บทที่ 6 เดินเที่ยวชมเมือง   1/    
已经是第一章了
บทที่ 6 เดินเที่ยวชมเมือง
“อีกสามวัน อาชิลาสจะเดินทางไปต่างเมืองกับท่านไนเรล” “ใช่เรื่องเสาพลังงานที่พูดถึงกันหรือเปล่า” แคทเธอรีนถามขึ้นก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ เช้าวันนี้เธอกับเฮเลนน่าออกมานั่งจิบชาในสวนหลังคฤหาสน์ ดังนั้นหัวข้อสนทนาจึงเป็นเรื่องการซ่อมแซมเสาพลังงานในเมืองที่ถูกทำลาย “ใช่ เรื่องนั้นแหละ ในเขตตะวันตก มีอยู่สามเมืองที่เสาพลังงานถูกทำลาย เมืองแรกที่คนของเราจะไปกันคือเมืองปาเซียโน่ ข้าก็จะไปกับอาชิลาสด้วยนะ” เจ้าของเสียงหวานยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าตัวเองจะได้ติดตามคู่หมั้นไปช่วยงานที่ต่างเมืองด้วย “เจ้าจะไปด้วยไหม” “ไปสิ ข้าก็อยากทำอะไรที่เป็นประโยชน์เหมือนกัน” ’เมืองปาเซียโน่เหรอ ไม่เคยได้ยินแฮะ สงสัยจะล่มก่อนถึงยุคของเรา’ จากที่เคยอ่านหนังสือมา บางเมืองก็อยู่ไม่ถึงช่วงเวลาของเธอ ดังนั้นชื่อสถานที่บางแห่ง เธอจะไม่เคยได้ยินก็ไม่แปลก “เฮเลนน่า เจ้าพอจะรู้ไหมว่าแถวไหนขายอาวุธบ้าง” “เจ้าอยากได้อาวุธเหรอ” “ข้าถนัดฟันดาบ ก็เลยอยากได้ดาบดี ๆ สักเล่มน่ะ” เจ้าของร่างตัวจริงเป็นขอทานและพอจะมีเงินอยู่บ้าง แคทเธอรีนนำติดตัวมาด้วย ตั้งใจว่าจะซื้อดาบพอเหมาะสักเล่มแล้วค่อยนำไปใช้หาเงินเพิ่ม จะได้ซื้อดาบดี ๆ เล่มใหม่ “ข้าคิดว่าให้อาชิลาสพาไปดีกว่า ที่นี่เป็นบ้านเขา เขาน่าจะรู้จักดี” เฮเลนน่าเป็นคนจากต่างเมืองและไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ สถานที่บางแห่งก็ใช่ว่าเธอจะรู้จัก “สาว ๆ เมื่อกี้ได้ยินว่าพูดถึงข้า คุยอะไรกันอยู่เหรอ” พูดถึงว่าที่คุณชายแห่งไฮเปอร์เรี่ยน เจ้าตัวก็เดินเข้ามาในศาลาชมสวนพอดี เขาเลื่อนเก้าอี้มานั่งใกล้คู่หมั้นแสนสวยแล้วรินน้ำชาให้ตัวเอง “แคทเธอรีนอยากได้ดาบสักเล่มน่ะค่ะ อาชิลาสช่วยพานางไปซื้อได้ไหมคะ” “ได้สิ วันนี้ข้าว่าง ไม่ได้มีธุระที่ไหน จะไปตอนนี้เลยก็ได้ ว่าแต่อยากได้ดาบแบบไหนล่ะ” ชายหนุ่มถามพลางมองสบตากับเพื่อนของคู่หมั้น “ข้าอยากได้ดาบราคาพอเหมาะสักเล่มค่ะ พอดีเงินที่ข้ามีก็ไม่มาก ตั้งใจว่าจะเอาดาบไปใช้หาเงิน พอเก็บเงินพอแล้วจะเอาไปซื้อดาบดี ๆ สักเล่มอีกที” “ถ้าเจ้าไม่มีเงินพอก็น่าจะรีบบอกข้านะ ข้าจะได้จัดการให้” พอรู้ว่าเพื่อนมีเงินไม่มาก เฮเลนน่าจึงรีบเสนอตัวเข้าช่วย “เรื่องราคาดาบเล่มใหม่ เดี๋ยวข้าจ่ายเอง” “ไม่ดีกว่าข้าเกรงใจ” “งั้นข้าซื้อให้นางดีไหม จะได้ไม่ต้องลำบาก” อาชิลาสหันมาขอความคิดจากคู่หมั้น ซึ่งเธอก็พยักหน้าเห็นดีเห็นงามด้วย ในขณะที่แคทเธอรีนอยากจะมุดดินหนีนัก แค่ทั้งสองให้ที่กินที่นอนกับเธอ แค่นี้ก็เกรงใจมากแล้ว นี่ยังจะซื้ออาวุธให้อีก มีเพื่อนดีเป็นศรีแก่ตัวจริง ๆ ช่วงสาย ๆ ของวันนั้น อาชิลาสพาสองสาวออกมาเดินเที่ยวในเมืองโดยมีผู้ติดตามคอยดูแลอยู่ห่าง ๆ หากเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจะกระโจนเข้ามาช่วยทันที ตอนนี้ทั้งสามเดินเข้าในเขตที่ส่วนใหญ่เป็นร้านขายอาวุธ แต่ละร้านมีคนเดินเข้าออกไม่ขาดสาย ลูกค้าที่มาส่วนมากก็เป็นพวกนักสู้ทั้งนั้น “คนเยอะกว่าที่คิดนะเนี่ย” แคทเธอรีนกวาดตามองอย่างสนใจ “ร้านเจ้าประจำที่ครอบครัวข้าชอบแวะไปอยู่ทางโน้นน่ะ” คุณชายแห่งไฮเปอร์เรี่ยนเดินนำหน้าตรงไปหาร้านขายอาวุธที่ใหญ่กว่าร้านอื่น ๆ แถมสไตล์การตกแต่งในร้านก็ดูหรูกว่าใคร ไม่บอกก็รู้ว่าของด้านในนอกจากราคาแพงแล้วยังมีคุณภาพสูงด้วย “คุณชาย ยินดีต้อนรับค่ะ” เจ้าของร้านที่เป็นหญิงวัยกลางรีบเดินออกมาจากหลังร้านแล้วกล่าวต้อนรับแขกพิเศษผู้มาเยือนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส “สวัสดีครับป้า ไม่ได้เจอกันพักเดียว สวยขึ้นเยอะนะครับ” “แหม คุณชายนี่ปากหวานนะคะ ป้าแก่แล้ว มีแต่ความสวยลดลงล่ะไม่ว่า” เจ้าของร้านพูดคุยกับอีกฝ่ายอย่างเป็นกันเองจากนั้นก็วกกลับเข้าเรื่อง “ไม่ทราบว่าคุณชายอยากได้อาวุธอะไรคะ เดี๋ยวป้าจะพาไปดู” “เปล่าครับ วันนี้ข้าไม่ได้จะเอา แต่เพื่อนของคู่หมั้นข้าอยากได้ ข้ากับคู่หมั้นก็เลยพานางมาดูอาวุธน่ะครับ” ชายหนุ่มผายมือไปทางเจ้าของทรงผมทวินเทล แคทเธอรีนเดินมาหาเจ้าของร้านแล้วถาม “ข้าอยากได้ดาบสักเล่มค่ะ” “มาทางนี้เลยคุณหนู มีดาบหลายเล่มให้เลือกเยอะแยะ ถ้าถูกใจเล่มไหนก็บอกป้านะ” หญิงวัยกลางคนเดินนำหน้าเธอเข้าไปหาส่วนที่เป็นตู้ชั้นวางดาบ คนอยากได้อาวุธทำหน้าสนอกสนใจพลางกวาดสายตามองดาบแต่ละเล่มที่กะพริบแสงเรียกให้เธอเลือกมันเป็นเจ้าของ แต่เธอต้องการดาบที่เธอรู้สึกว่าเหมาะกับตัวเองเท่านั้น หญิงสาวเดินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหยุดยืนมองดาบเล่มหนึ่งที่กะพริบแสงเหมือนดาบเล่มอื่น ทว่าเธอกลับรู้สึกถูกใจดาบเล่มนี้มากกว่า “ป้าคะ ข้าขออนุญาตจับดาบเล่มนี้นะคะ” “ได้สิ” คุณป้าเจ้าของร้านที่กำลังจัดของอยู่โผล่หน้ามาตอบก่อนจะกลับไปทำงานต่อ แคทเธอรีนเอื้อมมือไปจับดาบสีฟ้าอ่อน ทันทีที่ผิวหนังสัมผัสด้ามจับ อาวุธก็กะพริบแสงทันที หญิงสาวยิ้มกว้างจากนั้นก็ลองยกดาบขึ้นมาพลิกดูจากจุดต่าง ๆ ก่อนจะลองควงดาบเพื่อดูว่ามันเหมาะกับมือเธอหรือเปล่า “ข้าเชื่อแล้วว่านางถนัดฟันดาบ” อาชิลาสที่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ หันไปกระซิบกับเฮเลนน่าเบา ๆ “ดูลีลาควงดาบสิ ใช้ได้เลยนะนั่น” อาชิลาสไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ไหนทำแบบนี้มาก่อนจนกระทั่งมาเห็นเพื่อนของคู่หมั้นทำ “เอาดาบเล่มนี้แหละ” “คิดเงินด้วยค่ะ” พอเพื่อนสาวบอกว่าจะเอาดาบเล่มนั้น เฮเลนน่าจึงหันไปเรียกเจ้าของร้านให้กลับมาจัดการเรื่องชำระค่าใช้จ่าย แน่นอนว่าคนออกเงินคืออาชิลาส “ฝักดาบอยู่นี่นะ คุณหนู” คุณป้าเจ้าของร้านยื่นฝักดาบให้ แคทเธอรีนรับมาแล้วเสียบดาบเข้าฝักก่อนจะติดดาบไว้ที่ข้างเอว จากนั้นก็ยืนรอนอกร้านกับเฮเลนน่า เพราะคุณชายแห่งไฮเปอร์เรี่ยนกำลังทำเรื่องขอใบเสร็จชำระเงิน “ที่เจ้าว่าจะไปเมืองปาเซียโน่กับพวกข้า เจ้าคงไม่คิดจะไปช่วยหน่วยป้องกันกำแพงหรอกนะ” “หน่วยป้องกันกำแพง?” คนถูกถามทำหน้าไม่เข้าใจ “ทุก ๆ เมืองจะมีหน่วยป้องกันกำแพง พวกนี้นอกจากลาดตระเวนนอกกำแพงแล้วยังต้องคอยต่อสู้กับสัตว์ร้ายที่จะเข้ามาโจมตีเมืองด้วย เรื่องนี้ใคร ๆ ก็รู้ เจ้าไม่รู้เหรอ” เฮเลนน่าไม่ได้รู้เรื่องลึกมาก แต่ถ้าเป็นความรู้พื้น ๆ เธอก็เคยศึกษามาบ้าง “คือ... ช่วงนี้ข้าหลง ๆ ลืม ๆ ก็เลยนึกอะไรไม่ค่อยออกน่ะ สงสัยจะนอนน้อย” แคทเธอรีนหาข้อแก้ตัวมาใช้อีก แต่นั่นกลับทำให้เพื่อนสาวเป็นห่วงเข้าไปอีก “เจ้าไม่สบายหรือเปล่า” ว่าแล้วก็ยกมือแตะหน้าผากคู่สนทนา “ข้าไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง” เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ “ว่าแต่เจ้าจะไปช่วยงานหน่วยป้องกันกำแพงจริงเหรอ” อาชิลาสยังไม่จบเรื่องนี้ ฝ่ายโดนถามก็เงียบไปชั่วขณะเหมือนกำลังใช้ความคิดก่อนจะถามกลับ “มีอะไรให้ข้าช่วยงานบ้างล่ะ” “ข้ากับท่านไนเรลต้องคอยดูแลการซ่อมแซมเสาพลังงาน เฮเลนน่าเป็นคนดูแลเรื่องอาหารกับที่พัก ส่วนคนอื่นทำงานอะไรก็ทำไป มีแต่เจ้านี่แหละที่ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะช่วยงานส่วนไหน” “ถ้าบอกว่าหน่วยป้องกันกำแพง พวกเจ้าก็ไม่อยากให้ข้าไป ถ้างั้นให้ข้าเป็นผู้ดูแลเฮเลนน่าก็ได้ เป็นผู้ติดตามให้คุณหนูก็เท่ใช่เล่น” แคทเธอรีนยืนเท้าเอวพลางยืดตัวอย่างภาคภูมิและมั่นใจ ก่อนจะเชิดหน้าสวย ๆ ให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเห็นด้วย “อ้าว พวกเจ้านั่นเอง” “ท่านมอสเวน” สามหนุ่มสาวหันไปมองคนทักก่อนจะพากันตกใจแล้วรีบทำความเคารพแทบไม่ทันเมื่ออยู่ ๆ เทพแห่งแสงก็เดินผ่านมาแถวนี้ ถ้ามีเทพแห่งแสงมาเดินปะปนอยู่กับมนุษย์ เป็นใคร ใครก็แยกออกเพราะออร่าเปล่งประกายกว่าคนทั่วไป ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตา มอสเวนจึงสวมชุดคลุมเก่า ๆ คลุมทับชุดขาวด้านใน อีกทั้งมีฮูดคลุมศีรษะและเก็บเส้นผมสีทองไว้อย่างเรียบร้อย หากไม่สังเกตดี ๆ ก็คงดูไม่ออก ยกเว้นพวกแคทเธอรีนที่เห็นจนชินเลยรู้ตัวเร็ว “กำลังเที่ยวชมเมืองเหรอครับ” อาชิลาสถามขึ้น “ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ เดินดูไปรอบ ๆ เผื่อมีอะไรผิดปกติ ตั้งแต่เทพแห่งความมืดเริ่มเคลื่อนไหว ข้าก็เลยกังวลมากไปหน่อย ดีแล้วที่เมืองนี้ไม่มีอะไรผิดปกติ” มอสเวนกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เห็นชาวบ้านชาวเมืองดำเนินชีวิตไปตามปกติ แค่นี้เขาก็มีความสุขแล้ว “ขโมย!” “มันไปโน่นแล้ว!” “แม่หนู! ระวัง!” “กรี๊ด!” เฮเลนน่าร้องลั่นเมื่อถูกชายร่างผอมแต่งตัวมอมแมมวิ่งมากระชากแขนจนเซไปหาอีกฝ่าย เขาใช้มือข้างหนึ่งล็อกคอเธอก่อนใช้มือข้างที่ถือมีดมาจ่อคอเธอเป็นการขู่ว่าถ้าใครหน้าไหนกล้าเข้ามา หญิงสาวคนนี้ตายแน่ “ถ้าพวกเจ้ากล้าจับข้า นังหนูนี่ตายแน่!” “เฮเลนน่า!” “คุณชายอย่าเข้าไป” ผู้ติดตามที่กระโจนเข้ามาไม่ทันรีบดึงนายน้อยของไฮเปอร์เรี่ยนที่ทำท่าจะพุ่งเข้าไปช่วยคู่หมั้นไว้ก่อนที่เขาจะทำเรื่องบ้า ๆ เข้า ’รังแกผู้หญิงเหรอเจ้าขโมยนั่น นิสัยเหมือนคนร้ายในละครเลย’ แคทเธอรีนนึกถึงละครหลังข่าวที่เคยดูตอนอยู่บ้าน พอเจอเข้ากับตัวแถมฝ่ายที่กำลังแย่ก็เป็นผู้หญิง จะให้รอพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยก็ไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครสนใจแอบปะปนไปกับฝูงชนแล้วอ้อมไปอยู่ด้านหลังของคนร้าย “น้อง ๆ พี่ขอยืมหน่อยนะจ๊ะ” หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้เด็กชายตาแป๋วที่กำลังยืนแทะแอปเปิลอยู่ใกล้ ๆ คุณแม่ เจ้าหนูทำหน้างง ๆ ขณะมองอีกฝ่ายคว้าแอปเปิลไปจากมือ แคทเธอรีนเดินแหวกฝูงชนออกมาข้างหน้า จากนั้นก็ขว้างแอปเปิลใส่ศีรษะคนร้ายสุดแรงเกิดทำให้ผลแอปเปิลแตก ส่วนชายคนนั้นก็ยืนเซด้วยความมึนหัว เฮเลนน่าจึงอาศัยจังหวะนี้วิ่งหนีไปหาอาชิลาส จากนั้นหญิงสาวผมสีฟ้าอ่อนก็ชักดาบแล้วกระโจนเข้าใส่คนร้ายทันที เคร้ง! “ฝีมือเจ้าเองเหรอ นังหนู!” ชายคนนั้นวาดมีดมาปัดคมดาบของเธอได้ทันเวลาพอดีก่อนจะตวัดมีดใส่ผู้มาใหม่ด้วยความเร็วที่มองไม่ทัน แคทเธอรีนหมอบลงกับพื้นตามด้วยตวัดขาเตะข้อเท้าจนอีกฝ่ายเสียหลักล้ม เธอลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่งชันเข่าก่อนจะพุ่งปลายดาบไปหาอีกฝ่าย คมดาบนั้นตัดเส้นผมของคนร้ายไปนิดเดียว แต่สติของเขาบินหนีไปไกลถึงไหนแล้วไม่รู้ “เจ้า... เจ้า...” “เอาสิ ถ้าเจ้ากล้าโจมตีกลับ ข้าจะตัดคอเจ้าซะ” ตอนนี้ดาบของเธอวางพาดคออีกฝ่ายไว้อยู่ทำให้ชายคนนั้นทำอะไรไม่ได้ ผู้ติดตามของอาชิลาสและพลเมืองดีที่พยายามไล่จับขโมยจึงรีบตรงเข้ามาคุมตัวทันที “แม่หนู!” “!!!” แคทเธอรีนสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงตะโกนดังอยู่ใกล้ ๆ พอหันไปมองก็เห็นผู้คนมากมายวิ่งมารุมล้อมเธอก่อนจะพากันจับมือแถมยังมีการดึงเธอไปทางซ้าย ไป ๆ มา ๆ ก็ดึงไปทางขวาด้วย “เมื่อกี้เจ้ากล้าหาญมากเลย” “เจ้าเก่งจังเลย” “เด็กดี รู้จักช่วยคนอื่น” ’ฉันหายใจไม่ออก!’ หญิงสาวกรีดร้องในใจทั้งที่ตอนนี้ตาลายจนเริ่มมองอย่างอื่นรอบตัวบิดเบี้ยวไปหมด อยากจะชื่นชมคนอื่นก็ไม่ว่าแต่อย่ามาเบียดกันได้ไหม เธออึดอัด ต้องการอากาศหายใจโดยด่วน “น่าประทับใจ น่าประทับใจจริง ๆ” มอสเวนที่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ ปรบมือให้แคทเธอรีนเบา ๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสก่อนจะเดินจากไปเงียบ ๆ โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เย็นวันนั้นข่าวเรื่องที่ว่าเธอไปช่วยเหลือคู่หมั้นของคุณชายตระกูลไคโรเชลจากคนร้ายก็เล่าลือกันไปทั่วเมือง พอชาวเมืองรู้ว่าเธอพักอยู่ที่ไหน เขาต่างก็หาของฝากมาให้เธอเป็นการชื่นชมทำให้ตอนนี้มีดอกไม้และขนมมากมายกองอยู่เต็มพื้นห้องพัก ในขณะที่แคทเธอรีนก็นั่งยกมือกุมหน้าอยู่บนเตียงพลางมองของฝากเหล่านั้นเป็นระยะ ๆ เธอไม่ได้อยากเป็นที่สนใจของใคร ตอนแรกตั้งใจว่าจะอยู่เงียบ ๆ แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอลงมือช่วยเพื่อนไปแล้ว “ไปหาเฮเลนน่าดีกว่า” หญิงสาวเดินออกจากห้องแล้วเดินไปตามเส้นทางที่จะนำเธอไปหาเพื่อนสาว ห้องของเฮเลนน่าอยู่ไม่ไกลจากห้องของเธอมากนัก ใช้เวลาเดินไม่นานแคทเธอรีนก็ไปถึงหน้าประตูห้องแล้ว เฮเลนน่าอยู่หรือเปล่านะ เธอถามตัวเองในใจก่อนจะยกมือเคาะประตู ทันใดนั้นก็มีเสียงแปลก ๆ ดังแว่วมาจากในห้อง เจ้าของทรงผมทวินเทลขมวดคิ้วแล้วเอาหูแนบกับประตู “เฮเลนน่าทำอะไรอยู่ในห้องเนี่ย” เจ้าของเสียงหวานพึมพำเบา ๆ พลันประตูห้องก็เปิดออกเนื่องจากปิดไม่สนิทตั้งแต่ตอนแรกทำให้แคทเธอรีนล้มหน้าทิ่มลงบนพื้นที่ปูด้วยพรมหนานุ่ม โชคดีที่มีอะไรรองไม่อย่างนั้นดั้งเธอหักแน่ “แคทเธอรีน!” น้ำเสียงตกใจของเฮเลนน่าทำให้คนบุกรุกห้องชาวบ้านรีบลุกขึ้นมานั่งทันที “เอ้อ...” เจ้าของทรงผมทวินเทลนั่งนิ่งไปชั่วขณะ พอได้สติเธอก็รีบชูสองมือขึ้น “ขอโทษที่มาขัดจังหวะนะ ข้าไม่รู้ว่านอกจากเจ้าแล้ว อาชิลาสก็อยู่ด้วย” ภาพที่เธอเห็นคือเพื่อนสาวกับคู่หมั้นอยู่ในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย แถมยังนอนอยู่ด้วยกันบนเตียง ช่างเป็นภาพที่ล่อแหลมสุด ๆ ทำให้เธอนึกถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เคยไปดูกับเพื่อนที่ห้างสรรพสินค้าซึ่งตอนนั้นจำกัดเฉพาะผู้ชมที่อายุสิบแปดปีขึ้นไปเท่านั้น และเธอก็อายุสิบแปดปีพอดี ’มีฉากจากเรื่อง เซเว่นเชด ออฟ เรนโบว์ มาให้เห็นด้วยแฮะ’ เธอกล่าวในใจพลางลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปเงียบ ๆ แต่ก็ไม่ลืมปิดประตูให้ด้วยเผื่อเพื่อนอยากได้ความเป็นส่วนตัว “สองคนนี้ยังไม่แต่งงานกันก็ขึ้นเตียงแล้วเหรอ อะไรจะใจร้อนแท้” แคทเธอรีนบ่นกับตัวเองขนาดเดินกลับห้อง ในเมื่อไปหาเพื่อนแล้วเพื่อนไม่ว่าง เธอก็ควรกลับไปนอนแล้วรอตื่นเช้าวันใหม่ดีกว่า ส่วนสองคนนั้นก็ปล่อยไป!
已经是最新一章了
加载中