บทที่ 2. คู่หมั้นในวันหลอกลวง
1/
บทที่ 2. คู่หมั้นในวันหลอกลวง
สิงหราชจำนนรัก
(
)
已经是第一章了
บทที่ 2. คู่หมั้นในวันหลอกลวง
แม้จะโกรธแสนโกรธที่สิงหราชบังอาจแตะต้องลูกสาวสุดที่รัก แต่เพราะเรื่องราวมันบานปลายมาจนบัดนี้คุณอัคคีก็ได้แต่ปล่อยเลยตามเลยแต่ในใจนั้นคิดเอาคืนว่าที่ลูกเขยไว้ในใจแล้ว “เอาล่ะ ส่วนวันแต่งอาจะคิดดูอีกทีว่าจะเป็นแต่งปีไหน..” “หา อะไรนะครับ แต่งปีไหนเหรอ ทำไมต้องรอเป็นปีด้วยครับ” สิงหราชเสียงดังทำให้ทุกคนที่ต่างก็นั่งรับประทานอาหารร่วมกันหลังจากการหมั้นหมายระหว่างสิงหราชกับอัจฉรียาพรผ่านไปด้วยดีและสาวเจ้าก็ดูสงบเสงี่ยมจนน่าแปลกใจ “สิงโต..” แม่เลี้ยงเกศราปรามลูกชาย “แต่คุณแม่ครับ ใครเขาหมั้นกันข้ามปีล่ะครับ” “คนอื่นเขาหมั้นกันห้าปีสิบปีก็มีค่ะพี่สิงโต” อัจฉรียาพรเอ่ยขึ้นยิ้มเยาะเขาอย่างสะใจ แล้วหันไปอ้อนแม่เลี้ยงเกศรา “คุณป้าเกศขา พี่สิงโตน่ะนิสัยเกเรแล้วก็เจ้าชู้ชีกอกับสาวๆ ไปทั่ว อิ่มอุ่นไม่มั่นใจเลยที่หมั้นด้วยแบบนี้แต่เพราะพี่สิงโตรังแกอิ่มอุ่นมันก็เลยเลยเถิดมาอย่างนี้ หรือว่าอิ่มอุ่นจะถอนหมั้นดีคะ” “ไม่ถอน ยังไงพี่ก็ไม่ถอนหมั้น อิ่มอุ่นเป็นคู่หมั้นพี่แล้ว แล้วเราก็จูบกันแล้วด้วยห้ามถอนหมั้น” คนที่อยากหาบ่วงผูกคอตัวเองแย้งขึ้นท่ามกลางสายตาขุ่นเคืองของทุกคนโดยเฉพาะคุณอัคคีและอัจฉรียาพร “ฮือออ เห็นไหมคะคุณป้า พี่สิงโตนิสัยไม่ดี มีอย่างที่ไหน กินในที่ลับไขในที่แจ้ง อิ่มอุ่นอับอายเหลือเกิน..” ว่าแล้วหญิงสาวก็ทำตาแดงๆ น้ำตาไหลพรากและลุกขึ้นวิ่งหนีเข้าห้องของตนเองไป “สิงหราช ไอ้ลูกไม่รักดี นี่ๆๆ มาตีให้กบาลแยกสักทีสิ” พ่อเลี้ยงอินคำหันไปประเคนมะตูมใส่หัวลูกชายไม่ยั้ง เดือดร้อนให้คุณอโนมาลุกขึ้นมาห้ามไว้ “พอแล้วค่ะพี่อิน หยุดก่อนค่ะ ทุบกันแบบนี้ตาสิงโตหัวแตกตายพอดี” “ปล่อยให้พี่อินทุบมันให้ตายไปเลยอ้อน หึ ดีนะแค่โดนทุบ หากเป็นพี่จะยิงให้ไส้แตก” คุณอัคคีว่าให้อีก “แม่อ้อนครับ ช่วยสิงโตด้วยทุกคนรังแกสิงโตกันทั้งนั้นเลย” “หึ..” ดูเหมือนทั้งคุณอัคคี บิดามารดาและน้องสาวจะทำเสียงในลำคอขึ้นพร้อมกันพร้อมทั้งเดินแยกย้ายออกจากโต๊ะรับประทานอาหารไปคนละทาง เหลือเพียงสิงหราช คุณอโนมากับแม่บัว “เป็นไงบ้างคะสิงโตลูกแม่ ดูสิ หัวแตกไหม ตายแล้วทำไมพูดไม่น่ารักแบบนี้ล่ะคะ เห็นไหมคุณพ่อคุณแม่คุณอาโกรธแล้ว” “ก็สิงโตพูดความจริงนี่ สิงโตอยากแต่งงานกับอิ่มอุ่น..” ชายหนุ่มทำตาละห้อย คุณอโนมาถอนใจเบาๆ ส่ายหน้าน้อยๆ ทั้งนึกเคืองและนึกขัน... “ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่อาหรือใครแล้วล่ะสิงโต คนที่สิงโตต้องฝ่าด่าน คือคุณอาไฟกับน้องอิ่มอุ่น เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้นะจ๊ะ” “แต่แม่อ้อนครับ...” “หือ ว่าไง..” “สิงโตรักอิ่มอุ่น..” คุณอโนมาหันมามองว่าที่ลูกเขยจริงจัง.. “จริงๆ นะ สิงโตรักน้องอิ่มอุ่นจริงๆ ไม่ได้ล้อเล่น..” ชายหนุ่มยืนยันจริงจักหนักแน่น “ถ้าอย่างนั้นก็พิสูจน์สิจ๊ะ” คุณอโนมาพูดเพียงเท่านั้นแล้วเดินออกไป “สิงโตต้องทำไงครับแม่บัว” เหมือนถูกทิ้งให้เคว้งคว้างชายหนุ่มจึงหันมามองที่พึ่งอันสุดท้าย “แม่บัวไม่รู้ค่ะ เพราะแม่บัวไม่ได้เป็นคนสร้างปัญหานี้ คราวนี้สิงโตทำตัวไม่น่ารักจริงๆ นั่นล่ะ” คราวนี้แม่บัวก็ทำหน้าตึงใส่สิงหราชใจแป้ว “แต่สิงโตจะหาสะใภ้ให้แม่บัวนะ จะมีสิงโตตัวน้อยๆ ให้แม่บัวอุ้มไงครับ” เมื่อจะหมดหนทางจะไม่มีพวก ก็รีบสร้างจุดร้อนขึ้นมาหลอกล่อคนแก่ให้เป็นพวก พ่อแม่เขาเกรงใจแม่บัวอยู่ไม่น้อย หากมีแม่บัวเป็นพวกถึงอย่างไรก็ไม่เสียหาย ไม่วายสิงหราชจะคิดอย่างเจ้าเล่ห์... “แหม.. เจ้าเล่ห์นะคะลูก..” แม่บัวค้อนตาคว่ำแต่ก็ยอมอยู่ข้างลูกชายหัวแก้วหัวแหวน... ทางด้านอัจฉรียาพรที่วิ่งกลับเข้ามาในห้องก็ได้ยิ้มย่องด้วยความพอใจเมื่อสามารถปั่นหัวสิงหราชได้ ความจริงแล้วแค่ชกอีตาสิงโตบ้ากามจนเบ้าตาเขียวก็น่าจะพอ แต่เพราะเธอเห็น ยายนกกระแตแต้แว้ด ปานชนกมองเธอกับสิงหราชตาเขียวแทบจะถลนออกมานอกเบ้าและท่าทางฉุนเฉียวของเจ้าหล่อนเธอจึงอยากจะแกล้งคนให้อกแตกตาย “สมน้ำหน้ายายนกกระแตนั่น ฮ่าๆ ป่านนี้คงดิ้นพลาดๆ ขาดใจไปแล้วมั้ง..” คนที่ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังจะติดบ่วงเกมของตัวเองหัวเราะลั่นห้องด้วยความสะใจ แล้วใบหน้าสวยก็แดงก่ำขึ้นเมื่อนึกถึงคนต้นเหตุอีกคน “หึ พี่สิงโตบ้า สิงโตแก่จอมหื่น..” อัจฉรียาพรซุกหน้าลงกับหมอนนุ่มด้วยความขัดเขินเมื่อนึกถึงรสจุมพิตนั้น แม้เพียงแค่เสี้ยวนาทีแต่มันกลับตราตรึงอยู่ในความทรงจำของเธอไปแล้ว ริมฝีปากร้อนผ่าวที่ประทับลงมาและคลึงเคล้ากลีบปากระเรื่อของเธอเบาๆ มันกลับทำให้ใจสาวเต้นแรงหวั่นไหวสะท้านสะเทือนมาจนบัดนี้ “พี่สิงโตคนร้ายกาจ มาทำกับอิ่มอุ่นแบบนี้ได้ไง จูบแรกของอิ่มอุ่นมันต้องอ่อนหวานโรแมนตกกว่านี้สิ คนบ้า..” อัจฉรียาพรกลิ้งตัวไปมาบนเตียงกว้างสักครู่ก็ผุดลุกขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู “คุณแม่..” เมื่อเปิดประตูก็พบว่ามารดายืนยิ้มบางๆ อยู่หน้าห้อง “แม่ขอเข้าไปหน่อยได้ไหมลูก” “ได้ค่ะ..” หญิงสาวเปิดประตูให้มารดาเข้ามา คุณอโนมามองหน้าลูกสาวอย่างพิจารณาโดยไม่พูดอะไรทำให้คนถูกมองเก้อเขินไป “เอ่อ คุณแม่ขา มีอะไรคะ มองหน้าอิ่มอุ่นแล้วไม่พูดนี่ มันแปลกๆ นะคะหรือว่าอิ่มอุ่นสวยขึ้นจนคุณแม่คิดว่าเป็นตัวปลอม” หญิงสาวแสร้งพูดแก้เก้อไป “แม่กำลังมองหาเด็กผู้หญิงตัวอ้วนกลมในวันวาน..” “แหม คุณแม่อะ” “ตอนนี้แม่เห็นแต่หญิงสาวสวย และรวยมาก” คุณอโนมาเย้าลูกสาวคนสวยยิ้มๆ ได้ทีอัจฉรียาก็เข้ามากอดเอวบางของมารดาทันที “พูดแบบนี้หม่ามี้อยากได้ของขวัญปีใหม่เป็นอะไรน้อ..” หญิงสาวหอมแก้มนวลของมารดาฟอดใหญ่ถูกใจกับคำเยินยอนั้น “อยากได้หลานตัวเล็กๆ สักคน...” “โธ่ คุณแม่น่ะ อิ่มอุ่นไม่เล่นด้วยแล้ว” อัจฉรียาพรผละออกห่างทำหน้าง้ำทันที “อ้าว หมั้นแล้วก็ต้องแต่งสิลูก ไม่แต่งก็ม่ายขันหมากน่ะสิ ใครจะอยากให้ลูกสาวเป็นม่ายขันหมากล่ะ” คุณอโนมาเสียงสูง “แต่อิ่มอุ่นยังไม่ได้อยากจะแต่งตอนนี้นี่คะ หมั้นกันไปก่อน หมั้นไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก..” “อัจฉรียาพร...” น้ำเสียงเรียบๆ ของมารดานั้นยิ่งกว่าน้ำกรดแช่เย็นเสียอีกข้อนี้เธอรู้ดีทีเดียว อัจฉรียาพรจึงหันมามองหน้ามารดาตรงๆ “ไหนบอกมาสิ มีแผนร้ายอะไร..” และยังความฉลาดเป็นกรดของมารดาอีก ไม่เคยสักครั้งจะหลบหลีกสายตาอันแหลมคมของท่านไปได้ อัจฉรียาพรเข้ามากอดเอวประจบมารดาอีกครั้งเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจมารดาแต่มันจะได้ผลมากน้อยแค่ไหนนั้นก็รอดู... “คุณแม่อ้อนคนสวยขาปีใหม่นี้เอานาฬิกาหรูนะคะหรือแหวนเพชรดี อิ่มอุ่นซื้อให้ได้กำไรจากการสร้างแบรนดิ์ให้ลูกค้าตั้งหลายล้าน..” เอาของขวัญมาล่อพร้อมทั้งอวดความก้าวหน้าของบริษัทตนเองที่รับสร้างแบรนด์สินค้าในกลุ่มสินค้าคอสเมติกและสกินแคร์ทั้งในและต่างประเทศ และตอนนี้บริษัท A&A Cosmetics ของเธอก็กำลังไปได้สวยเลยทีเดียว มีทั้งสินค้าในแบรนด์ตัวเองและของลูกค้าซึ่งก็ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมาย จนตอนนี้สินค้ากลุ่มสุขภาพและความงามตั้งแต่หัวจรดเท้าของ A&A Cosmetics นั้นติดตลาดและกำลังจะขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย... “ไม่ต้องเอาของมาล่อมาอวดหรอกย่ะแม่ตัวดี..” “รู้ทันตลอดเลย..” ทำเสียงออดอ้อนแต่ก็ยังไม่พ้นเมื่อคุณอโนมาคาดคั้น “คิดจะปั่นหัวพี่เขาใช่ไหม แล้วคิดไหมว่าหากทำอะไรเกินเลยพ่อกับแม่จะถูกถอนหงอกน่ะ ฮึ..” “อิ่มอุ่น...” หญิงสาวหน้าม่อยลงไปทันที “ใช้สติและคิดเยอะๆ นะลูก อิ่มอุ่นโตแล้วแม่ไม่อยากเข้าไปวุ่นวายก้าวก่ายการใช้ชีวิตของลูก แต่ไม่ได้หมายความว่าแม่จะไม่มีสิทธิ์ยุ่งเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องใหญ่แล้วก็ยังเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับหลายคน คุณป้ากับคุณลุงก็เป็นคนมีเกียรติมีชื่อเสียง และรักอิ่มอุ่นมาก คุณพ่อก็ไม่ใช่ตาสีตาสา เข้าใจใช่ไหม..” “ค่า.. อิ่มอุ่นไม่ได้คิดทำอะไรเสียหน่อย คุณแม่น่ะคิดเยอะ” ไม่วายจะแย้งเสียงอ่อย “เราก็เป็นเสียอย่างนี้ล่ะ ช่างยอกย้อนช่างแย้งเป็นที่หนึ่ง” “แต่อิ่มอุ่นสัญญาค่ะว่าจะไม่ทำให้ทุกคนปวดหมอง..” หญิงสาวฉีกยิ้มประจบ “ถ้าพี่สิงโตไม่ทำตัวเกเรนะคะ” “นั่นไง.. ไหนบอกมาสิว่าจะทำอะไรพี่เขา” “หากพี่สิงโตไม่เลิกเจ้าชู้ไม่เลิกนิสัยเสียๆ เหมือนที่ผ่านมาอิ่มอุ่นจะถอนหมั้นค่ะ เพราะหากอิ่มอุ่นจะใช้ชีวิตคู่กับใคร คนคนนั้นจะต้องรักและมีอิ่มอุ่นแค่คนเดียว หากมีเรื่องผู้หญิงมาวุ่นวายแม้แต่นิดเดียว ทุกอย่างจบค่ะ” “โอเค.. แม่เข้าใจแล้ว..” พูดจบคุณอโนมาก็ลุกขึ้นเดินไปที่ประตู อัจฉรียาพรก็เดินมาส่งมารดา “ดีใจจังที่คุณแม่เข้าใจอิ่มอุ่น” “แต่แม่ก็อยากได้ลูกเขยที่ชื่อสิงหราชมากกว่าใครๆ” นางบอกลูกสาวแล้วเดินออกจาก้องไปเงียบๆ “คุณแม่..” หญิงสาวลากเสียงมองตามมารดาไปอย่างขุ่นใจเล็กน้อย แบบนี้เธอก็ดิ้นหนีไม่ได้น่ะสิ เพราะเห็นชัดแล้วว่ามารดาอยู่ข้างไหน และหากมารดาชี้นก ก็ต้องเป็นนก... “จริงสิ ชี้นก ก็ต้องเป็นนก หึหึ เสร็จฉันล่ะยายนกกระแตแต้แว้ดเอ๊ย...” หญิงสาวยิ้มเจ้าเล่ห์... ทางด้านยายนกกระแตแต้แว้ดหรือปานชนกก็กำลังคลุ้มคลั่งด้วยความแค้นเคืองใจที่ถูกคนที่เคยดูถูกเหยียดหยามว่าเป็นยายเด็กอ้วนตุ่มแตกขี้เหร่หัวหยิกแย่งชายที่หมายปองไปครองแบบปัจจุบันทันด่วนและยังได้เห็นทั้งสองกอดจูบกันต่อหน้าต่อตาด้วย... “กรี๊ดดด ฉันเกลียดยายเด็กอ้วนนั่นนัก” หญิงสาวกรีดร้องลั่นจนศศิซึ่งถูกโทร.ตามจิกให้มาฟังเจ้าหล่อนระบายต้องแอบปิดหู “ใจเย็นน่านก” “ใจเย็นห่าเหวอะไร เธอไม่เห็นเหรอว่าแม่นั่นมันมาปาดหน้าเค้กไปหน้าตาเฉย” “ก็สิงโตไปทำแบบนั้นกับเขาก่อนนี่นา และอีกอย่างเขาก็คนกันเอง พ่อแม่เขาก็รู้จักกัน ไม่จับแต่งงานสิแปลก เรือล่มในหนองทองจะไปไหน..” “นี่หล่อนเป็นเพื่อใครศศิ” ปานชนกตาเขียวมองศศิอย่างไม่พอใจ “ก็เป็นเพื่อนเธอกับสิงโตไง ฉันพูดตามความจริงเธอจะให้พูดแบบไหนล่ะ” ศศิหมายความตามนั้นจริงๆ แต่ยิ่งทำให้ปานชนกร้อนรนในอก “ไม่ ฉันจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น.. ฉันจะทำทุกอย่างให้ยายเด็กอ้วนนั่นกระเด็นออกจากชีวิตสิงโต” “ตอนนี้เขาไม่อ้วนและสวยมาก แถมยังเป็นเจ้าของบริษัทที่กำลังโด่งดังและรวยมากด้วย” ได้ที่ศศิก็แอบใส่ไฟริษยาลงไป และสะใจที่เห็นปานชนกร้อนรนเต้นเร่าๆ แบบนี้ เธออยากเห็นมานานแล้ว เพราะปานชนกมักวางตัวสูงส่งและข่มคนอื่นมาเสมอ เจอของจริงเข้าไปถึงกับหงายหลังไปไม่เป็น สะใจดีแท้... “หึ มันจะสักแค่ไหน ก็แค่อาศัยบารมีพ่อแม่” เหยียดปากอย่างหมิ่นแคลน ศศิแอบเบ้ปากอย่างระอากับความคิดและคำพูดของเพื่อนสาวและที่เจ้าหล่อนพูดมานั่นตัวเองทั้งนั้น... “ว่าแต่เธอมีอะไรอีกไหม ฉันจะกลับไปทำงานแล้ว ลามาแค่ชั่วโมงเดียว” “อะไรกัน มาแค่นี้จะกลับไปทำงานแล้ว มันได้เงินสักกี่บาทกันศิ เดี๋ยวฉันซื้อเวลาเธออีกสามชาวโมง ก็พอดีเลิกงานแล้วไปต่อกับฉัน” “ไม่ได้หรอกนก เพราะฉันลาเขาบ่อยแล้วเกรงใจหัวหน้า อีกอย่างฉันไม่อยากให้ใครคิดว่าลาได้เพราะเป็นเด็กเส้น” ศศิได้ทำงานในบริษัทของพ่อปานชนกเพราะปานชนกฝากฝังให้แต่ก็ทำไม่เต็มที่นักเพราะมักจะถูกปานชนกเรียกใช้จิกให้ไปไหนมาไหนด้วยเสมอ แรกๆ ศศิก็ดีใจที่เหมือนตัวเองมีความสำคัญ แต่หลังๆ มานี้ปานชนกมักหนีบเธอไปด้วยเพื่อให้ไปเป็นเบ้รองมือรองเท้าเหมือนว่าเธอเป็นคนรับใช้ของเจ้าหล่อนอย่างไรอย่างนั้นและเมื่อเข้าไปทำงานก็ถูกเพื่อนร่วมงานยี้ไม่ค่อยมีใครอยากคุยด้วยทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวประหลาดและไม่มีเพื่อน เวลาที่ต้องทำงานร่วมกับคนอื่นก็ทำยาก แต่แล้วก็เหมือนมีอะไรเปลี่ยนแปลงในบริษัท ปานชนกไม่ค่อยมาเรียกใช้และพ่อของปานชนกก็ไม่ได้นั่งเก้าอี้ผู้บริหารแต่มีนักบริหารกลุ่มใหม่มาบริหารงานแทน ทุกอย่างเป็นไปอย่างมีระบบระเบียบมากขึ้น และพนักงานก็ได้รับโบนัสได้ไปเที่ยวผ่อนคลายกันทุกปีขวัญและกำลังใจดีขึ้น ทำให้เธออยากมีเพื่อนในที่ทำงานและทำงานตามปกติเหมือนคนอื่นๆ เขา ที่สำคัญจะได้ไม่ต้องมาคอยรองมือรองเท้าใครโดยไม่จำเป็น... “หึ เดี๋ยวนี้ดูขยันทำงานจริงนะ กลัวตกงานรึไง ไม่ตกงานหรอกน่าไม่มีใครกล้าไล่เธอออกหรอกเพราะเธอเป็นเด็กฉัน” ปานชนกเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกนก ตอนนี้ทีมบอร์ดผู้บริหารไม่ใช่คุณพ่อเธอแล้วฉันเกรงใจเขา” “อะไรนะ เธอว่าไงนะ” “ก็ทีมบริหารไม่ใช่คุณพ่อเธอมานานแล้วนะ เธอไม่รู้เหรอ” “อ้อ เหรอ อืม ลืมไป ถ้าอย่างนั้นเธอก็กลับไปทำงานเถอะ” “งั้นฉันไปนะ” เมื่อลับหลังศศิแล้วปานชนกก็เริ่มครุ่นคิดและสงสัย เพราะเธอไม่ค่อยเห็นบิดาไปทำงานและท่านก็มักจะบอกว่าได้จัดเตรียมทีมบริหารงานใหม่ไว้แล้วเพราะกำลังจะวางมือจากงานแต่มันน่าสงสัยตรงที่ท่านไม่ไปทำงานแต่ออกจากบ้านไปทุกวัน จะว่าไปออกรอบตีกอล์ฟก็ไม่ใช่แล้วพ่อของเธอไปไหนนะ... “คุณพ่อมีอะไรปิดบังเรารึเปล่านะ..” คราวนี้ปานชนกมีเรื่องให้ขบคิดถึงสองเรื่องพร้อมกัน... สิงหราชนั่งหน้างออยู่ตรงหน้าเพื่อนรักทั้งสอง ชัชซึ่งเพิ่งรู้จักกับสาวสวยคู่หมั้นสาวของเพื่อนรักหมาดๆ ก็ถึงกับอดหัวเราะไม่ได้เมื่อเห็นแล้วว่า สิงห์หนุ่มมาเจอแม่เสือสาวเข้าให้แล้ว “ทำไมฉันไม่รู้จักน้องอิ่มอุ่นเร็วกว่านี้วะ ชอบมากเลยหญิงแกร่งสวยฉลาดมาดมั่นแบบนี้” “นี่ไอ้ชัชถ้าไม่อยากตายคาอวัยวะเบื้องล่างเก็บปากดีๆ เพื่อน” “โหย แค่นี้ทำหึง..” ชัชหัวเราะร่วนเมื่อสิงหราชทำท่าง้างเท้าไว้รอ “เออ หวงมากด้วย” “เหอะ ที่เมื่อก่อนสิงห์ปากหมาตัวไหนวะชอบล้อน้องสาวฉัน” อัครว่าให้พร้อมทั้งแซะเรื่องราวในวัยเยาว์ “ก็รักดอกจึงหยอกเล่นไง” “นี่แสดงว่าแกคิดไม่ซื่อกับน้องสาวฉันตั้งแต่ยังไม่เป็นสาวหรือวะไอ้สิงโต” อัคราตาโตมองเพื่อนรักอย่างไม่อยากเชื่อสายตาจนสิงหราชหน้าแดงก่ำ “ไม่ธรรมดาจริงๆ ว่ะแกเนี่ย” ชัชล้อเลียนเข้าไปอีก “นี่ๆ พวกแก ไม่ต้องมาทำท่าเหมือนหมาอยากแทะกระดูก” “ไอ้ปากมอม..” ทั้งอัคราและชัชร้องขึ้นพร้อมกันด้วยความหมั่นไส้คนปากร้ายอย่างสิงหราช “ขอบใจที่ชม” สิงหราชยิ้มยียวน “ฉันอยากจะรู้นักแกจะทำไงให้น้องสาวฉันยอมสยบ แต่บอกไว้ก่อนนะว่างานนี้ อัคราไม่ยุ่ง” “ชัชก็ไม่เกี่ยว...” สองเพื่อนรักรีบออกตัวเมื่อเห็นเค้าลางความวุ่นวายอยู่ไม่น้อย อัครานั้นรู้นิสัยของน้องสาวดีว่าอัจฉรียาพรนั้นพยศแค่ไหน เวลาดีก็ดีใจหาย แต่เวลาร้ายนี่บ้านแตก ซึ่งจะแตกต่างจาก ปลายฝน ภรรยาของเขา รายนั้นเงียบๆ เรียบๆ หวานๆ แต่ใจแข็งเด็ดเดี่ยว จนเขาต้องเกรงใจและยอมให้โดยปริยาย... “นี่ไม่คิดจะช่วยกันเลยใช่ไหม” “ใครเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้โว้ย” “เออ ไอ้ชัช ฉันจะรอดูยามที่แกจะมีเมียแล้วมันไม่ง่าย จะรอสมน้ำหน้า” “คนอย่างชัชซัดไม่เลี้ยง ไม่มีหรอกจะงอนง้อใครมาเป็นเมีย มีแต่จะมีคนมาขอเป็นเมียโว้ย ฮ่าๆ” ชัชพูดอย่างมั่นใจ ท่าทางน่าหมั่นไส้จนสิงหราชแทบอยากจะง้างเท้าถีบสักโครม “ฉันว่านะ ฉันลอยตัวแล้ว ขอให้พวกแกของคน ผ่านฉลุย มีเมียอย่างปลอดภัยมีเมียอย่างสมใจนึกก็แล้วกัน” คนมีเมียแล้วและผ่านเรื่องราวร้ายๆ มาแล้วเอ่ยขึ้นยิ้มๆ และนึกว่าเพื่อนทั้งสองคนของตน คงจะเจอศึกหนักอยู่ไม่น้อยเพราะปากดีกันเหลือเกิน...
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 2. คู่หมั้นในวันหลอกลวง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A