บทที่ 5
เช้าวันนั้นคริสตามมากินอาหารเช้าร่วมกับอีธานและอันนาที่โซนวีไอพีช้ากว่าปกติมาก
“ทำไมเช้านี้นายถึงมาช้านัก” อีธานเอ่ยถาม
“นั่นสิคะ ก่อนที่เราจะมาที่นี่ได้แวะไปที่ห้องคุณ เคาะประตูอยู่ตั้งนานแต่ไม่มีเสียงตอบ”
“นายมัวทำอะไรอยู่”
“อาบน้ำ” เป็นคำตอบสั้นๆ ที่สองหนุ่มสาวได้รับ
ระหว่างที่อันนาเดินไปตักอาหาร อีธานได้คุยกับคริสเกี่ยวกับเจติยา
“เรื่องที่เจนีนพูดเมื่อคืนนี้อาจจะกระทบจิตใจนาย อย่าถือสาเธอเลยนะ”
“ฉันไม่ถือสาหรอก เจนีนเป็นแบบนี้บ่อยไหม”
“ตั้งแต่รู้จักกันมาก็เพิ่งจะเคยเห็นเจนีนเมาก็ครั้งนี้ ปกติแล้วเธอมักจะไม่ค่อยดื่ม”
อีธานสังเกตเห็นสีหน้าครุ่นคิดของเพื่อนก็อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้
“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น นายทำอะไรเจนีนหรือเปล่าคริส”
“เธอเป็นของฉันแล้ว”
คำตอบที่ตรงไปตรงมาของเพื่อนทำให้อีธานอึ้งไป ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นไปได้ เพราะรู้ดีว่าเจติยาไม่ใช้ผู้หญิงในแบบที่เพื่อนชอบ ปกติคริสจะชอบผู้หญิงอ่อนใสไร้เดียงสาดูน่าทะนุถนอม ซึ่งมันตรงกันข้ามกับบุคลิกของเจติยาโดยสิ้นเชิง
“เล่าให้ฟังหน่อยซิว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง”
“เหตุการณ์ทำนองนี้มันไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อคืนก่อนเราเจอกันที่ผับและนั่งดื่มด้วยกันจนเธอเมา ฉันจะพาเธอไปส่งแต่เธอยืนยันว่ายังไม่อยากกลับห้อง ฉันก็เลยพาเธอไปที่ห้องของฉัน แต่เราไม่ได้มีอะไรกันหรอกนะ เพราะฉันยังมีสติยั้งคิดและควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้”
“แล้วเจนีนรู้ความจริงนี้ไหม”
“เธอเข้าใจผิดคิดว่าเรามีอะไรกันตั้งแต่คืนนั้น”
“มิน่าล่ะเจนีนถึงมีอาการแปลกๆ เมื่อพบนาย สรุปเป็นเพราะความมึนเมาที่ทำให้เธอตกเป็นของนาย”
“ใช่ แต่มันจะไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นถ้าเธอไม่ทำให้ฉันร้อนเป็นไฟ จนควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่ เธออาจจะทำไปโดยไม่รู้ตัวเพราะเมา แต่ฉันก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เหมือนกัน”
คริสเล่าทุกอย่างให้เพื่อนรักฟังโดยไม่ปิดบัง
“แล้วนายจะทำยังไงกับเรื่องนี้”
“เพื่อรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นฉันจะแต่งงานกับเธอ”
คำตอบของคริสไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้แก่อีธาน คนที่รู้จักคริสเป็นอย่างดีจะรู้ว่าเขาเป็นคนจริงจังในทุกๆ เรื่อง และเป็นคนที่มีความรับผิดชอบในการกระทำและคำพูดของตนเองเสมอ ส่วนเจติยาเองก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยอมมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับใครง่ายๆ
“แล้วเจนีนว่ายังไง เธอยอมแต่งงานกับนายหรือเปล่า”
“ไม่ เธอปฏิเสธความรับผิดชอบของฉัน และยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่แต่งงานกับฉัน”
“ก็ไม่แปลกที่เธอจะตอบเช่นนั้น เจนีนที่ฉันเคยรู้จักเป็นผู้หญิงที่รักอิสระเหนือสิ่งอื่นใด และกลัวการถูกผูกมัดที่สุด ว่าแต่นายเถอะจะปล่อยเธอไปหรือเปล่า”
“ไม่มีทาง”
“แล้วนายจะทำยังไง เจนีนคงไม่ยอมแต่งงานกับนายง่ายๆ หรอก”
“ฉันมีวิธีที่จะทำให้เธอยอมทำตามความต้องการของฉัน”
“ด้วยวิธีไหน!?”
“เดี๋ยวนายก็รู้เอง”
“ถ้านายลงเอยกับเจนีนได้ก็เป็นเรื่องดี ฉันเอาใจช่วยขอให้นายทำสำเร็จ และถ้าจะให้ฉันช่วยอะไรก็บอกมาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ”
“ขอบใจ”
การสนทนาในครั้งนี้ยุติลงเมื่ออันนาเดินกลับมาที่โต๊ะ
“ทำไมคุณไปนานจัง”
“พอดีฉันเจอเพื่อนร่วมงานเก่าค่ะก็เลยแวะไปทักทาย”
เจติยาเลือกที่จะมาออกกำลังกายที่ฟิตเนสในช่วงบ่าย เพราะรูปร่างมีส่วนสำคัญกับงาน จึงต้องดูแลร่างกายให้ฟิตแอนด์เฟิร์มอยู่เสมอ โดยเริ่มที่การยกเวทเพื่อกระชับสัดส่วนก่อนจะไปต่อด้วยคาร์ดิโอ แต่ไม่ว่าเธอจะขยับตัวทำอะไรก็จะมีสายตาของหนุ่มๆ จ้องมองมาด้วยความสนใจเสมอ เธอมอบรอยยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ให้พวกเขาแทนคำทักทาย หลายคนเดินเข้ามารุมล้อมเพื่อขอทำความรู้จักกับเธอ ซึ่งเธอเองก็ผูกมิตรไมตรีด้วยการพูดคุยกับพวกเขาอย่างเป็นกันเอง
หลังจากออกกำลังกายมาได้พักใหญ่ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูป เพื่ออวดหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มที่ซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงเลกกิ้ง ที่เพิ่มความเซ็กซี่เล็กๆ ด้วยแถบซีทรู และสปอร์ตบาร์ไขว้หลังสีสดใส จากนั้นก็อัพลงโซเชียลให้เหล่าบรรดากิ๊กและแฟนคลับหนุ่มๆ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของตนเอง
ทันทีที่อัพภาพเสร็จโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น
“ฟื้นคืนชีพแล้วเหรอคะคุณน้องถึงได้อัพภาพลงโซเชียลได้”
“เพิ่งรู้ว่าพี่นัตตี้ว่างมากขนาดมีเวลาโทรมากัดจิกเจนีน”
“ใครว่าพี่ว่าง ยุ่งมากต่างหาก ที่โทรมานี่ก็เพราะจะคุยเรื่องงาน”
“งานอะไร!”
“ถ่ายแบบชุดว่ายน้ำลงปกนิตยสารอินฟินิตี้ฉบับครบรอบยี่สิบปี”
“ปฏิเสธไปเลยพี่นัตตี้”
“จะบ้าหรือเปล่าเจนีน มีแต่คนอยากขึ้นปกนิตยสารชื่อดังเล่มนี้ของพี่ก้องกันทั้งนั้น มีแต่เธอนี่ล่ะที่ปฏิเสธโอกาสงามๆ แบบนี้”
“ก็เจนนีไม่อยากถ่ายชุดว่ายน้ำ”
“รับงานนี้เถอะนะเจนีน พี่กล้าเอาหัวเป็นประกันเลยว่างานนี้ จะสร้างความฮือฮาให้เจติยา ดิษยาลักษณ์ได้แน่ รับรองดังและปังกว่าเดิมหลายเท่า”
“ปกติเจนีนก็ดังอยู่แล้วหรือพี่นัตตี้จะเถียง”
“ใครจะกล้าเถียงนางแบบสาวสุดฮอต เซ็กซี่สตาร์ตัวแม่อย่างเธอได้ล่ะ แต่เชื่อพี่สักครั้งนะเจนีน งานนี้ค่าตอบแทนที่เขาเสนอมาคุ้มค่าเหนื่อยของเราแน่ เพราะเป็นตัวเลขสูงถึงเจ็ดหลัก การได้ร่วมงานกับนิตยสารระดับไฮเอ็นอย่างอินฟินิตี้ฉบับครบรอบยี่สิบปีไม่ใช่เรื่องง่าย ใครปฏิเสธก็บ้าแล้ว”
“พี่นัตตี้จะมาเซ้าซี้เจนีนทำไม ก็บอกแล้วว่าไม่อยากถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ ฟังไม่เข้าใจหรือไง” น้ำเสียงเจติยาติดจะเหวี่ยงวีน
“กลัวอะไร! แค่ถ่ายแบบชุดว่ายน้ำเท่านั้น ขนาดเปลือยกายถ่ายภาพเซ็กซี่หวือหวา อย่างเมื่อคราวก่อนก็ยังเคยทำมาแล้ว”
“เจนีนไม่ได้เปลือยกายถ่ายแบบนะพี่นัตตี้ ภาพที่เห็นมันคือการรีทัช และที่เจนีนตัดสินใจรับงานนั้นเพราะมันเป็นการกุศล แถมยังได้ร่วมงานกับช่างภาพมืออาชีพชื่อดังอย่างไมเคิล เข้าใจไหมว่ามันเป็นงานศิลปะระดับอินเตอร์”
“หรือว่าเธอไม่มั่นใจในรูปร่างสุดเซ็กซี่ของตัวเองก็เลยให้พี่ปฏิเสธงานนี้ ถ้าเป็นเหตุผลนี้ละก็พี่พอจะเข้าใจ”
“ใครบอกว่าไม่มั่นใจ เจนีนรับงานนี้ก็ได้ เพราะจะพิสูจน์ให้พี่นัตตี้เห็นว่าเจนีนยังสวยและแซบเหมือนเดิม”
“พี่จะรอดู สรุปว่าตกลงรับงานนี้ใช่ไหม”
“ใช่! พอใจหรือยัง”
“พอใจมาก พี่ยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่าเราจะเดินทางไปทำงานนี้ที่เกาะมัลดีฟส์”
“เรื่องที่จะพูดกับเจนีนมีแค่นี้ใช่ไหม”
“เดี๋ยวสิจ๊ะ อย่าเพิ่งรีบวางสาย เรายังมีเรื่องที่ต้องเคลียร์กันอยู่อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อคืนนี้เธอนอนอยู่กับใครเจนีน”
หญิงสาวเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำถามนั้น
“พี่นัตตี้รู้เรื่องนี้ได้ยังไง” เจติยาเอ่ยถาม ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อคืนเขาถือวิสาสะรับโทรศัพท์ของเธอ
“ก็เมื่อวานพี่โทรหาเธอ แต่คนที่รับโทรศัพท์กลับเป็นผู้ชาย แถมยังบอกอีกว่าเธอนอนหลับอยู่ข้างตัวเขา”
“เขาบอกพี่แบบนั้นเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ เล่ามาเดี๋ยวนี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงไปนอนอยู่กับผู้ชายสองต่อสองได้ อย่าบอกนะว่าเธอเสียทีโดนผู้ชายกินตับไปแล้ว”
เจติยาถอนหายใจอย่างแรง “มันเป็นอุบัติเหตุนะพี่นัตตี้ เจนีนไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เกิดเรื่องแบบนี้”