บทที่3.แสนพยศ จบตอน
1/
บทที่3.แสนพยศ จบตอน
สิงหราชจำนนรัก
(
)
已经是第一章了
บทที่3.แสนพยศ จบตอน
ชีวิตในวัยหนุ่มสิงหราชยอมรับว่าเขามีความเห็นแก่ตัวอย่างผู้ชายคนหนึ่งที่มีความอยากความต้องการประสาผู้ชาย แต่เขาก็ไม่ได้บังคับหรือข่มเหงน้ำใจหญิงสาวคนไหนและไม่เคยแย่งชิงผู้หญิงของใครและจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับหญิงสาวที่มีครอบครัวแล้ว ทุกคนที่เข้ามาต่างก็รู้ดีว่าข้อจำกัดในความสัมพันธ์นั้นอยู่แค่ไหนและต้องทำตัวอย่างไร แต่สำหรับอัจฉรียาพรคือความแตกต่าง คือความรู้สึกที่อิ่มเอมใจยามได้เห็นความเปลี่ยนแปลง ได้เห็นรอยยิ้ม ได้เห็นดวงตากลมโตวาววับและเสียงใสๆ ต่อล้อต่อเถียงกับเขาทุกครั้งที่เจอหน้า นี่เขาคงไม่ใช่พวกโรคจิตหรอกใช่ไหม.. ชายหนุ่มก็อดถามตัวเองไม่ได้ แต่เขายอมรับว่ามีความสุขเสมอที่ได้หยอกเย้าแม่สาวน้อยตัวกลมในวันวาน มันคือความผูกพัน... สิงหราชปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือความรู้สึกที่พันผูกและรัดร้อยใจเขาไว้มาเนิ่นนานและเขาก็มั่นใจว่าสิ่งนั้นมันคือความรัก ความรักที่เขาเฝ้ารอมอบให้ ยายอิ่มอุ่นตัวอ้วนกลมแสนซนจอมแสบของเขา แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดของอัจฉรียาพรในวันก่อนสิงหราชก็รู้ได้ทันทีว่าหากเขาบอกเธอไปตรงๆ ก็คงไม่ได้รับการยอมรับหรือเชื่อถืออย่างแน่นอน... อิ่มอุ่นของเขาเป็นคนฉลาดเฉลียวมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เธอจะไม่ยอมรับหากว่าเธอไม่เชื่อถือในสิ่งนั้น เธอจะต้องต้านเมื่อถูกกดดันบีบบังคับหรือมัดมือชก แต่เขาก็ทำสำเร็จไปแล้วหนึ่งขั้นนั่นคือ ทำให้เธอเป็นคู่หมั้นของเขาได้ แม้จะต้องแลกด้วยเบ้าตาเขียวปากเจ่อเพราะหมัดน้อยๆ ของเธอก็ตาม หรือจะต้องโดนมะเงกเขกกบาลสักร้อยทีเขาก็คิดว่ามันคุ้มที่จะได้ผู้หญิงที่ทั้งสวยและฉลาดแบบนี้มาเป็นเมียเป็นแม่ของลูก ก็อย่างที่เธอบอกเขานั่นล่ะ อิ่มอุ่นไม่ใช่ผู้หญิงกระจอก เขาจะทำอะไรให้มันง่ายๆ กระจอกๆ ดูธรรมดาๆ ได้อย่างไร... มันต้องไม่ธรรมดาและต้องไม่กระจอก... “เป็นไง ชอบไหมครับ..” สิงหราชถามเบาๆ คนที่มัวแต่ชมบ้านเพลินสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันมายิ้มหวานให้อย่างลืมตัว “ค่ะ ชอบค่ะ..” “เอาล่ะเราไปหาอะไรกินกันดีกว่า” สิงหราชเดินเข้าไปหาคนที่ยังคงมองรอบกายอย่างตื่นเต้นด้วยความเอ็นดู อัจฉรียาพรไม่รู้หรอกว่ามีอิทธิพลต่อใจเขามากแค่ไหน แกมแดงปลั่งที่หยิกน่าหอมนั้นเขาเฝ้ามองมาตั้งแต่เธอเริ่มสาว แม้ตอนนั้นจะมีสิวสาวเต็มหน้าแต่ความน่ารักของเธอก็ไม่ได้ลดลง และเขาก็เชื่อว่าสักวันเธอจะมีผิวหน้าที่เนียนใสเหมือนคุณอาอโนมา ฟันขาวสะอาดที่เคยถูกจัดระเบียบด้วยเหล็กดัดฟันนั้นเรียวตัวสวยยามยิ้มก็ดูงดงามสดใส เรือนผมหยิกหย็อยในวันวานคลายออกเล็กน้อยและเป็นลอนสวยตามธรรมชาติ รูปร่างอ้วนกลมเปลี่ยนเป็นเพรียวระหงจากการออกกำลังกายอย่างทุ่มเทของเธอยิ่งทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจที่อัจฉรียาพรมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ลูกเป็ดขี้เหร่ กลายเป็นนางหงส์แสนงดงงามน่าปรารถนา ความจริงแล้วถึงเธอจะอ้วนจะอวบกว่านี้เขาก็รักเพราะความรักที่มีต่ออัจฉรียาพรนั้นมันไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเพียงแค่วันเดียวหรือตอนที่เห็นเธอสวยแล้วเท่านั้น แต่เพราะเขารักเธอมานาน และเมื่อรักเขาจึงต้องหาทางเข้าใกล้แม่สาวน้อยขี้โมโหต้องคอยแกล้งคอยเย้าแหย่ตามประสาคนท่ามากและไม่อยากให้ใครรู้ สิงหราชคิดอย่างมีความสุขเมื่อเขาได้จับจองเป็นเจ้าของสาวน้อยที่หมายตาไว้ตั้งแต่เจ้าตัวเพิ่งแตกเนื้อสาว “สิงโต..” “นก.. คุณมาทำอะไรที่นี่” สิงหราชหน้ายุ่งเมื่อเดินออกมาหน้าคุ้มก็พบกับปานชนก “นกก็มาหาคุณน่ะสิคะ นกไปหาสิงโตที่ทำงานแล้วเลขาบอกว่าสิงโตมาที่นี่ก็เลยตามมา นกกะจะมาเที่ยวด้วยค่ะ” ปานชนกบอกพร้อมทั้งเดินมาเกาแขนของเขาอย่างสนิทสนม สิงหราชหน้าเสียหันไปมองคนข้างๆ ที่ทำหน้าเรียบเฉยก็รู้สึกหวั่นในอกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน กลัวอิ่มอุ่นโกรธ กลัวอิ่มอุ่นไม่พอใจ กลัวว่าที่เมียอาละวาด... สิงหราชยอมรับอย่างไม่อายเลยว่ากลัว “พี่สิงโตไปทานข้าวกับเพื่อนเถอะค่ะ อิ่มอุ่นจะไปทานกับคุณลุงคุณป้า.. ขอให้ทานอาหารให้สนุกนะคะ แต่ก็รักษาเวลาหน่อย เพราะพี่สิงโตมีเจ้าของแล้ว...” อัจฉรียาพรสะบัดมือออกจากอุ้งมือของเขาแล้วเดินขึ้นเรือนหลังงามไป สิงหราชรู้ดีว่าถ้าตามไปตอนนี้ไม่เป็นผลดีแน่ๆ จึงหันมามองหน้าเพื่อนสาวที่ยิ้มหวานให้ตน “ผมบอกตรงๆ นะนก ว่าคุณไม่ควรทำแบบนี้ เพราะผมกำลังจะแต่งงาน และคงไม่สามารถไปไหนมาไหนกับคุณได้เหมือนที่ผ่านมา หรือจะไปก็คงไปสองต่อสองไม่ได้ มันจะไม่ดีกับตัวคุณและจะทำให้ผมกับครอบครัวหมางใจกัน หวังว่าคุณคงเข้าใจนะ” “สิงโตคะ ทำไมคุณพูดกับนกแบบนี้ล่ะคะ” “ผมพูดตามหลักความเป็นจริง ผมรู้ว่าคุณรู้สึกยังไงกับผม และผมก็ไม่อาจจะคิดกับคุณมากกว่าคำว่าเพื่อน ผมขอตัวนะ หากคุณจะขึ้นไปทานข้าวกับครอบครัวผม ผมก็ยินดี และหากจะพักที่นี่ผมจะให้เด็กๆ จัดห้องพักให้ หรือคุณจะเข้าไปพักในเมืองผมก็ไม่ว่า” พูดจบสิงหราชก็ปลดมือของปานชนกออกจากต้นแขนของตนแล้วเดินขึ้นเรือนตามอัจฉรียาพรไป... ปานชนกมองตามหลังชายหนุ่มที่ตนแอบรักแอบหมายปองมาตั้งแต่สมัยเรียนด้วยความไม่พอใจ ใบหน้าสวยงอง้ำดวงตาวาวโรจน์ด้วยความขัดใจ ทำไมเธอจะต้องแพ้ยายเด็กอ้วนอัปลักษณ์นั่นด้วย จนบัดนี้ปานชนกก็ไม่เลิกอคติกับอัจฉรียาพร ยังคงคิดยังคงย้ำกับตนเองว่าอัจฉรียาพรคือยายเด็กอ้วนอัปลักษณ์ทั้งที่ตอนนี้อัจฉรียาพรนั้นห่างไกลคำว่าอ้วนอัปลักษณ์มาก แต่เพราะความริษยาทำให้เธอเลือกที่จะบอกตัวเองเช่นนั้น ยิ่งตอนนี้เธอได้รับรู้ว่าฐานะการเงินของตนนั้นคลอนแคลนใกล้หมดตัวเต็มที ความจริงคือหมดตัวแล้วต่างหาก ที่เธอกับบิดายังคงสามารถใช้ชีวิตไฮโซแต่เปลือกได้เพราะชื่อเสียงและตำแหน่งทางการเมืองของบิดาซึ่ง คุณเกียงไกร บิดาของเธอนั้นได้ผันตัวเองมาเล่นการเมืองเมื่อสองปีที่แล้วและท่านก็ขายหุ้นบริษัทให้กับนักธุรกิจรุ่นใหม่ไปเพื่อนำเงินมาเล่นการเมือง เธอเองก็ยังไม่รู้เลยว่าคนที่ซื้อหุ้นของบิดานั้นเป็นใคร และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการล่มสลายทางการเงินของครอบครัว บิดาหมดตัวและเป็นหนี้มหาศาลจากการเล่นการเมือง แต่แม้จะหมดตัวและเป็นหนี้ท่วมหัวบิดาก็ไม่เคยบอกเธอเรื่องนี้และเธอก็ยังคงใช้ชีวิตปกติแบบหรูหราและยังมีเงินใช้ไม่ขาดมือโดยไม่รู้ว่ามันคือเงินที่หยิบยืมมาโดยอาศัยอิทธิพลอำนาจจากตำแหน่งที่มีอยู่ ตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ขั้วการเมืองเปลี่ยนไปบิดาของเธอหมดอำนาจ และเจ้าหนี้ก็เริ่มคุกคามจนเธอต้องเลือกทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ตนกับบิดาอยู่รอดได้... ตอนนี้สิ่งที่เธอจะต้องทำคือ หาสามีรวยๆ และคนคนนั้นจะต้องเป็นสิงหราชเท่านั้น และต้องทำให้ได้ด้วย หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นหมายมั่นว่าจะต้องแย่งชิงสิงหราชมาเป็นของตนให้ได้ ดวงตาสวยมองไปรอบๆ บริเวณคุ้มอันกว้างใหญ่ไพศาล มองไปทางไหนก็มีแต่ความร่ำรวยรุ่งเรือง หากเธอจับสิงหราชได้เธอจะสบายไปทั้งชาติ แถมยังได้เหยียบย่ำยายเด็กอ้วนอัปลักษณ์นั่นด้วย... “ฉันไม่มีวันแพ้แกแน่ๆ ยายเด็กอ้วนอัปลักษณ์..” แม้จะพูดออกไปแบบนั้นแต่ปานชนกลับรู้สึกว่าสิ่งที่เธอคิดไว้ในใจมันอาจจะไม่มีทางเป็นไปได้เลย... อัจฉรียาพรปรายตามองคนที่เดินยิ้มร่ามายังโต๊ะรับประทานอาหารอย่างหมั่นไส้ แต่สาวสวยรวยและฉลาดอย่างเธอไม่แสดงอาการอะไรออกมานอกจากทำตัวตามปกติ เธอเรียนรู้ที่จะเก็บอารมณ์โกรธกราดเกรี้ยวจากคำดูถูกเหยียดหยามของคนอื่นนี่ล่ะ และมันก็ได้ผลเมื่อเธอนิ่งเงียบไม่ตอบโต้คนพวกนั้นก็จะเงียบไปเอง และเมื่อเธอเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นชนิดผิดหูผิดตาก็เหมือนการตบหน้าคนพวกนั้นกลางสี่แยก และมันยังทำให้เธอได้ผลกำไรจากคนเหล่านั้นมากมายเลยทีเดียว มีใครบ้างไม่อยากสวยไม่อยากดูดี นอกจากจะเปลี่ยนคำเหยียดหยามเป็นแรงบันดาลใจแล้วเธอยังได้กำไรจากคำล้อเลียนนั้นด้วย นั่นคือจิตใจที่เข้มแข็งทัศนคติและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล มองเห็นโอกาสจากมันไงล่ะ... “สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่” ปานชนกเรียกบิดามารดาของสิงหราชเช่นนี้มานานเพราะหวังว่าตนจะได้เลื่อนขั้นมาเป็นสะใภ้ และท่านทั้งสองก็ให้ความเอ็นดูปานชนกอยู่ไม่น้อย... “สวัสดีจ้ะหนูนก มาคนเดียวหรือจ๊ะ” “ค่ะคุณแม่ พอดีเพื่อนๆ เขาไม่ว่างมากัน นกก็เลยมาคนเดียวกะมาพักผ่อนด้วยค่ะ คงต้องรบกวนคุณแม่นะคะ” “ไม่เป็นไรจ้ะคุ้มอินจำปายินดีต้อนรับเสมอ” แม่เลี้ยงเกศรายิ้มให้หญิงสาวเพื่อนของลูกชาย มื้อกลางวันในวันนั้นดูเหมือนปานชนกจะผูกการสนทนาและพยายามทำตัวให้ดูเป็นสาวสังคมสมัยใหม่ที่ทำงานเก่งไม่แพ้อัจฉรียาพรที่ได้รับคำชมเชยจากแม่เลี้ยงเกศราและน้องกระต่ายซึ่งรายนี้ดูจะชื่นชมพี่อิ่มอุ่นคนสวยจนออกนอกหน้าจนสร้างความไม่พอใจให้กับปานชนกเป็นอย่างมาก เพราะเธอเองอยากเป็นที่หนึ่งของทุกคนในครอบครัวของสิงหราชเช่นกัน... “อันนี้อะไรคะพี่อิ่มอุ่น...” สาวๆ มานั่งคุยกันต่อที่ห้องนั่งเล่น แต่พ่อเลี้ยงอินคำกับแม่เลี้ยงเกศราขอตัวไปพักผ่อนประสาผู้ที่เริ่มสูงวัยขึ้น “ตัวนี้เป็นสินค้าใหม่ของพี่ จะเอามาให้กระต่ายทดลอง นอกจากพี่จะมีหนูทดลองแล้ว ยังจะมีกระต่ายทดลองด้วย” อัจฉรียาพรบีบครีมกันแดดที่เธอคิดค้นสูตรใหม่ขึ้นมาทาลงบนแขนขาวเนียนของสิริรดาเบาๆ สาวน้อยชอบใจกับเนื้อครีมใยไหมบางเบาซึมเข้าผิวอย่างรวดเร็วนั้นพร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ สดชื่น ไม่ทำให้ผิวขาววอกและไม่เหนียวเหนอะหนะอีกด้วย “คุณสมบัติกันน้ำกันเหงื่อกันแดดได้ตลอดวันไม่มันไม่เยิ้ม” “โอ้ย ฟินอะพี่อิ่มอุ่น หื้มม หอมด้วย เนื้อครีมนุ่มมากแล้วยังซึมเข้าผิวเร็วด้วยค่ะ มันทำจากอะไรบ้างคะ กระต่ายจะเอาไปโฆษณาขายให้เพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัย” “ก็จากว่านหางจระเข้กับน้ำมันรำข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นหลักและสารสกัดจากธรรมชาติอีกหลายอย่าง พร้อมด้วยสารกันแดดชนิดพิเศษกันน้ำกันเหงื่อแต่ล้างออกง่าย พอลงครีมบนผิวแล้วจะรู้สึกเย็นๆ สดชื่นด้วยเหมือนเราได้สมานผิวไปในตัว” “จริงด้วยค่ะรู้สึกเย็นสบายผิวบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ” “ท่าทางจะดีนะคะ แต่ของแบบนี้จะสู้ของแบรนด์เนมได้หรือคะ ไว้พี่นกจะเอาครีมกันแดดของ.. มาฝากนะคะน้องกระต่าย ใช้ดีมากค่ะ แพงด้วยแพ็กเกจสวยหรูมากค่ะ” ปานชนกพูดแทรกขึ้นแล้วเอ่ยถึงชื่อครีมกันแดดแบรนด์ดังซึ่งราคาหลักหลายพันที่ตนใช้อยู่ ความจริงแล้วไม่ได้อยากใช้ยี่ห้อนี้นักแต่เพราะเหล่าดาราเซเลบชื่อดังต่างใช้กันเธอก็จึงต้องซื้อมาใช้บ้างเพื่อให้ดูอินเทรนมีตังค์มีความไฮโซ “กระต่ายไม่ใช้ของแพงหรอกค่ะพี่นก เพราะยังหาเงินเองไม่ได้มาก ขอใช้ของฟรีแล้วขายได้ด้วยดีกว่า ขายเองใช้เองสวยด้วยมีตังค์ด้วย ดูสวยและฉลาดอีกต่างหาก แล้วสินค้าของพี่อิ่มอุ่นที่กระต่ายขายนะคะขายดีทุกตัว และมีคุณภาพมาตรฐานสากลด้วยค่ะ พรีเซ็นเตอร์ครีมตัวนี้กระต่ายขอเป็นเองนะพี่อิ่มอุ่นห้ามจ้างคนอื่น ต้องจ้างกระต่ายเพราะกระต่ายจะเก็บเงินซื้อกีตาร์” สิริรดาเยินยอไอดอลของตัวเองอย่างออกนอกหน้าทั้งอาสาเป็นพรีเซ็นเตอร์เองอีกด้วย ยิ่งทำให้ปานชนกร้อนรุ่มในอก “ได้ค่ะ แต่ค่าจ้างห้ามแพงนะคะพี่อิ่มอุ่นไม่สู้ค่าตัว” “ไม่แพงค่ะ แค่ให้ได้กีตาร์ดีๆ สักตัวก็พอค่ะ” สิริรดานั้นชอบดนตรีและเธอก็เล่นดนตรีทั้งไทยและสากลเป็นแทบทุกอย่างตอนนี้เธอต้องการกีตาร์ตัวใหม่แต่ไม่อยากขอเงินจากพ่อแม่จึงหางานทำโดยการเป็นตัวแทนขายสินค้าของบริษัทอัจฉรียาพรซึ่งก็ขายดีทุกตัวที่ทำออกมาทั้งครีมกันแดด ลิปสติก ครีมบำรุงผิว สบู่ล้างหน้า ล้างเครื่องสำอาง จนตอนนี้เธอสามารถมีเงินเก็บจากรายได้เสริมตรงนี้หลายหมื่นบาทเลยทีเดียวและมันทำให้สาวน้อยตื่นเต้นกับการหาเงินได้เอง “จริงๆ แล้วน้องกระต่ายไม่ต้องทำงานก็ได้นี่คะ แค่ขอเงินคุณพ่อคุณแม่ซื้อก็ได้แล้วกีตาร์แค่ตัวเดียว จะทำงานเป็นลูกจ้างคนอื่นให้เหนื่อยทำไม” “อุ๊ย พี่นกคะ ไม่ได้นะคะ ห้ามคิดแบมือขอเงินใครแบบนี้นะคะ ดูเป็นหญิงไร้ค่าไม่มีสติปัญญามากเลยนะคะ” ปานชนกหน้าม้านไปเลยทีเดียวกับคำพูดตรงๆ ของน้องกระต่าย แต่ใบหน้าใสๆ ซื่อๆ นั้นทำให้เธอต้องระงับความไม่พอใจเอาไว้แต่เมื่อหันมาเห็นแววตาพราวระยับด้วยความขบขันแม้สีหน้าจะเรียบเฉยของอัจฉรียาพรแล้ว ปานชนกก็อยากจะกรีดร้องออกมาด้วยความขัดใจเสียนัก แต่ทำได้เพียงยิ้มบางๆ แล้วพูดออกไปให้น้ำเสียงปกติที่สุด “จริงด้วยค่ะ แต่พี่ก็แค่ห่วงน้องกระต่ายน่ะค่ะ กลัวจะเหนื่อย ขอคุณพ่อคุณแม่จะได้ไม่เหนื่อยแล้วจะได้มีเวลาตั้งใจเรียนหนังสือไงคะ” “กระต่ายไม่เหนื่อยหรอกค่ะ สนุกดี ฝึกเป็นเศรษฐีตั้งแต่อายุยังน้อยค่ะ พี่นกลองขายของออนไลน์ดูมั้ยคะ สนุกนะคะ” “ไม่หรอกค่ะ แค่ช่วยงานคุณพ่อพี่นกก็ไม่มีเวลาขายอะไรไร้สาระแบบนี้หรอกค่ะ” ไม่วายที่ปานชนกจะแขวะคนที่นั่งเฉยเหมือนเธอไม่มีตัวตนอยู่ “แหม พี่นก บางทีของไร้สาระนี่ทำงานมากเลยนะคะ จริงไหมคะพี่อิ่มอุ่น” “ค่ะ” อัจฉรียาพรตอบสั้นๆ แล้วยิ้มบางๆ ท่าทางราวนางพญาของอัจฉรียาพรยิ่งทำให้ปานชนกริษยา ไม่ว่าอัจฉรียาพรจะหยิบจะจับจะขยับเปลี่ยนอิริยาบถแบบไหนก็ดูสวยงามเป็นธรรมชาติ แม่จะไม่อยากยอมรับความจริงข้อนี้แต่เธอก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าอัจฉรียาพรนั้นดูดีจริงๆ ยิ่งคิดยิ่งร้อนรุ่มด้วยความอิจฉาริษยา... “กระต่ายว่าวันนี้เราไปขี่ม้ากันดีมั้ยคะพี่อิ่มอุ่น วันนี้มีม้าตัวใหม่มาด้วยนะคะ” เมื่อคุยกันไปได้สักพักผู้อาวุโสน้อยสุดก็เอ่ยชวน “ก็ดีค่ะ พี่ไม่ได้ขี่ม้านานแล้ว เดี๋ยวพี่ขอไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ” “เดี๋ยวกระต่ายจะไปบอกพี่สิงโต” ว่าแล้วร่างเล็กบางก็หอบข้าวของออกไปด้วยแล้วหายไปภายในไม่กี่นาทีด้วยความตื่นเต้นที่จะได้ไปขี่ม้าประสาสาวน้อยแสนซน “เธออย่าคิดนะว่าสิงโตเขาจะรักเธอจริงๆ” ปานชนกเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอัจฉรียาพรลุกขึ้น “ก็ไม่รู้สินะ แต่ฉันก็ได้หมั้นกับพี่สิงโตแล้ว ชุดแต่งงานก็เลือกแล้ว การ์ดของชำร่วยก็พร้อมแล้ว” “แต่ทุกอย่างมันก็ล้มเลิกได้เหมือนกัน” ปานชนกลุกขึ้นเผชิญหน้ากับหญิงสาวสวยที่รูปร่างสูงไล่เลี่ยกัน “ก็รอดู ว่ามันจะล้มหรือมันจะรักกันดูดดื่มมากขึ้น” “อย่ามั่นใจไปหน่อยเลย” “มั่นไม่มั่นไม่รู้ รู้แต่ว่า อย่าลืมมาร่วมงานนะคะ ยายนกกระแตแต้แว้ด..” พูดจบก็เดินเชิดหน้าจากไปทิ้งให้คนที่ถูกเรียกว่านกกระแตแต้แว้ดกระทืบเท้าด้วยความขัดใจ “แก ยายเด็กอ้วนอัปลักษณ์” ปานชนกขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียวในใจก็คิดหาทางทำให้งานแต่งระหว่างสิงหราชกับอัจฉรียาพรล่มให้ได้... ทางด้านอัจฉรียาพรที่กลับเข้ามาในห้องพักของตนก็ยิ้มน้อยๆ ด้วยความพอใจที่เห็นปานชนกดีดดิ้นด้วยความขัดเคืองใจ ก็สมใจเธอแล้วล่ะ เธอจะต้องยั่วยายนั่นให้คลั่งมากขึ้นกว่านี้เพื่อให้ปานชนกพยายามทำให้งานแต่งงานของเธอไม่เกิดขึ้น ซึ่งเธอจะได้ไม่เสียหายและไม่ทำให้ผู้ใหญ่เสียใจ “แล้วจะคอยดูเธอจะมามุกไหนยายนกกระแต..” ในขณะที่อัจฉรียาพรกำลังลำพองใจว่าแผนของตนเป็นไปด้วยดี สิงหราชเองก็กำลังพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้เช่นกัน.. งานนี้ใครจะแพ้ใครจะชนะ ใครจะตกหลุมพรางของตน ใครจะเหนือใคร ก็ไม่อาจจะรู้...
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่3.แสนพยศ จบตอน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A