บทที่ 8 เผชิญหน้ากับเทพแห่งความมืด   1/    
已经是第一章了
บทที่ 8 เผชิญหน้ากับเทพแห่งความมืด
“ทะ... ทำไมรู้ชื่อ...” ตูม! แคทเธอรีนยังถามไม่จบก็มีเสียงระเบิดดังแว่วมาแต่ไกลเรียกความสนใจจากทั้งสอง ยังมีต้นไม้ปีศาจอีกจำนวนมากที่ยังออกอาละวาด พลันแสงสว่างที่ใจกลางเมืองก็ทำให้ทั้งสองหันไปมอง เสาพลังงานที่หักไปแล้วกำลังเพิ่มความสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่พวกสัตว์ประหลาดกลับไม่เกรงกลัวแสงที่ส่องมาเลย “เจ้าพวกนี้ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือไง” มองไปทางไหนก็เห็นแต่พวกสัตว์ร้ายวิ่งไปวิ่งมา แต่ไม่เห็นจะกรีดร้องแล้ววิ่งหนีไปทั้งที่เหนือน่านฟ้าเมืองปาเซียโน่ ดวงอาทิตย์จำลองกำลังก่อร่างสร้างตัวใหม่ “เจ้าพวกนี้กลัวแสง แต่แสงจากเสาพลังงานไม่ได้ทำให้มันกลัว” เทพแห่งความมืดกล่าวเสียงเรียบ ก่อนที่มือข้างหนึ่งจะตวัดไปด้านหลัง พริบตานั้นหอกน้ำแข็งก็พุ่งไปเสียบทะลุร่างของปีศาจต้นไม้สี่ตัวที่วิ่งมาทางนี้ “ในเมื่อรู้ดีนัก ก็สั่งให้พวกมันหยุดสักที!” หญิงสาวขยุ้มคอเสื้อคนตรงหน้าแล้วตวาดใส่อย่างเหลืออด “เป็นคนสร้างไม่ใช่เหรอ ชอบนักเหรอที่เห็นมนุษย์มากมายล้มตาย เจ้าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ทำไมต้องทำให้เกิดยุคไร้แสงตะวันด้วย!” “ข้าไม่ใช่คนสร้าง” “อะไรนะ” \"นายท่านเกลียดเดียโบลิครูทยิ่งกว่าอะไร เรื่องนี้ข้ายืนยันได้ นายท่านไม่ใช่คนสร้างพวกมัน\" สโนว์รีบยืนยันความบริสุทธิ์ของเจ้านายทันที “เดียโบลิครูท?” “ชื่อของสัตว์ประหลาดพวกนี้ไงล่ะ” เทพแห่งความมืดปัดมือเธอออกแล้วทำท่าปัดฝุ่นที่ไหล่ “ข้ายอมรับ ข้าทำให้เกิดยุคไร้แสงตะวัน ทั้งท้องฟ้าและความหนาวเย็นเกิดจากฝีมือข้า แต่ข้าไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำลายมนุษย์” “คิดว่าข้าจะเชื่อเหรอ” “มันเรื่องของเจ้า” ร่างสูงเดินไปหามังกรรับใช้แล้วดีดตัวขึ้นไปนั่งบนหลัง ก่อนจะหันมามองหญิงสาวพร้อมกล่าวทิ้งท้าย “รีบหาที่หลบซะ ยัยหนู เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง” “เดี๋ยวก่อน!” เธอตะโกนช้าไป มังกรน้ำแข็งสะบัดปีกพาเจ้านายบินขึ้นฟ้าและมุ่งหน้าไปยังทิศที่ตั้งของเสาพลังงานก่อนแล้ว “ตายล่ะ ไอ้เทพหัวหงอกนั่นจะไปทำลายเสาพลังงาน” ไม่ได้การแล้ว เธอต้องไปที่นั่น! พายุหิมะที่อยู่ ๆ ก็พัดกระหน่ำเข้ามาในเมืองทำให้ร่างสีขาวที่คอยอยู่เฝ้าเสาพลังชะงักก่อนจะตวัดสายตาไปยังทิศที่มีบางสิ่งกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ อาชิลาสที่อยู่กับเทพแห่งแสงเห็นปฏิกิริยาก็รู้ทันทีว่ากำลังเกิดอันตราย แม้จะได้รับรายงานว่าพวกต้นไม้ปีศาจบุกมา ทำให้เขาเป็นห่วงเฮเลนน่ามาก แต่เพราะหน้าที่เขาจึงไปหาเธอไม่ได้ ก๊าซ! “คุ้มกันท่านเทพ! ดูแลเสาพลังงานด้วย!” คุณชายแห่งไฮเปอร์เรี่ยนตะโกนสั่งงานพวกทหารทันทีที่ได้ยินเสียงมังกรคำราม แล้วสัตว์อสูรเจ้าของเสียงก็ปรากฏกายตามด้วยทิ้งตัวลงมาบนพื้นจนพื้นดินในบริเวณนี้ถึงกับสะเทือน “เทพแห่งความมืด” เทพแห่งแสงผู้เป็นน้องเล็กก้าวออกมาด้านหน้าเมื่อเห็นว่าใครมา “ไม่ได้เจอกันนานนะ ไนเรล” บุรุษบนหลังมังกรเหยียดยิ้มเหี้ยม นัยน์ตาสีเขียวฉายแววรังเกียจเดียดฉันท์ราวกับเห็นว่าบุคคลตรงหน้าเป็นขยะรกหูรกตาชิ้นหนึ่ง “น่าเสียดายที่พี่เจ้าสองคนไม่มาด้วย ข้าคิดถึงพวกเจ้าจริง ๆ” ’ตีกันระเบิดเถิดเทิงแหง ๆ’ แคทเธอรีนกล่าวในใจหลังจากวิ่งมาถึงบริเวณลานกว้างอันเป็นสถานที่ตั้งของเสาพลังงานกลางเมือง เธอเห็นเทพแห่งแสงผู้เป็นน้องเล็กก้าวออกมาเผชิญหน้ากับเทพแห่งความมืด หากสังเกตดี ๆ จะพบว่าดวงตาของชายในชุดขาวนั้นมีน้ำตาคลอเบ้าอยู่ “ท่านจะมาฆ่าข้าใช่ไหม” ไนเรลกล่าวเสียงเรียบโดยพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา “ทำไมท่านต้องตามล่าพวกเรา เมื่อก่อนท่านไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย ท่านใจดีกับพวกเรา ท่านรักพวกเรามาก แล้วทำไมจะต้องไล่ฆ่าพวกเราด้วย!” “นั่นสินะ เมื่อก่อนเราทุกคนก็รักกันดี” เทพแห่งความมืดนึกถึงความหลังที่คนทั่วไปไม่เข้าใจ นัยน์ตาสีเขียวฉายแววโศกเศร้าแวบหนึ่งก่อนที่มันจะกลับมาแข็งกร้าว “นึกถึงอดีตไปก็เท่านั้น ยังไงซะ ข้าก็ต้องฆ่าพวกเจ้าอยู่ดี” “ทำไมท่านใจร้ายอย่างนี้! จะกำจัดพวกเรายังพอว่า แต่ทำไมต้องสร้างสัตว์ประหลาดมาทำร้ายผู้คน แล้วยังทำลายเสาพลังงานอีก ท่านไม่ห่วงมนุษย์บ้างเหรอ!” “หุบปาก!” เทพแห่งความมืดตวาดเสียงดังลั่น คลื่นพลังไอเย็นซัดออกมาจนมนุษย์ธรรมดาที่อยู่ในบริเวณนี้ถึงกับล้มกลิ้งรวมทั้งแคทเธอรีนด้วย “ข้าเกลียดพวกเจ้า! ไอ้พวกบัดซบ! วันนี้ทั้งเจ้าและเสาพลังงานนรกนั่น ข้าจะทำลายให้หมดเลย!” “ข้ามศพข้าไปก่อนเถอะ!” ตูม! ไนเรลซัดพลังใส่ฝ่ายตรงข้ามจนเกิดระเบิดตูมใหญ่ เทพหนุ่มจึงใช้จังหวะนี้เรียกหอกสีทองออกมาแล้วตวัดสายตาไปทางอาชิลาสและทหารที่มาช่วยรักษาความปลอดภัย “พวกเจ้าสู้เทพแห่งความมืดไม่ได้หรอก ถอยไปซะ รีบไปดูแลคนอื่น ๆ ทางนี้ข้าจัดการเอง” “รับทราบ!” คุณชายแห่งไฮเปอร์เรี่ยนค้อมศีรษะก่อนจะวิ่งนำหน้าคนอื่น ๆ ไปช่วยดูแลประชาชนธรรมดาที่ต้องการความช่วยเหลือ ตูม! พริบตานั้นสายเพลิงสีดำก็พุ่งออกมาจากหมอกควันที่ปกคลุมบริเวณที่เทพแห่งความมืดปักหลักอยู่ก่อนที่มันจะระเบิดใส่เทพแห่งแสงเต็มแรงส่งผลให้ไนเรลพุ่งไปกระแทกกับเสาพลังงานจนเกิดหลุมลึกลงไป รอยร้าวมากมายปรากฏขึ้นแล้วลามไปยังส่วนต่าง ๆ ของต้นเสาทันที “อย่าลืมสิ ตอนนี้ไม่มีพี่เจ้าสองคนอยู่ด้วย แค่เจ้าคนเดียว คิดว่าจะรับมือข้าไหวเหรอ เจ้าหนู” เทพแห่งความมืดในสภาพไร้รอยขีดข่วนสะบัดมือส่งสายลมไล่หมอกควันออกไปจนหมด จากนั้นก็ก้าวตรงมาหาศัตรู “ไม่ว่ายังไง ข้าก็ต้องปกป้องเสาพลังงานให้ได้” เทพแห่งแสงน้องเล็กกัดฟันลุกขึ้นทั้งที่สำลักลิ่มเลือด หอกสีทองเปล่งแสงเตรียมพร้อมลุยเมื่อเจ้านายต้องการ “งั้นมาดูกันว่าเจ้าจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า” กล่าวจบ เขาก็สะบัดมือสร้างหอกน้ำแข็งขึ้นมากลางอากาศแล้วปล่อยหอกพุ่งไปหาเป้าหมายด้วยความเร็วสูง ไนเรลหมุนหอกสองมือสร้างบาเรียสีทองขึ้นมาป้องกันก่อนที่หอกน้ำแข็งจะกระทบเกราะป้องกัน การปะทะกันของอำนาจทั้งสองส่งผลให้เกิดคลื่นพลังซัดเป็นวงกลมออกไป พลันบาเรียก็เกิดรอยแตกร้าวก่อนจะระเบิดตูมใหญ่ จังหวะนั้นเทพแห่งแสงก็พุ่งฝ่าหมอกควันออกมาแล้วเหวี่ยงหอกใส่คู่ต่อสู้ เทพแห่งความมืดเรียกดาบออกมาแล้วตวัดคมหอกทิ้งทันควัน ไนเรลหายวับไปโผล่ด้านหลังแล้วพุ่งหอกใส่ บุรุษผมสีขาวเหวี่ยงดาบกลับไปด้านหลังปัดป้องได้ทันจากนั้นเขาก็ม้วนตัวไปด้านหน้าก่อนจะลุกขึ้นมาสะบัดดาบปัดป้องปลายหอกที่พุ่งมาไม่ขาดสาย “ความเร็วไม่พัฒนาเลยนะ เจ้าหนู” กล่าวจบ ร่างสูงก็ดีดตัวขึ้นฟ้า ไนเรลพุ่งตามขึ้นไปแล้วหมุนหอกด้วยสองมือใส่คนตรงหน้า เทพแห่งความมืดเอี้ยวตัวหลบแล้วเหวี่ยงดาบกลับไป เคร้ง! เทพแห่งแสงยกหอกตั้งรับทันควัน ดวงตาคู่นั้นเบิกกว้าง เพราะถ้าอีกนิดเดียวคอเขาคงขาดไปแล้ว จังหวะนั้นบุรุษผมสีขาวก็เตะอัดท้องส่งผลให้ผู้ใช้หอกพุ่งลงไปข้างล่าง เขารีบใช้พลังลอยตัวทำให้ลอยค้างอยู่กลางอากาศก่อนจะเบิกตากว้างเมื่ออีกฝ่ายขว้างดาบลงมา ไนเรลจึงเอี้ยวตัวหลบแทบไม่ทัน “ประสาทสัมผัสไวดีนี่” “เล่นทีเผลอเหรอ” หนุ่มผมทองกัดฟันกรอดขณะจ้องหน้าคู่ต่อสู้โดยไม่รู้เลยว่าดาบเล่มนั้นพุ่งลงไปปักพื้นเบื้องล่าง แล้ววงเวทสีดำก็ปรากฏจากนั้นก็มีแรงดึงดูดมหาศาลกระชากไนเรลลงไปกระแทกพื้นเต็มแรง ’บ้าจริง!’ ชายหนุ่มสบถในใจขณะพยายามลุกขึ้น อยู่ ๆ ดาบที่ปักอยู่บนพื้นข้างตัวก็ถูกดึงออกพร้อมปลายรองเท้าสีดำที่ก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้า เทพหนุ่มเบิกตากว้างจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นไปมองผู้มาใหม่ “ไปที่ชอบซะเถอะ” เทพแห่งความมืดยกดาบขึ้นสูงโดยหันปลายดาบลงพื้น แต่ยังไม่ทันจะแทงเป้าหมาย บางสิ่งก็พุ่งมาทางด้านหลัง ชายหนุ่มชะงักแล้วหันกลับไป ฉึก! “!!!” นัยน์ตาสีเขียวเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือหญิงสาวผมสีฟ้าอ่อน ที่สำคัญตอนนี้ดาบของเธอก็เสียบทะลุร่างของเขาด้วย “นี่เจ้า!” “เรื่องช่วยเอาปรสิตออกให้ ต้องขอบคุณ แต่ถ้าจะฆ่าท่านไนเรล ข้าคงยอมไม่ได้!” เธอจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนนี้ก่อเรื่องอีกแล้ว เพราะแค่สัตว์ประหลาดบุกเมือง ทุกอย่างก็วุ่นวายมากพออยู่แล้ว “เจ้าไม่มีทางทำลายเสาพลังงานนั้นได้หรอก” “แหม ข้าก็ไม่คิดจะทำอยู่แล้ว คนทำน่ะคือมังกรของข้าต่างหาก” สีหน้าตื่นตระหนกของเทพแห่งความมืดแปรเปลี่ยนเป็นเหยียดยิ้มอย่างผู้ชนะ แคทเธอรีนเบิกตากว้างก่อนจะหันไปมองเสาพลังงาน สูงขึ้นไปเหนือยอดต้นเสาสีทอง มังกรน้ำแข็งดินแดนหนาวเย็นบินอยู่บนนั้น ในปากก็รวมพลังกลายเป็นลูกไฟสีครามขนาดใหญ่ สโนว์ปล่อยพลังโจมตีใส่ยอดพลังงานจนเกิดระเบิดตูมใหญ่ทำให้สิ่งก่อสร้างนั้นพังถล่มลงมา ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็ทำอะไรไม่ถูก แม้กระทั่งไนเรลยังทำได้แค่มองด้วยสายตาผิดหวังที่ไม่สามารถสร้างพลังงานให้เมืองนี้ได้อีกครั้ง พลั่ก! ช่วงที่แคทเธอรีนกำลังเผลอ เทพแห่งความมืดจึงผลักเธอออกทำให้หญิงสาวกระชากดาบติดมือมาด้วย บุรุษผมยาวสีขาวยกมือกุมปากแผลขณะเซถอยหลังเล็กน้อยจากนั้นก็กล่าวขึ้น “เป็นอะไรไปล่ะ แคทเธอรีน โฟติเน่ ผิดหวังล่ะสิที่ขวางข้าไม่ได้” “ทำไมทำแบบนี้” นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนจ้องคนตรงหน้าเขม็ง เธอกำหมัดแน่นเพื่อสะกดอารมณ์ “เสาพลังงานนั่นช่วยปกป้องผู้คนมาตลอด ทำไมต้องทำลายมันด้วย ไหนบอกว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำลายมนุษย์ไง!” หญิงสาวตวาดออกมาอย่างเหลืออด “มันเรื่องของข้า” เทพแห่งความมืดเหยียดยิ้มเยาะ ท่าทางเขาจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ถ้าเป็นไปได้แคทเธอรีนก็อยากจะวิ่งไปบีบคอเขาและเอาดาบแทงร่างนั้นให้เละไปเลย จะได้สาสมกับสิ่งที่เขาทำ “ไอ้เทพน่ารังเกียจ ข้าขอให้สวรรค์ลงโทษเจ้า ตายตอนไหน ขอให้วิญญาณติดอยู่ในโลกนี้ไปจนแตกสลาย ขอให้ทรมานจนแทบกระอักไปเลย!” “ขอบคุณที่ย้ำเตือน” คนถูกแช่งชักหักกระดูกแสยะยิ้มเหี้ยม ท่าทางเขาจะไม่สะทกสะท้านเลยกับคำต่อว่าของเธอ “ตั้งแต่อยู่ในสภาพเทพแห่งความมืด ถ้าข้าตาย ข้าก็ไม่มีวันไปสวรรค์ได้อยู่แล้ว” “...” คนฟังถึงกับพูดอะไรไม่ออก “มีความสุขกันนักใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะเอาความสุขของพวกเจ้ามาเป็นของเล่นแก้เบื่อ ดีไหมล่ะ แคทเธอรีน โฟติเน่!” ชายหนุ่มระเบิดหัวเราะเสียงดังลั่นก่อนจะดีดตัวขึ้นไปบนฟ้า จากนั้นมังกรน้ำแข็งก็บินมารับเขาไป ทิ้งไว้เพียงสิ่งที่เหลือจากความวุ่นวาย แคทเธอรีนรู้สึกหมดแรง เธออยากกลับโลกของตัวเอง เธอไม่อยากอยู่ในยุคนี้อีกแล้ว พายุหิมะสงบลงเมื่อเทพแห่งความมืดจากไป ต้นไม้ปีศาจก็หนีออกจากเมืองไปด้วยเช่นกัน สิ่งที่เหลืออยู่จึงเป็นเศษซากความเสียหายที่ต้องช่วยกันเก็บกวาด แคทเธอรีนนั่งเหม่อมองเทพแห่งแสงไนเรลยืนคุมการเก็บกวาดเศษซากเสาพลังงานอยู่กับอาชิลาส ใครมีงานอะไรก็ทำไป แต่เธอไม่มีกะจิตกะใจอยากทำอะไรทั้งนั้น “ข้ายอมรับ ข้าทำให้เกิดยุคไร้แสงตะวัน ทั้งท้องฟ้าและความหนาวเย็นเกิดจากฝีมือข้า แต่ข้าไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำลายมนุษย์” คำพูดของเทพแห่งความมืดดังก้องอยู่ในห้วงความคิด ทำให้หญิงสาวยกมือกุมหน้าเพราะรู้สึกปวดหัว ถึงแม้เขาจะช่วยเธอไม่ให้ปรสิตเข้าไปในร่าง แต่จากการกระทำที่เห็น เธอไม่อยากเชื่อคำพูดของเขานัก ถ้าได้เจอกันอีก ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร เธอก็จะไม่สนใจแล้ว “โกหกทั้งเพ” ’ใครก็ได้ช่วยส่งฉันกลับบ้านที’ เธอร้องขอในใจพลางเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มืดมิด ไม่รู้สรวงสวรรค์ได้ยินคำขอของเธอหรือไม่ แต่เธออยากกลับบ้านจริง ๆ เธอไม่รู้ว่าจะอยู่ในยุคนี้ไปเพื่ออะไร ในเมื่ออยู่ ๆ ก็ทะลุมิติมาโดยไม่รู้สาเหตุว่าทำไมต้องมา เธอย้อนเวลากลับมายุคนี้ทำไมกัน “คุณพ่อ คุณแม่ หนูอยากกลับบ้าน ป่านนี้เจ้าน้องบ้านั่นสอบเสร็จหรือยังนะ สัปดาห์หน้ามีนัดดูหนังกับอลิซด้วยสิ จะว่าไปเรายังไม่ได้ถ่ายรูปกับพี่โฟรเซนเลย... นี่เราเป็นบ้าอะไรเนี่ย” คนบ่นกับตัวเองยกมือปิดหน้าแล้วถอนหายใจยาว แคทเธอรีนนั่งกอดเข่าแล้วเอาหน้าซบลงไปเพราะไม่อยากให้ใครเห็นสีหน้าของเธอในยามนี้ ทำไมรู้สึกเหนื่อยล้าแบบนี้นะ “พี่โฟรเซน ช่วยฉันด้วย ฉันอยากกลับบ้าน” ภาพความฝันที่แสดงให้เห็นภาพของโลกที่ไร้แสงอาทิตย์อีกทั้งหญิงสาวที่นั่งรอกอดเข่าซึมเศร้าอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังทำให้ชายหนุ่มที่เผลอหลับไปต้องสะดุ้งตื่น พอเห็นว่าภาพตรงหน้าคือคู่หมั้นที่นอนอยู่บนเตียงพยาบาลในสภาพเจ้าหญิงนิทรา เขาจึงรู้ว่าตัวเองกลับสู่โลกแห่งความจริงแล้ว แต่ภาพที่เขาฝันเห็นเมื่อกี้มันเหมือนจริงมาก! “ตอนไหนจะตื่นสักที ขี้เซาจริงเด็กคนนี้” โฟรเซนส่ายหัวไล่ความคิดเหล่านั้นออกไปก่อนจะเดินมาดูแคทเธอรีนแล้วช่วยห่มผ้าให้เพราะรู้สึกว่าอากาศเย็นลง เมื่อมองออกไปทางหน้าต่างห้องพัก เขาก็เห็นท้องฟ้าสีเทาที่มีละอองสีขาวโปรยปรายลงมา คุณชายตระกูลอินเซนิโอเปิดประตูกระจกแล้วออกไปยืนที่ระเบียง เขายื่นมือออกมารับหิมะก่อนจะคลี่ยิ้มน้อย ๆ จากนั้นก็หันไปมองคนป่วยที่ยังหลับไม่ได้สติ “เธอน่าจะตื่นขึ้นมาดูนะ” เขากล่าวเสียงเบา มือข้างหนึ่งหยิบโทรศัพท์มือถือที่เปิดรูปหนึ่งค้างไว้ นั่นคือภาพถ่ายเมื่อปีที่แล้ว ช่วงในวันที่หิมะตก เขากับแคทเธอรีนไปเล่นสกีด้วยกันที่ต่างเมืองและอลิซเป็นคนถ่ายรูปก่อนจะส่งมาให้ทีหลัง ถ้าไม่ติดว่าเกิดเรื่องขึ้น เขาคงชวนเธอไปที่นั่นอีก ตอนนั้นเขาไม่น่าปล่อยเธอไว้คนเดียวเลย
已经是最新一章了
加载中