ตอนที่ 395 ถานการณ์ที่แตกแยก
1/
ตอนที่ 395 ถานการณ์ที่แตกแยก
ประธานาธิบดีไม่ดี
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 395 ถานการณ์ที่แตกแยก
ตอนที่ 395 ถานการณ์ที่แตกแยก จิรภาสใช้เวลาในตอนกลางคืนให้ตฤณไปค้นหา ไม่นานนักก็ได้ข่าวของพัชรีน้องสาวของกนกอร เดิมทีโรงเรียนได้จัดกิจกรรมเกี่ยวกับการเดินทาง ทำให้การสื่อสารไม่สะดวก จึงทำให้ติดต่อกับทางบ้านไม่ได้ชั่วคราว เป็นที่ยืนยันแน่นอน คนที่อยู่โรงเรียนปลอดภัยที่สุด ตอนที่กนกอรและพรยศได้รับข่าวสารนี้ ทั้ง 2 คนนั่งอยู่หน้ากระจกในห้องฝึกซ้อม ภายในห้องมืดสนิท มีเพียงแสงไฟจากข้างทางส่องเข้ามา “นึกไม่ถึงเลยว่าประธานจิรภาสจะเก่งขนาดนี้ สามารถมองออกมาโดยตลอดว่าฝ่ายตรงข้ามใช้เล่ห์เพทุบาย ไม่งั้นฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องกังวลใจขนาดไหน” พรยศอยากทำให้เธอรู้สึกดีจึงพูดว่า “ถ้าน้องสาวของคุณปลอดภัยแล้ว การจะรับมือกับโปษัณคงไม่ยากแล้วล่ะ” กนกอรพยักหน้า ซ่อนน้ำตาที่เปียกชื้นในดวงตาของเธอ “ยังพอมีเวลานะ ผมช่วยเล่นดนตรีให้คุณดีกว่า คุณซ้อมอีกซัก 2 รอบนะ” “โอเค” ………. “ผู้อำนวยการครับ นี่คือข้อมูลของโปษัณ ตอนเป็นหนุ่มติดการพนัน เป็นหนี้จากการกู้ยืมเป็นจำนวนมาก ต่อมาได้ภรรยาที่ร่ำรวย จึงได้จ่ายไปแล้วครับ” “เขาทำงานได้อย่างคล่องแคล่ว ลูกน้องของเขาจึงเรียกเขาว่า ‘เฮียหมา’ แต่ว่าเขามีหัวหน้าอยู่คนหนึ่ง เป็นพ่อบุญธรรมของภรรยาของเขา มีเบื้องหลังที่ไม่ค่อยใสสะอาด คนภายนอกเรียกเขาว่า ‘ท่านสิง’ ตฤณนำข้อมูลที่สำคัญจัดเรียงให้เป็นระเบียบก่อนที่จะรายงานแก่จิรภาสจิรภาศเคาะโต๊ะ “เชิญท่านสิงมาพบหน่อย” “เรียนเชิญไปแล้วครับ คงจะได้ข่าวสารในเร็วๆนี้” ตฤณรีบทันที เขามักทำอะไรเกินกว่าที่จิรภาสสั่งมานับไม่ถ้วนจนเป็นความเคยชิน “นอกจากนี้ ก็อยากพบประธานโปษัณด้วย เตรียมการเจรจาให้พร้อม” พอพูดจบ จิรภาสก็ไม่ให้ความสนใจเรื่องนี้อีก ดำเนินการค้นหาข้อมูลของบริษัทต่อไป “และที่สำคัญ เตรียมรอบฉายหนัง<>ให้ 1 รอบนะ เชิญนักข่าวกับสื่อมวลชนมาดูด้วย” เขาใช้วิธีการที่เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อทำให้ฝีมือในการแสดงของจิดาภาเป็นที่รู้จัก จะได้ไม่มีใครข้องใจอะไรในตัวเธออีก สร้างภาพยนตร์ 1 เรื่องไม่มีอะไรง่ายเหมือนกับที่เห็นจากภายนอก เหมือนที่จิรภาสพูด เพียงแค่เดินแต่ละก้าวอย่างสงบ ไม่ต้องกลัวว่าหนังจะไม่ดัง .......... ไม่นานนักตฤณก็ได้รับการตอบกลับฝ่ายตรงข้าม และยังได้สถานที่นัดพบที่ดี เพื่อที่จะไม่ให้จิดาภากังวลใจ จิรภาสจึงไม่ได้บอกอะไร เพียงแค่บอกว่าจะไปจัดการเรื่องอะไรนิดหน่อย จะกลับมาตอนค่ำๆ จิดาภารู้สึกว่ามันบังเอิญเกินไป จึงโทรศัพท์ถามตฤณ ตัดสินใจว่าหลังจากการนัดพบกันของพวกเขา เธอจะไปรับสามีด้วยตัวของเธอเอง พวกเขาเตรียมการนัดพบไว้ที่บาร์แห่งหนึ่ง ท่านสิงเป็นคนชายอายุประมาณ 50 ปีที่ดูเป็นคนใจเย็น สวมชุดจงซานสีดำ ทำให้รู้สึกได้ถึงความมีระเบียบและน่าเกรงขาม เมื่อพบเขา ท่านสิงยิ้มพร้อมพูดว่า “เด็กหนุ่มสมัยนี้เก่งกันจริงๆ เวลาทำงานอะไรสามารถจัดการได้อย่างรวดเร็วและเฉียบขาด เหมือนกับคุณ คุณจิรภาส ทำให้คนแก่อย่างผมรู้สึกตื่นเต้น” “ท่านสิงพูดเล่นแล้ว” จิรภาสมั่นใจว่าท่านสิงรู้ว่าเขามีวัตถุประสงค์อะไรที่มาที่นี่ “ผมนะ มีช่วงนึงไม่ได้เจอไอ้สันเลย ไม่รู้ว่ามันไปทำธุรกิจด้านภาพยนตร์แล้วไปสร้างปัญหาอะไรให้ผู้อำนวยการจิรภาสหรือเปล่า” ดื่มสุราได้เพียงไม่กี่แก้ว ไม่เพียงแต่เนื้อหาในการพูดเจรจาหรือว่าจะเป็นการปฏิบัติตัว ท่านสิงก็รู้ได้เลยว่าจิรภาสเป็นที่มีความสามารถ ถ้าจะแข่งขันกับเขา ต่อให้มีโปษัณ 100 คนก็ยังไม่พอ ไม่นานนัก พอโปษัณได้ยินข่าวก็รีบมาถึง “นั่งสิไอ้สัน ผู้อำอวยการจิรภาสเพิ่งจะพูดคุยกับพ่อได้พียงไม่กี่ประโยค พ่อคิดว่าเขาเป็นคนที่มีสายตาของนักธุรกิจ ทำธุรกิจด้านภาพยนตร์ นายยังต้องเรียนรู้จากเขาอีกมาก ไม่ใช่ใช้แต่วิธีการเก่าๆ ต้องมีเกียรติและสง่างาม โปษัณหน้าเปลี่ยนสีนิดหน่อย กระแอมอย่างกระอักกระอ่วนใจ “พ่อเลี้ยงครับ...” จิรภาสพูดเสริมบรรยากาศว่า “ถ้าหากว่าคุณโปษัณไม่พอใจกับภาพยนตร์ที่ตัวเองสร้าง ก็ควรปรับปรุงใหม่ หลังจากนี้ควรจะสร้างแนวกังฟูนะครับ” “ไอ้จิรภาส ฉันจะทำธุรกิจยังไง นายก็ไม่ต้องมาสอนฉัน! นายมันก็แค่กิ้งก่าได้ทอง นายคิดว่านายทำหนังได้แล้วคนอื่นจะทำไม่ได้อย่างนั้นหรอ?” โปษัณเริ่มมีอารมณ์โมโห “หุบปากได้ละ! ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าแกเป็นคนยังไงกัน? ถ้าหากว่าแกอยู่ทำเกมกันแข่งขัน ประธานจิรภาสเขาจะมาหาฉันทำไม?” ท่านสิงเกาศีรษะ ตำหนิอย่างตรงไปตรงมา “ที่จริงแล้วในตอนนี้ห่างจากรอบเปิดฉายภาพยนตร์อย่างเป็นทางการก็เป็นอาทิตย์แล้ว ทุกคนเลือกเข้าฉายในตอนนี้ก็เพื่อหวังผลกำไร จะดีกว่าไหมถ้าจะการตัดสินใจเปลี่ยนไปตามกลไกตลาด ใครก็ไม่อยากทำเช่นนั้นหรอ?” “ใช้มาตรฐานอะไรมาวัด!” พอโปษัณได้ฟังเริ่มร้อนใจ เขารู้ดีแก่ใจว่าภาพยนตร์ของเขาอยู่ในระดับไหน ถ้าต่อสู้กันอย่างยุติธรรม เขายังจได้ผลกำไรหรอ? “ก็ดี ถ้าพูดอย่างนี้ ผมจะถอยหลังให้หนึ่งก้าวให้คุณทำตามที่คุณต้องการ” จิรภาสใช้คำพูดแบบยกตนตนข่มท่าน ทำให้โปรษัณรู้สึกถึงพลังนั้นจนพูดไม่ออก ทำให้ท่านสิงยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ “คุณ...ทำไมยังใจดีอยู่?” “ที่ผมพูดผมพูดจริง แต่ผมขอเพียงแค่ข้อเดียว อย่ามาแตะต้องคนของบริษัทเค.เอฟแม้แต่ปลายเล็บมิฉะนั้น...” พอพูดจบ จิรภาสก็ลุกยืนขึ้น “ผมหวังว่าคุณโปษัณจะฉลาดพอนะครับ ในเมื่อคุณหวังจะหากำไรจากตลาดนี้ คงไม่อยากสูญเสียสิ่งที่ใช้เลือดเนื้อเกือบครึ่งค่อนชีวิตสร้างมาใช่ไหม” “ถ้าผมออกตัวเองเมื่อไหร่ อสังหาริมทรัพย์ที่คุณสะสมมาอาจจะต้องพลังทลาย เข้าใจไว้ด้วยนะครับ” ท่านสิงเอนพิงโซฟา ที่จิรภาสพูดครั้งนี้นั้น การต่อสู้ครั้งย่อมรู้ผลแพ้ชนะ “ไม่พูดอะไรหน่อยหรอ?” ท่านสิงพูดพลางจิบชา “คุณจิรภาสทำถึงขั้นนี้แล้ว แต่ถ้ายังจะใช้วิธีสกปรกเพื่อให้ได้ผลกำไรล่ะก็ ฉันไม่ปล่อยแกแน่” โปษัณไร้หนทางสู้ ทำได้เพียงพูดเสียงดัง “ก็ได้ แกพูดเองนะ!” “ฉันไม่แตะต้องคนในบริษัทเค.เอฟแล้ว เรื่องของกนกอร ฉันขอโทษ” พอได้ฟังในสิ่งที่เขาพูด จิรภาสก็ยิ้มออกมา ไม่พูดอะไรอีก เขาลุกยืนขึ้นพร้อมพยักหน้าให้ท่านสิง “วันนี้ผมได้พูดอะไรที่อยากพูดแล้ว คงต้องกลับบ้านพร้อมภรรยาแล้วครับ ขอตัวนะครับ” พอพูดจบ เขาก็คลุมชุดสูทสีดำออกประตูไป ตฤณที่ยืนรอดูสถานการณ์อยู่ด้านนอกก็รีบเดินตามจิสภาสไปยังที่จอดรถ พอจิรภาสมาถึง ก็เห็นจิดาภานั่งอยู่ที่คนขับ เปิดไฟหน้ารถรอเขาอยู่ “มาได้ยังไง” จิรภาสปรับสีหน้า ก่อนจะรีบเปิดประตูขึ้นรถไป “สามีของฉันกำลังไปสู้รบ ฉันต้องทำหน้าที่เสมือนเป็นกองกำลังทหารให้แก่เขา คอยให้กำลังสนับสนุน” จิดาภายิ้มอย่างพราวเสน่ห์ จิรภาสพูดกับตฤณว่า “ทำตามแผนการต่อไป”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 395 ถานการณ์ที่แตกแยก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A