บทนำ
“อิ่มอุ่น ยายตุ่มเดินได้ๆๆ” หนุ่มน้อยวัยสิบห้าพูดทั้งแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เด็กหญิงวัยเก้าขวบร่างอวบตุ๊ต๊ะแก้มแดงก่ำทั้งด้วยความโกรธและเพราะของผิวแก้มนวลของเด็กหญิง อัจฉรียาพร เดชาวัชรา หรือน้องอิ่มอุ่น ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ อโนมา กับ อัคคี นั้นเป็นสีขาวอมชมพูอยู่แล้ว เมื่อเจ้าตัวโกรธหรือวิ่งเล่นเหนื่อยหอบแก้มยุ้ยๆ นั้นจะเป็นสีชมพูจัดจนแดงก่ำเหมือนมะเขือเทศสุก
“ไอ้พี่สิงโตปากมอม ผู้ชายอะไรปากไม่ดี..” เด็กหญิงไม่ยอมแพ้เช่นกัน มือป้อมๆ เท้าสะเอวข้างหนึ่งอีกมือก็ชี้หน้าหนุ่มน้อยหน้าใสอย่างเคืองแค้น
“ฮ่าๆ ปากเสียอะไร คนเขาพูดความจริงก็ทำเป็นรับไม่ได้ เด็กอะไรอ้วนเป็นตุ่ม โตขึ้นคงไม่มีใครเอาเป็นแฟน อิ่มอุ่นตุ่มเดินได้ๆๆ” สิงหราช อภิปัญญา ยังคงล้อเลียนเด็กหญิงอย่างนึกสนุก ยิ่งเห็นเด็กหญิงกระทืบเท้าเร่าๆ ร่างอวบอ้วนสั่นเทิ้มก็ยิ่งอยากเย้าแหย่ หนุ่มน้อยเดินวนรอบๆ เด็กหญิงแล้วก็ร้องเพลงล้อเลียน
“อ้วนๆ ผู้หญิงอะไรอ้วนๆๆๆ อ้วนแล้วยังขี้แย ร่อแร่ๆๆ” สิงหราชแลบลิ้นแล้วยกมือทั้งสองช้างกางข้างใบหูกระพือไปมาเหมือนอาการของช้างสะบัดหูยิ่งทำให้น้องอิ่มอุ่นโกรธจนหน้าดำหน้าแดง วันนี้เป็นวันซวยของเธอแท้ๆ ที่มาเจอพี่ชายตัวร้าย ที่ไม่อยากจะพบเจอนัก เพราะเจอทีไรสิงหราชก็มักจะล้อเลียนตนอยู่เสมอ ทั้งที่พี่ๆ คนอื่นไม่มีใครล้อเลียนเธอสักคน มีแต่คนคอยเอาอกเอาใจรักใคร่เธอที่สุด
“หยุดนะ ไอ้พี่สิงโตบ้าๆๆ”
“ไม่หยุด อิ่มอุ่นตุ่มเดินได้ร่อแร่ๆๆ”
“ได้.. ไม่หยุดล้ออิ่มอุ่นใช่มั้ยยย..” เด็กหญิงสูดหายใจลึกๆ ด้วยท่าทางเหมือนอึ่งอ่างพองลมในความคิดของสิงหราชยิ่งทำให้เขาทำท่าล้อเลียนน้องอิ่มอุ่นอย่างสนุกสนาน โดยไม่ทันระวังตัว...
“โอ๊ยยย..” สิงหราชร้องลั่นทั้งยังหงายหลังเสียหลักล้มลงกับพื้นหญ้านุ่ม พร้อมด้วยรู้สึกเหมือนถูกของหนักๆ ทับ หนุ่มน้อยพยายามพยุงกายขึ้นแต่ไม่สามารถทำได้เมื่อทั้งร่างอวบอ้วนของเด็กหญิงคร่อมทับอยู่บนกายสูงเก้งก้างทั้งมือป้อมๆ นั้นระดมทุบไปทั้งใบหน้าและลำตัวของเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ยังไม่พอน้องอิ่มอุ่นยังอาศัยความได้เปรียบเมื่อสิงหราชไม่ทันตั้งตัว เด็กหญิงลุกขึ้นไปหยิบตะกร้าผลไม้ที่มีทั้งสตรอว์เบอร์รี่และส้มซึ่งยังไม่ได้คัดผลที่เน่าเสียออกมาบีบจนเละแล้วประโคมลงไปบนใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มน้อยที่ยังมึนงงกับหมัดป้อมๆ ของเด็กหญิงอยู่
“เหวอออ... อะไรกันเนี่ย โอ๊ย แหวะ...” สิงหราชไม่ทันได้ตั้งตัวก็ต้องร้องเสียงหลงเมื่อทั้งส้มและสตรอว์เบอร์รี่เละๆ ประโคมลงมาเต็มหน้า แต่ไม่เท่านั้นเมื่อเขาทั้งได้กลิ่นและรู้สึกถึงความเหม็นของ ขี้ม้า...
“ตายแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น..” เสียงอโนมาและ แม่เลี้ยงเกศรา ผู้เป็นแม่ของสิงหราชดังขึ้นพร้อมทั้งวิ่งมาขวางเด็กหญิงที่ถือพลั่วอันใหญ่ตักขี้ม้ามาเทใส่หน้าหล่อๆ ของสิงหราชด้วยท่าทางทะมัดทะแมงเสียเหลือเกิน อีกทั้งบรรดาม้าที่ยืนเล็มหญ้าอยู่ต่างก็หยุดมองเด็กหญิงกับหนุ่มน้อยอย่างสนอกสนใจเหมือนจะยืนเชียร์เสียด้วยก็อาจจะเป็นไปได้ และจากเสียงเอะอะของพวกเธอทำให้คนอื่นๆ วิ่งตามมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นทั้ง พ่อเลี้ยงอินคำ บิดาของสิงหราช อัคคี อัคราและเด็กหญิงปลายฝน รวมไปถึงคนงานและเด็กๆ ซึ่งเป็นลูกของคนงานในไร่ที่วิ่งเล่นกันอยู่ก็วิ่งตามพวกผู้ใหญ่มาเป็นพรวนด้วยความตื่นเต้นเพราะคิดว่ามีอะไรสนุกๆ ให้เล่นให้ดูนั่นเอง...
“หยุดนะอิ่มอุ่นนี่ทำอะไรกันลูก” อโนมาดึงพลั่วออกจากมือของลูกสาวแล้วย่อตัวลงจับไหล่เล็กๆ สั่นเทิ้มของน้องอิ่มอุ่นไว้มั่นเมื่อเห็นว่าลูกสาวตัวร้ายไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ในขณะที่แม่เลี้ยงเกศรากับพ่อเลี้ยงอินคำเข้าไปประคองลูกชายของตนลุกขึ้น ตอนนี้สภาพของสิงหราชดูไม่จืดเลยทีเดียว
“ทำไมถึงได้ทำพี่เขาแบบนั้นล่ะลูก” อโนมาถามด้วยน้ำเสียงดุๆ แต่ใบหน้าสวยหวานยังคงเรียบเฉย
“ก็พี่สิงโตล้ออิ่มอุ่นว่าตุ่มเดินได้ ร่อแร่ๆ แล้วทำท่าอึ่งอ่างพองลมใส่อิ่มอุ่นด้วย คุณป้าเกศขา คุณป้าต้องช่วยจัดการให้อิ่มอุ่นนะคะ พี่สิงโตใจร้ายเหลือเกิน ใจร้ายที่สุด ฮือออ..” เด็กหญิงวิ่งเข้าไปกอดขาของแม่เลี้ยงเกศราร่ำไห้สะอึกสะอื้นดูน่าสงสารราวกับว่าใจดวงน้อยๆ ของเด็กหญิงจะขาดรอนๆ แม่เลี้ยงเกศราจึงย่อตัวลงโอบกอดร่างอวบอ้วนไว้อย่างแสนรักเอ็นดูไม่สนใจลูกชายที่ยืนหน้ามุ่ยมอมแมมไปทั้งตัว ชุดเก่งเต็มไปด้วยขี้ม้าเศษเนื้อส้มและสตรอว์เบอร์รี่ทั้งเศษดินเศษหญ้าเลอะเทอะตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยก็ว่าได้
“โถๆ แม่คุณของป้าเกศ ไม่เอาไม่ร้องนะคะเด็กดี”
“อิ่มอุ่นรักป้าเกศรักคุณลุงเหลือเกินค่ะรักพี่สิงโตด้วย แต่พี่สิงโตไม่รักอิ่มอุ่นรังแกอิ่มอุ่น ฮือออ” คำพูดของเด็กหญิงที่ร่ำไห้ไปด้วยทำให้หัวใจของผู้ใหญ่อ่อนยวบโกรธไม่ลงกับความร้ายกาจที่ทำกับผู้เป็นพี่เลยทีเดียวและความโกรธก็โอนเอียงมาเทลงที่หนุ่มน้อยที่ถูกจ้องมองเป็นตาเดียว
“อะไรกันครับคุณพ่อ น้องแกล้งผมเสียเละขนาดนี้ ไม่มีใครเห็นใจผมเลยเหรอ”
“ก็เราแกล้งน้องก่อน น้องก็แค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เรานั่นล่ะรนหาที่เอง ขอโทษน้องเดี๋ยวนี้เลย” พ่อเลี้ยงอินคำตวาดลูกชาย
“โธ่.. พี่อินคำไม่ต้องให้เป็นเรื่องใหญ่โตหรอกค่ะ น้องอิ่มอุ่นก็ทำเกินไป” อโนมาเสียงอ่อยไม่อยากให้เรื่องบานปลาย
“แต่พี่ว่าพี่อินคำน่ะพูดถูกแล้ว สิงโตเป็นผู้ชายไม่ควรล้อเลียนผู้หญิงแบบนี้ มันไม่แมนเลย..” อัคคีเสริมคำพูดของพ่อเลี้ยงอินคำหน้าเข้มความรู้สึกห่วงหาปกป้องลูกสาวตัวน้อยมีเต็มเปี่ยมไม่ได้เสแสร้ง...
“จริงด้วยครับ ผมว่าสิงโตควรขอโทษน้องอิ่มอุ่น หึหึ” อัคราได้ทีก็แกล้งเพื่อนรักไปด้วยความหมั่นไส้ สิงหราชหันมามองอัคราตาขุ่น แต่เมื่อทุกคนต่างจดจ้องมาที่ตนด้วยแววตาคาดคั้นและคาดโทษจากผู้เป็นแม่ซึ่งเขารู้สึกเกรงกว่าใคร
“ขอโทษก็ได้ ขอโทษนะยายเด็กสมบูรณ์..” พูดจบสิงหราชก็เดินหน้าตึงเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็วทั้งโกรธทั้งอายสายตาของใครๆ
“ไม่เป็นไรแล้วนะคะคนเก่ง พี่เขาขอโทษแล้ว แล้วป้าเกศจะจัดการคนปากไม่ดีให้นะคะ”
“ขอบคุณค่าป้าเกศของอิ่มอุ่น อิ่มอุ่นรักป้าเกศที่สุดเลยค่า” เด็กหญิงยิ้มกว้างแล้วกอดแม่เลี้ยงเกศราแน่นอย่างแสนสมหวัง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ระบายไปทั่วดวงหน้าที่ซกซบอยู่กับอกอุ่นของแม่เลี้ยงเกศรา
อโนมาส่ายหน้าช้าๆ กับความร้ายกาจของลูกสาว ในขณะที่อัคคีกอดอกอย่างภาคภูมิใจที่ลูกสาวตัวน้อยของตนเอาชนะเด็กผู้ชายตัวโตอย่างสิงหราชได้อย่างงดงามพลางคิดในใจว่าหากโตขึ้นแล้วเจ้าหนุ่มน้อยนามว่าสิงหราชริจะจีบลูกสาวตนละก็เจอดีแน่ๆ เมื่อทุกอย่างคลี่คลายทั้งหมดก็พากันเดินเข้าบ้าน
แต่ในขณะเดียวกันนั้นสิงหราชที่กำลังอาบน้ำชำระร่างกายก็กำลังเข่นเขี้ยวเคืองขุ่นเด็กหญิงตัวอ้วนกลมอย่างที่สุด
“หึ.. ยายตุ่มเดินได้ โตขึ้นขอให้ไม่สวยไม่มีใครจีบ เป็นสาวแก่ทึนทึกไม่มีใครเอา เพี้ยงงง อย่าให้ยายเด็กอ้วนนั่นมีแฟน ให้อ้วนเป็นตุ่มแตกไม่มีใครแลไม่มีใครรักให้อ้วนล่ำดำสิว เด็กอะไรร้ายกาจที่สุด..” หนุ่มน้อยพูดกับตัวเองด้วยความฉุนเฉียวอาบน้ำอยู่หลายรอบกว่ากลิ่นต่างๆ จะหมดไปจากร่างกาย...
คำขอของสิงหราชจะเป็นจริงหรือไม่ และยายเด็กอ้วนตุ่มแตกจะเป็นอย่างไรเมื่อโตขึ้น ไม่มีใครล่วงรู้ได้..
แต่พรหมลิขิตมักเล่นตลกกับเราเสมอ...