ตอนที่ 23
Soh part
ทันทีที่เดย์วิ่งออกไป ด้วยท่าทางและสีหน้าที่ร่าเริง เหมือนเดย์คนเดิม..ทุกคนก็เปลี่ยนสีหน้ายิ้มเป็นกลับมาหน้านิ่งอีกครั้ง พร้อมกับถอนหายใจเล็กน้อย
ก็จะไม่เปลี่ยนสีหน้าได้ไงล่ะ..เรื่องที่พวกผมเพิ่งไปสร้างวีรกรรมกันมา..เบาซะที่ไหน
นั่นมันแก๊งมาเฟียเลยนะที่พวกผมไปจัดการ และตอนนี้เรื่องทั้งหมด ก็ถึงหูของพ่อของทุกคนเป็นที่เรียบร้อย.. และคาดว่า..เรื่องนี้คงยาวแน่ๆ
แต่ก่อนหน้าที่เดย์จะมา พวกเราก็คุยและเตรียมรับมือกันเรียบร้อยแล้ว ส่วนในตอนนี้ เรื่องที่ไอไนท์อยากจะคุย..ก็คงเป็นเรื่องใหม่..
“เอาล่ะ ไอ้โซ่ กูมีสองเรื่องอยากคุยกับมึง เรื่องแรก.. สรุปมึงกับไอ้เคนดีกันแล้ว?..”
อืม..อันที่จริงที่ผ่านมาผมกับมันก็เป็นแบบนี้อยู่ตลอด ทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่นานเดี๋ยวผมก็ดีกับมัน และก็เป็นแบบนี้เสมอ..ดีกันแบบเนียนกันไป เหมือนกับในตอนนี้
“กู..ก็ไม่ได้โกรธอะไรมันสักหน่อย หึหึ..”
ผมพูดออกมา พร้อมกับยักคิ้วส่งไปทางไอ้เคน...
และผมก็เปลี่ยนความคิดใหม่แล้ว บางกลุ่มก็สมควรเป็นศัตรูดีกว่าเป็นพันธมิตร..อย่างไอ้กลุ่มนี่ มันก็สมควรล่ะที่โดนพวกผมทำแบบในวันนี้..
และทันทีที่ผมพูดจบ ไอ้เคนก็ยักคิ้วส่งกลับมาทางผม ก่อนจะพูดประโยคเลียนแบบผมขึ้นมา
“กูก็ไม่ได้โกรธอะไรมันสักหน่อย ..พวกมึงเข้าใจอะไรผิดป่ะ”
และทันทีที่มันพูดไปอย่างนั้น ผมก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อยพร้อมกับกำมือยื่นไปตรงหน้า ก่อนที่มันจะยิ้มและกำมือมาชนผม พร้อมกับ..ทำโค้ดมือกับผมเหมือนอย่างเดิม..ที่ทำกันบ่อยๆ ก่อนที่ทั้งผมและมันจะหัวเราะให้กัน..
แป่ะ แป่ะ ปึก!!
หึ..ผมบอกแล้วว่า ยังไงผมกับมันก็เป็นเพื่อนกัน
“ไอ้สัส พวกมึงนี่นะ เด็กจนโต ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ ทะเลาะกันจนพาพวกกูเครียดตาม แต่แล้ว อยู่ๆก็ดีกันเฉ๊ยย”
“เออ แล้วแม่งเรื่องที่ทะเลาะก็เรื่องไร้สาระทั้งนั้น อย่างตอนเด็กนะ ทะเลาะกันแต่เรื่องแย่งหุ่นยนต์กันดั้มกัน ตอนนั้นกูล่ะปวดหัวฉิบหายกับพวกมัน..”
ผมและไอ้เคนทำเพียงยิ้มให้ไอ้ซันและไอ้ไนท์ที่พูดออกมาเล็กน้อย ก่อนที่ผมจะเอ่ยออกมาบ้าง
“คนที่หาเรื่องชวนทะเลาะคือมันโว้ย ไม่ใช่กู..”
“สัส อย่ามาโทษกู มึงนั่นล่ะตัวดี กวนตีนพวกกูบ่อย แถมทะเลาะกับคนอื่นไปทั่ว เนี่ย ในนี้มีใครที่ไม่เคยมีเรื่องกับมึงบ้าง ขนาดไอ้เค มึงยังเคยทะเลาะกับมันเลย ไอ้สัสโซ่..”
หึ..ก็อย่างที่มันว่า.. ผมมีเรื่องกับไอ้พวกนี้ครบหมดทุกคน..แต่ผมก็ไม่ได้ตั้งใจไง
อย่างไอ้เคที่เห็นเงียบๆแบบนี้ ผมก็เคยทะเลาะกับมัน ตอนนั้นพวกเรายังเด็ก แล้วผมก็ชอบลองวิชาไง เวลาได้กระบวนท่าต่อสู้ใหม่ๆ ผมก็มักจะมาลอง มาต่อสู้กับเพื่อนผมทุกคน แต่ประเด็นมันไม่ใช่เรื่องที่ผมสู้กับเพื่อนผมหรอก มันอยู่ที่ว่า ตอนนั้นผมสู้กับเพื่อนผมจนเบื่อแล้ว ก็เลยไปลากไอ้คินน้องไอ้เคมาสู้ด้วย และด้วยความที่ผมไฟแรงในวิชา ผมเลยต่อยไอ้คินหลายท่าไปหน่อยจนมันร่วง และต้องนอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์ และผมก็เพิ่งมารู้ที่หลังว่าจริงๆแล้วแม่งไอ้คินมันป่วยอยู่ตั้งแต่แรก.. แต่แม่งมันไม่บอกผมไง..มันบอกว่า มันเองก็อยากสู้กับผม
แต่ก็นั่นล่ะ เพราะเรื่องนี้เลยเป็นสาเหตุที่ไอ้เค ไม่คุยกับผมไปเป็นอาทิตย์..
เออ แต่จริงๆมันก็แทบไม่คุยกับใครอยู่แล้วนะไอ้เหี้ยนี่
แต่ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่ายังไง ไปๆมาๆ ผมกับมันก็กลับมาเป็นเพื่อนกัน จนทุกวันนี้เฉยเลย
ก็อย่างที่บอก ดีกันแบบเนียนๆกันไป.. งานถนัดผมเลยล่ะ หึหึ
เพื่อนกัน ก็ต้องกระทบกระทั่งกันบ้าง จริงมั้ยล่ะ แต่ไม่ว่ายังไง เราก็กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมอยู่ดีนั่นล่ะ
“หึหึ”
“กูบวกหนึ่งไอ้เคนเลย ..แม่ง จะมีวันไหนที่ไอ้โซ่แม่งทะเลาะกับพวกเราทั้งกลุ่มพร้อมกันมั้ยวะ แต่ถ้ามีจริงนะ ..ก็ไล่มันออกจากกลุ่มไปเลย! เพราะยังไงพวกเราก็พวกเยอะกว่า”
“สัสซัน มึงจะรวมหัวกันแบนกูเหรอวะ”
“เออ น่าสนุก ..ถ้าตอนนั้นมึงอยากให้พวกกูเอากลับเข้ากลุ่มเหมือนเดิม มึงต้องยอมคลานเข่ามา แล้วก็บอกพวกกูว่า... พี่ไนท์ พี่ซัน พี่เคน พี่เคคร๊าบบ ผมขอโทษ”
แปะ!!
“กูไม่ไปโว้ยย มึงไล่กูยังไง กูก็ไม่ไป สัส!”
ผมพูดพร้อมกับส่ายหัวกับความคิดของไอซัน และไอเคน ก่อนจะยกนิ้วส่งไปหาพวกมันที่กำลังพูดคุยเรื่องที่ผมจะออกจากกลุ่มพวกมันอย่างสนุกปาก พร้อมกับตบมือแท็กไฟล์ทกันอย่างยียวนกวนประสาท
และดูจากสายตาแล้ว ไอ้เคก็คิดไม่ต่างจากผม..
แต่แล้วไอ้เคก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนที่มันจะหันไปหาไอไนท์แล้วเอ่ยปากออกมาด้วยเสียงเรียบ..แต่แม่ง ร้าย..
“หึหึ..กูว่าจบเรื่องนี้ แล้วไปต่ออีกเรื่องดีกว่าว่ะ..หึหึ”
และทันทีที่ไอเคพูดจบ ทั้งห้องก็หันมามองผมด้วยสายตาที่เหมือนทุกครั้ง สายตาที่รู้ดี รู้ว่าผมคิดยังไงกับผู้หญิงที่เพิ่งออกจากห้องนี้ไป..และมันก็เป็นเรื่องจริง
“..กูว่ามึงก็น่าจะรู้ดีว่าเรื่องอะไร มึงจะสารภาพกับกูได้ยัง?”
ทันทีที่ไอ้ไนท์พูด ทุกคนก็เหมือนเป็นฝ่ายสนับสนุนไอ้ไนท์ ที่เปิดปากพูดออกมาตามๆกัน โดยประเดิมที่ไอ้ซันเจ้าเดิม.. ตามมาด้วยไอ้เคน..และคนที่เงียบอย่างไอ้เคก็ไม่พลาด..เช่นกัน
“หึ..มึงหนีแข่งตีดาบที่มึงไม่เคยพลาด เพื่อไปงานกีฬาสีที่มึงรำคาญ? คืออะไรวะ?”
“..มึงติด GPS ไว้ที่มือถือเดย์ทำไมวะ..ไอโซ่ หึหึ”
“ชัดขนาดนี้ ยอมรับเถอะมึง..หึหึ”
แน่ล่ะ ตอนที่ช่วยเดย์ พวกมันคงอยากถามผมมาตลอดว่า..ทำไมผมถึงติด GPS ไว้ที่มือถือเดย์..ตามคำที่ผมบอกพวกมันไป.. แต่ตอนนั้นพวกมันคงไม่มีกะจิตกะใจอยากรู้เรื่องนี้หรอก แต่ตอนนี้ในเมื่อทุกอย่างมันเคลียร์แล้วไง
แต่จริงๆแล้วผมไม่ได้ติดไว้ที่มือถือหรอก ผมติด GPS ไว้ที่จี้ผีเสื้อที่ห้อยที่สร้อยคอของเดย์ต่างหากล่ะ.. และนั่นมันก็คือของขวัญวันเกิดที่ผมให้เธอไปเมื่อปีที่แล้ว
ส่วนหนึ่ง เพราะผมรู้ ว่านับวันเดย์จะยิ่งซนและยิ่งดื้อ และอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทำให้ผมตัดสินใจติด GPS เอาไว้ และรู้แน่ๆว่าของที่ผมให้เธอ เธอต้องใส่ติดตัว ตลอดเวลา และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
และอีกเหตุผลหนึ่ง ก็เพราะมันทำให้ผมสามารถไปหาเดย์ได้อย่างง่ายดายในทุกๆครั้งที่ผมอยากไปเจอ..
และเรื่องตอนที่พูดเมื่อครู่ เรื่องงานกีฬาสี ทุกคนจะแปลกใจตอนเดย์พูดก็ไม่แปลก เพราะวันนั้นทุกคนยกเว้นไอ้ไนท์ เรามีนัดแข่งตีดาบสำคัญ.. แต่ผมก็บอกพวกมันว่ามีธุระไม่ว่าง.. แต่ก็ไม่ได้บอกว่าไปไหน เลยทำให้วันนั้นพวกมันต้องแข่งกัน สามคน ในขณะที่อีกฝั่งมีสี่คน แต่สุดท้าย พวกมันก็ชนะอยู่ดี
ส่วนเรื่องที่ผมไปไหนในวันนั้น วันนี้พวกมันก็คงรู้แล้วล่ะ.. ว่าผมไปหาเดย์..
ที่ผ่านมาที่ผมพยายามทำเฉย พยายามทำนิ่งกับเดย์ตลอด เพราะว่าผมไม่อยากรู้สึกกับเดย์มากไปกว่านี้.. ถึงผมจะมีความรู้มากมาย ผมสามารถเริ่มช่วยพ่อผมบริหารกิจการได้แล้ว แต่ผมก็รู้ดีว่า ผมยังเด็กเกินไปที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง เพราะนี่ขนาดผมพยายามสร้างช่องว่างกับเธอแล้ว ผมก็ยังรับรู้ได้ถึงอารมณ์รุนแรงที่ผมมีต่อเธอในทุกๆเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ผู้หญิงคนนี้ก็มีอิทธิพลกับผมอย่างมาก มากจนบางครั้งผมก็หงุดหงิดกับความรู้สึกตัวเอง
ทุกครั้งที่ผมสมองว่างผมก็มักจะเผลอคิดถึงเธอเสมอ และก็บ่อยครั้งที่ผมต้องไปตาม GPS เพื่อดูว่าเธอทำอะไร และนั่นแหละคือเหตุบังเอิญ..ที่ผมมักจะบอกเธอเสมอเวลาเจอกัน
รวมไปถึงร้านเค้กที่เธอชอบกินบ่อยๆ ที่เมื่อผมรู้ ผมก็ขอซื้อกิจการนั้นต่อทันที..และให้ทางร้านจัดเตรียมเค้กและน้ำสตรอเบอร์รี่ปั่นของร้านที่เธอชอบมาส่งที่บ้านผมทุกวัน เผื่อวันไหนที่เดย์มาบ้านผม เธอก็จะได้กิน รวมถึงมีสำรองในร้านด้วยทุกครั้งเผื่อผมและเดย์ไปร้าน ผมจะได้ไม่ต้องรอคิว..
อันที่จริง ถ้าผมไม่เจอเดย์ ผมคงมองว่านี่มันเป็นเรื่องงี่เง่าและไร้สาระสุดๆ..แต่แล้วไงล่ะ เพราะในความเป็นจริงแล้ว ผมเจอเดย์ และที่ผมได้ทำแบบนี้ มันก็ทำให้เดย์มีความสุขทุกครั้ง เพราะฉะนั้น ผมก็คิดว่ามันคุ้มแล้วล่ะ.. กับความไร้สาระนี้..
ผมไม่รู้หรอกว่า ถ้าผมแสดงตัวยอมรับความรักที่เดย์มีมาให้ ชีวิตของผมและเดย์มันจะเป็นยังไงบ้าง แต่ที่แน่ๆ ถ้าผมยอมรับไป เดย์คงเข้าหาผมมากขึ้น และผมอาจจะพลั้งทำอะไรไปที่ไม่เหมาะไม่ควร เหมือนกับหลายครั้งที่เวลาเธอถึงเนื้อถึงตัวผม ออดอ้อนผม..มันก็ทำให้ผมต้องข่มอารมณ์ทุกครั้ง
ผมยังไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้น เพราะผมยังอยากถนอมผู้หญิงคนนี้ไว้จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม
ตอนนี้..เดย์ยังเด็กเกินไป
และที่สำคัญ ผมกลัวว่าถ้าผมถลำไปลึกมากกว่านี้ ในตอนที่ผมยังคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แบบนี้ ผมอาจจะเป็นบ้าเพราะเธอ หรือ ผมอาจจะทำให้เธออึดอัดจนเธอเกลียดผมไปก็ได้ ผมเลยคิดว่า รอให้ผมพร้อมในเรื่องของการควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้มากกว่านี้ก่อน รอให้เดย์โตมากกว่านี้ก่อน วันนั้นผมค่อยแสดงความรู้สึกนี้ออกไป
แต่ว่า ตอนนี้เดย์เองก็เริ่มจะโตขึ้น และเริ่มมีผู้ชายเข้าหาเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหมือนกับไอ้สายฟ้าอะไรนั่น ที่ผมพอจะรู้ตั้งแต่วันนั่นที่กีฬาสีแล้วว่า.. มันต้องมาจีบเดย์แน่
วันถัดมาผมก็เลยไปจัดการพูดคุยขู่ฆ่ามันไป เหมือนกับที่ผมเคยทำกับคนอื่นๆที่มีท่าทีจะยุ่งกับผู้หญิงของผม รวมถึงไอ้เปอร์อะไรนั่นด้วย และทุกครั้งก็ได้ผลเสมอ
แต่อย่างวันนี้ที่เดย์พูดขึ้นมา มันทำให้ผมรู้ว่า ไอ้สายฟ้ามันไม่เหมือนกับคนอื่นๆสินะ.. และที่สำคัญ..อีกไม่นานก็ต้องมีคนแบบไอ้สายฟ้าสอง สายฟ้าสาม เข้ามาหาเดย์แน่ๆ
เพราะฉะนั้น ตอนนี้คงเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วล่ะ ที่ผมจะได้เวลาแสดงตัวให้ทุกคนได้รู้..ว่าผมต่างหาก คือตัวจริง..และเดย์ก็ต้องเป็นผมคนเดียวเท่านั้น!
“อืม..กูรักน้องมึงว่ะ ไอไนท์ เพราะฉะนั้น น้องมึง กูจอง!!”