บทที่ 2   1/    
已经是第一章了
บทที่ 2
ในค่ำคืนนั้นเจติยาเดินเข้ามาในงานด้วยชุดราตรียาวสุดเซ็กซี่สีดำ ทันทีที่ปรากฏตัวทุกสายตาต่างก็จ้องมองมาที่ตัวเธอ ไม่เสียทีที่รั้งตำแหน่งคาสโนวี่สาวพราวเสน่ห์ เพียงแค่รอยยิ้มและการปรายสายตามองหนุ่มๆ ที่จ้องมองมาที่เธอก็เซ็กซี่กินขาดสาวคนอื่นๆ อีธานพาเธอมานั่งร่วมโต๊ะเดียวกับเขาที่โซนวีไอพี พร้อมกับแนะนำเพื่อนร่วมโต๊ะให้เธอรู้จัก “เจนีนครับนี่อันนาแฟนผม และนั่นคริสเพื่อนรักของผม” “คุณคือผู้หญิงที่ยืนคุยกับอีธานเมื่อเช้านี้ใช่ไหมคะ” เจติยาพยักหน้าตอบ และใช้รอยยิ้มแทนคำทักทาย แต่รอยยิ้มของเธอต้องเลือนหายไปจากใบหน้า เมื่อหันไปเห็นหน้าตาเพื่อนของอีธานอย่างชัดเจน และต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่า เพื่อนรักของกิ๊กเก่าคือชายแปลกหน้าที่พร่าพรหมจรรย์ของเธอไปเมื่อคืนวาน “เราพบกันอีกแล้วนะครับ” คริสเอ่ยทักทายหญิงสาวอย่างคนคุ้นเคย “นายรู้จักกับเจนีนตั้งแต่เมื่อไร และไปสนิทสนมกันตอนไหน” “เราแค่รู้จักกันโดยบังเอิญค่ะอีธาน ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น” เจติยาชิงตอบคำถามของอีธานแบบตัดบทอย่างคนร้อนตัว ด้วยเกรงว่าขืนชักช้าเขาจะตอบคำถามเพื่อนรักอย่างหมดเปลือก ถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนั้นล่ะก็คงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคริส ไม่รู้ทำไมเธอถึงรู้สึกว่ารอยยิ้มและแววตาของเขาดูมีเลศนัย ไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด เห็นทีจะอยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว คงต้องถอยไปตั้งหลักก่อน “ฉันอยากเต้นรำ เราออกไปสนุกกันนะคะอีธาน” เจติยาเอ่ยชวนอีธานออกไปเต้นรำด้วยกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับคริส “สำหรับคุณได้เสมอ” ระหว่างที่กำลังเต้นจังหวะสโลว์กันอยู่นั้น จิตใจของเจติยาก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หัวสมองก็คิดหาทางหนีทีไล่ว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้คริสเปิดเผย ถึงความสัมพันธ์เพียงชั่วข้ามคืนระหว่างเขาและเธอให้คนอื่นรู้ ทำเฉยๆ ไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องนี้ดีไหม หรือว่าควรพูดกับเขาตรงๆ เพื่อไม่ให้เขาแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป เพราะมันหมายถึงชื่อเสียงในแง่ลบที่อาจจะส่งผลกระทบต่อตัวเธอ “ผมดีใจนะที่คุณมาร่วมสนุกกับเราในคืนนี้” เจติยาตกอยู่ในวังวนความคิดของตัวเองจนไม่ได้ยินสิ่งที่อีธานพูด “คุณกับคริสรู้จักกันได้ยังไงครับ” “ว่าไงล่ะครับเจนีน ผมถามว่าคุณกับคริสรู้จักกันได้ยังไง และไปรู้จักกันตอนไหน” แม้จะถามกลับไปหลายครั้งแต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้จากฝ่ายตรงข้าม “เจนีน...เจนีนครับ...เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” “ปะ...เปล่าค่ะ” “แน่ใจนะว่าไม่ได้เป็นอะไร” “แน่ใจค่ะ ฉันแค่เผลอคิดอะไรบางอย่างก็เลยไม่ได้ยินที่คุณพูด” “ผมถามคุณตั้งหลายครั้งแต่คุณก็ไม่ตอบ” “คุณถามฉันว่าอะไรนะคะฉันไม่ทันได้ฟัง” “ผมถามว่าคุณรู้จักกับคริสได้ยังไง” “ฉันเจอเขาที่ผับโดยบังเอิญเมื่อคืนวานนี้ค่ะ เราก็เลยนั่งดื่มด้วยกัน” “พบกันเมื่อคืน แต่ทำไมดูเหมือนสนิทกันจัง” “หมายถึงฉันเหรอคะ” “ผมหมายถึงคริสเพื่อนของผมครับ ปกติแล้วคริสจะไม่ค่อยให้ความสนิทสนมกับใครง่ายๆ โดยเฉพาะผู้หญิง” “ทำไมคะ” “ด้วยเหตุผลส่วนตัวครับ ผมถึงแปลกใจที่ได้ยินเขาทักทายคุณอย่างคนคุ้นเคย” “เราก็แค่ทักทายกันธรรมดาไม่ได้มีอะไรพิเศษ คุณคิดมากไปเองหรือเปล่าคะอีธาน” “ก็อาจจะเป็นได้” เมื่อเพลงจบอีธานจึงชวนเธอไปนั่งพัก แม้จะไม่อยากกลับไปเผชิญหน้ากับเขาแต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้ ระหว่างที่นั่งดื่มด้วยกันอยู่นั้นเจติยารู้สึกว่าเขาจ้องมองมาที่เธอตลอดเวลา โดยปกติแล้วเจติยาจะรู้สึกภาคภูมิใจทุกครั้งที่มีชายหนุ่มหน้าตาดีจ้องมองมาด้วยสายตาชื่นชม แต่ไม่ใช่ในครั้งนี้!! เขาจะรู้ตัวไหมว่าการที่เขาเอาแต่นั่งจ้องหน้าเธออยู่แบบนี้ มันสร้างความเครียดให้กับเธอ โดยเฉพาะตอนที่ต้องนั่งอยู่ด้วยกันแบบสองต่อสองอย่างนี้ เพราะอันนาชวนอีธานออกไปเต้นรำที่ฟลอร์ เจติยาจึงต้องนั่งอยู่กับคริสตามลำพังท่ามกลางบรรยากาศที่น่าอึดอัด เธอจึงเลือกที่จะนั่งดื่มเงียบๆ และทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น คริสเป็นฝ่ายทำลายความเงียบด้วยการเปิดประเด็นถาม “หน้าตาคุณดูเหมือนไม่ค่อยสบาย เป็นอะไรหรือเปล่า” “ไม่เป็นไร ฉันสบายดี” “จำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเราเมื่อคืนนี้” จำได้สิ ทำไมจะจำไม่ได้ จู่ๆ ก็เสียตัวครั้งแรกให้กับชายแปลกหน้าที่เพิ่งจะพบกันเพียงไม่กี่ชั่วโมง ใครจำไม่ได้ก็บ้าแล้ว “เรื่องที่เกิดขึ้น...ผมยินดีที่จะรับผิดชอบ...” หา!! ฟังไม่ผิดใช่ไหม ถามฉันสักคำไหมว่าต้องการหรือเปล่า “ไม่จำเป็น ฉันรับผิดชอบตัวเองได้ และอยากให้คุณลืมเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเราเมื่อคืนนี้ไปซะ” “ลืม!” “ใช่ คิดซะว่าไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น โอเคไหม” “คุณแน่ใจเหรอว่าต้องการอย่างนี้จริงๆ” “แน่ใจค่ะ อย่ารื้อฟื้นเรื่องนี้มาพูดอีกเลยนะคะ และเก็บมันไว้เป็นความลับระหว่างเราได้ไหม ถือว่าฉันขอร้อง” คริสไม่ตอบ เขาได้จ้องมองหน้าเธอนิ่งนานจนเจติยารู้สึกอึดอัด จังหวะนั้นเองอีธานและอันนาก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ เขาเอ่ยปากชักชวนให้ทุกคนเล่นเกมร่วมกับเขา “มาเล่นเกมกันดีกว่า” “คุณจะให้เราเล่นเกมอะไร” อันนาเอ่ยถาม “เกมหมุนขวดเป็นไง” “ไหนลองอธิบายกติกาให้ฟังซิคะ” “ง่ายมาก เกมเริ่มต้นจากการหมุนขวด ถ้าปากขวดไปหยุดอยู่ที่ใคร คนนั้นคือผู้โชคดีที่จะต้องเป็นคนดื่มจนหมดแก้ว แต่เขาสามารถชนแก้วกับใครก็ได้โดยเลือกได้เพียงหนึ่งคนเท่านั้น เมื่อชนแก้วกับใครแล้วคนที่ถูกชนแก้วก็จะต้องดื่มจนหมดแก้วเช่นกัน” “กติกามีแค่นี้เองเหรอคะ” “ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ผู้โชคดีมีสิทธิถามผู้ที่ถูกชนแก้วได้หนึ่งคำถาม คนที่ถูกถามจะต้องตอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และต้องตอบตามความเป็นจริงเท่านั้น เริ่มเลยนะ” อีธานหมุนขวดครั้งแรกปากขวดไปตกที่อันนา เธอเลือกที่จะชนแก้วกับผู้หญิงอีกคนที่ร่วมวงด้วย เจติยาจึงต้องดื่มเหล้าตรงหน้าพร้อมกับตอบคำถามของอันนา “คุณเคยมีเซ็กส์กับอีธานไหม” สองหนุ่มถึงกับเลิกคิ้วเมื่อได้ยินคำถามนั้นและก็รอฟังคำตอบ นึกว่าจะถามเรื่องอะไร!! ที่แท้ก็เรื่องนี้เอง คงจะระแวงเกรงว่าอีธานจะนอกใจ “ถึงภายนอกฉันจะดูเหมือนคนเจ้าชู้ แต่ก็ไม่เคยปล่อยตัวให้ใคร มีบ้างที่บางครั้งเคยคิดอยากลองอยู่เหมือนกัน” ครั้งนี้อันนาเป็นคนหมุนขวด คริสคือผู้โชคดีรายต่อไป เจติยาถูกเลือกอีกครั้ง เธอจึงจำเป็นต้องดื่มตามกติกา “คุณมีแฟนหรือยังเจนีน” เขาเรียกชื่อเธออย่างสนิทสนมเช่นเดียวกับที่อีธานเรียก “แฟนเป็นตัวเป็นตนไม่มี ส่วนกิ๊กนี่มีมากมายจนนับไม่ถ้วน แต่ฉันมีกฎเหล็กอยู่ข้อหนึ่งคือจะไม่ยุ่งกับผู้ชายที่มีเจ้าของแล้ว” จากคำถามที่หนึ่ง ไปถึงคำถามที่สอง สาม สี่ เรื่อยไปจนนับไม่ถ้วน ดูเหมือนว่าคนที่ต้องดื่มมากที่สุดในค่ำคืนนี้คือเจติยา ทั้งในฐานะผู้โชคดีและในฐานะบุคคลที่ถูกเลือกให้ชนแก้ว เธอดื่มจนมึนเมาและก็เป็นคนที่ต้องตอบคำถามของคนอื่นมากที่สุด เมื่อเธอเป็นผู้โชคดีก็เลือกที่จะชนแก้วกับอีธาน “คุณเคยรักฉันบ้างไหมอีธาน” “รักสิ และเคยรู้สึกเสียดายที่ความรักของเรามันจบลงอย่างรวดเร็ว” ในครั้งนี้อีธานขอเป็นฝ่ายหมุนขวด เพราะเขาต้องการถามอะไรบางอย่างกับเจติยา โชคดีเป็นของเขาเพราะปากขวดมาหยุดนิ่งอยู่ตรงหน้าเขาพอดี เขาเลือกที่จะชนแก้วกับเธออีกครั้ง พร้อมกับเอ่ยถามสิ่งที่เคยติดค้างอยู่ในใจ “ทำไมคุณถึงบอกเลิกผม” “เพราะคุณรุกหนักมากจนฉันกลัว” “กลัวอะไร!” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความประหลาดใจ “ก็กลัวว่าตัวเองจะเผลอใจให้ในสิ่งที่คุณต้องการ จึงต้องตัดไฟซะตั้งแต่ต้นลม คุณเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มาก ใครก็ตามที่ได้อยู่ใกล้ชิดคุณเป็นต้องเผลอใจรัก และฉันยังไม่อยากเป็นผู้หญิงในฮาเร็มของคุณ ถึงได้ขอยุติความสัมพันธ์ของเราก่อนที่มันจะสายเกินไป” แล้วก็มาถึงคำถามเด็ดที่เจติยาเลือกถามคริส ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอถามเขาว่า “ผู้ชายหน้าตาดีอย่างคุณเคยโดนผู้หญิงทิ้งบ้างไหม” คนถูกถามถึงกับต้องขบกรามของตัวเองเมื่อได้ยินคำถามนี้ เพราะมันเป็นคำถามที่ไปจี้จุดอ่อนของเขา อีธานเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพูดตัดบท “คุณเมามากแล้วนะเจนีน ผมพาคุณไปส่งที่ห้องก่อนดีกว่า” “ไม่เป็นไรอีธาน คุณไม่ต้องเป็นห่วง ฉันมาเองได้ฉันก็กลับเองได้” น้ำเสียงของเธอบ่งบอกให้รู้เลยว่าเมา แต่ทันทีที่ลุกขึ้นยืนก็รู้สึกเหมือนพื้นมันโคลงเคลงจนยืนไม่อยู่ คริสเห็นเช่นนั้นจึงรีบตรงเข้าไปประคองก่อนที่เธอจะล้มลงไปนอนวัดพื้น “สภาพแบบนี้คุณคงกลับห้องพักเองไม่ได้หรอก ให้ผมไปส่งคุณดีกว่า” อันนาเห็นด้วยกับคำพูดของคริส “เราฝากคุณดูแลเจนีนด้วยนะคะ รบกวนคุณส่งเธอให้ถึงห้องเลยนะ” เธอไม่อยากให้อีธานไปส่งเจติยาด้วยตัวเอง เพราะไม่อยากให้เขาได้อยู่ใกล้ชิดกับหญิงสาวตามลำพัง โดยเฉพาะในสภาพที่กำลังมึนเมาแบบนี้ กลัวว่าถ่านไฟเก่าจะกลับมาคุกรุ่นขึ้นอีกครั้ง เธอยอมรับโดยไม่อายว่าหึงหวงแฟนหนุ่มกับหญิงสาวที่มีเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างเจติยา ก็ทั้งสวยและเซ็กซี่ขนาดนี้มีหรือที่ผู้ชายจะอดใจไหว เจติยาดูท่าจะเมาจริง เวลาเดินยังเดินไม่ค่อยจะตรงทาง คริสต้องคอยประคองตลอดเวลา จนกระทั่งเธอสะดุดจนเกือบพาเขาล้มลงไปด้วย เขาจึงตัดสินใจอุ้มเธอไปส่งที่ห้องพัก “ฉันกลับเองด้ายยยย” “ผมรู้ แต่คงดีกว่าถ้าให้ผมไปส่ง” ดูจากสภาพของเธอตอนนี้แล้วคงปล่อยให้กลับไปตามลำพังไม่ได้แน่
已经是最新一章了
加载中