บทที่ 9   1/    
已经是第一章了
บทที่ 9
ทันทีที่เดินเข้าไปในร้านเจติยาก็เห็นนายแพทย์หนุ่ม อนาคตไกลอย่างตรัยภูมิมานั่งรอเธออยู่ก่อนแล้ว เขาลุกขึ้นมาเลื่อนเก้าอี้ให้เธอ “ขอบคุณค่ะ มารอนานหรือยังคะ” “ไม่นานครับ พี่เพิ่งมาถึงเหมือนกัน เจนีนอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ” “พี่ตรัยสั่งได้เลยค่ะ เจนีนกินอะไรก็ได้ ไม่เรื่องมากหรอกค่ะ” เจติยาเอามือเท้าคางกับโต๊ะพร้อมกับมองหน้าเขา ขณะที่เขากำลังสั่งอาหาร ตรัยภูมิรู้หมดว่าเธอชอบอะไร ไม่ชอบอะไร และเลือกสั่งแต่อาหารที่เธอชอบ แล้วจะไม่ให้เธอหลงรักผู้ชายที่ทั้งหล่อ การศึกษาดี มีชาติตระกูล และเป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้วอย่างพี่ตรัยได้อย่างไร ก็ในเมื่อเขาดีไม่มีที่ติอย่างนี้ ระหว่างรับประทานอาหารตรัยภูมิก็จะคอยตักอาหาร และชวนเจติยาพูดคุยอย่างสนุกสนาน เขาเอ่ยถามถึงการเดินทางไปเที่ยวครั้งล่าสุดของเธอ “ไปเที่ยวมาสนุกไหมครับเจนีน” “เจนีนจะสนุกและมีความสุขมากกว่านี้ถ้าพี่ตรัยเดินทางไปด้วย” “ถ้าพี่ไม่ติดสัมมนาสำคัญที่ญี่ปุ่นในช่วงนั้น เราก็คงได้เดินทางไปเที่ยวด้วยกัน ไว้คราวหน้านะครับ รับรองไม่พลาดแน่” “เจนีนเข้าใจค่ะว่าพี่ตรัยงานยุ่ง และรู้ดีกว่าใครว่าอาชีพหมอแม้แต่เวลาพักผ่อนก็ยังไม่ค่อยจะมี เพราะที่บ้านก็มีคุณหมออยู่คนหนึ่งเหมือนกัน” “อาจารย์หมอเป็นหมอที่เก่งและรอบรู้หลายด้าน ท่านเป็นแบบอย่างที่ดี พี่ถึงได้รักและเคารพท่านมาก” เจติยายิ้มเมื่อได้ยินตรัยภูมิกล่าวชื่นชมบิดาของตนเองเช่นนั้น และอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซว “รักแต่อาจารย์หมออานนท์เหรอคะ แล้วลูกสาวของเขาละคะรักด้วยหรือเปล่า” “รักมากครับ” ตรัยภูมิตอบโดยไม่ลังเล น้ำเสียงของเขาฟังดูอบอุ่น สายตาที่เขามองเธอนั้นมันบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ ที่คนมักจะชอบพูดกันว่า...ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ...น่าจะเป็นเรื่องจริง จากสายตาและคำพูดที่เปิดเผยถึงความรู้สึกที่เขามีต่อเธอนั้น มันทำให้จิตใจของเจติยาสั่นไหว อย่างน้อยเธอก็รู้แล้วว่าเขาคิดอย่างไรกับเธอ ที่ผ่านมาแม้การกระทำของเขาจะค่อนข้างบ่งชัดว่าเขาชอบเธอ แต่เธอก็ยังอยากได้ยินจากปากเขาอยู่ดี สองหนุ่มสาวยิ้มให้กันและกันอย่างอบอุ่น เจติยาไม่ตัวรู้เลยว่าเธอกำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคน “คารอสไปสืบมาซิว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร” “ครับนาย” คริสรู้สึกขุ่นเคืองเมื่อเห็นสิ่งที่เจติยาปฏิบัติต่อชายหนุ่มตรงหน้าเธอ มันช่างตรงกันข้ามกับสิ่งที่เธอปฏิบัติต่อเขาโดยสิ้นเชิง “อยู่กับเราที่ไรจ้องมองเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ พออยู่กับผู้ชายอื่นล่ะก็ระริกระรี้ขึ้นมาเชียว เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงได้รับฉายาคาสโนวี่สาวพราวเสน่ห์ติดกันถึงห้าปีซ้อน” ดูท่าว่าบุรุษผู้นี้จะเป็นคู่แข่งคนสำคัญ คริสสั่งให้คนของเขาขับรถตามเธอไป เผื่อตรัยภูมิจะแวะออกนอกเส้นทาง แต่เขามิได้ทำเช่นนั้น คุณหมอหนุ่มขับรถตรงมาส่งเธอถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย เจติยาเดินมาควงแขนเขาให้เดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับเธอ เขาจะให้เจติยาควงผู้ชายอื่นได้อีกไม่นานนักหรอก บนใบหน้าของคริสปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะหันไปสั่งผู้ช่วยคนสนิท “กลับได้แล้วคารอส” คริสได้รับรายงานเกี่ยวกับประวัติของตรัยภูมิ หลังจากที่เจติยาเดินทางไปทำงานที่มัลดีฟส์ คู่แข่งของเขาคนนี้ไม่ธรรมดา นอกจากจะเป็นหนุ่มหล่อที่มีฐานะดีแล้ว ยังมีดีกรีเป็นถึงศัลยแพทย์ฝีมือดีที่หาตัวจับยากคนหนึ่ง หลังจากอ่านประวัติของคู่แข่งแล้ว คริสได้ตัดสินใจเดินทางไปพบบิดามารดาของเจติยาอีกครั้ง “มีแขกมารอพบคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงค่ะ” สาวใช้รีบรายงานเมื่อบุคคลทั้งสองกลับมาถึงบ้าน “รู้ไหมว่าใคร” “ไม่ทราบค่ะคุณผู้หญิง” “ตอนนี้เขาอยู่ไหน” “นั่งรออยู่ในห้องรับรองแขกค่ะ” “คุณนัดใครไว้หรือเปล่าคะนนท์” “เปล่านะ” คริสลุกขึ้นทำความเคารพอานนท์และภรรยาทันทีที่เห็นพวกท่านเดินเข้ามาในห้อง “นึกว่าใครมารอพบเรา คุณนั่นเอง เชิญนั่งก่อนค่ะ” คริสนั่งลงตามคำเชิญ “ผมต้องขอโทษที่มารบกวนเวลาของคุณพ่อคุณแม่” อัมราหันไปสบตากับอานนท์เมื่อได้ยินสรรพนามที่เขาใช้เรียกเธอและสามี “ผม...คริส วอล์กเกอร์ครับ ผู้บริหารบริษัทวอล์กเกอร์อินเตอร์เนชั่นแนลกรุ๊ป ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเรือสำราญ” คริสเอ่ยแนะนำตัวพร้อมกับยื่นนามบัตรส่งให้ท่านทั้งสอง “มาพบเราคงจะไม่ได้แค่มาแนะนำตัวธรรมดาแน่ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” อานนท์เอ่ยขึ้นหลังจากพิจารณานามบัตรใบนั้น “ที่ผมมาพบคุณพ่อคุณแม่ในวันนี้เพราะมีเรื่องอยากจะสารภาพครับ” “เกี่ยวข้องกับเจนีนด้วยใช่ไหม” อานนท์คาดเดา “ใช่ครับ” “มีอะไรก็ว่ามาได้เลย” ผู้ใหญ่ทั้งสองจ้องมองมาที่เขาและรอฟังสิ่งที่เขาจะสารภาพ “ผมกับเจนีนไม่ใช่แค่เพื่อนกันธรรมดา เราสองคนมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกันมากกว่านั้นครับ” “หมายความว่า...” อัมราพูดละไว้ เธอเข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อ “คุณแม่เข้าใจถูกต้องแล้วครับ ที่ผมมาเรียนให้คุณพ่อคุณแม่ทราบถึงเรื่องนี้ เพราะผมอยากจะคบกับเจนีนอย่างเปิดเผย และอยากให้เกียรติเธอ รวมถึงจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยการแต่งงานกับเธอ” “เรื่องมันเกิดขึ้นได้ยังไง ในเมื่อคุณกับเจนีนก็เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นานนี้เองไม่ใช่เหรอคะ” “ขอเรียนตามตรงว่ามันเกิดขึ้นเพราะความมึนเมาของเราสองคน ถึงจะเป็นเช่นนั้นผมก็ยินดีและเต็มใจที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป ผมจะแต่งงานกับเจนีนครับ ที่จริงเธอไม่อยากให้ผมบอกเรื่องนี้กับใคร แต่ผมเห็นว่าควรจะต้องบอกให้คุณพ่อคุณแม่รับทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น” “คุณคุยกับเจนีนหรือยัง เพราะเจนีนยังไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กับเรา เท่าที่รู้มาเธอยังไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานด้วยซ้ำ” “ผมยอมรับครับว่าเจนีนไม่อยากแต่งงานกับผม และปฏิเสธความรับผิดชอบของผมมาโดยตลอด ทั้งที่ผมเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ แต่ผมก็อยากให้เกียรติเธอด้วยการแต่งงาน จึงมาเรียนให้คุณพ่อคุณแม่ทราบถึงเรื่องนี้ ที่ผมตัดสินใจสารภาพความจริงทั้งหมดด้วยตัวเอง เพราะไม่อยากให้ท่านทราบเรื่องนี้จากปากของคนอื่น และผมขอโทษสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเป็นความผิดของผมเองครับ ผมยินดีที่จะรับผิดชอบ” อานนท์และอัมราถึงกับอึ้งไป เมื่อได้ยินคำสารภาพจากปากของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้า ด้วยไม่คาดคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับลูกสาวของตนเอง แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว “ถึงคุณอยากจะแต่งงานกับเจนีน แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย ปัญหาอยู่ที่การตัดสินใจของเจนีน ลูกสาวผมคงไม่ยอมแต่งงานกับคุณง่ายๆ แน่” อานนท์เอ่ยเพราะรู้นิสัยดื้อรั้นและรักอิสระของลูกสาวเป็นอย่างดี ขนาดมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแต่ลูกก็ยังไม่คิดที่จะเล่าให้ฟัง เพราะรู้ดีว่าถ้าเล่าเขาและภรรยาจะต้องเรียกร้องให้ผู้ชายคนนั้นรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น “ใช่ครับ เจนีนเป็นคนดื้อรั้นและค้านหัวชนฝาในเรื่องนี้ แต่ผมมีวิธีที่จะหว่านล้อมให้เธอยอม อย่างน้อยก็จดทะเบียนสมรสกันไว้ก่อน สำหรับพิธีแต่งงานผมจะรีบดำเนินการทันทีที่เธอยินยอมพร้อมใจ หวังว่าคุณพ่อคุณแม่จะอนุญาต” สองสามีภรรยาหันมาสบตากัน จริงอยู่ว่าสิ่งที่เขาทำลงไปมันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควร แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วและเขาก็พร้อมที่จะรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น อานนท์และอัมราก็ไม่คิดที่จะคัดค้านอะไร ยังรู้สึกชื่นชอบในความเป็นลูกผู้ชายของเขาด้วยซ้ำไป ที่กล้ามาสารภาพความจริงถึงความผิดที่ก่อขึ้น และพร้อมที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยความเต็มใจ อานนท์และอัมรารู้สึกถูกชะตาและพึงพอใจในตัวคริส วอล์กเกอร์ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ฐานะ หรือแม้แต่บุคลิกที่โดดเด่น รวมถึงหน้าที่การงานที่มั่นคง และการวางตัวที่เหมาะสมล้วนถูกตาต้องใจ แต่สิ่งที่ทำให้สองสามีภรรยาชื่นชอบมากเป็นพิเศษคือ เขาเป็นลูกผู้ชายที่มีความรับผิดชอบ กล้าทำ...ก็กล้ารับ และในเมื่อเขากล้าขอ...ทางนี้ก็กล้ายกให้ เพราะเล็งเห็นแล้วว่าผู้ชายตรงหน้ามีคุณสมบัติดีมากพอ ที่จะทำหน้าที่ดูแลและปกป้องบุตรสาวของตนเองได้ “ในเมื่อเรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว เราก็คงไม่คัดค้านอะไร พร้อมเมื่อไรก็บอกผู้ใหญ่ของคุณมาคุยกับเราแล้วกัน” อานนท์กล่าว “ผมจะรีบจัดการให้เร็วที่สุดครับ และขอโทษอีกครั้งสำหรับความใจเร็วด่วนได้ ผมจะไม่ขอให้คุณพ่อคุณแม่ยกโทษให้ แต่อยากจะขอโอกาสให้ผมได้ทำหน้าที่ดูแลเจนีนต่อจากคุณพ่อคุณแม่ ผมสัญญาว่าจะทำให้เธอมีความสุขและซื่อสัตย์ต่อเธอเพียงคนเดียวตลอดไปครับ” “เราจะรอดูว่าคุณจะทำได้อย่างที่สัญญาไว้หรือไม่ และขอให้หว่านล้อมเจนีนสำเร็จ บอกได้เลยว่ามันไม่ง่าย” “ผมทราบครับ แต่ผมมีวิธีที่จะจัดการกับเธอ” แม้อานนท์และอัมราอยากรู้ว่าเขาจะใช้วิธีอะไร ที่จะทำให้เจติยายอมรับปากแต่งงานกับเขา แต่ก็มิได้เอ่ยถาม ปล่อยให้เขาไปจัดการกันเอง
已经是最新一章了
加载中