดไปกระโดดมา เมื่อชอว์ออกแรงแค่นิดเดียวเลื่อนแขนข้างที่จับขาเล็กอยู่นั้นไปทางนั้นทีทางโน้นที อย่างขบขันที่สร้างความแปลกใจให้กับเหล่าลูกน้องเป็นอย่างมาก “เมื่อกี้คิดจะทำอะไร” “ทำอะไร? เปล่าทำอะไรสักหน่อย” ชอว์แอบยิ้มออกมา ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าเด็กคนนี้ดูฉลาดนัก “เส้นมันยึด ตอนที่ล้มไปตะกี้ก็เลยจะยืดแข้งยืดขาหน่อยก็เท่านั้น” ชอว์ยิ้มกว้างมากขึ้น ยายเด็กนี่แถเก่งชะมัด “ก็ได้” ชอว์ปล่อยขาคืนเธอไป “เอางี้มั้ย ฉันเป็นพวกชอบสะสมตุ๊กตาสัตว์ เธอมีอะไรมาแลกมั้ยกับอิสระภาพของเธอนะ” ชอว์จับจ้องมองสบตากลมโตที่จ้องมองเขากลับเช่นกัน “มีแต่...” ปึก ปึก ปึก ไม่ทันที่หนูอัญจะได้พูดอะไรต่อจนจบ เสียงบางอย่างก็ดังขึ้น คนของชอว์ทรุดลงหมอบกับพื้น หนึ่งในนั้นกุมไหล่ของตัวเองไว้แน่น ชอว์ที่ปฎิกริยาร่างกายตอบสนองรวดเร็ว เขาพุ่งตัวเข้าหาหนูอัญทำให้ทั้งสองคนล้มกลิ้งไปบนพื้นหญ้าข้างทางอย่างรวดเร็ว โอ้ยยยยย หนูอัญร้องออกมาอย่างตกใจ เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่เธอร้องเพราะเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนคนหน้าหล่อแต่น่ากลัวและล้มกลิ้งไปบนพื้นหลายรอบมาก เขาและเธอสลับตำแหน่งบนล่างไปมาหลายครั้ง มาจบที่เขาคร่อมร่างเธอไว้ “กลับไปที่รถ” ชอว์ร้องบอก สองคนนั้นรีบลุกใช้ความสามารถที่มี ก็กลับไปที่รถได้อย่างรวดเร็ว รถเคลื่อนหันกลับมาที่ชอว์และหนูอัญที่นอนกอดหมอบอยู่บนพื้นหญ้า ชอว์กระชากแขนให้หนูอัญขยับและทั้งสองก็พุ่งตัวเข้าไปที่เบาะหลังในรถทันที และรถก็เคลื่อนออกไปจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว ภายในรถเคร่งเครียด ชอว์ไม่เข้าใจเลยว่าใครกล้าลอบยิงเขา ที่นี่คือประเทศไทย ถ้าเป็นมอสโคว์เขาจะไม่เคลือบแคลงใจเลยสักนิด “เป็นอะไรมากมั้ย” ชอว์ถามลูกน้องที่ถูกกระสุนถาก “ไม่มากครับ” เมื่อเรื่องลูกน้องจบ เขาก็หันมาสนใจร่างบอบบางข้างกาย เธอเบียดเสียดเขามากไปแล้ว แต่แล้วดวงตาเหยี่ยวก็หลี่ลงเมื่อร่างบางหัวสั่นหัวคลอนตามแรงสั่นสะเทือนของรถ “เธอ เธอ...” เพี๊ยะ เพี๊ยะ ชอว์ดึงร่างนั้นเข้ามามองให้ชัดๆอีกครั้ง ฝ่ามือหนาฟาดที่แก้มเนียนไปมาเบาๆ เธอก็ยังไม่ได้สติ เด็กนี้ตกใจจนสลบไปแล้วเหรอเนี่ย ก็พอเข้าใจได้... “ท่านหญิง ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วค่ะ ชอว์นำคุณอัญมณีขึ้นรถไปแล้ว ทิศทางมุ่งหน้าสู่ลานบินค่ะ” [ดีมาก] “ว่าแต่ท่านหญิงค่ะ ท่านทราบได้อย่างไรว่าคนนั้นคือไส้ศึก” [ข้าเคยเห็นมาก่อน] มาตารีแจ้งให้คนขับออกรถไป เธอถูกสั่งให้ซุ่มดูพฤติกรรมของชอว์ที่มีต่ออัญมณี เป็นไปตามที่ท่านหญิงคาดไว้ ว่าชอว์ไม่มีทางที่จะอยากได้ตัวประกันจริงๆ เธอจึงต้องขัดจังหวะการสนทนาเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ มีเครื่องดักฟังที่ติดไปกับอัญมณี แต่ตอนนี้มันน่าจะหลุดล่วงไปแล้ว ซึ่งก็ไม่เป็นไร เพราะชอว์คงต้องพาเธอไปด้วยอย่างไม่อาจปฎิเสธได้ เครื่องดักฟังก็ได้ทำหน้าที่ของมันเสร็จสิ้นแล้ว
已经是最新一章了
加载中