บทที่ 7 เมืองปาเซียโน่
1/
บทที่ 7 เมืองปาเซียโน่
Catherine ข้าย้อนเวลามาทำอะไรในยุคอดีตเนี่ย!
(
)
已经是第一章了
บทที่ 7 เมืองปาเซียโน่
ขบวนรถม้าจากเมืองไฮเปอร์เรี่ยนมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกเพื่อไปให้ความช่วยเหลือเมืองปาเซียโน่ที่สูญเสียเสาพลังงานหลังจากเทพแห่งความมืดและมังกรของเขาบุกมาทำลายและแย่งชิงแกนกลางไป เทพแห่งแสงไนเรล อาชิลาส และเฮเลนน่าก็เดินทางมาเป็นผู้คุมงานของที่นี่ ส่วนเธอก็ติดสอยห้อยตามเพื่อนมาในฐานะผู้ติดตาม “การเดินทางราบรื่นดีจังนะคะ” เฮเลนน่าที่เห็นว่าภายในรถม้านั้นเงียบอยู่จึงกล่าวขึ้นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ “สงสัยเพราะท่านไนเรล ถึงไม่มีตัวอะไรเข้ามาวุ่นวาย” “เรามีเทพแห่งแสงเดินทางมาด้วย คงไม่มีสัตว์ประหลาดตัวไหนกล้าโจมตีขบวนเดินทางหรอก” อาชิลาสคิดว่าดีแล้วที่เดินทางมากับผู้มีพลังศักดิ์สิทธิ์ จะได้ไม่ต้องกังวลอะไร “สัตว์ประหลาดพวกนั้นน่าขยะแขยงชะมัด” แคทเธอรีนที่นั่งอยู่ข้างเฮเลนน่ากล่าวขึ้นเพราะนึกถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองเข้าไปช่วยขบวนเดินทางของหญิงสาว “คงไม่ใช่ลูกสมุนของเทพแห่งความมืดหรอกนะ” “เท่าที่เรารู้ ปีศาจต้นไม้ปรากฏตัวเมื่อหกสิบปีก่อน ในช่วงก่อนเกิดยุคไร้แสงตะวัน แต่ไม่บอกก็รู้ว่าใครสร้างขึ้นมา” ดูจากสีหน้าแปลก ๆ ของอาชิลาสแล้วท่าทางเขาคงไม่ปลื้มสัตว์ประหลาดพวกนั้นอย่างมาก ถ้าเป็นแคทเธอรีน เธอก็คงไม่ชอบเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเทพแห่งความมืดคิดอย่างไรถึงสร้างลูกสมุนออกมาหน้าตาแบบนั้น “เจ้าเคยบอกว่าเจ้าเป็นนักเดินทางแล้วเจ้าไม่เคยเจอพวกนี้เลยเหรอ” เฮเลนน่าถามอย่างสงสัย “ข้าเพิ่งออกเดินทางน่ะ เมื่อก่อนอยู่บ้านตลอดก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องข้างนอกเท่าไร” สาวน้อยจากอนาคตคิดเหตุผลมาแก้ตัวสด ๆ ร้อน ๆ แต่โชคดีที่อีกฝ่ายเหมือนจะเชื่อเธอ “นี่เจ้ารู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังรนหาที่ตาย” สองสาวตวัดสายตาไปทางคุณชายแห่งไฮเปอร์เรี่ยนทันที “ออกมาข้างนอกโดยไม่รู้อะไร ถ้าถูกปีศาจต้นไม้โจมตี จะไม่มีใครเข้ามาช่วยเจ้าได้เลยนะ” “พวกมันอันตรายมากเหรอ” แคทเธอรีนถามทั้งที่ขมวดคิ้ว “ต้องบอกว่าน่าสยองมากกว่า สัตว์ประหลาดพวกนี้จะไม่ทำอันตรายกับสัตว์ทั่วไปแต่จะชอบฆ่าและกินมนุษย์เป็นอาหาร ถ้ามันใกล้ตาย มันจะฝังตัวอ่อนเข้าไปในร่างมนุษย์ เป็นปรสิตที่เกาะอยู่บริเวณหัวใจและเติบโตอยู่ในนั้น พอถึงเวลาก็จะฟักตัวออกมาจากมนุษย์กลายเป็นปีศาจต้นไม้อีกครั้งอย่างที่เราเห็น” “...” หลังจากฟังที่อาชิลาสอธิบายจบ แคทเธอรีนก็พูดอะไรไม่ออก เธอทำหน้าเหมือนอยากจะคายของเก่าเต็มทีแล้วพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ “สยองไหมล่ะ” ชายหนุ่มถาม “เคยมีคนโดนเหมือนที่เจ้าเล่าหรือเปล่า” “มีสิ” “แล้วปรสิตอะไรนั่นเอาออกได้ไหม” ในเมื่อรู้ว่ามีตัวประหลาดเข้าไปอยู่ในร่างกาย เธอคิดว่าน่าจะมีวิธีเอาสิ่งนั้นออกมาก่อนที่มันจะฟักตัว “ทำไม่ได้หรอก” คุณชายแห่งไฮเปอร์เรี่ยนส่ายหน้า “อย่างที่บอกว่าปรสิตนั่นเกาะอยู่ที่บริเวณหัวใจจนแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะ ถ้าเราฆ่ามัน หัวใจก็จะได้รับผลกระทบ แล้วเจ้าของร่างที่มันอาศัยก็ตายเหมือนเดิม” “พูดง่าย ๆ ก็คือจะเอาปรสิตออกหรือไม่ก็มีค่าเท่ากัน” เฮเลนน่าสรุปให้ฟังสั้น ๆ “ทั้งหมดที่เล่ามา เทพแห่งความมืดเป็นคนสร้างใช่ไหม” เพื่อนทั้งสองพยักหน้ายืนยัน “ให้ตายเถอะ ข้าเกลียดยุคนี้ เกลียดสัตว์ประหลาดน่าขยะแขยง เกลียดคนสร้างเจ้าพวกนี้ด้วย” “เราใกล้ถึงเมืองแล้ว” อาชิลาสกล่าวตัดบทหลังจากเปิดม่านหน้าต่างแล้วเห็นแสงไฟจากกำแพงเมืองที่อยู่ไม่ไกลนัก “พอไม่มีเสาพลังงาน ที่นี่ก็จุดคบเพลิงเต็มไปหมด” “แสงน้อยอย่างนี้ การดูแลคนคงเป็นเรื่องยากนะคะ เพราะเรามองอะไรไม่ค่อยเห็น” เฮเลนน่าประสานมือแล้ววางไว้บนหน้าตัก แคทเธอรีนสังเกตว่าอีกฝ่ายบีบมือตัวเองแน่นแสดงว่าเธอกำลังกังวล “มีข้าอยู่ช่วยทั้งคน เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก” เธอตบบ่าเพื่อนสาวเบา ๆ เป็นการปลอบโยน คุณหนูผมแดงฝืนยิ้มจากนั้นก็ยืดตัวตรงนั่งเงียบ ๆ แล้วทั้งสามก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก ขณะที่ทุกอย่างในเมืองปาเซียโน่ดำเนินไปตามปกติ ไม่มีใครรู้เลยว่าเหนือน่านฟ้าของเมืองที่ไร้ซึ่งแสงสว่างปรากฏวิหคน้ำแข็งบินผ่านไปอย่างเงียบ ๆ แม้กระแสลมบนที่สูงจะพัดแรง เจ้านกน้อยก็ไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่นิดเดียว มันบินด้วยความเร็วที่มากกว่านกปกติเป็นเท่าตัวก่อนจะค่อย ๆ ร่อนลงไปยังหน้าผาแห่งหนึ่งซึ่งมีหิมะปกคลุม ใครบางคนที่รออยู่จึงยื่นแขนออกมาให้เจ้านกน้อยบินมาเกาะ จิ๊บ จิ๊บ เสียงเล็ก ๆ ของเจ้าตัวน้อยทำให้คนฟังข่าวยิ้มกว้าง เจ้าของนัยน์ตาสีเขียวมองไปยังจุดแสงไฟที่อยู่ไกลออกไป ดูเหมือนว่าเป้าหมายของเขาจะเดินทางมาถึงเมืองนั้นแล้ว \"ข่าวดีเหรอครับ นายท่าน\" “ไนเรลมาแล้ว ก็ดี ข้าจะได้รีบฆ่ามัน น่าเสียดายที่พี่มันสองคนไม่มาด้วย ไม่อย่างนั้นคงสนุกกว่านี้” เทพแห่งความมืดโบกมือเบา ๆ ทำให้เจ้านกน้อยสลายตัวเป็นละอองน้ำแข็ง “จะซ่อมเสาพลังงานงั้นหรือ ไม่มีทาง!” \"จะบุกเข้าไปเหรอครับ ถ้าทางนั้นรู้ตัว มอสเวนกับเดลลาโน่ก็อาจโผล่มาช่วยทันนะครับ\" มังกรน้ำแข็งกังวลว่าเจ้านายจะรับมือไม่ไหว ฝ่ายนั้นมีกันสามคนแถมยังมีพวกมนุษย์พร้อมตายถวายชีวิตอีก ส่วนพวกเขามีแค่หนึ่งคนกับหนึ่งตัว ไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี! “ทางนั้นพวกเยอะกว่าแล้วยังไง คิดว่าข้ากลัวเหรอ” บุรุษผมสีขาวปรายตาเย็น ๆ มองอสูรรับใช้ที่นั่งหมอบอยู่ด้านหลัง สโนว์ไม่กล้าสบตาผู้เป็นนายจึงเอาแต่มองพื้น “ไอ้สามทรราชมันต้องตาย วันนี้ข้าจะฆ่ามันได้หรือไม่ ข้าไม่สน ถ้ายังฆ่าไม่ได้ วันหน้าข้าก็จะกลับมาฆ่าอีกครั้งจนกว่าพวกมันจะตายกันหมด!” \"พวกเขามีสายเลือดเดียวกันกับท่าน ท่านตัดใจได้แล้วเหรอครับ\" มังกรน้ำแข็งไม่ได้สนใจว่าตัวเองจะถูกมองว่าขี้ขลาด แต่ที่ถาม มันก็แค่เป็นห่วงเจ้านายเท่านั้นเอง “ข้าเหนื่อยมากแล้ว สโนว์” เทพแห่งความมืดหันกลับมาสบตากับข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ “ข้าควรจบเรื่องนี้ได้สักที ข้าอยากพักผ่อนเต็มทนแล้ว” หากแถวนี้มีใครสักคนที่ไม่ใช่บุรุษผมยาวสีขาวและอสูรรับใช้ยืนอยู่ด้วย คนคนนั้นคงแปลกใจที่เทพผู้ชั่วร้ายกลับมีใบหน้าเศร้าหมองอีกทั้งท่าทางของเขาก็ดูเหนื่อยล้าราวกับคนใกล้จะหมดไฟแล้ว กี๊ซ! พลันก็มีเสียงแหลมสูงดังแว่วมาจากในป่าเรียกความสนใจจากชายหนุ่มและมังกรน้ำแข็งให้หันไปมอง สโนว์เพ่งมองอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในความมืดและทำให้ยอดไม้สั่นไหว พอได้คำตอบแล้วจึงหันมารายงานผู้เป็นนาย \"นายท่าน ข้าเห็นเดียโบลิครูทกลุ่มใหญ่กำลังมุ่งหน้าไปที่เมืองปาเซียโน่\" “ไอ้ต้นไม้นรกนั่นมันมาทำบ้าอะไร! ข้าจำได้ว่ามันอยู่ไกลกว่านี้!” เขาตวาดอย่างหัวเสียจากนั้นจึงตวัดสายตาไปยังทิศที่ตั้งของเมืองปาเซียโน่ แล้วก็เห็นต้นเสาสีทองที่ถูกทำลายไปแล้วค่อย ๆ ยืดความสูงขึ้นทีละนิด “เสาพลังงาน?” \"ครับ?\" “นั่นสินะ ทำไมข้าคิดไม่ถึง ตั้งแต่มีการสร้างเสาพลังงานมา ถ้าเสาพลังงานเมืองไหนถูกทำลาย เสาพลังงานต้นใหม่จะถูกส่งมาจากไฮเปอร์เรี่ยน แต่คราวนี้ไม่เหมือนกัน เสาพลังงานจะถูกสร้างใหม่ที่เมืองนั้นเลย และวิธีการสร้าง… สโนว์!” คนเดินวนไปวนมาทำหน้าเหมือนนึกอะไรออกจากนั้นก็ตวัดสายตามาทางข้ารับใช้ \"นายท่านเชิญสั่งมาเลยครับ!\" “พาข้าไปที่เมืองนั่นเดี๋ยวนี้!” ตั้งแต่เข้าเมืองมาและต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับผิดชอบ เฮเลนน่าซึ่งเป็นผู้นำในการดูแลคนเจ็บ เสบียง และการสนับสนุนหน่วยต่าง ๆ ที่กำลังทำงานก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นงานที่เพื่อนสาวทำ ตอนแรกแคทเธอรีนควรจะเป็นผู้ติดตามของเธอ แต่ไป ๆ มา ๆ อีกฝ่ายกลับกลายเป็นกรรมกรแบกหามเฉยเลย “ใครก็ได้ไปซ่อมหลังคาที!” “ทุกคนหลีกไป ข้าจัดการเอง!” เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนวิ่งมาพร้อมหิ้วกล่องใส่อุปกรณ์การช่างก่อนที่เธอจะหยิบของที่ต้องใช้ออกมาแล้วปีนขึ้นหลังคาไปซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย “ใครก็ได้ไปขนฟืนให้ที ไฟใกล้ดับแล้ว!” “ข้าขนเอง!” แคทเธอรีนวิ่งไปหากลุ่มคนที่ตัดไม้มาจากนอกเมืองพร้อมหน่วยป้องกันกำแพง จากนั้นก็ช่วยพวกผู้ชายขนฟืนที่ถูกผ่าแล้วไปเติมเป็นเชื้อเพลิงให้กองไฟที่ลุกไหม้อยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อให้แสงสว่างแก่คนทั้งเมือง “พวกแม่ครัวขาดคนช่วยนวดแป้งขนมปัง ใครว่างอยู่ไปช่วยหน่อย!” “ข้าว่างแล้ว จะไปเดี๋ยวนี้แหละ!” เจ้าของทรงผมทวินเทลวิ่งมาดื่มน้ำที่แผนกบริการรวดเดียวหมดแก้ว ก่อนจะวิ่งไปหาแผนกเสบียงแล้วช่วยงานคนที่นั่นอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย “จำได้ว่าตอนอยู่ที่ไฮเปอร์เรี่ยน เจ้าบอกว่าเจ้าจะเป็นผู้ติดตามข้า” ในช่วงเวลาพัก เฮเลนน่าที่นั่งอยู่กับเพื่อนสาวก็ถามขึ้น ในขณะที่แคทเธอรีนก็ยัดอาหารเข้าปากราวกับคนอดอยากมานาน “แต่ทำไมตอนนี้เจ้ากลับวิ่งเต้นไปทั่ว ช่วยคนโน้นคนนี้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยบ้างเลย” “ขอโทษนะ พอดีว่าข้านึกถึงตอนที่ตัวเองไปออกค่ายอาสากับทางโรงเรียนน่ะ เรื่องช่วยชาวบ้านกับแบกหามข้าวของ ข้าน่ะถนัดนัก แค่นี้สบาย ๆ แบกกระสอบปุ๋ยวิ่งขึ้นเขายังเหนื่อยกว่านี้ตั้งเยอะ” อธิบายจบ แคทเธอรีนก็ยกถ้วยน้ำซุปขึ้นมาซดทีเดียวหมดถ้วย เธอไม่สนว่าใครจะมองเธอว่าอย่างไร แต่ตอนนี้เธอต้องการพลังงาน ดังนั้นกินก่อนค่อยว่ากัน “เป็นผู้หญิงที่แปลกนะว่าไหม” “แบกหามข้าวของเหมือนผู้ชาย” “ข้าเห็นนางซ่อมหลังคาด้วย” “นางช่วยขนฟืนด้วยนะ” เสียงซุบซิบดังแว่วมาจากโต๊ะกินข้าวที่อยู่ใกล้เคียง ในกระโจมนี้เป็นจุดบริการเรื่องอาหาร แต่ส่วนใหญ่คนที่มาใช้บริการเป็นผู้หญิงมากกว่า ระหว่างกินอาหารเพิ่มพลังงาน สาว ๆ ทั้งหลายจึงมองแคทเธอรีนด้วยแววตาประหลาดใจ ยุคนี้มีผู้หญิงน้อยมากที่ทำแบบเธอ ไม่แปลกที่ใคร ๆ จะพากันมอง “เจ้าเหนื่อยมากแล้ว กลับไปเก็บแรงที่บ้านพักเถอะ” เฮเลนน่าไม่อยากให้เพื่อนออกไปใช้แรงงานอีกแล้วจึงสั่งให้อีกฝ่ายกลับ “ข้าจะแวะไปตรวจตราโรงหมอกับแผนกบริการอีกสักพักแล้วจะกลับไป ถ้าไปถึงที่พักแล้วไม่เห็นเจ้า โดนดีแน่!” สาวผมแดงขู่เสียงเขียว ๆ “โอเค กินเสร็จแล้วข้าจะกลับตามที่เจ้าบอก” “โอเคคืออะไร” คำถามนั้นทำให้แคทเธอรีนชะงัก เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตาเพื่อนครู่หนึ่ง ก่อนจะเดาว่ายุคนี้ยังไม่มีคำว่าโอเค เธอจึงเปลี่ยนคำพูดใหม่ “ข้าหมายถึงตกลง ตามใจเจ้า กินเสร็จแล้วข้าจะกลับที่พัก” “ถ้ากลับไปแล้วไม่เห็นเจ้า สาวใช้ที่ดูแลที่พักเดือดร้อนแน่” ขู่เสร็จ คุณหนูผู้สูงศักดิ์ก็เดินออกนอกกระโจมไปทันที ส่วนคนนั่งกินข้าวก็รีบจัดการอาหารตรงหน้า จากนั้นก็นำภาชนะไปเก็บตามมารยาท ’จะให้ฉันกลับไปนอนเหรอ เรื่องอะไรจะไปล่ะ ไหน ๆ ก็ไม่มีใครสั่งให้ฉันทำงานแล้ว ไปเดินเล่นดีกว่า’ หญิงสาวฉีกยิ้มกว้างจากนั้นก็เดินหนีไปดูบ้านเมืองตรงเขตอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับความเสียหายมากนัก “กรี๊ด!!!” “หนีเร็ว!” พลันก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาทำให้คนกำลังจะไปเดินเล่นหยุดชะงัก เธอหันกลับไปมองที่มาของเสียง เห็นหญิงสาวในสภาพเลือดโชกทั้งตัววิ่งหนีมาอย่างหวาดกลัว “ต้นไม้ปีศาจ!” ผู้หญิงคนนั้นตะโกนสุดเสียงก่อนจะถูกหนวดสีดำตวัดมาพันกายแล้วสัตว์ประหลาดต้นไม้ก็กระโจนออกจากที่ซ่อนจากนั้นก็ขย้ำเหยื่ออย่างโหดร้าย สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ความวุ่นวายบังเกิด ผู้คนมากมายหนีตายชนิดที่ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แถมสัตว์ประหลาดเหล่านั้นก็ปรากฏตัวตามที่ต่าง ๆ แล้วออกไล่ล่าผู้คน ทำให้หลายคนต้องแย่งที่ซ่อนกันเองเพราะความกลัวตาย “เฮเลนน่า!” ร่างบางวิ่งกลับไปหาเพื่อนสาวที่น่าจะอยู่แถว ๆ ฝ่ายเสบียงท่ามกลางความวุ่นวายของฝูงชน “มีใครเห็นคุณหนูเฮเลนน่าไหม!” เธอตะโกนถามคนที่วิ่งสวนมาแต่กลับไม่มีใครยอมบอกเธอสักคน ’เธออยู่ไหน เฮเลนน่า’ สัตว์ประหลาดพวกนั้นบุกมาแล้วนะ เธอได้แต่ร้องถามในใจแต่ปากยังคงตะโกนเรียกชื่อเพื่อนไม่ขาดสายทั้งที่รอบกายเธอมีคนน้อยลงแล้วแทนที่ด้วยซากศพเกลื่อนพื้น กี๊ซ! เสียงแหลมสูงดังแว่วมาจากทางซ้ายมือก่อนที่หนวดสีดำจะฟาดลงมา แคทเธอรีนกระโดดหลบทันควันก่อนจะชักดาบออกจากฝักแล้วฟันหนวดอีกหลายเส้นที่พุ่งมาหาเธอ “พระเจ้า! นั่นมัน…” เธอมองปีศาจต้นไม้ตรงหน้า ปากใหญ่ที่เต็มไปด้วยฟันแหลมคมนั้นกำลังเคี้ยวซากร่างของสาวใช้คนหนึ่งซึ่งเธอจำได้ว่าเป็นคนของเฮเลนน่า “กรี๊ด!!!” “เฮเลนน่า!” หญิงสาวจำเสียงร้องได้ คนที่เธอตามหาอยู่แถวนี้และกำลังอยู่ในอันตราย แคทเธอรีนเร่งฝีเท้าตามเสียงไปพลางส่งพลังเวทไปที่ดาบทำให้มันเรืองแสง “กรี๊ด!!!” “ข้ามาแล้ว!” “ช่วยข้าด้วย!” เจ้าของเสียงหวานร้องลั่น ตอนนี้ต้นไม้ปีศาจกำลังใช้หนวดสีดำพันธนาการเธอไว้ขณะที่เธอพยายามคลานหนี สาวน้อยจากอนาคตเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังแย่จึงกระโจนเข้าไปช่วย “ปล่อยนางเดี๋ยวนี้!” แคทเธอรีนตวัดดาบส่งรัศมีจันทร์เสี้ยวยาวไม่ต่ำกว่าสิบเมตรออกไป พลังนั้นพุ่งตัดร่างของต้นไม้ปีศาจจนขาดเป็นสองท่อน รวมทั้งสิ่งก่อสร้างในบริเวณนั้นก็ถูกผ่าครึ่งไปด้วย “กรี๊ด!!!” “ไม่เป็นไร ๆ มันตายแล้ว” หญิงสาววิ่งมาช่วยแกะหนวดที่พันร่างของเฮเลนน่าก่อนจะดึงเธอเข้ามากอดปลอบ ทำให้คนตัวสั่นเริ่มตั้งสติได้ “เจ้าปลอดภัยแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว…” ผลัวะ! โครม! “แคทเธอรีน!” สาวผมแดงร้องลั่นเมื่ออยู่ ๆ ก็มีหนวดสีดำเหวี่ยงมาฟาดใส่เพื่อนของเธอจนปลิวไปกระแทกกับผนังบ้านที่ทำจากหินเต็มแรง “แคทเธอรีน ๆ ไม่นะ ลุกเร็วเข้า!” “หนีไป!” เจ้าของทรงผมทวินเทลตะโกนทั้งที่สำลักลิ่มเลือด “หนีไปเฮเลนน่า! ไปหาอาชิลาสเดี๋ยวนี้! วิ่ง!!!” ร่างบางตะโกนพลางกัดฟันลุกขึ้นแล้วม้วนตัวหลบเมื่อหนวดสีดำฟาดลงมาอีกครั้งจนบ้านหลังนั้นถล่ม ส่วนเฮเลนน่าก็วิ่งหนีไปทั้งน้ำตา กี๊ซ! ต้นไม้ปีศาจที่เธอจัดการยังไม่ตายสนิท มันฝืนโจมตีเธอต่อก่อนจะอาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายกระโดดหลบเหวี่ยงหนวดไปดักทางข้างหน้า แคทเธอรีนเบิกตากว้างเพราะชะงักก่อนจะถูกฟาดอัดท้อง เรี่ยวแรงมหาศาลนั้นจึงส่งเธอลอยละลิ่วไปตกอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังทันที สัตว์ประหลาดตัวนั้นตามมาแล้วใช้หนวดพันธนาการเหยื่อไว้ บางสิ่งเลื้อยออกมาจากปากที่เต็มไปด้วยคราบเลือด หญิงสาวเห็นว่ามันมีลักษณะคล้ายลูกอ๊อด ทันใดนั้นมันก็พุ่งเข้ามาในปากเธอ! “กรี๊ด!!!” แคทเธอรีนร้องลั่นขณะดิ้นสุดแรงเกิด อยู่ ๆ ก็มีบางสิ่งกระชากต้นไม้ปีศาจออกไปพร้อมกับหนวดที่กลายเป็นน้ำแข็งแล้วแตกเป็นชิ้น ๆ จากนั้นรอบตัวของหญิงสาวก็เกิดพายุหิมะ ฝ่ามือปริศนาคว้าต้นแขนของเธอแล้วกระชากให้ลุกขึ้นนั่ง หมัดหนัก ๆ ต่อยเข้าที่ท้องส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้ หญิงสาวรู้สึกอยากอาเจียนแต่เหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่คอทำให้ไม่มีอะไรออกมา “อ้วกออกมา เร็วเข้า!” เสียงนั้นเป็นของผู้ชายแต่มันคุ้นหูมากจนเธอต้องเงยหน้ามอง ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าค่อนข้างเลือนรางทำให้เธอพยายามเพ่งมองและพบว่าอีกฝ่ายมีหน้าตาคล้ายคลึงกับคนที่เธอรู้จัก “พี่โฟรเซนเหรอ” “เวรเอ๊ย!” เสียงนั้นสบถอย่างหงุดหงิด พลันอะไรบางอย่างก็ทาบทับริมฝีปาก ทำให้นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนเบิกกว้าง ภาพตรงหน้าที่เลือนรางเด่นชัดขึ้นมาทันที แคทเธอรีนรู้สึกเหมือนถูกดูดพลัง เธอรีบยกมือผลักอกใครก็ไม่รู้ที่อยู่ ๆ ก็มาขโมยจูบแต่อีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยแถมยังโอบเอวรั้งเธอไว้อีก จากนั้นอะไรบางอย่างก็เคลื่อนไหวขึ้นมาตามลำคอจนถึงโพรงปาก ก่อนที่เขาจะยอมปล่อยเธอแล้วบ้วนบางอย่างออกมาจากปากตัวเอง “ออกมาสักที” กล่าวจบ ชายหนุ่มก็เหยียบลูกอ๊อดตัวนั้นตามด้วยขยี้จนแหลกคาเท้า “โชคดีนะยัยหนู เกือบได้ปรสิตไปเลี้ยงไว้ดูเล่นแล้ว” “ปรสิต?” หญิงสาวพยายามตั้งสติจากนั้นก็นึกถึงเรื่องที่คุณชายแห่งไฮเปอร์เรี่ยนเล่าให้ฟัง “ไอ้ตัวนั้นมันปล่อยปรสิตใส่ฉันเหรอ! ให้ตายเถอะ!” “อย่าพูดมาก ที่นี่ไม่ปลอดภัย รีบหลบไปซะ” “แล้วนายเป็นใครถึง…” แคทเธอรีนตะโกนถามด้วยคำสรรพนามในยุคของเธอแต่พอเห็นหน้าคนมาช่วย เธอก็กลืนคำพูดทั้งหมดลงคอทันที ผู้มาใหม่เป็นผู้ชายที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับโฟรเซน ขนาดตัวเท่ากันไม่เท่าไร แต่ใบหน้าและดวงตาสีเขียวของอีกฝ่ายนั้นเหมือนเขาราวกับถอดพิมพ์เดียวกัน แต่ที่ต่างกันคือคนตรงหน้าเธอมีผมยาวสีขาวแถมบรรยากาศรอบกายก็แผ่ไอเย็นจาง ๆ ออกมาตลอดด้วย แคทเธอรีนนึกถึงความฝัน ภาพของใครบางคนที่ปะทะกับสามเทพแห่งแสงปรากฏขึ้นในสมองเป็นฉาก ๆ ฟังเสียงมังกรคำรามก็ดังแว่วมาก่อนที่อสูรรับใช้จะร่อนลงมายืนตรงหน้าร่างสูง \"ข้าเห็นคนส่วนใหญ่หนีไปถึงเขตปลอดภัยแล้วครับ นายท่าน\" “แล้วไนเรล?” \"ยังอยู่ใกล้ ๆ เสาพลังงานครับ\" “ดี ข้าจะไปที่นั่น” เจ้าตัวกำลังจะเดินไปขึ้นหลังสโนว์ แต่อยู่ ๆ ก็มีมือมากระชากแขนเขา บุรุษในชุดดำหันกลับไปสบตากับหญิงสาว ใบหน้าของเธอซีดเผือดแล้วพึมพำออกมา “เทพแห่งความมืด” “เดี๋ยวก่อนนะ เจ้า…” พอเพ่งมองฝ่ายหญิงชัด ๆ แล้ว คราวนี้เทพแห่งความมืดก็เป็นฝ่ายดึงเธอเข้ามาดูใกล้ ๆ เหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง ก่อนที่สีหน้าของเขาจะตื่นตระหนกจนข้ารับใช้ทำหน้าแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นเจ้านายเป็นแบบนี้มาก่อน มันเกิดอะไรขึ้น!? “...แคทเธอรีน โฟติเน่” “!!!” ทำไมเขารู้ชื่อเธอ!
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 7 เมืองปาเซียโน่
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A