[ 8 ] ปวดฉี่! [1.2]   1/    
已经是第一章了
[ 8 ] ปวดฉี่! [1.2]
ฟืด ฟืด เสียงลมหายใจสม่ำเสมอยังดังอยู่อย่างต่อเนื่อง การเดินทางต่อจากนี้อีกห้าชั่วโมงพวกเขาก็ถึงที่หมายนั่นคือมอสโคว์ ด้านนอกกว่ายี่สิบชีวิตต่างหลับไหลพักผ่อนเมื่อบนเครื่องบินส่วนตัวไม่จำเป็นต้องมียามเฝ้ารักษาความปลอดภัยและไม่ใช่เวลาออกล่าหรือทำงาน ลำทั้งลำจึงตกอยู่ในความเงียบ แต่เวลาผ่านไปแค่สองชั่วโมงเท่านั้น คนที่หลับก่อนใครๆ เริ่มรู้สึกตัวด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง อื้มมมมม เสียงครางเล็กๆดังออกมาลำคออย่างเกียจคร้าน เมื่อกระเพาะปัสสาวะมันกำลังบีบตัว เธอปวดฉี่ พรึ่บ! ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นเมื่อฝืนนอนต่อไปไม่ไหวแล้ว แม้มันช่างสบายจนไม่น่าจะตื่นมาเลยก็ตาม แต่ความจริงก็คือความจริง ดวงตากลมเริ่มแสดงความกังวลมาทีละนิดทีละนิดจนมากขึ้นเป็นเคร่งเครียด เมื่อแขนกำยำที่ไม่อยากจำพาดอยู่บนใต้ราวอกของเธอ เนื้อที่สัมผัสเนื้อ “ไอ้คนบ้า!” เสียงร้องดังออกมาอย่างไม่อยากอดทน อีกแล้ว! “ปล่อยนะ” เสียงร้องก้องดังขึ้น ความเงียบที่มีมานานเริ่มหายไป “งั้นเธอก็ฉีกขากว้างๆสิ ฉันจะได้ปล่อยเข้าไปให้” อี๋!!! “หยุดลามก อย่าคิดว่าฉันไม่เข้าใจนะ!!!” “ฉันไม่มาเสียเวลาแบบนั้นหรอก ที่ฉันพูดก็ต้องการให้เธอเข้าใจและทำตาม” “ฝันไปเถอะ! ถอยไปนะ ไม่ใช่เวลาล้อเล่น ฉันปวดฉี่!!!!” หนูอัญเสียงดังและออกแรงมากขึ้น กรี๊ดดดดด เสียงกรีดร้องที่คงทำให้คนทั้งลำตื่นก็ดังทันทีและให้ชอว์ต้องคลายวงแขนจากการรัดเธอไว้ “เป็นเปรตมาก่อนเหรอไง เสียงแหลมแสบแก้วหู!...ชะมัด” “เสื้อผ้าฉัน ไปไหน!” หนูอัญดึงผ้าห่มขึ้นมาปกปิดเนินเนื้อและร่างกายไว้จนถึงคอ ชอว์ยิ้มเยาะ “ปิดเพื่อ มีตรงไหนที่ฉันยังไม่เห็นอีกเหรอ” ซืดดดดด หนูอัญซู๊ดปากเธอไม่ได้เสียวซ่านหรือเกิดอารมณ์ทางเพศกับผู้ชายน่าไม่อายตรงหน้าหรอกนะ แต่เธอปวดฉี่ต่างหาก พรึ่บ! พั่บ หนูอัญไม่สนใจอะไรเธอขยับปีนข้ามตัวชอว์ไปทันที สายตากวาดมองหาเสื้อผ้าของตน แต่มันก็ไม่มี “เสื้อผ้าฉันหายไปไหน” “อยากได้ก็หาเองสิ” ซืดดดดดด หนูอัญสูดปากอีกครั้ง “ฉันไม่มีเวลา ฉันปวดฉี่” “ก็รีบออกไปสิ” หนูอัญใช้สายตาคาดโทษมองไปยังชอว์ ผ้าห่มผืนเดียวถูกดึงออกมาไว้ที่ตัวเธอจนหมด เผยร่างเปลือยกำยำที่นอนนิ่งไม่เดือดร้อนอะไร หนูอัญไม่เสียสายตาและเวลามองเขาเลยสักนิด สวยเลือกได้อย่างเธอไม่มีทางสนใจผู้ชายแบบเขาคนนี้เด็ดขาด คนก็ไม่ใช่ เทพบุตรก็ห่างไกลนัก อสูรชัดๆ เธออยากได้ผู้ชายที่เป็นคนเฉียดเทพบุตรแบบนั้นต่างหากถ้าจำต้องมีนะ...ผู้ชายน่าเบื่อพอๆกับผู้หญิงนั้นแหละ ในความคิดของหนูอัญ พรึ่บ! ผ้าห่มผืนเดียวถูกขยับอีกครั้ง หนูอัญดึงชายผ้าขึ้นมาคลุมศีรษะของตนและพันๆไว้ จนเหลือแต่ดวงตาเท่านั้นที่คนด้านนอกได้เห็น ครืดดดดด ประตูถูกเปิดกว้างขึ้นทันที ดวงตากลมหลี่ลงอย่างเอาเรื่องเหล่าลูกน้องของเขา “หลับตา! ลงเดี๋ยวนี้!” เสียงคำรามดังแผดออกมาดังลั่น ทุกคนที่ต้องตื่นเพราะเสียงกรี๊ด ต่างงงงัน “ใครไม่หลับตา แม่จะกระโดดกัดหูให้หมดเลย!!!” เสียงคำรามเล็กๆ ที่ทั้งโกรธและหงุดหงิดดังอีกครั้ง และทุกคนก็ปิดตาพร้อมกันทันที หนูอัญที่การเคลื่อนไหวค่อนข้างลำบาก เธอไม่รู้ตัวว่าประตูห้องที่เปิดทิ้งไว้มีใครบางคนยืนอยู่ จึงทำให้คำสั่งถูกสั่งมาจากด้านหลังเธอต่างหาก มีหรือว่าพวกเขาผู้ชายตัวใหญ่ๆจะมาทำตามคำสั่งกับแค่เสียงเด็กอายุสิบเก้าที่กำลังปวดฉี่ แต่หนูอัญจะรู้มั้ยนั่นไม่สำคัญเลย แต่พวกเขาก็ปิดเปลือกตากันหมด พึ่บ พึ่บ หนูอัญขยับขาเดินอย่างลำบาก มือต้องคอยประคองผ้าห่มไว้ พร้อมๆกับที่เธอต้องอดกลั้นกับความรู้สึกปวดฉี่อย่างร้ายกาจ ปัง! ประตูห้องน้ำถูกเปิดและปิดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อร่างบางที่เทอะทะแทรกตัวเข้าไปได้ทั้งผ้าห่มและคน เฮ้ยยยยย เสียงผ่อนลมหายใจดังออกมาอย่างโล่งใจเมื่อเธอได้ปลดทุกข์ ห้องน้ำไม่ได้กว้างใหญ่เธอจะฝังตัวอยู่ในนี้ไม่ได้ ใบหน้าครุ่นคิดปรากฎขึ้น เสื้อผ้าเธอถูกซ่อนไว้ ถ้าตั้งใจหาก็ต้องเจอแต่ล่อนจ้อนท่ามกลางผู้ชายมากมายไม่เป็นผลดีกับเธอ เป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว คุณยายสั่งและสอนมาแบบนี้ ท่านยังบอกอีกว่าอย่าตั้งตนบนความประมาทแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว อะไรก็ตามที่เป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมท่านบอกไว้ว่าอย่าได้เสี่ยง ไอ้ตัวหัวหน้าอสูรต้องแอบวางแผนไว้แน่ๆ คงเห็นว่าเธอยังเด็กและตนพวกเยอะกว่า รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่นถ้าเขาจะทำอะไรเธอด้วยตัวเองหรือมาจากคำสั่ง ถึงว่า! ถึงได้ตั้งเงื่อนไขมากมายมาจัดการเธอ ความแค้นไม่เคยมีทำไมถึงต้องร้ายกาจขนาดนี้! หนูอัญคิดเลยเถิดไปมาก แต่คิดไว้มากดีกว่าคิดน้อย ครืดดดดด “สจ๊วต...สจ๊วต” หนูอัญโผล่แต่ศีรษะออกมา “ครับ” คนที่ถูกเอ่ยเรียกร้องขานมาปรากฎตัวตรงหน้า ตามหน้าที่ที่ต้องดูแลผู้โดยสารบนเครื่องบินส่วนตัวลำนี้ ไม่เว้นแม้แต่คนที่อยู่ในฐานะเชลย “หาเสื้อผ้ามา” คำพูดออกคำสั่งจากคนที่ยืนเต็มความสูงแล้วยังไม่ถึงไหล่คนที่รับคำสั่งเลยสักนิด เอ่อ “ต้องถามเจ้านายก่อนครับ” หนูอัญอ้าปากหวอทันที “อะไรกัน แค่เรื่องเสื้อผ้าแค่หยิบมือยังต้องให้ผู้ยิ่งใหญ่เทียมฟ้านั่นตัดสินใจด้วยเหรอ ถ้างั้นสจ๊วตก็ไปรายงานสิ และเรามาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสจ๊วต” หนูอัญแอบยิ้มเยาะเมื่อเห็นสายตาลังเลของคนตรงหน้า “เอางี้! เอางี้! เพื่อเป็นการไม่ให้เรื่องเล็ก...” หนูอัญยกนิ้วชี้กับนิ้วโป้งขึ้นมาชูขนาดความเล็กจิ๋วของเรื่อง ให้สจ๊วตเห็น “...ต้องไปรบกวนผู้ยิ่งใหญ่ เอาเป็นว่าสจ๊วตหาเสื้อมาให้สักตัวก็ได้ คิดว่าคงไม่เหนือบ่ากว่าแรงใช่มั้ย” หนูอัญทำทีหาทางออกให้ แต่ภายในใจลิงโลดอย่างมากเมื่อสจ๊วตพยักหน้าและกลับไปหาสิ่งที่เธอต้องการ “เสื้อใหม่ครับ” หนูอัญรับมาอย่างปลาบปลื้ม เสื้อยืดคอกลมสีขาวแต่เพราะมันเป็นไซด์ยุโรป พอเธอสวมลงไปก็ไม่ต่างกับชุดเดรสดีๆนี่เอง เสียอย่างเดียวคือเธอไม่มีชุดชั้นในก็เท่านั้น พรึ่บ! ผ้าห่มผืนใหญ่ถูกจัดและคลุมเหมือนอย่างตอนที่มา มีเพียงดวงตากลมโตที่กวาดมองศีรษะเหล่าลูกน้องอสูรจากทางด้านหลัง เมื่อเกิดเสียงเคลื่อนไหวจากทางด้านหลัง ทุกคนที่นั่งกึ่งหลับไม่มีใครยอมเปิดตาขึ้นมาแม้สักคน หนูอัญกวาดมองคนเหล่านั้นทีละคนถ้าเธอเห็นลูกตาใคร...คอยดูแม่จะแหกปากให้เครื่องตกไปเลย... ครืดดดด ประตูถูกเปิดกว้าง ปัง! และปิดลงทันที ดวงตากลมโตมองคนน่าไม่อายที่ยังนอนอยู่บนเตียงมีเพียงผ้าผืนเดียวที่ปิดเจ้าโลกน่ารังเกียจยิ่งนักในสายตาของเธอ หนูอัญกระชับผ้าห่มและเดินเลยเตียงนอน เธอเอื้อมหยิบขวดน้ำขึ้นมาและดื่มจนหมดไปครึ่งขวด ความกระหายเกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่ร่างกายรับแอลกอฮอล์เข้าไปมาก แปลกชะมัดเธอว่าเธอดื่มน้ำพั่นรสชาติหวานล้ำลื่นคอยิ่งดื่มยิ่งอร่อย รสชาติน้ำพั่นของที่นั้นดีมากแบบที่เธอไม่เคยดื่มจากที่ไหนมาก่อนทำได้ดี ทำได้เยี่ยม แต่ไหงกลายเป็นว่าเมาจนหมดสติและถูกจับแก้ผ้าแบบนี้ได้ไงเล่า!! พึ่บ พึ่บ พั่บ คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน เมื่อเกิดเสียงรบกวนดังให้ต้องรู้สึกตัวจากการพักผ่อน “ก่อเรื่องไม่หยุดเลยนะ!” อึ๋ยยยยย หนูอัญสะดุ้งกับเสียงที่ให้ได้ยินมาหลายครั้งก็ไม่อาจชินสักที “เอาเสื้อผ้าเขาคืนมา” “ฉันเอาไปเหรอ” หนูอัญแอบหน้ามุ้ยให้กับคนหน้าด้าน “ใช่ๆ จะกล่าวหาคนก็ต้องมีหลักฐานและพยาน ข้าน้อยผิดไปแล้ว ผิดไปแล้ว” หนูอัญเริ่มค้นหาอีกครั้ง ตามตู้เล็กตู้น้อยและซอกหลืบต่างๆ เธอก็หาไม่ เจอ แต่ถ้าคนไม่รับเธอจะเอาอำนาจและเรี่ยวแรงอะไรไปเค้นคอเขาได้เล่า
已经是最新一章了
加载中