ตอนที่ 13
ตึ๋ง ตึ่ง ตึ๋ง ตึ่ง ตึ๋ง
ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าฉันเหมือนกับนางงามเลยล่ะ นอกจากเดินถือป้ายแล้วฉันยังต้องส่งยิ้มไปให้ทุกคนตลอดทาง ราวกับว่าฉันรู้จักทุกคนเป็นสิบๆปี และฉันก็รักพวกเขามากกก แต่จริงๆแล้วไม่เลยล่ะ ฉันไม่รู้จักเลยสักคนเดียว และที่สำคัญตอนนี้ฉันยิ้มจนเมื่อยหน้าไปหมดละ
คือที่ฉันยิ้มไม่หยุดแบบนี้มันก็เป็นเพราะว่า มันมีรางวัลพาเหรดมิตรภาพ แบบว่าถ้าขบวนไหน แสดงถึงความเฟรนลี่ และมิตรภาพมากๆ โรงเรียนนั้นก็ได้รางวัล แล้วฉันคนถือป้ายไง..เป็นหน้าเป็นตาที่สุด ก็เลยต้องยิ้มแบบนี้ไง
และที่ฉันจำเป็นต้องทำ ก็เพราะฉันยังแอบรู้สึกผิดเบาๆ ที่ทำให้พี่กั้งและพี่ช่าเดือดร้อนเรื่องการแต่งตัวของฉัน...เพราะฉะนั้นฉันจะทำหน้าที่ฉันให้ดีที่สุด
ที่สำคัญ ใครๆก็บอกว่าฉันยิ้มแล้ว โลกมันสดใส เพราะฉะนั้น ฉันต้องยิ้มเยอะๆ
และตอนนี้ในที่สุด ฉันก็เดินมาถึงสนามปลายทางสักที..
อีกนิดเดียว ทุกอย่างก็จะจบแล้ว ฉันจะได้เจอเฮียโซ่แล้วว!!
“วันนี้ เป็นวาระดิถีอันดีงามที่พวกเราจะเปิดงานการแข่งขันกีฬาสี ประจำปี....”
อืม อดทนรอฟังประธานเปิดพิธีก่อนสินะ ใจเย็นๆไว้ ลุงแกพูดไม่นานหรอก
“กระผมมีความยินดี ที่ได้มาเป็นตัวแทนสำคัญ ในการเปิดงานของการร่วมโรงเรียนที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 5 โรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน..”
เฮียโซ่ รอเดย์แป๊บนึงน้าา
“ผมอยากชื่นชมกับการทำงานของพวกคุณทุกคน ที่ทำมันอย่างมืออาช..”
ลุงคะ ตอนนี้หนูเมื่อยขา เมื่อยแขนที่ถือป้ายสุดๆ คุณลุงจะรู้มั้ย ช่วยรีบพูดตัดจบได้สักทีเถอะค่ะ แล้วไอ้รองเท้าคัดชูเนี่ย ก็ไม่รู้จะกัดเก่งไปไหน กัดอยู่ได้ มันเจ็บเท้าโว้ยยย..
แต่เอาเถอะฉันว่าลุงน่าจะพูดใกล้จบแล้ว อดทนอีกนิดละกัน
“วันนี้ผมได้เห็นทั้ง 5 โรงเรียนแล้ว ผมรู้สึกเข้าใจเลยว่า..ทำไมทุกโรงเรียนถึงได้มีแต่คนอยากเข้ามาเรียน..”
ลุงงงง นี่มันปาไป 5 นาทีได้แล้วนะะ แล้วนี่มันแดดเมืองไทย หรือฉันกำลังอยู่ในนรกกันแน่เนี่ย! ฉันจะเป็นลมแล้วนะ
“...ขอเปิดงานอย่างเป็นทางการ ณ บัดนี้!”
ปัง!!
เย่ ในที่สุด!!
ตะละลึงตึดตึง ตึดตึง ตึดตึง...
ถึงแม้ว่าฉันจะบ่นแบบนั้น แต่ฉันก็ยังคงมีสปิริตแรงกล้าที่จะยิ้มสู้แดด สู้หน้าทุกคน และก้าวเท้าที่มันยืนจนแข็ง ค่อยๆเดินออกไปจากสนามที่มันเหมือนอยู่ในนรกตรงนี้สักที
นี่ฉันเคยคิดได้ไง ว่างานถือป้ายมันสนุก บอกเลย ฉันขอเปลี่ยนคำพูด!!
บอกเลย ปีหน้าฉันไม่มีทางยอมรับมาทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว!!
มาทรมานตัวเองชัดๆ
ตะละลึงตึดตึง ตึดตึง ตึดตึง...
“เลิศมากกกก ดีมากกกจ้าาา ทุกคนนน โรงเรียนเราต้องได้รางวัลแน่ๆ พี่ขอบใจพวกน้องมากๆเลยนะคะ”
ทันทีที่ถึงปลายทาง หลังจากพ้นสนามไปแล้ว พี่กั้งก็เอ่ยคำพูดขอบคุณขึ้นมาทันที..
“เอาล่ะ หลังจากนี้ก็แยกย้ายกันได้แล้ว พี่ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะจ้าา ”
ทันทีที่พี่ช่าพูดจบ ฉันก็เดินเข้าไปขอโทษขอโพยพี่กั้งและพี่ช่าอีกครั้ง แต่พวกพี่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังชมเสียอีก ก็เพราะว่าที่ฉันใส่ชุดนักเรียนครั้งนี้ มันทำให้กระแสของโรงเรียนเราดังขึ้นมาในทันที แบบอารมณ์ว่า โรงเรียนเรากลายเป็นดูรักสถาบัน ไม่มีชุดไหนสวยเท่าชุดสถาบันตัวเองแล้วไรงี้ นั่นล่ะ กลายเป็นว่า ตั้งแต่เดินยันมาถึงสนาม ก็มีแต่คนพูดถึงฉันเต็มไปหมด และรวมถึงความแตกต่างนี้ทำให้ฉันเด่นสุดในบรรดาคนถือป้ายของ 5 โรงเรียนไปในทันที
เพราะเหตุนี้ ก็เลยทำให้พี่กั้งและพี่ช่า กลายเป็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ และพอใจกับผลงานครั้งนี้มาก
และหลังจากที่ฉันคุยกับพี่ๆจบ ฉันก็เดินเลี่ยงออกมานอกสถานที่แห่งนั้นทันที..และฉันก็เดินเพียงคนเดียว!
ส่วนไอ้บอลลูนนะเหรอ.. พี่กั้งบอกว่า มันไปส่องผู้ชายอีกโรงเรียนและตอนนี้ก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ให้มันได้อย่างนี้สิ
ฉันจะไม่หงุดหงิดเลย ถ้ามือถือ และข้าวของทุกอย่างของฉันก็อยู่กับมันแบบนี้! แล้วฉันจะโทรหาเฮียโซ่ได้ยังไง..
คิดแล้วก็เซ็ง อย่าให้เจอตัวนะ ฉันจะด่าให้ยับเลย..
เอาเป็นว่า ฉันคงต้องเดินไปหาไอ้ฟ้าและไอ้น้ำก่อนละกัน..เพื่อให้มันโทรไปตามไอ้บอลลูนให้ฉันอีกที
..อืม..พวกนั้นน่าจะอยู่ตรงโซนสวัสดิการของโรงเรียนของฉัน..
เพราะฉะนั้น น่าจะ..ต้องเดินไปทางนี้สินะ..
แต่ทำไม ตรงนี้คนมันน้อยจังหว่า? ฉันเดินมาถูกมั้ยเนี่ย
“ส่งเงินมึงมา!”
แต่แล้วระหว่างทางที่ฉันกำลังงงและสับสนอยู่นั้น ฉันก็ได้ยินเสียงดังมาแต่ไกล..และมันก็ทำให้ต่อมอยากรู้อยากเห็นของฉันมันทำงานขึ้นมาทันที..
“อะไร มีแค่นี้เหรอวะ!”
ตอนนี้ฉันกำลังแอบซุ่มดูอยู่ตรงทางเดินหนึ่ง..ตรงที่มันเป็นมุมที่เห็นที่มาของเสียงอย่างชัดเจน และมันก็ทำให้ฉันเห็นเหตุการณ์ที่ไม่น่ามองสักเท่าไร
มันเป็นภาพของกลุ่มผู้ชายสูงอายุหน่อยประมาณ 5 คน ค่อนข้างผอมแห้งกรังและเซไปมาเหมือนคนเมา พร้อมกับกำลังถือมีดข่มขู่และรีดไถเด็กนักเรียนจากโรงเรียนไหนก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ดูจากเสื้อนักเรียนแล้ว ไม่ใช่โรงเรียนของฉันแน่นอน
“อยู่โรงเรียนหรูขนาดนี้ แม่งมีติดตัวแค่พันกว่าบาท..”
“ผะ ผม..มีเท่านี้จริงๆครับ ย อย่าทำอะไรผม เลย”
“พี่ ดูสร้อยคอมันสิ ผมว่าหลายตังอยู่นะ”
“ไม่ได้นะ อันนี้สร้อยแม่ผม”
“หึหึ แม่มึงไม่ใช่แม่กูนี่หว่า”
อ่าวววววว ...พูดแบบนี้ก็สวยสิ! ขึ้นเลย ..ของขึ้นเลยฉัน!!!
และในทันทีที่ไอ้คนที่ในกลุ่มนั่นเรียกว่าพี่ทำท่าจะกระชากสร้อยคอนั้น
ฉัน..เดย์ผู้ผดุงความยุติธรรม ก็ไม่สามารถที่จะทนดูอยู่เฉยได้อีกต่อไป
“หยุดนะ ไอ้พวกชั่ว!!”
แต่แล้วในขณะที่ฉันกำลังยืนยิ้มอย่างภาคภูมิใจในการเปิดตัวการเป็นฮีโร่ของตัวเอง.. อยู่ๆ ก็มีผู้ชายอีกคนโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ ตะโกนพร้อมกับดึงฉันให้เซถอยมาจากบริเวณที่ยืนอยู่ในทันที..
“ออกไป ตรงนี้มันอันตราย!”
ใครวะเนี่ย?
หน้าคุ้นๆแหะ.. แต่..ผู้ชายโรงเรียนนี้ฉันไม่รู้จักเลยสักคนนี่นา ..เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ตอนนี้ ขอโฟกัสเรื่องไอ้พวกชั่วทั้ง 5 คนก่อนดีกว่า
“นายนั่นล่ะถอยไป.. ฉันจะจัดการไอ้พวกชั่วนี่เอง!”
“เธอนั่นล่ะถอย”
อะไรของเขานะ.. ฉันไม่ได้อ่อนแอเหมือนภายนอกสักหน่อย
และหลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็มายืนบังหน้าฉันแทน ส่วนไอ้ผู้ชายนักเลงหัวไม้อีกฝั่งก็หันมามองเป็นตาเดียวกัน ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะเอ่ยปากพูดออกมา
“มีเหยื่อมาอีก สองคนว่ะ ..พวกมึง..ไปจับมันไว้ ท่าทางดูรวยเหมือนกันใช่เล่นทั้งคู่”
ฉันรวยก็จริง แต่บอกไว้เลยตอนนี้ฉันไม่มีเงินติดตัวสักบาท ขนาดมือถือก็ยังไม่มีเลย ถ้าจะมีของมีค่าตอนนี้ก็คงมีแค่สร้อยละมั้ง..สร้อยคอจี้รูปผีเสื้อ ที่เฮียโซ่เคยให้ฉันเมื่อวันเกิดปีที่แล้ว.. จริงๆมันก็เป็นสร้อยธรรมดานั่นล่ะ แต่สำหรับฉันมันมีค่ามากกกกก เพราะมันเป็นของเพียงชิ้นเดียวที่เฮียโซ่เคยให้ฉัน และถ้าใครจะมาเอาสร้อยเส้นนี้ไป หึ! ต้องผ่านศพฉันไปก่อน!
แล้วที่สำคัญ..ถ้าคิดว่าจับฉันง่ายก็ลองเข้ามาดูสิ!!
ทันทีที่ไอ้ตัวหัวหน้าเอ่ยปากออกมาแบบนั้น ผู้ชายในกลุ่มสองคนก็เดินมุ่งหน้าตรงมาทางฉันทันที พร้อมกับถือมีดเล่มเล็กมาคนละด้าม ในขณะที่..ผู้ชายอีกคนที่เข้ามาทีหลัง เริ่มตั้งท่าเตรียมต่อสู้
แต่ไม่ได้สิ งานนี้ฉันเห็นก่อน ฉันควรเป็นฮีโร่สิ ไม่ใช่เขา!!!
และฉันก็ชอบเวลาที่ได้ต่อสู้แบบนี้เป็นที่สุด นั่นเลยทำให้ฉันวิ่งเข้าไปจู่โจมผู้ชายนักเลงตรงหน้าแทน แทนที่จะรอพวกมันเข้ามาหาและจัดการด้วยความเร็วตามที่ฉันถนัดและฝึกซ้อมมาตั้งแต่เด็กกับพวกเฮียๆ
ฉันคว้าข้อมือของคนที่จะเข้ามาโจมตี พร้อมบิดลงจนมีดร่วงลงไปที่พื้น และไม่พลาดที่จะยกเท้าเตะข้อมือของชายอีกคนหนึ่งอย่างแม่นยำ จนมีดร่วงหล่นไปตามๆกัน และทันทีที่มีดทั้งสองร่วงลงสู่พื้น ฉันก็บิดมือผู้ชายคนแรกด้วยความแรงอีกครั้งจนผู้ชายคนนั้นล้มไปกองกับพื้น ก่อนที่ฉันจะปล่อยมือนั่นเป็นอิสระแล้วก็จัดการผู้ชายอีกคนด้วยการโจมตีแบบเดียวกัน
เพียงพริบตา ตอนนี้ทั้งสองก็ล้มลงไปนอนร้องโอดครวญที่พื้นเป็นที่เรียบร้อย..
ฉันหยิบมีดด้ามหนึ่งขึ้นถือในมือแทน..และก็ไม่พลาดที่จะใช้เท้าเขี่ยมีดอีกอันให้กระเด็นออกไปไกลมือจากไอ้พวกที่นอนอยู่ที่พื้นด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้มันมีโอกาสหยิบมีดมาโจมตีฉันได้
“เอ๋..มีดนี้ ถ้ามันเข้าไปอยู่ในเนื้อ มันจะเป็นยังไงน้าาา..หึหึ”
ฉันเอ่ยปากพูดออกมา พร้อมกับยกมีดขึ้นมาพร้อมกับทำท่าจะจิ้มลงไปบนแผ่นหลังของผู้ชายคนหนึ่งที่นอนจับข้อมือตัวเองอยู่..และนั่นเลยทำให้ทุกคนตกใจกลัวกันใหญ่..แต่ว่า ฉันไม่ทำหรอก
“ฮ่าๆ ล้อเล่นนะ..”
ฉันพูดพร้อมกับโยนมีดที่ฉันถือให้กระเด็นออกไปไกลบริเวณนี้ ก่อนที่จะมุ่งเดินเข้าไปหา ผู้ชายที่มีกลิ่นเครื่องดื่มมึนเมาคละคลุ้ง..อีกสามคนอย่างช้าๆ
“ปล่อยผู้ชายคนนั้นซะ..แล้วฉัน จะไว้ชีวิตพวกแก!!”
โอ๊ยย ฉันเท่ห์อะ!!
“พวกมึง จัดการมันสิวะ มันก็แค่ผู้หญิง”
และก็เป็นอีกครั้ง ที่ไอ้ตัวที่น่าจะเป็นหัวหน้า สั่งอีกสองคนให้มาโจมตีฉัน..และก็เช่นเดิม..ไอ้พวกนี้อะนะ เป็นคู่ต่อสู้ที่ยิ่งกว่าเด็กน้อยซะอีก ยังไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของเฮียโซ่ฉันเลย
ผลักะ
ผลักะ
ไม่นาน ตอนนี้อีกสองคนก็ล้มลงไปนอนกองกับพื้นเป็นที่เรียบร้อย.. แม้ว่าพวกนั้นจะพยายามลุกขึ้นมาก็ตามที แต่มันก็ดูทรมานใช่ย่อย..เพราะว่าฉันบิดเส้นเอ็นของมันก็พลิกกันหมดทุกคนยังไงล่ะ
โอ๊ยยยยยย
“พูดดีดีไม่ฟังใช่มั้ย แต่เอาเถอะ ฉันใจดี ฉันจะให้โอกาสอีกครั้ง ส่งของทั้งหมด คืนผู้ชายคนนั้นไปซะ ”
ฉันเอ่ยปากพูดพร้อมกับกอดอก และอดที่จะภูมิใจกับการเป็นฮีโร่ช่วยเหลือคนอื่นไม่ได้..
โอ๊ยยย ทำไมฉันเก่งอย่างนี้นะ
ฉันอยากให้พวกเฮียๆ ป๊าม๊า มาเห็นฉันจังเลย จะได้เลิกคิดสักทีว่าฉันอะเป็นเด็ก..
หมับ!!
แต่แล้วอาจจะเป็นเพราะว่าฉันมัวแต่ยิ้มภาคภูมิใจกับผลงานไอ้พวกผู้ชายที่นอนที่พื้นนานไปหน่อย..ตอนนี้ ฉันก็เลยโดนไอตัวที่เป็นหัวหน้ารวบตัว เอาแขนมาล็อกคอของฉันไว้..ก่อนที่จะเอามีดมาจี้ที่เอวในทันที..
“หึหึ สาวน้อย ยังไงเธอก็คือผู้หญิง..จะว่าไปสวยๆแบบนี้ มันน่า..”
ปั่ก!!!!
“อ๊ากกกกกก”
ตุ๊บ!!
อันที่จริง แค่เอามีดมาจี้เอวที่หลังฉัน ฉันสามารถหลุดพ้นออกมาได้ง่ายมาก แต่ว่า..การที่ผู้ชายคนนี้หล่นไปกองกับพื้นในตอนนี้ มันไม่ใช่ฝีมือฉัน!!!
หรือฝีมือของผู้ชายอีกคนหนึ่งเหรอ?
แต่พอฉันหันไปดูก็เจอผู้ชายคนนั้นยืนมองมาที่ฉันนิ่งๆเท่านั้น..
ไม่ใช่ฝีมือเขา..
ฉันเลยหันไปมองผู้ชายที่ล็อกคอฉันก่อนหน้าที่นอนที่พื้นในตอนนี้ทันที ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และภาพที่เห็นก็ทำให้ฉันเข้าใจในทันที
เพราะตอนนี้ผู้ชายคนนั้นกำลังนอนจมกองเลือดที่ไหลออกมามากมายตรงแขนข้างที่ล็อกคอฉันไว้เมื่อครู่ และตรงแขนนั้น ก็มีวัตถุสีเงินวาวด้ามจับสีดำที่ปักอยู่กลางแขน และไอ้ตรงด้ามจับนั่นล่ะที่ทำให้ฉันรู้ทันที ว่านั่นเป็นมีดของใคร..ที่ปามา
ควับ!
“เฮียโซ่!!!”