[ 6 ] ฟั่นเฟือน [3.3]   1/    
已经是第一章了
[ 6 ] ฟั่นเฟือน [3.3]
“ถ้าฉันเชื่อฟังคุณ คุณจะแต่งตัวเรียบร้อย ไม่จับฉันแก้ผ้า ห้อยหัวและฟาดก้น และข่มขืนฉันใช่มั้ยคะ” “ใช่!” “พูดแล้วห้ามคืนคำนะ” “เออ” “ตลอดไปนะ” “อะไรตลอดไป” “ก็กฎที่คุณบอกมาทั้งหมด ตราบใดที่ฉันไม่สร้างปัญหา บลาๆๆๆ....ตามที่คุณว่ามา และเชื่อฟังคำสั่ง คุณก็จะไม่ทำร้ายฉันในทุกๆเงื่อนไขไง” ชอว์กัดริมฝีปากตัวเอง ตกลงยายเด็กนี้ตกหลุมพรางเขาหรือเขาตกหลุมพรางหล่อนกันแน่ “ตกลงฉันเชื่อคำพูดของคุณที่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้มั้ยนะ หรือคนอย่างคุณก็แค่ปล่อยลมออกจากปากส่งๆไป...” ชอว์ยกนิ้วชี้ไปที่หน้าหนูอัญเป็นเชิงปรามเธอกลายๆว่าอย่าลามปาม “ตกลง” ชอว์พูดจบเขาลุกขึ้นมาและมานั่งบนเตียงนอนแคบๆนั่นอีกครั้ง แปะ แปะ เขาทำแบบเดิมอีกแล้ว และส่งสายตามาหาเธอ “คำสั่ง” ชอว์ยิ้มเยาะ เมื่อเขาเรียกเธอมานั่งบนตักอีกครั้ง อึ๋ยยยย หนูอัญก้มหน้าปกปิดใบหน้าขยะแขยงคนตรงหน้าที่เธอแสดงออกมาแต่เธอเสหันไปทางอื่น ไม่ให้เขาได้เห็น “ไม่ข่มขืน” หนูอัญย้ำคำพูดเขา ชอว์พยักหน้าพร้อมยกยิ้มมุมปาก “แน่นอนว่าฉันไม่ข่มขืนเธอแน่ๆ” หนูอัญสูดลมหายใจเข้าปอดยาวๆ เรียกกำลังใจให้กับตัวเอง พรึ่บ! หนูอัญลุกขึ้นและค่อยๆก้าวเข้ามาใกล้เขาทีละก้าวอย่างช้าๆ แค่สี่ก้าวเธอก็มายืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว พรึ่บ! เธอหย่อนก้นลงบนตักของชอว์อย่างหมิ่นเหม่ พรึ่บ! แต่ชอว์กลับกดเอวบางให้นั่งเต็มก้น “จำไว้ ถ้าฉันเรียก เธอต้องมานั่งบนตักฉันทันที” “ทุกครั้งเลยเหรอคะ” ชอว์มุ่นคิ้ว ตอนแรกเขาแค่ต้องการให้เธอเป็นไม้กันหมาในการไปกินมื้อเย็นกับท่านเบกิสเท่านั้น เพื่อกันใครคนนั้น...ซึ่งเขาไม่อยากให้บุตรสาวท่านเบกิสมาวุ่นวายกับเขาก็แค่นั้น “ใช่! ทุกครั้ง ทุกที่” “ต่อหน้าลูกน้องคุณด้วยเหรอ” “อืม” ชอว์รับคำ เพราะลูกน้องเขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้ของเขาหรอก “เฮ้! แบบนั้นจะเสียการปกครองนะคะ มีที่ไหนสั่งงานลูกน้องโดยมีเด็ก ผู้หญิงนั่งอยู่บนตัก...โอ้ย!” หนูอัญร้องออกมา เมื่อศีรษะเธอถูกเคาะ “ฉันจะเรียกเธอเข้าไปทำไมละตอนนั้น” ชอว์เองก็เริ่มแปลกใจตัวเองเสียแล้ว เขาเคยต้องคุยกับใครแบบนี้นานๆมั้ยนะ “เออจริงด้วย...” หนูอัญยิ้มเก้อๆออกมา ชอว์กลับมองรอยยิ้มนั้นตาค้าง “ขอถามอีกคำถาม เมื่อไหร่จะปล่อยฉันไป” หนูอัญไม่รอคำอนุญาต ทันทีที่เอ่ยบอกเธอก็ถามเลย “จนกว่าจะได้ของที่แม่เธอเอาไปและฆ่าแม่เธอทิ้ง อิสระของเธอก็หลังจากนั้นทันที” หนูอัญอ้าปากค้าง เธอพึ่งรู้ว่าชีวิตเธอแลกกับชีวิตของแม่เธอ เหรอเนี่ย!! แม่ที่ไม่เคยเลี้ยงดูเธอ แม่ที่ไม่เคยให้นมสักกะหยดเดียวกับเธอ “ไม่มีความยุติธรรมเลย ทำไมคุณถึงไม่ไปไล่ล่าผู้หญิงคนนั้นละ คนของคุณตั้งเยอะตั้งแยะ หรือไร้ความสามารถ” “ผู้หญิงคนนั้นเหรอ...เธอเรียกแม่เธอแบบนี้เหรอ” หนูอัญไม่ตอบแต่เมินไปทางอื่น “งั้นเรียกใหม่ คนอุ้มท้อง” ชอว์หลี่ตาจับจ้องมองคนตรงหน้า “เด็กมีปัญหาสินะ” หนูอัญหน้ามู่ใส่ชอว์ทันที “ธุระไม่ใช่” เมื่อพูดจบหน้าหวานก็เสหันไปมองทางอื่นทันที หลงลืมไปแล้วว่าตอนนี้ตัวเองนั่งอยู่ตรงไหน ชอว์เชื่อสนิทใจแล้วว่า คนตรงหน้าเป็นบุตรสาวของแก้วตาจริงๆ ด้วยหลายๆปัจจัย ตั้งแต่หน้าตาที่มีส่วนละม้ายคล้ายกันอยู่มาก และจากท่าทางของเธอตอนนี้ก็บ่งบอกชัดเจนว่าแค้นเคืองคนเป็นแม่ไม่น้อย แล้วของที่เขาต้องการละอยู่ที่ไหน เพราะนอกจากตัวเธอเองแล้วก็ไม่มีอะไรติดตัวเธอมาเลย กำไลนั้นแม้จะมีค่าแต่ไม่ใช่สิ่งที่เขาตามหา “กำไลแปลกดีนะ” “อันนี้เหรอ...” หนูอัญชูข้อมือตัวเองขึ้นมา ชอว์พยักหน้า “คนอุ้มท้องให้มา” ‘แม่’ ยายเด็กนี่... ชอว์นึกขันในใจ “ให้มานานแล้วเหรอ” หนูอัญจับจ้องมองใบหน้าชอว์ทันที เขาต้องการอะไรกันแน่ทำไมต้องใช้คำถามอ้อมโลกกับเธอด้วย “อย่ามาวกวน เข้าประเด็นคำถามของคุณมาเลยดีกว่า” “ฉลาดดีนี่ ต่อไปคงประมาทคนอย่างเธอไม่ได้แล้วละมั้ง” “ใช่! เพราะงั้นรีบส่งตัวฉันกลับไปเถอะ ไว้ใกล้ตัวมีแต่เรื่องเดือดร้อน น่ารำคาญด้วย ฉันเรื่องมาก มากเรื่อง” “ตกลง...” ควับ! ชอว์คว้าข้อมือข้างที่สวมกำไลไว้ “ฉันอยากได้ของที่คนอุ้มท้องเธอให้มาทุกชิ้นที่มีงูแบบนี้” หนูอัญยิ้มทันที เธอพยักหน้าและดึงข้อมือตัวเองออกมา พรึ่บ! “เอาไปสิ!” เธอถอดกำไลนั้นยื่นส่งให้ชอว์ไปอย่างไม่ลังเล แม้มันจะเก๋และแปลก แต่หาได้มีค่ากว่าชีวิตของเธอไม่ เพราะงั้นเอาไปเถอะเธอไม่เสียดายเลยสักนิดชีวิตเธอมีค่ากว่านี้ตั้งเยอะ “ฉันอยากได้อีก” “อยากได้อีก! ไม่มีแล้ว มีชิ้นนี้ชิ้นเดียว” “แน่ใจเหรอ ลองพูดมาสิว่ามีอะไรที่ได้มาอีก” “ถ้าเป็นงูก็มีแค่กำไล อีกอันก็คือตุ๊กตาเซรามิคที่ไม่ใช่งู” ชอว์มุ่นคิ้วอย่างแปลกใจ หรือว่าเขาจะถูกผู้หญิงคนนั้นหลอก พรึ่บ! โอ้ย!!!! หนูอัญล่วงทรุดลงกับพื้น เมื่อจู่ๆ ชอว์ก็ลุกพรวดพราดพร้อมใบหน้าและแววตาที่น่ากลัวมาก เมื่อสิ้นคำพูดของเธอ “ฉันควรฆ่าเธอทิ้งดีมั้ย” หนูอัญกลืนน้ำลายลงคอทันที พรึ่บ! เธอถอยหลังหนีการจู่โจมของชอว์ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเสียงเขาเปลี่ยนไปเป็นก้องคำรามเสียงดังดุร้ายเหมือนสัตว์ป่าก็ไม่ปาน “เดี๋ยวฉันขอเวลาคิดหน่อยได้มั้ย ฉันได้รับของขวัญมาตั้งเยอะตั้งแยะ บางที บางทีในกล่องของขวัญที่บ้านตอนงานวันเกิดที่ผ่านมา อาจจะมีของของคุณอยู่ในนั้นก็ได้” ชอว์หยุดชะงักทันที “เอาที่อยู่บ้านเธอมา ฉันจะส่งคนไปค้น” “ไม่ได้!” “ทำไม?” “ใครจะการันตีว่าพวกคุณจะไม่ทำร้ายคนที่บ้านฉันเล่า” “เธอคิดว่าฉันจะไม่มีปัญญาหาบ้านเธอเหรอ” “บ้านหลังเบ้อเร่อเท่อ หาเจออยู่แล้ว แต่ไอ้ของที่คุณอยากได้ คุณแน่ใจได้ไงว่าจะเจอได้ง่ายๆ คุณไม่ยอมบอกฉันว่ามันคืออะไร ถ้างั้นมันต้องสำคัญมากสินะ!” “ในชีวิตฉันไม่เคยเกลียดคนนานนักหรอกนะ” หนูอัญยิ้มออกมา “ทำไมเหรอ คุณเป็นประเภทโกรธง่ายหายเร็วใช่มั้ย” “ฉันฆ่าทิ้งทันที” หนูอัญหน้าซีดเผือก ตัวชาวาบ ถ้าเขาจะฆ่าเธอจริงๆ ตายสถานเดียว เธอตายสถานเดียวจริงๆ “อย่ามาหัวหมอกับฉัน ฉันขอเตือน ถ้าอยากจะเจ้าเล่ห์นัก ก็ต้องเอาตัวเองให้รอดไปตลอดรอดฝั่ง” “เออ! บอกความจริงก็ได้ นอกจากกำไลกับตุ๊กตาเซรามิคแล้ว ก็ไม่มีอะไรแล้ว” “ตุ๊กตาเซรามิคอันขนาดไหน...” ก็อก ก็อก ก็อก เสียงเคาะประตูด้านนอกดังขึ้น ชอว์หยุดทันที เพราะเขายังหาคนทรยศไม่เจอ เพราะงั้นเขาต้องเก็บยายเด็กนี่ไว้ใกล้ตัว และเขาไม่อาจเปิดเผยความจริงต่อลูกน้องได้ว่าทำไมยายเด็กนี่ต้องมาอยู่ที่นี่ เอาเป็นว่าเหล่าลูกน้องรู้เพียงว่าเธอมาเป็นเครื่องบำบัดอารมณ์ใคร่ของเขา และที่เธอยังอยู่ข้างกายเขาก็เพราะเธอช่างอึดช่างทนเก่งมากก็เท่านั้น ลูกน้องของเขาต้องคิดว่ายายนี่เป็นเด็กปีศาจแน่ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ข้ามคืนข้างกายเขา เอาเถอะ! ‘ผู้หญิงคนนั้น’ หรือ ‘คนอุ้มท้อง’ ที่เธอเอ่ยเรียกเป็นคนที่คุ้มกะลาหัวเธอไว้กับเป็นคนที่ส่งเธอมายังขุมนรกแห่งนี้ ถ้าเกิดพลาดพลั้งจนสิ้นแก่ชีวิตก็อย่ามาถือโทษโกรธกันเลย เพราะเขาอยู่ท่ามกลางดงกระสุน ดงหอก ดงดาบ พรึ่บ! ชอว์ยื่นมือส่งให้เธอเพื่อให้เธอจับและดึงตัวเองขึ้นมา ก็อก ก็อก ก็อก เสียงเคาะประตูดังอีกรอบเมื่อยังไม่มีเสียอนุญาตจากด้านใน ควับ! หนูอัญยื่นมือออกไป แม้เขาจะไม่พูด แต่แววตาและท่าทาง คือเธอต้องฟังคำสั่งทำตามเขาเท่านั้น พรึ่บ! อื้ม! ร่างบางถูกดันจนแผ่นหลังชิดผนัง “อ้า!!!!…” เสียงที่ร้องออกมาถูกมือหน้าปิดไว้ เขาดึงผ้าพันเอวหมิ่นเหม่ออก โอ้!แม่เจ้า เขาเปลือยต่อหน้าเธอ อี๋!!!! หนูอัญปิดตาลงทันที โชคดีชะมัดที่เธอไม่ต้องเห็นเจ้าโลกของเขา ไอ้ผู้ชายคนนี้เป็นไงกันนะ! บ้าเหรอเปล่าเนี่ย เอะอะก็แก้ผ้าใส่ตลอด “เข้ามา!” เสียงร้องบอกด้วยความขุ่นเคืองดังก้องกังวาล ครืดดดดดด ประตูถูกเลื่อนเปิด เออ! “ขอโทษครับ!” ลูกน้องร้องบอกเมื่อต้องเห็นภาพคนที่กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข้ม แม้เขาจะมองไม่เห็นร่างบอบบางที่ถูกบดบังจนมิดชิดจากร่างสูงใหญ่ แต่จากคนร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่าแนบเรือนกายปกปิดร่างบางแบบนั้น มันไม่ต้องเดาเป็นอย่างอื่นเลย “ชุดที่จะใส่ของเจ้านายครับ” ลูกน้องรีบบอกและวางชุดไว้บนเก้าอี้ที่ว่างทันที ครืดดดดด และประตูปิดอย่างรวดเร็ว “เป็นอะไรไปว๊ะ!” คนด้านนอกเอ่ยถามเพื่อนร่วมงาน ที่เดินออกมาด้วยสีหน้าไม่ดีนัก “ถูกนายเตะมาเหรอไง” คนถูกถามตาขวางใส่เพื่อน “แกเคยเห็นนายเตะใครด้วยเหรอ” “เออ ไม่เคยเห็น เห็นแต่ชักปืนยิงใส่อย่างเดียว” “เด็กผู้หญิงคนนั้นนะสิ ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน” ! “อะไรนะ! แกกำลังบอกว่าหล่อนถูกนาย...” คนถูกถามพยักหน้ายืนยันทันที เฮ้ย!!! “นายเคยสนใจเด็กเสียที่ไหน” “ก็นั่นสิ!” “กระซิบกระซาบอะไรกัน” อีกคนเดินเข้ามาถาม “เรื่องของนายกับเด็กคนนั้น” “อ่อ แกเห็นแล้วสินะ” “พี่รู้เหรอ” แอลพยักหน้าทันที เขาเห็นตั้งแต่ที่ไปแจ้งข่าวเรื่องท่านเบกิสแล้ว ตอนนั้นเขาเองก็ประหลาดใจไม่น้อยที่เห็นเจ้านายเปลือยเปล่า และอารมณ์ของเจ้านายในตอนนั้นเหมือนคนหงุดหงิดเหมือนตัวเขาไปขัดจังหวะบางอย่าง “พี่ นายกินเด็กคนนั้น เด็กนั่นยังเด็กอยู่เลย ตัวก็นิดเดียวจะทนนายได้จนถึงมอสโคว์มั้ย เราไม่ต้องหามร่างไร้วิญญาณลงจากเครื่องเหรอ” “แล้วแกจะไปช่วยเด็กคนนั่นมั้ยเล่า” คนถูกถามหน้าซีดทันที เพราะถ้าทำแบบนั้นเขาก็เป็นร่างที่สองที่ถูกหามลงจากเครื่องสิ ตอนนั้นที่เขาเห็นเจ้านายแบกร่างเล็กๆขึ้นมาบนเครื่องก็แปลกใจมากอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าบนเครื่องเจ้านายจะไม่เอาผู้หญิงขึ้นมา แต่สภาพแบกขึ้นมาเขาไม่เคยเห็น ใครๆก็รู้ว่ายามว่างจากการวางแผนฆ่าหรือออกปฎิบัติการเจ้านายจะทำแค่สามอย่างคือออกกำลังกายฝึกปรือฝีมือในด้านอาวุธต่างๆ และปลดปล่อยกำลังกายขึ้นสวรรค์ ส่วนผู้หญิงแต่ละคนที่ผ่านมาเขาก็เห็นพวกเธอแค่ครั้งเดียวและสภาพตอนขามากับตอนขา กลับช่างแตกต่างราวฟ้ากับเหว
已经是最新一章了
加载中