บทที่ 7   1/    
已经是第一章了
บทที่ 7
ขณะที่เจติยากำลังเข็นรถที่ใช้ขนกระเป๋าสัมภาระตรงมายังห้องโถงของผู้โดยสารขาเข้า สายตาก็มองหาใครบางคนที่มารอรับ “ทางนี้เจนีน” หญิงสาวรีบเดินตรงไปยังเสียงเรียกนั้น “รอนานไหมพี่นัตตี้” “ไม่นาน ตอนแรกยังนึกว่าเครื่องบินจะดีเลย์ด้วยซ้ำ” “การเดินทางเรียบร้อยดีใช่ไหม” เจติยาพยักหน้าแทนคำตอบ ระหว่างทางที่จะเดินไปขึ้นรถก็มีคนมาขอลายเซ็น และขอถ่ายรูปกับเธอเป็นระยะ ซึ่งเธอเองก็ไม่ปฏิเสธ ยอมถ่ายรูปกับแฟนคลับตามคำขอด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม ระหว่างขับรถกลับบ้านนัตตี้คันปาก อยากจะซักไซ้ประวัติสามีทางพฤตินัยของเจติยาใจจะขาด แต่เกรงว่านางจะวีนใส่ถ้าเอ่ยถามถึงเรื่องนี้ จึงได้แต่ลอบมองเป็นระยะ “อยากจะถามอะไรก็ถามมาเลยพี่นัตตี้ มัวแต่จ้องอยู่ได้” “ไปเที่ยวมาสนุกไหม” “ความสนุกมันหมดไปตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วันนั้นแล้วล่ะพี่นัตตี้” “เป็นความผิดใครล่ะ” “จะพูดตอกย้ำให้ได้อะไรขึ้นมา” น้ำเสียงติดจะเหวี่ยงวีน “ที่พูดก็เพราะว่าพี่เป็นห่วง ว่าแต่หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นแล้วเขามีปฏิกิริยายังไง เคยคิดที่จะรับผิดชอบบ้างไหม” “เรื่องนี้ล่ะที่ทำให้เจนีนเซ็ง” สีหน้าของเธอฉายชัดถึงอารมณ์ความรู้สึกเบื่อหน่ายได้เป็นอย่างดี “เขาไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรเลยหรือไง” นัตตี้คาดเดา “ตรงกันข้าม เขาเป็นสุภาพบุรุษที่พร้อมจะรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยการแต่งงานกับเจนีน” “แต่งงาน! แมนมาก” “แต่เจนีนจะไม่แต่งงานกับเขาเด็ดขาด” “บอกได้ไหมว่าทำไม” “ใครจะบ้าไปแต่งงานกับผู้ชายที่เพิ่งจะรู้จักกันเพียงไม่กี่วันบ้างล่ะพี่นัตตี้” “ก็จริง ว่าแต่เขาชื่ออะไร เป็นใคร มาจากไหน” “คำถามมาเป็นชุดเลยนะ” “ก็คนมันอยากรู้ถึงได้ถาม” “ชื่อคริส อะไรสักอย่าง” เจนีนตอบได้แต่ชื่อของเขาเท่านั้น จำนามสกุลเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ “หา! อย่าบอกนะว่าแม้แต่นามสกุลของเขาก็จำไม่ได้” “ไม่อยากจำมากกว่า” “เขาทำงานอะไร” “รู้แค่ว่าเขาเป็นเจ้าของธุรกิจท่องเที่ยวแต่ไม่รู้รายละเอียด” “ใจคอจะไม่อยากรู้ประวัติของเขาบ้างเลยหรือไง” “จะรู้ไปทำไม ถึงยังไงก็คงไม่ได้พบกันอีกอยู่ดี” “แล้วถ้าเกิดท้องขึ้นมาจะติดต่อเขายังไง” “มันคงไม่ซวยขนาดนั้นหรอก” “ว่าได้เหรอเล่นรวมร่างกันมาหลายครั้งแล้วไหม” “แค่สองครั้งเท่านั้น” “ครั้งล่ะกี่ยกล่ะ” “ใครจะไปรู้ก็บอกแล้วไงว่าเมา” “ของแบบนี้ครั้งเดียวก็ท้องได้” “ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน แต่อย่าเจอกันอีกดีกว่า” มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น ตรงกันข้ามเธอได้พบเขาเร็วกว่าที่คิดไว้จนคาดไม่ถึง เมื่อกลับมาถึงบ้านเจติยาต้องตกใจสุดขีด ที่เห็นคริสกำลังนั่งคุยอยู่กับบิดามารดาที่ห้องนั่งเล่น “คุณมาทำอะไรที่นี่” หญิงสาวเอ่ยถามเสียงเข้ม “ผมมาหาคุณ” “เจนีนขอตัวสักครู่นะคะ ส่วนคุณตามฉันมานี่” เธอดึงมือเขาให้เดินตามเธอออกมาด้านนอก “ทำไมลูกถึงได้ดูลุกลี้ลุกลนอย่างนั้นคะนนท์” “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” ดูจากปฏิกิริยาของเจติยาแล้วนัตตี้ก็เดาได้ทันทีว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร หล่อจัง แถมยังมาดแมน นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ชายของเจติยาล่ะก็ งานนี้มีสอยมาเชยชมแน่ นัตตี้นึกในใจก่อนจะหันมาเห็นสายตาของผู้สูงวัยทั้งสองจ้องมองมาที่ตนเองเป็นเชิงถาม “ทำไมคุณพ่อกับคุณแม่ถึงมองนัตตี้แบบนี้ละคะ นัตตี้ก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกันค่ะ” “ไม่รู้เรื่องจริงๆ หรือว่าช่วยเจนีนปิดบังอะไรพ่อกับแม่” เมื่อถูกดักคอก็ทำให้นัตตี้ไม่กล้าสบตาท่านทั้งสอง ได้แต่ตอบกลับไปว่า “เรื่องบางเรื่องถึงนัตตี้รู้แต่ก็พูดไม่ได้ค่ะ มันเหมือนน้ำท่วมปาก ทางที่ดีพ่อกับแม่ฟังจากปากของเจนีนเองดีกว่านะคะ” ‘อยากรู้จริงว่าพวกเขาคุยอะไรกัน ถ้าไปแอบฟังจะเสียมารยาทไหม’ นัตตี้ได้แต่คิดไม่กล้าลงมือทำ เพราะเกรงว่าจะถูกผู้ใหญ่ทั้งสองตำหนิ ได้แต่เก็บความอยากรู้อยากเห็นไว้ในใจ เจติยาฉุดมือคริสเดินออกมาคุยกันที่หน้าบ้าน เธอหันไปเผชิญหน้าเพื่อเปิดศึกกับเขาทันที “คุณรู้จักบ้านฉันได้ยังไง” นอกจากจะพูดเสียงขุ่นแล้ว เธอยังทำหน้าบึ้งตึงใส่เขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผมที่จะสืบหาข้อมูลส่วนตัวของคุณ” “ต้องการอะไรกันแน่ถึงได้ตามมารังควานฉันถึงที่นี่” “ผมเคยบอกคุณไปแล้วว่าผมต้องการรับผิดชอบ เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเราด้วยการแต่งงานกับคุณ” “คุณจะบ้าเหรอ จะต้องให้ฉันย้ำอีกกี่ครั้งว่าฉันจะไม่แต่งงานกับคุณ ยังไงก็ไม่แต่ง เข้าใจบ้างไหม คุณพูดอะไรกับพ่อแม่ฉันไปบ้าง” ประโยคสุดท้ายเธอขึ้นเสียงคาดคั้นถามเขาด้วยความกราดเกรี้ยว “อันที่จริงวันนี้ผมตั้งใจจะมาทำความรู้จักกับพ่อตาแม่ยายของผมเท่านั้น ยังไม่คิดที่จะเปิดเผยเรื่องของเรา แต่ถ้าคุณยังยืนกรานที่จะไม่แต่งงานกับผม ผมก็จะบอกพ่อกับแม่ของคุณว่าเราเป็นอะไรกัน” “คุณต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ” “ถ้าคุณไม่อยากให้พ่อกับแม่ของคุณรู้เรื่องที่เรามีอะไรกันคุณก็ต้องทำตามที่ผมบอก” “หยุดบ้าแล้วก็กลับไปซะ” ทันใดนั้นเองเสียงโทรศัพท์มือถือของเจติยาก็ดังขึ้น เธอกดรับทันทีเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรมา แถมยังพูดจาออดอ้อนเสียงอ่อนหวานต่อหน้าเขา “สวัสดีค่ะพี่ตรัย ไม่ได้เจอกันตั้งสองอาทิตย์ คิดถึงจังเลยค่ะ” “พี่ก็คิดถึงเจนีน ถึงบ้านนานหรือยังครับ” “เพิ่งจะถึงเดี๋ยวนี้เองค่ะ ทำไมวันนี้พี่ตรัยถึงมีเวลาโทรหาเจนีนได้คะ” “พี่เพิ่งจะผ่าตัดเสร็จก็เลยว่าง อยากชวนเจนีนไปทานมื้อกลางวันด้วยกัน” “ด้วยความยินดีค่ะ เราจะไปที่ไหนดีคะ” ตรัยภูมิบอกชื่อร้านอาหารดัง ที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อยและบรรยากาศดี “ให้พี่ไปรับที่บ้านไหม” “ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวเจนีนให้พี่นัตตี้ขับรถไปส่ง พี่ตรัยจะได้ไม่ต้องเสียเวลาขับรถย้อนไปย้อนมา แต่ขากลับคงต้องรบกวนให้พี่ตรัยมาส่งเจนีนที่นี่” “ยินดีเสมอครับ” เมื่อนัดเวลาและสถานที่เรียบร้อยแล้วก็วางสาย แต่ก่อนที่จะวางสายเธอก็ยังไม่วายพูดเสียงออดอ้อนว่า “รักนะคะ” “มีผัวอยู่แล้วทั้งคนแต่ยังกล้าหว่านเสน่ห์ให้ผู้ชายคนอื่นอีก” “แค่นอนด้วยกันครั้งสองครั้งอย่าริอาจมาอ้างสิทธิความเป็นผัว สำหรับสิ่งที่ฉันเสียไปฉันจะถือซะว่าให้ทาน” “ปากดีแบบนี้คงต้องสั่งสอนกันบ้าง” แทนที่คริสจะดึงตัวเจติยาเข้ามาจูบ แต่เขาเลือกที่จะจับมือขวาของเธอตรึงเอาไว้ข้างลำตัว ส่วนอีกมือก็ประคองต้นคอเธอมาจูบ ริมฝีปากบางของหญิงสาวถูกริมฝีปากได้รูปประกบไว้แนบแน่น เขาจูบเธอตามอำเภอใจโดยที่เธอไม่สามารถจะทำอะไรเขาได้ ด้วยวิธีของเขาทำให้เจติยาไม่สามารถใช้มือผลักเขาไสเขาได้อย่างที่ใจคิด เพราะมือขวาของเธอจะถูกเขาจับไว้ส่วนมือซ้ายจะยกขึ้นปัดป้องก็ไม่ได้ เพราะถูกประคองต้นคอทำให้ท่อนแขนก็ถูกกันไว้ไม่ให้ยกขึ้นมาปัดป้องได้เช่นกัน เธอจึงถูกเขาลงทัณฑ์ด้วยการจูบจนกว่าเขาจะพอใจ ถือเป็นการสั่งสอนที่กล้าปากดีกับเขา ทันทีที่เขาปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ เธอก็ตบหน้าเขาฉาดใหญ่โทษฐานที่บังอาจทำเช่นนั้นกับเธอ คริสดันตัวเจติยาไปติดผนังโดยไม่ทันให้เธอตั้งตัว เขาก้มลงจูบริมฝีปากของเธออีกครั้งอย่างเร่าร้อนรุนแรงกว่าเดิม ก่อนจะละไล้เรื่อยมาที่ลำคอระหง เขาจูบเธอจนหนำใจจึงปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ “จำไว้ผมไม่ใช่ขอทานที่ต้องมารอรับของฟรีจากคุณ และขอเตือนว่าอย่าลองดีกับผมอีก ไม่อย่างนั้นคุณจะโดนยิ่งกว่านี้” เจติยาใช้หลังมือเช็ดริมฝีปากของตัวเองอย่างแรง ราวกับจะลบรอยจูบของเขา “คุณกลับไปได้แล้ว ที่นี่ไม่มีใครต้อนรับคุณ” “ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าเราจะพูดกันให้รู้เรื่อง” “แล้วฉันจะติดต่อกลับไปเอง แต่ตอนนี้กลับไปซะก่อนที่ฉันจะฆ่าคุณ” “วันนี้ผมจะยอมทำตามที่คุณต้องการ แต่ไม่ใช่เพราะกลัวคำขู่ของคุณหรอกนะ ผมเกรงว่าเส้นโลหิตในสมองของคุณจะแตก ตายไปซะก่อนที่เราจะได้แต่งงานกัน ผมยังไม่อยากเป็นม่ายไวนัก” คริสใช้ความไวจูบแก้มของเธอก่อนจะเดินไปที่รถ “มีอีกเรื่องที่คุณต้องรู้ไว้นะเจนีน ผมมีคลิปเด็ดของเราในตอนนั้นเก็บไว้ด้วย” “อย่ามาโกหก” “คุณอยากดูไหมล่ะ” คริสหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดคลิปที่เขาเอ่ยถึง เจติยาได้ยินแต่เสียงรอดออกมาจากคลิปที่เขาเปิด เธอรีบวิ่งเข้าไปแย่งโทรศัพท์ของเขาเพื่อมาลบคลิปดังกล่าว แต่เขาสูงใหญ่และไวกว่าเธอ การที่ทำเช่นนั้นทำให้เธอตกอยู่ในวงแขนที่แข็งแกร่งของเขาอย่างง่ายดาย “เอาโทรศัพท์คุณมาเดี๋ยวนี้นะ ไอ้โรคจิต ไอ้จอมวายร้าย ลบคลิปนั้นทิ้งไปเดี๋ยวนี้เลยนะ” “ผมจะลบหลังจากที่เราแต่งงานกันแล้ว ขอเตือนว่าถ้าไม่อยากให้คลิปนี้ว่อนในอินเตอร์เน็ตล่ะก็ รู้ใช่ไหมว่าจะต้องทำยังไง” คริสหัวเราะอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า จากนั้นก็เดินกลับไปขึ้นรถและสั่งให้ออกรถทันที “ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ นายทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง” เจติยาตะโกนด่าตามหลังไปก่อนจะเดินอย่างคนหมดแรงกลับเข้าไปในบ้าน
已经是最新一章了
加载中