บทที่ 7   1/    
已经是第一章了
บทที่ 7
เหตุที่หลงรุ่ยชางตัดสินใจใช้วิธีนี้เพื่อวัดใจกับนางมารสาวแห่งสำนักภูผาโลหิต นั่นก็เพราะรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเหล่าบุรุษราวยี่สิบรายที่ต้องการเดินทางไปตบแต่งเข้าตระกูลไป๋โดยไม่มีเงื่อนไข ทันทีที่ได้เห็นภาพวาดเหมือนของ ไป๋อวิ๋นลี่ เขาไม่แปลกใจนักหรอกว่าเหตุใดบุรุษเหล่านั้นถึงได้หลงใหลในรูปโฉมของนางนัก เนื่องจากม้วนผ้าที่เขาได้รับมาจากเหอชางเฉิงก็พอจะทำให้เขามองเห็นถึงความงามพิลาสราวกับเทพธิดาของแม่นางไป๋ผู้นั้นอยู่บ้าง หากแต่อีกใจเขาก็นึกถึงความเป็นไปได้ว่านักวาดอาจจะถูกนางจ้างวานมาให้วาดภาพเหมือนที่เกินจริงก็เป็นได้ เพราะแม้แต่ในวังหลังของฮ่องเต้เขาก็ยังไม่เคยพานพบสตรีนางใดที่งดงามปานล่มเมืองราวกับเทพธิดาหนี่วาลำเอียงเท่านางมาก่อน และนอกจากความงามเหมือนดอกเหมยฮวาที่เต็มไปด้วยเสี้ยนหนามของนางแล้ว เขายังพบว่าหากบุรุษคนใดป่าวประกาศว่าจะไปแต่งเข้าตระกูลของนาง วันต่อมาก็มักจะมีอันเป็นไปเสียหมด ไม่เว้นแม้แต่บุรุษยากจนที่โดนตัดลิ้นจนต้องกลายเป็นคนบ้าใบ้ตามที่อาหยางรายงานให้เขาฟังเมื่อช่วงหัวค่ำนั่น ในเมื่อนางต้องการคนแต่งเข้าตระกูลไป๋ และพวกเขาต่างก็ยินยอมโดยไม่มีเงื่อนไข เหตุใดจึงเกิดเรื่องราวเหล่านั้นกับพวกเขาได้เล่า หรือว่าเรื่องนี้ยังมีเงื่อนงำบางอย่างที่กำลังรอการขุดคุ้ยอยู่เบื้องหลัง… เสียงเท้าที่ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้ใบหน้าคมสันและสุขุมเยือกเย็นอยู่เป็นนิจมีรอยยิ้มสายหนึ่งแต้มขึ้นมาอย่างพึงพอใจ กายแกร่งที่ได้รับบาดเจ็บจากคมดาบซุกซบใบหน้าลงกับพื้นดินจนเปรอะเปื้อนไปทั้งแถบ ริมฝีปากแห้งแตกมีเลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมา เพราะเขาตัดสินใจดื่มยาพิษขนานเบาที่เอ่ยปากขอมาจากท่านน้าของเหอชางเฉิงไปหนึ่งขวด ทำให้สภาพร่างกายกำยำแข็งแรงเกิดอ่อนแพ้ขึ้นมากะทันหัน และมันจะยังคงเป็นเช่นนี้ไปตลอดสิบสองชั่วยาม จนกว่ายาพิษที่ว่านั่นจะถูกกำจัดออกไปจากร่างกายด้วยตัวมันเอง “ภาพวาดเหมือนอันใด นางอัปลักษณ์กว่าข้าตั้งเยอะ” เสียงใสกังวานปานระฆังแก้วบ่นขึ้น ขณะที่สองเท้าก้าวเดินไปตามเส้นทางยามวิกาลอย่างคุ้นชิน “จริงเจ้าค่ะ คุณหนูงามกว่ารูปวาดนี่นัก เหตุใดจึงไม่มีบุรุษคนใดยอมละทิ้งศักดิ์ศรีบ้าๆ นั่นมาแต่งเข้าตระกูลไป๋เลยสักคน ความมั่งคั่งร่ำรวยหรือก็ไม่เห็นจะมากกว่าตระกูลไป๋เลยสักนิด การนั่งตำแหน่งประมุขกำมะลอของสำนักภูผาโลหิตไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเสียหน่อย” อาอวี้เห็นด้วยกับผู้เป็นนาย และพรูลมหายใจออกมาทางปากด้วยสีหน้าวิตกกังวลไม่ต่างจากสตรีหน้าสวยปานเทพธิดาจำแลง แต่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าของบุรุษข้างตัว “ข้ามีเวลาอีกไม่ถึงสิบวัน หากยังหาบุรุษแต่งเข้าตระกูลไป๋ไม่ได้ ผู้อาวุโสคร่ำครึในสำนักจะต้องปลุกปั้นผู้คนให้โค่นล้มอำนาจของข้าเป็นแน่” ไป๋อวิ๋นลี่ โอดครวญ ขณะที่ใบหน้างามเครียดขึงขึ้นมากกว่าในคราแรก “หากว่าวิชาผีเสื้อหลับใหลมิได้มีผลข้างเคียงกับร่างกายของคุณหนูล่ะก็ ข้าคงยุยงให้คุณหนูใช้มันกับพวกเขาไปแล้วเจ้าค่ะ ตาเฒ่าสมองทึบพวกนั้นหลับไปสักสิบปียี่สิบปีก็ดีเหมือนกัน” สองนายบ่าวสบตากันผ่านความเงียบในยามรัตติกาลด้วยความกลัดกลุ้ม ก่อนที่ร่างบอบบางในอาภรณ์ของบุรุษสีน้ำเงินเข้มจะชะงักไป เมื่อปลายเท้าของนางเตะเข้ากับอะไรบางอย่างที่ขวางทางอยู่เสียเต็มแรง “เกิดอันใดขึ้นหรือเจ้าคะ”
已经是最新一章了
加载中