บทที่1.จบตอน
ชายหนุ่มเอ็ดตัวเองในใจและมองสำรวจคนตัวบางอย่างสบายอารมณ์ต่อ ร่างระหงดูเพรียวสวยได้รูปในชุดเดรสคอเต่าแขนเว้าสีม่วงอ่อน แขนเว้าลึกนั้นโชว์ไหล่เนียนน่าสัมผัสเนื้อผ้าไหมพรมบางเบาแนบไปกับเรือนร่างสาวดูเย้ายวน ทรวงสาวอวบอิ่มได้รูปสมตัว อีกข้อหนึ่งที่เขายอมรับและทึ่งก็คือ เธอมีผิวสวยดูข่าวเปล่งปลั่งเนียนละเอียด สิงหราชจำได้ว่าตอนเด็กชอบแอบหยิกแก้มยุ้ยๆ ของน้องอิ่มอุ่นตัวกลมเล่นเพราะเห็นแก้มแดงๆ นั้นทีไรก็อดมันเขี้ยวไม่ได้และพอจับแก้มยุ้ยๆ นั้นเขาก็ชื่นชอบความนุ่มนิ่มเนียนมือของแก้มเด็กน้อยตัวกลมซึ่งจะตาเขียวแยกเขี้ยวใส่เขาทุกที และทุกครั้งที่เจอกันก็มักจะทะเลาะกันเสมอ แม้แต่ตอนโตแล้วเจอกันทีไรก็มักจะถูกสาวเจ้าเชิดใส่และโดนเหน็บแนมประจำ เรียกได้ว่าเห็นหน้ากันเป็นไม่ได้ต้องมีเรื่องให้บรรดาผู้ใหญ่ปวดหัวตลอด
จนเมื่ออัจฉรียาพรไปเรียนต่อที่เมืองนอก เขากับอัคราเองก็ไปเรียนเมืองนอกเช่นกันและเริ่มห่างหายไม่เจอกันอยู่หลายปี แต่ก็จะเจอกันประปรายเมื่อมีกิจกรรมของครอบครัว ล่าสุดเขาก็เจออัจฉรียาพรในงานรับปริญญาของปลายฝนและไม่ได้เจอกันอีกเกือบปีเพราะเขามีงานด่วนและต้องเริ่มเรียนรู้ที่จะเข้ามารับหน้าที่ดูแลกิจการของบิดามารดาทั้งหมดจึงไม่ค่อยได้มีเวลาเจอใครนัก รวมไปถึงเพื่อนๆ ของเขาด้วย วันนี้ที่เขามาเที่ยวกับเพื่อนๆ ได้เพราะทุกอย่างลงตัวแล้วและได้ชัชเข้ามาเป็นหุ้นส่วนและช่วยบริหารงานในส่วนกิจการที่อยู่ในกรุงเทพฯ ส่วนตัวเขาจะอยู่ที่เชียงใหม่มากกว่า
เมื่อนึกถึงดวงตากลมโตวาววับของเด็กน้อยในวันวานสิงหราชก็อดหัวเราะกับตัวเองไม่ได้ที่สามารถจดจำรายละเอียดของอัจฉรียาพรได้ทั้งหมด
สักครู่ร่างอรชรในชุดสวยเย้ายวนก็เดินกลับมาแต่ต้องชะงักเมื่อหันมาเจอหน้าเขา สิงหราชยิ้มบางๆ ทักทาย
“นึกว่าสาวที่ไหน ที่แท้ก็...”
“ก็อะไร พูดดีๆ นะตาแก่” เสียงใสกังวานคุ้นหูแหวขึ้นทั้งใบหน้าสวยไม่เป็นรองใครบึ้งจัด ดวงตากลมโตวาววับริมฝีปากระเรื่อขยับว่าเขาดูน่าจุมพิตเหลือเกิน สิงหราชกลับคิดไปไกลถึงเพียงนั้น แต่มีหรือสิงห์หนุ่มผู้เจนสนามจะเผลอแสดงอาการว่าอยากจะจูบสาวเจ้าออกไป
“ก็ตุ่มน้อยของพี่สิงโตไงจ๊ะ”
“บ้า พี่สิงโต แก่แล้วยังปากเสีย”
“แก่แล้วแต่ยังไม่ไฟนะจ๊ะ อีกอย่างพี่อายุมากกว่าอิ่มอุ่นแค่ 7 ปี ตอนนี้สามสิบกำลังดีน้ำยาแรง ไม่เรียกว่าแก่หรอก เขาเรียกหนุ่มฉกรรจ์พันธ์ดีเตะปี๊บดังตั้งร้อยๆ ใบก็ยังไหว..” แทนที่จะโกรธสาวเจ้าที่หาว่าตนแก่สิงหราชก็ยั่วเย้าให้แม่สาวสวยหัวปั่น สนุกกว่ากันเยอะ
“อี๊ ตาแก่ลามก” หญิงสาวหน้าแดงก่ำมองเขาตาขุ่น
“หึหึ อะไร คิดไปถึงไหนยายบ๊อง”
“อย่ามาว่าอิ่มอุ่นนะ แล้วถอยไปเลยไม่ต้องมายืนเกะกะไปอวดหล่อไกลๆ เลยไป ไม่รู้ทำกรรมอะไรไว้ถึงได้มาเจอพี่สิงโตเนี่ย เกเรตั้งแต่เล็กจนแก่” ดูเหมือนยายตุ่มแตกของเขานี่จะขี้บ่นไม่เบา ดูเถอะเจ้าหล่อนใส่เขาเป็นชุด...
“แล้วมาเที่ยวกับใคร ทำไมพี่ไม่เคยเห็นหน้า”
“จะมากับใครมันเกี่ยวไรกับพี่ล่ะ อิ่มอุ่นจำเป็นต้องแนะนำเพื่อนทุกคนให้พี่รู้จักรึไง”
“ก็จำเป็นสิ เพราะพี่จะได้รายงานคุณอาถูกว่ามาเที่ยวแล้วเจออิ่มอุ่นคั่วผู้ชายกี่คน” ด้วยความหึงหวงที่ตีตื้นขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุสิงหราชจึงพูดออกไปแบบนั้นและมันยิ่งทำให้คนฟังซึ่งมีอคติในใจอยู่แล้วเดือดดาล
“หยาบคาย ผู้ชายอะไรไม่ให้เกียรติผู้หญิง”
“ก็บอกมาสิว่าไอ้สองตัวนั่นเป็นใคร”
“นี่ปล่อยนะ อย่ามาแตะแล้วอย่ามาเรียกเพือ่นอิ่มอุ่นว่า ตัว คนปากเสีย..” อัจฉรียาพรทำท่าว่าจะเดินจากไปเพราะไม่อยากพูดด้วยยิ่งทำให้คนที่แอบคิดอะไรๆ ในใจทนไม่ได้คว้าต้นแขนเรียวไว้และสาวเจ้าหันมามองตาเขียวปัดทั้งยังสะบัดตัวหนีเหมือนรังเกียจเขาเสียเต็มประดาสิงหราชจึงอยากเอาชนะ
“ไม่อยากแตะหรอก ก็แค่เด็กที่อยากเป็นสาวแต่ไม่มีอะไรน่าสนใจ..”
“อ๊าย พี่สิงโต ผู้ชายปากไม่ดี” อัจฉรียาพรหันมาทุบอกกว้างอย่างฉุนเฉียว สิงหราชปัดป้องไว้แล้วดึงตัวเธอออกไป พนักงานรักษาความปลอดภัยเดินเข้ามายังพวกเขาทันทีเมื่อเห็นท่าทางของทั้งสอง
“ขอโทษนะครับ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”
“ไม่มี ผมกับคู่หมั้นกำลังมีเรื่องเข้าใจผิดกัน เธองอนนิดหน่อยที่ผมคุยกับผู้หญิงอื่น” คำตอบที่ชิงเอ่ยขึ้นก่อนทำให้อัจฉรียาพรอึ้งไป และทั้งฉัตร วาริช ชัช และปานชนกซึ่งเดินออกมาตามทั้งสองกลับเข้าไปด้านในก็ออกมาได้ยินพอดีนั้นต่างก็อึ้งไปพร้อมๆ กัน...
“คู่หมั้น...”
“อะไรกันคะสิงโต ไปหมั้นกับยายเด็กอ้วนนี่ตอนไหนกัน”
“เมื่อกี้..” สิงหราชกระชับวงแขนแน่นขึ้นทำให้ร่างระหงแนบชิดกับอกกว้างของเขา อัจฉรียาพรพยายามดิ้นและพยายามจะกระทืบลงไปที่เท้าของชายหนุ่มแต่เขาก็หลบได้ทันซ้ำยังยักคิ้วล้อเลียนเธอให้ได้อาย หญิงสาวเม้มปากอย่างขัดใจ
“ปล่อยนะ ใครเขาหมั้นกับตัวเอง ขี้ตู่”
“อ้าว ที่รักจ๋า ทำให้หลงแถมยังมาแอบจูบพี่แล้วจะชิ่งกันเหรอ ทำแบบนี้ไม่ได้นะ พี่ลูกมีพ่อมีแม่” ว่าไปนั่น ไร้เหตุผลสิ้นดีหน้ามึนหน้าด้านที่สุด อัจฉรียาพรหน้าแดงด้วยความโกรธ
“ฉัตร วาริส ช่วยอิ่มอุ่นด้วย อีตาบ้านี่ขี้ตู่”
“เอ่อ คือ..” สองหนุ่มอึกอัก
“ไม่ต้องมายุ่งเลยพวกนายสองคน เดี๋ยวฉันจะต้องมาจัดการพวกนายแน่ แต่ตอนนี้ฉันจะจัดการกับคู่หมั้นฉันก่อนที่แอบหนีมาเที่ยวกับพวกนาย..” สิงหราชหันไปตวาดฉัตรกับวาริสที่ทำท่าจะเข้ามาช่วยและท่าทางสะดุ้งตุ้งติ้งเล็กน้อยด้วยความเผลอตัวของฉัตรทำชายหนุ่มพอใจลึกๆ แล้วหันมามองใบหน้าสวยแดงก่ำของคนที่มองเขาตาเขียว
“พี่สิงโต จะมากไปแล้วนะ อิ่มอุ่นจะฟ้องคุณพ่อ”
“ฟ้องว่าอะไร ฟ้องว่าพี่จูบอิ่มอุ่นโชว์เพื่อนเหรอ” และไม่ต้องให้ผิดคำพูดสิงหราชก็ก้มลงปิดปากคนที่กำลังจะอ้าปากเถียงทันที...
พ่อเลี้ยงอินคำกับแม่เลี้ยงเกศรามองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างตำหนิและอดสมน้ำหน้าไม่ได้เมื่อเห็นเบ้าตาของลูกชายเขียวคล้ำมุมปากช้ำเล็กน้อยเพราะโดนหมัดของอัจฉรียาพรมาเมื่อวันก่อน
“กระต่ายว่า พี่สิงโตน่าจะโดนหนักกว่านี้นะคะ กระต่ายเป็นผู้หญิงยังไงก็อยู่ข้างพี่อิ่มอุ่นค่ะ พี่สิงโตเข้าข่ายรังแกผู้หญิง แต่บังเอิ้นผู้หญิงสู้ ฮ่าๆ” กระต่าย หรือ สิริรดา น้องสาววัยยี่สิบปีที่เป็นสาวจอมแสบไม่แพ้กันเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าบึ้งตึงเพราะนึกเคืองพี่ชายที่บังอาจรังแกพี่อิ่มอุ่นซึ่งเป็นไอดอลของตนแล้วหัวเราะเยาะในประโยคสุดท้ายด้วยความสะใจ
“เรานี่เป็นน้องสาวใครนะ”
“เป็นน้องสาวพี่อิ่มอุ่นค่ะ” น้องสาวตอบแบบไม่คิดทั้งยิ้มเผล่น่าหมั่นไส้
“พ่อล่ะไม่รู้จะมองหน้าอัคคียังไงติด ลูกนะลูกทำอะไรไม่ใช้ปัญญาใช้แต่ไอ้นั่นคิด..” พ่อเลี้ยงอินคำว่าลูกชายแล้วอดไม่ได้เขกกะโหลกไปอีกหนึ่งที
“โอ๊ยยย.. คุณพ่อค้าบบ สิงโตเป็นลูกพ่อนะ” สิงหราชโอดครวญ
“เหอะ ตอนนี้อยากจะถีบไปไกลๆ ไม่อยากมีลูกแบบนี้โว้ย มีอย่างที่ไหนไปรังแกน้องแบบนั้น”
“น้อยไปน่ะสิ แม่ก็อยากจะเขกกบาลอีกทีนัก นี่ๆๆ” แม่เลี้ยงเกศราพูดพลางประเคนมะเหงกใส่ลูกชายไปอีกเป็นกระบุง สิงหราชวิ่งหนีไปหลบหลังพี่เลี้ยงของตนทันที
“แม่บัวครับ ช่วยสิงโตด้วยไม่มีใครรักสิงโตเลย..” แม่บัว หญิงวัยชราวัยเจ็ดสิบเศษแต่ยังคงแข็งแรงเดินเห็นคล่องแคล่ว ซึ่งอยู่กับครอบครัวพ่อเลี้ยงอินคำมานานและยังเป็นญาติสนิทกัน นางเองก็ไม่มีลูกและไม่ได้แต่งงานจึงรับเลี้ยงลูกๆ ของพ่อเลี้ยงอินคำอย่างดี ทั้งสิงหราชและสิริรดา แต่สิงหราชนั้นจะเป็นลูกรักกว่าใคร
“โธ่ๆ ลูกสิงโตของแม่บัว พ่อเลี้ยงนี่ยังไงนะ ลูกทำผิดไปแล้วก็ให้อภัยสิคะ อีกอย่างลูกสิงโตของแม่บัวก็จะรับผิดชอบหมั้นหมายแต่งงานกับหนูอิ่มอุ่นแล้วนี่คะ จะมาตีมาว่ากันทำไม ดูสิ หัวแตกรึเปล่าก็ไม่รู้” ว่าพลางลูบหลังลูบไหล่ผู้เป็นเสมือนลูกชายของตนอย่างเอาใจ
“พี่บัวไม่ต้องเอาใจกันเลยนะคะ เนี่ยให้ท้ายกันแบบนี้ถึงไม่เห็นหัวหงอกหัวดำ” แม่เลี้ยงเกศรามองทั้งสองตาขุ่น
“เอาล่ะทีนี้ก็พูดขอขมาคุณอาเขาเอาเองนะ พ่อกับแม่ไม่สนใจแล้ว” ว่าแล้วทั้งบิดามารดาและน้องสาวก็เดินเข้าไปในบ้านของคุณอัคคี
บ้านพักตากอากาศหลังงามตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ร่มรื่นด้วยต้นไม้และดอกไม้หลากสีสันกำลังออกดอกบานสะพรั่งส่องกลิ่นหอมหลอกล่อให้แมลงดอมดม