บทที่ 6 พวกคุณเหรอ จะสู้กับฉัน   1/    
已经是第一章了
บทที่ 6 พวกคุณเหรอ จะสู้กับฉัน
บทที่ 6 พวกคุณเหรอ จะสู้กับฉัน ในเวลานี้เอง เซี่ยซีหวั่นที่นอนอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้น ประธานหวังผงะ ที่คุยกันไว้ไม่ใช่ว่าวางยาเธอแล้วเหรอ ไม่ใช่ว่าเธอจะหลับไปถึงสองชั่วโมงเหรอ ทำไมตอนนี้เธอตื่นแล้ว? “คนสวย ทำไม…ทำไมคุณตื่นแล้ว?” ดวงตาที่สดใสของเซี่ยซีหวั่นเผยให้เห็นถึงความเจ้าเล่ห์และขี้เล่นออกมาเล็กน้อย“ถ้าฉันไม่ตื่น แล้วจะเห็นฉากที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้อย่างไร?” “คุณ…” เซี่ยซีหวั่นยื่นมือออกมา จากนั้นประธานหวังก็รู้สึกเพียงแค่ได้กลิ่นหอมที่แปลกๆกลิ่นหนึ่ง และในไม่ช้าร่างกายของเขาก็อ่อนแรง แล้วทรุดตัวลงไปนอนอยู่ที่พรหมตรงพื้นโดยตรง แขนขาของประธานหวังถูกมัดไว้ด้วยเชือก ทั่วทั้งร่างกายของเขาไม่สามารถออกแรงได้ และเขาทำได้เพียงแค่มองไปที่เซี่ยซีหวั่นที่ส่งยิ้มให้เขาด้วยความหวาดกลัว“คน…คนสวย คุณอยากเล่นอะไร เอาอย่างนี้คุณแก้มัดฉัน แล้วเราค่อยมาเล่นด้วยกัน” เซี่ยซีหวั่นเลิกคิ้วที่บอบบางดั่งกิ่งวงศ์สนั่นของเธอขึ้น ด้วยท่าทีที่ไร้พิษภัยและไร้เดียงสา“ประธานหวัง คุณดูอันนี้มันคืออะไร?” และเมื่อประธานหวังเห็นว่า ในมือของเซี่ยซีหวั่นมีกระดูกเนื้ออยู่ในมือของเธอสองชิ้น“คุณ…คุณเอากระดูกมาทำอะไร?” “อุ๊ย ประธานหวัง หลี่หยู้หลันไม่ได้บอกคุณเหรอ ว่าตระกูลเซี่ยเลี้ยงสุนัขหมาป่าตัวใหญ่ไว้ตัวหนึ่ง ซึ่งหมาตัวนี้ดุร้ายมาก และชอบกินกระดูกมาก” ประธานหวังเป็นคนบ้ากามคนหนึ่ง และเขาก็อยากกินเซี่ยซีหวั่นมานานมากแล้ว และเธอก็เป็นคนบ้านนอกคนหนึ่งที่มาจากชนบท อีกทั้งยังแต่งงานกับผัวผีด้วย ยังไม่ใช่คนที่เขาอยากเล่นก็เล่นเหรอ? แต่ว่าตอนนี้ประธานหวังมองไปที่เซี่ยซีหวั่นก็รู้สึกชาที่หนังศีรษะของเขา และไม่สามารถหยุดตัวสั่นได้“คุณ …ตกลงคุณจะทำอะไรกันแน่?” มือเล็ก ๆของเซี่ยซีหวั่นขยับลงไปด้านล่าง จากนั้นยัดกระดูกสองชิ้นนั้นเข้าไปในกางเกงของประธานหวัง“ประธานหวัง เกมได้เริ่มขึ้นแล้ว เออใช่ เดี๋ยวอีกสักครู่สุนัขหมาป่าตัวใหญ่ตัวนั้นก็จะเข้ามา คุณต้องระวังตัวหน่อยนะคะ อย่าให้สุนัขหมาป่าตัวนั้นกัดผิดที่นะ กัดจนน้องชีวิตตัวน้อยของคุณขาด” “ไม่ คนสวย ฉันผิดไปแล้ว คุณรีบปล่อยฉัน…คุณนี่มันขาดคุณธรรมเกินไปไหม นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ มันเสียชีวิตได้นะ…”ประธานหวังตกใจกลัวจนเหงื่อแตกเป็นเสี่ยงๆ และถ้าเขาทำได้เขาแทบจะคุกเข่าให้เซี่ยซีหวั่นแล้ว และในเวลานี้เองเซี่ยซีหวั่นเดินไปเปิดประตูของห้องออก สุนัขหมาป่าตัวนั้นก็วิ่งเข้ามาตามกลิ่นหอมของเนื้อ อ๊า! ประธานหวังกรีดร้องครั้งแล้วครั้งเล่า …… หลี่หยู้หลันรอฟังข่าวดีอยู่ด้านล่าง และทันใดนั้นเองประตูของห้องถูกเปิดออกทันที ประธานหวังซึ่งกำลังถือกางเกงของเขาวิ่งลงมาอย่างเสียขวัญ หลี่หยู้หลันตกตะลึง“ประธานหวัง คุณเป็นอะไร?” ประธานหวังตกใจมากจนฉี่ราด และน้ำตาไหล และเขาโยนกระดูกไปที่ร่างกายของหลี่หยู้หลันด้วยความรุนแรง และพูดขึ้นอย่างเหี้ยมโหดว่า“หลี่หยู้หลัน ทั้งหมดนี้คุณเป็นคนทำ ฉันไม่ปล่อยคุณไปแน่!” ประธานหวังวิ่งออกไปด้วยความโกรธและความหวาดกลัว เกิดอะไรขึ้น? หลี่หยู้หลันรีบขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว แล้วเข้าไปในห้อง ภายในห้อง เซี่ยซีหวั่นนั่งดื่มน้ำชาอยู่ตรงเก้าอี้อย่างสบายใจ เธอเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาที่สดใสของเธอไปหยุดอยู่บนใบหน้าที่ตกตะลึงของหลี่หยู้หลัน“คุณน้า คุณมาแล้วเหรอ?” เซี่ยซีหวั่นรอเธออยู่ตลอด! หลี่หยู้หลันตกตะลึง เธอรู้ว่าเรื่องถูกเปิดเผยแล้ว แต่เป็นไปไม่ได้นิ เซี่ยซีหวั่นทานรังนกที่ถูกวางยาถ้วยนั้นต่อหน้าต่อตาของเธอนิ ผิดพลาดตรงไหนกัน? “เซี่ยซีหวั่น คุณรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่ารังนกถ้วยนั้นมีปัญหา และคุณก็เดินไปตามแผนการใช่หรือเปล่า?” หลี่หยู้หลันถาม เซี่ยซีหวั่นเม้มปากยิ้มอย่างเย็นชา“ฉันก็แค่อยากจะอยู่ดูแผนการของคุณ หลี่หยู้หลัน แผนการสำหรับเด็กน้อยแบบนี้ของคุณ ทำให้ฉันผิดหวังเล็กน้อยนะ” หลี่หยู้หลันส่งเสียงฮึออกมาและตัดขาดและฉีกหน้าของพวกเธอสองคนให้ขาด และภายในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยแสงแห่งความชั่วร้าย“เซี่ยซีหวั่น ฉันไม่ต้องการพูดเรื่องไร้สาระกับแก เมื่อกี้ประธานหวังจากไปด้วยความโกรธ ตอนนี้ฉันจะจับแกแล้วส่งไปที่เตียงของประธานหวัง เพื่อถ่ายโทษให้ท่านประธานหวังเดี๋ยวนี้!บอดี้การ์ด!” “ครับ นายหญิง” บอดี้การ์ดเสื้อดำห้าถึงหกคนรีบเข้ามาอย่างรวดเร็ว และพวกเขาทุกคนต่างก็มีรูปร่างที่แข็งแรงมาก “เซี่ยซีหวั่น บอดี้การ์ดพวกนี้ถูกฉันจ้างมาด้วยเงินเดือนที่สูงมาก แกสามารถสู้เอาชนะพวกเขาได้หรือเปล่า?” จู่ ๆดวงตาของเซี่ยซีหวั่นก็เย็นชาขึ้นทันที และตอนนี้เธอก็อยู่ที่นี่แล้ว ยังมีอะไรน่ากลัวอีก? “จัดการเธอ แล้วจับตัวเธอมาให้ฉัน!” หลี่หยู้หลันออกคำสั่ง และบอดี้การ์ดคนหนึ่งก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของเซี่ยซีหวั่น และยื่นมือออกมาจับเธอโดยตรง เซี่ยซีหวั่นนำมือที่เล็ก ๆของเธอวางที่เอวของเธออย่างเงียบๆ แต่วินาทีต่อมากลับมีมือที่ใหญ่และข้อกระดูกมือที่แบ่งแยกอย่างชัดเจนยื่นเข้ามา แล้วจับไปที่แขนของบอดี้การ์ดคนนั้นจากนั้นก็บิดแขนของบอดี้การ์ดเบาๆ เสียงกึกดังขึ้น แล้วแขนของบอดี้การ์ดคนนี้ก็ถูกหักโดยตรง จากนั้นบอดี้การ์ดที่ถูกหักแขนก็ถูกผลักไปด้านหลังด้วยแรงที่รุนแรง จากนั้นบอดี้การ์ดเหล่านั้นต่างก็ถูกกระแทกจนล้มลงกับพื้นทันที เซี่ยซีหวั่นเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็เห็นร่างที่สูงและสง่าผ่าเผยปรากฏขึ้นภายในดวงตาของเธอ ลู่หานถิงมาแล้ว “คุณมาได้อย่างไร?” เซี่ยซีหวั่นถามด้วยความสงสัย ลู่หานถิงไม่ได้มีอารมณ์อะไรใด ๆ และเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า“ดูเหมือนว่าฉันจะพลาดชมการแสดงดี ๆไปนะ” หลี่หยู้หลันคาดไม่ถึงว่าจะมีคนบุกเข้ามาในบ้านของตระกูลเซี่ยกะทันหัน และเธอก็มองไปที่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้างของเซี่ยซีหวั่น ชายหนุ่มที่สูงและสง่าผ่าเผยที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสีดำ เขาเกิดมาในรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลามากเกินไป และเมื่อกี้เขาเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วและดุร้ายมาก โดยรอบข้างของร่างกายเขาไม่สามารถงดเว้นความเฉยเมยและความเย็นชาของเขาได้เลย ในฐานะที่เป็นคุณนายเซี่ย หลี่หยู้หลันยังพอคุ้นเคยกับวงการคนชนชั้นสูงของเมืองไห่อยู่ แต่เธอไม่เคยเห็นบุคคลคนนี้มาก่อนเลย และเมื่อกี้เสี่ยวแด๋บอกกับเธอว่าเซี่ยซีหวั่นเลี้ยงหนุ่มหน้าขาวไว้คนหนึ่ง หรือว่าจะเป็นเขาคนนี้? “เซี่ยซีหวั่น นี่น่ะเหรอหนุ่มหน้าขาวที่แกเลี้ยงไว้?” หนุ่มหน้าขาว? เมื่อได้ยินสามคำนี้ ลู่หานถิงขมวดคิ้วอันหล่อเหลาของเขาเล็กน้อย ราวกับว่าเขาไม่พอใจเล็กน้อย จากนั้นเขาก็มองมาที่เซี่ยซีหวั่นแล้วพูดว่า“หนุ่มหน้าขาว คุณพูดแบบนี้กับเธอเหรอ?” เซี่ยซีหวั่นยืดเอวเล็ก ๆของเธอให้ตรง และยกมือเล็กของเธอขึ้นมาแล้วโบกให้เขาแล้วพูดว่า“เธอใส่ร้ายฉัน ฉันไม่ได้พูดอะไรนะ” ส่วนหลี่หยู้หลันกลับรอไม่ไหวและพูดขึ้น“พวกคุณยังรออะไร หนุ่มหน้าขาวคนหนึ่งก็สู้ไม่ได้ รีบเข้าไปจัดการมันสิ” มีบอดี้การ์ดที่อยากจะเข้าไปจัดการอยู่ แต่ว่าลู่หานถิงยกเปลือกตาของเขาขึ้นเล็กน้อย และมองพวกเขาจากบนลงล่างอย่างไม่โลเลและพูดว่า“สู้กับฉัน พวกคุณน่ะเหรอ?” บอดี้การ์ดรู้สึกใจสั่น และต่างก็วิ่งไปหนีกันไปหมด หลี่หยู้หลันรู้สึกโกรธจนสั่นไปทั้งตัว เธอไม่เคยเห็นหนุ่มหน้าขาวที่หยิ่งผยองเช่นนี้มาก่อน แค่คนที่มันเกาะผู้หญิงกิน แต่กับแสร้งทำเป็นเหมือนว่าเป็นเจ้านายใหญ่ที่มีตำแหน่งสูงยังไงอย่างงั้นแหละ อีกทั้งยังไปมาที่ตระกูลเซี่ยของเธออย่างอิสระอีกด้วย มีชีวิตอยู่นานแล้วสามารถเห็นทุกอย่างได้จริง ๆเลย บอดี้การ์ดที่เธอจ้างมาในเงินเดือนที่สูงต่างก็วิ่งหนีกันไปหมดแล้ว ดังนั้นหลี่หยู้หลันทำได้เพียงแค่ยืนจ้องมองพวกเขาอยู่ที่เดิมโดยไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้เท่านั้น ลู่หานถิงมองไปที่เซี่ยซีหวั่นแล้วพูดว่า“อยู่รอทานมื้อค่ำเหรอ?ไปสิ” “ออ ค่ะ” เซี่ยซีหวั่นรีบวิ่งไปตามหลังของลู่หานถิงอย่างรวดเร็ว และเมื่อเธอเดินผ่านมาถึงที่ด้านข้างของหลี่หยู้หลันเธอก็กระซิบพูดขึ้นว่า“ครั้งหน้าช่วยเอาทักษะที่เชี่ยวชาญของคุณออกมานะ ฉันรอคุณ และอย่าให้ฉันดูเรื่องตลกของคุณอีกเลย” “…” หลี่หยู้หลันที่ถูกวิจารณ์ต่อเนื่องรู้สึกโกรธจนแทบจะกระอักเลือดออกมา …… ในรถหรู เซี่ยซีหวั่นมองไปที่ชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้างของเธอ สีหน้าของเขาจดจ่อ และบุคลิกของเขาสง่าผ่าเผย และไม่พบร่องรอยของการต่อสู้เมื่อกี้นี้เลยสักนิด ในเวลานี้เองลู่หานถิงเหลือบตาหันมองมาที่เธอแล้วพูดว่า“ถ้าเมื่อกี้ฉันไม่ไป คุณจะทำอย่างไร?” เซี่ยซีหวั่นเม้มปาก“ต่อสู้ ฉันก็เป็นเหมือนกัน และถ้าหากว่าคุณไม่ไป ฉันก็สามารถจัดการพวกเขาได้สำเร็จเหมือนกัน” ลู่หานถิงนึกถึงข้อมูลส่วนตัวของเธอ เด็กอายุ9ขวบอย่างเธอที่ถูกโยนไว้ในชนบทถูกเด็กคนอื่นรังเกียจและรังแก อีกทั้งยังด่าว่าเธอเป็นเด็กป่าที่ไม่มีพ่อไม่มีแม่ และศิลปะการต่อสู้ของเธอก็น่าจะฝึกฝนออกมาจากตอนนั้น และบวกกับทักษะทางการแพทย์ที่เธอมีอยู่ เธอสามารถจัดการกับชายแผลเป็นที่อยู่บนรถไฟนั้นได้อย่างใจเย็น แน่นอนว่าบอดี้การ์ดทั้งหลายเหล่านี้ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอ “เป็นผู้หญิงอย่าต่อสู้ เรื่องต่อสู้ชกต่อยน่ะมันเป็นเรื่องของผู้ชาย” “ฉันไม่ชอบพึ่งพาคนอื่น แต่ว่าคุณลู่ เมื่อกี้นี้ต้องขอบคุณคุณมากจริง ๆ” เมื่อเห็นดวงตาที่เธอกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ ลู่หานถิงก็เลิกคิ้วของเขาขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดว่า“คุณกล่าวขอบคุณแค่นี้เหรอ?” เซี่ยซีหวั่นก็ผงะไปชั่วขณะ“แล้วคุณจะให้ฉันกล่าวขอบคุณอย่างไร?” ลู่หานถิงกวาดสายตาของเขาจากดวงตาที่สดใสของเธอไปยังริมฝีปากสีแดงที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมผ้าของเธอแล้วพูดว่า“วิธีการขอบคุณที่ผู้หญิงกล่าวขอบคุณผู้ชาย คุณไม่เข้าใจเหรอ?”
已经是最新一章了
加载中