ตอนที่ 29   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 29
นี่ก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้วหลังจากวันนั้น วันที่ผมตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อผู้หญิงที่ผมรักมาตลอดออกมา และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ มันคือช่วงเวลาแห่งความสุขของผมจริงๆ ความสุขง่ายๆแค่เพียงผมได้เห็นใบหน้าที่น่ารักของเธอ ได้ยินเสียงสดใสที่พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดของเธอ ได้เห็นรอยยิ้มที่อ่อนหวานน่าทะนุถนอมของเธอ ได้จับมือเล็กที่นุ่มนิ่มบอบบางของเธอ ได้พาเธอไปยืนมองฝูงผีเสื้อหลากหลายสีสันที่เธอชอบ ได้พาเธอไปกินร้านขนมเค้กของหวานที่เธอโปรดปราน ได้ให้เธอซ้อนมอเตอร์ไซค์พร้อมกับกอดผมไว้แน่นๆ ได้ใช้เวลาในทุกๆวินาทีที่มีเธอข้างกาย รวมถึงได้คิดถึงเธอตลอดเวลาแม้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันหรือห่างกันเหมือนกับในตอนนี้ก็ตาม .. ผม..คิดถึงเธออีกแล้วสินะ..ทั้งๆที่ผมเพิ่งจะส่งเธอไปบ้านหลังจากเลิกเรียนเมื่อครู่นี่เอง.. แต่จะว่าไปอันที่จริง มันเป็นอย่างนี้มานานแล้ว..แต่เธอไม่เคยรู้ตัว..เพราะผมเก็บซ่อนอารมณ์ ความรู้สึกเก่ง ไม่แสดงออกมาให้ใครรู้..แม้ว่าไอ้พวกเพื่อนผมมันจะพอจับสังเกตได้ก็ตาม แต่ก็ถือว่า นี่คืองานถนัดของผมอยู่ดี.. ผมมักจะแสดงตัวตนออกมาในรูปแบบที่ผมอยากให้คนเห็นเท่านั้น แต่ตัวตนจริงของผมเป็นอย่างไร..มีเพียงผมเท่านั้นที่รู้ดี ผมไม่ชอบให้ใคร..มาอ่านใจของผม...เพราะ..มันต้องเป็นผมต่างหากที่อ่านใจของอีกฝ่าย..และที่สำคัญการได้ปั่นอีกฝ่าย หรือได้เล่นเกมกับความคิด เล่นเกมกับจิตใจคน มันคือความสุขอีกอย่างหนึ่งของผมเลยล่ะ..หึหึ อ้อ..รวมไปถึงเล่นเกมกับจิตใจของผมเองด้วยนะ..ผมว่า..มันท้าทายดี..และตอนนี้ผมก็กำลังอยู่ในช่วงท้าทายอย่างที่ว่าอยู่..เพราะผมเองก็ตั้งเป้าหมายไว้แล้วว่า..ผมจะถนอมเธอ จนถึงวันที่...เราแต่งงานกัน.. อย่างไอ้เค มันก็มีความคิดของมันที่จะมีผู้หญิงที่รักแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น แม้ว่าทุกคนจะมองว่าไร้สาระ แต่สำหรับผม ผมเข้าใจมันดี เพราะผมก็คิดไม่ต่างกัน.. ผมอยากจะถนอมเดย์ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่ามันจะทรมานตัวเองไม่น้อย..แต่ก็อย่างที่บอก ผมชอบเล่นเกม..และผมก็ไม่ชอบความพ่ายแพ้ซะด้วยสิ แล้วมาดูกันว่า..ระหว่างเดย์และความตั้งใจในการเล่นเกมของผม อะไรมันจะเหนือกว่ากัน.. บอกแล้ว ว่าเล่นเกมกับจิตใจคน..มัน..สนุก หึหึ “กลับมาแล้วเหรอโซ่..” แต่แล้วในขณะที่ผมกำลังเดินตรงเข้าไปในตัวบ้าน..เสียงทุ้มของคนที่ผมไม่ได้เจอหน้ามาเป็นเดือน คนที่สำคัญในชีวิตอีกคนของผมก็ดังออกมา “พ่อ..กลับมาแล้วเหรอครับ.. ผมนึกว่าพ่อจะกลับมาอาทิตย์หน้าซะอีก” ก็อย่างที่ผมทักไป ผมเข้าใจว่าพ่อผมจะกลับมาเดือนหน้าซะอีก.. หรือว่าจะเป็นเพราะเรื่องนั้น.. เรื่องที่ผมเพิ่งรู้เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้เอง และคิดเอาไว้ว่าจะรอถามพ่อ ในวันที่พ่อกลับมา.. แต่ยังไม่ทันที่่ผมจะเอ่ยปากถามอะไร ฝั่งผู้เป็นพ่อก็เอ่ยเสียงเรียบขึ้นมาก่อน “โซ่.. พ่อมีอะไรจะคุยด้วย..” หลังจากที่พ่อพูดด้วยใบหน้าเคร่งเครียดพร้อมน้ำเสียงเรียบนิ่ง พ่อก็เดินนำไปยังห้องทำงานส่วนตัวทันที ทำให้ผมเลิกคิดเรื่องต่างๆในหัว ก่อนจะเดินตามไปพร้อมกับลุงเชิด ที่ทำหน้านิ่งและซีเรียสไม่ต่างกัน.. “ที่ผ่านมา งานที่อเมริกามีปัญหาก็เลยทำให้พ่อต้องไปอยู่ดูแลที่นั่นหลายเดือน.. เลยไม่ได้ดูแลที่ฝั่งไทยเลย เหนื่อยมั้ย” ทันทีที่ถึงห้อง พ่อผมก็เริ่มเอ่ยประโยคออกมา และปกติท่านก็ไม่เคยถามไถ่หรือพูดกับผมแบบนี้ และก็อย่างที่ท่านว่า ผมดูแลกิจการที่ไทยมาหลายเดือนแทนพ่อผมแล้ว ทำให้ผมรู้อะไรบางอย่าง.. “เรื่องงานผมไม่เหนื่อยหรอกครับ เพราะลุงเชิดช่วยผมหลายอย่าง..แต่..ผมมีเรื่องอยากจะถามพ่อ” “อืม..” “ทำไมที่ดินตรงนั้นที่เป็นของเรา ที่พ่อวางแผนจะสร้างโรงแรม.. ตอนนี้ถึงได้เป็นโปรเจคสร้างห้างสรรพสินค้าของลุงอวิ้นได้” จากวันนั้น ที่ผมเห็นเอกสารเกี่ยวกับโครงการโรงแรมกึ่งห้างสรรพสินค้าของพ่อผมที่ลุงอวิ้น พ่อของไอ้ไนท์ทำหล่น ผมก็ตัดสินใจโทรไปถามพ่อในอาทิตย์ถัดมา เพราะผมรอพ่อกลับมาไม่ไหว และผมก็สบายใจในทันที เมื่อพ่อบอกว่าพ่อเป็นคนให้ลุงอวิ้นเอง ..พ่อผมอยากให้ลุงช่วยดูตัวโปรเจคนี้ให้อีกแรง มีหลายความเห็นมันก็ดีกว่าความเห็นของพ่อคนเดียว แม้ว่า..ตอนนั้นผมจะรู้สึกแปลกใจ เพราะปกติพ่อผมเป็นคนยึดมั่นในความคิดของตัวเอง..ไม่เคยขอคำปรึกษาใคร แต่ผมก็ไม่ได้สงสัยหรือถามอะไรและก็เชื่อไปตามนั้น เวลาผ่านล่วงเลยไป ผมเองก็งานยุ่ง รวมถึงมีเรื่องราวต่างๆมากมาย ทำให้ผมปล่อยผ่านเรื่องนี้มาตลอด จนกระทั่งเมื่อสองวันก่อน ผมได้รับข้อมูลว่าที่ดินตรงนั้นกำลังจะทำการใหญ่ นั่นก็คือสร้างห้างสรรพสินค้า..และมันจะไม่อะไรเลยถ้า ...เจ้าของโปรเจคนั่นมันคือลุงอวิ้น..และไม่ใช่พ่อของผม!! ผมรู้มาตลอดว่าที่ดินตรงนั้น เป็นที่ที่ทำเลดี และใครก็อยากได้กันทั้งนั้น มีคนมาขอซื้อพ่อผมมากมาย แต่พ่อผมก็ไม่ขาย ไม่ว่าจะให้ราคาสูงขนาดไหนก็ตาม หรือจะสนิทมากแค่ไหนอย่างไอ้ไนท์ หรือลุงอวิ้น ที่อยากได้ที่ดินนั่นมาตลอด แต่พ่อผมก็ไม่ขายให้.. แต่วันนี้ทำไมกลับมีโปรเจคของตระกูลเหยียนมาอยู่ตรงที่ดินตรงนั้นได้.. และหลังจากที่ผมพูดไปเช่นนั้น พ่อของผมก็เงียบและมองหน้าผมนิ่งไป ก่อนที่จะเอ่ยเสียงเรียบ “อืม.. นั่นล่ะคือสิ่งที่พ่ออยากคุยกับแกวันนี้..” “…” “วันนั้นที่พ่อบอกว่า..พ่อเป็นคนให้ไอ้อวิ้นช่วยดูโปรเจคนั่น จริงๆแล้วมันไม่ใช่หรอก พ่อไม่เคยให้มันดู” หื้ม..หมายความว่ายังไง? “ตอนนั้น พ่อคิดว่ามันเป็นปัญหาของพ่อกับเพื่อน เลยไม่อยากให้โซ่มาเกี่ยว พ่อเลยต้องโกหกไปแบบนั้น.. และตั้งแต่วันนั้น พ่อกับเชิดก็ตามสืบเรื่องนี้กันลับๆมาตลอด...และตอนนี้ทุกอย่างมันก็เริ่มชัดเจนแล้ว..” ตอนนี้ผมได้แต่มองหน้าพ่อและลุงเชิดนิ่งๆ แต่ในใจผมกลับเต้นรัว..กลัวจะได้ยินเรื่องที่ผมไม่อยากจะได้ยิน แต่ในที่สุด..ผมก็ได้ยิน “ฟังให้ดีนะโซ่ ...ตระกูลเหยียนและแบล็กวูฟ พวกนั้นมันหักหลังพวกเรา” เหยียน? แบล็กวูฟ? หักหลัง? งั้นเหรอ.. ตอนนี้ผมพูดอะไรไม่ออกเลยสักคำจริงๆ..มันได้แต่นิ่งและงงไปหมด จนกระทั่งพ่อของผมเริ่มเปิดปากพูดออกมาอีกครั้ง “จริงๆแล้ว ที่ลูกได้เป็นลูกบุญธรรมของแบล็กวูฟ มันไม่ใช่เพราะต้องการเกี่ยวดองความสัมพันธ์หรอก..” นี่มัน..เรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย!.. “เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ บลัดเชนของเราไปขัดขาผู้มีอิทธิพลรายหนึ่งเข้าให้..และเราก็สู้มันไม่ได้..และด้วยความที่พ่อเป็นเพื่อนของไอ้เรียว มันก็เลยเสนอให้เราเข้าร่วมกับมัน และตกลงกันอย่างลับๆว่า มันจะช่วยจัดการปัญหาให้..แต่ต้องแลกกับที่ดินแปลงนั้นและตัวลูก..เพราะมันเห็นว่าลูกไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปและเข้ากับเคนได้ดี ถ้ามีลูกเพิ่มไว้ในแบล็กวูฟมันก็จะทำให้สิ่งที่มันต้องการเข้าใกล้ความสำเร็จมากกว่าเดิม...นั่นคือการที่ให้เคน..ได้เป็นผู้นำคนถัดไป” และเมื่อพ่อผมพูดจบ ผมก็เข้าใจทุกอย่างในทันที.. ผมเข้าใจแล้วล่ะ ว่าทำไมที่ผ่านมาผมถึงไม่เคยรู้สึกรับรู้ถึงคำว่า ลูกบุญธรรมของพ่อไอ้เคนเลยสักนิด ก็เพราะว่าท่านไม่เคยมองเห็นผมเป็นลูกบุญธรรมเลยยังไง ไม่ว่าจะเป็นการเจอกัน..ที่ผมไม่เคยเจอตัวต่อตัวเลยสักครั้งได้ยินเพียงผ่านโทรศัพท์เท่านั้น และก็เป็นเสียงที่ได้ยินเพื่อที่จะสั่งคำสั่งผมเท่านั้นด้วย..คำสั่งที่สั่งมาให้ผมทำสิ่งต่างๆ ที่เสมือนกับเป็นมือขวาของไอ้เคนมาตลอด ไม่ว่าจะให้ผมเป็นคนเตือนสติไอ้เคน และในหลายๆครั้งก็คือคำเตือนที่พ่อมันฝากมาเตือนแต่ไม่ให้ผมบอกมันว่ามาจากพ่อของมันเอง ให้ผมถ่ายทอดความรู้ความสามารถที่มีให้มันทำให้บททดสอบของมันที่ได้รับจากแบล็กวูฟสำเร็จ รวมไปถึงให้ผมเป็นคนช่วยเคลียร์กับศัตรูมากมายที่ไอ้เคนสร้างเอาไว้อยู่เสมอ..เหมือนกับ แก๊งอินทรีย์ในตอนนั้นไงล่ะ.. และผมก็รู้ดีว่า ผู้นำของแบล็กวูฟคนถัดไป ต้องมีผลงานจากบททดสอบของสภา แต่ว่า..ผมก็ไม่เคยได้รับการทดสอบนั่นเลย..จนกระทั่งโปรเจคคาสิโนล่าสุดนั่นล่ะ ที่ผมได้พอมีส่วนร่วมบ้าง แต่แล้วสุดท้าย..ผมก็โดนคำสั่งลับๆจากพ่อไอ้เคนโดยตรง ให้เลิกทำ และปล่อยให้เคนทำคนเดียว ตอนนั้นผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ..แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วล่ะ.. แต่เอาเถอะ..ไอ้ตำแหน่งผู้นงผู้นำอะไรนั่น ผมไม่ได้อยากจะเป็นอยู่แล้ว และทุกคำสั่งที่ผมทำนั้นผมก็ไม่ได้ทำเพราะมันคือคำสั่ง แต่ผมทำ เพราะไอเคนเป็นเพื่อนของผมก็เท่านั้นเอง.. แต่ว่า..เรื่องนี้ มันเกี่ยวข้องยังไงกับการที่พ่อไอ้ไนท์เอาที่ดินพ่อผมไป? ผมเลยฟังพ่อผมพูดต่อ..เมื่อเห็นว่าผมนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไรออกมา “ตอนนั้น พ่อกับมันตกลงกันว่า...เมื่อไรที่เคนได้กลายเป็นโอยะบุน ผู้นำแบล็กวูฟคนต่อไป..เมื่อนั้น พ่อจะขอที่ดินคืน และมันก็ตกลงตามนั้น แต่ว่า เมื่อหลายเดือนก่อน อยู่ๆมันก็คืนที่ดินให้พ่อ..มันบอกว่าจะช้าจะเร็วยังไงก็ต้องคืน..ทำให้พ่อเริ่มโปรเจคใหญ่...แต่ว่าพ่อเพิ่งมารู้เมื่อไม่นานมานี้เองว่า..ใบโฉนดที่ดินที่พ่อถือในมือนั้น เป็นของปลอม..ส่วนวันที่รับโอนที่ดินวันนั้นก็เป็นเอกสารปลอมเหมือนกัน.. และของจริงทุกอย่าง อยู่ที่..ไอ้อวิ้น..” แม้ว่าผมจะไม่ได้เปิดปากพูดอะไรออกมา รวมถึงสีหน้าที่นิ่งเรียบ..แต่ความรู้สึกของผมไม่ได้นิ่งอย่างที่แสดงออกไปหรอก..เหมือนกับพ่อของผมตอนนี้..ที่ผมเองก็พอจะรู้ว่าพ่อ ก็เจ็บใจไม่ต่างกัน “พ่อไว้ใจพวกมัน..พ่อเลยไม่ตรวจสอบอะไร จนวันที่พ่อรู้นั่นล่ะว่าตรงนั้นกำลังจะมีโปรเจคใหญ่ พ่อถึงได้รู้ว่า..พ่อโดนหลอกมาเกือบปี..” กรอดดด.. ผมเคยบอกแล้ว..สิ่งที่ผมเกลียดที่สุดก็คือการหักหลัง..โดยเฉพาะการหักหลังที่มาจากเพื่อนสนิท.. และไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นคนที่ผมเคยเคารพแค่ไหน..แต่สถานะมันก็พร้อมที่จะเปลี่ยนได้ทุกเมื่อเช่นกัน.!! ว่าแต่.. “..แล้ว..ข้อมูลโปรเจคพ่อ ไปอยู่ในมือลุงอวิ้นได้ยังไง?” โปรเจคของพ่อผมในตอนนั้น ถ้าพ่อไม่ได้ให้ แล้วโปรเจคลับที่มีเฉพาะผม พ่อ และลุงเชิดรู้ 3 คน ไปอยู่ในมือของบุคคลที่ 4 ได้ยังไง..ในเมื่อรายละเอียดนั้น อยู่แต่ในห้องทำงานของพ่อเท่านั้น.. หลังจากที่ผมเอ่ยปากถามออกมา..พ่อกับลุงเชิดก็มองหน้ากันโดยทันที.. ก่อนที่ลุงเชิดจะเป็นคนเอ่ยปากออกมาเองแทนพ่อของผม “นี่ครับ..กล้องวงจรปิดย้อนหลังที่ผมลองสืบดู ทุกวันภาพทุกอย่างก็ราบรื่นปกติดี ไม่มีใครเข้าห้องนาย ..แต่ว่ายกเว้น..วันนี้” ลุงเชิดพูดพร้อมกับหยิบมือถือและเปิดให้ผมดู ก่อนจะเห็นเป็นภาพบันทึกหน้าห้องและในห้องพ่อของผม ที่เมื่อเล่นไปได้สักพัก อยู่ดีๆ มันก็กลายเป็นหน้าจอสีดำ..ประมาณ 10 นาที แล้วก็กลับมาเป็นภาพบันทึกปกติเหมือนเดิม ภายใน 10 นาทีนั่นล่ะ.. คือสิ่งที่ทุกคนสงสัย..ว่ามันเกิดอะไรขึ้น.. แต่แล้ว..ลุงเชิดก็มองหน้าผมอึกอัก เหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่กล้าพูด..และผมก็พอจะรู้ว่าลุงเชิดจะพูดอะไร แต่ก็ต้องข่มใจและอารมณ์ ที่จะเอ่ยปากออกมา “พูดมาเถอะครับ..” “คือ..จำเครื่องดักจับสัญญาณกล้องวงจรปิดที่คุณซันสร้างได้มั้ยครับ..เออ ผมเกรงว่า..เออ ที่หน้าจอมันดำ มันเป็นเพราะเครื่องตัวนั้น..เพราะมันเป็นวันนั้นเป็นวันที่คุณซันเอามันมาเสนอในเวอร์ชันที่สมบูรณ์และ..วันนั้นก็เป็นวันที่เพื่อนคุณโซ่มารวมตัวกันที่บ้านนี้ ..เออ แล้วก็ยังมี...หนูเดย์ด้วย” “ไม่จริง..” ทันทีที่ลุงเชิดพูดมาอย่างนั้นผมก็โพล่งปากออกมาอย่างแผ่วเบาเหมือนคนไม่มีแรงจะพูดในทันที.. แม้ผมจะรู้อยู่แล้วว่าลุงเชิดจะพูดแบบนี้ออกมา แต่พอผมได้ยิน..ผมก็ไม่อยากจะเชื่อ..ไม่อยากเชื่อจริงๆ ...มันต้องไม่ใช่สิ มันต้องไม่ใช่เพื่อนผม และต้องไม่ใช่เดย์.. “ครับ ผมก็ไม่อยากเชื่อแบบนั้นเหมือนกัน..ผมเห็นพวกคุณหนูมาตั้งแต่เด็ก..ผมก็ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แต่ว่า..คนที่เข้าออกบ้านนี้ได้ง่ายๆ คนที่รู้ตำแหน่งภาพกล้องวงจรปิดทั้งบ้านแบบนี้ มันก็มีอยู่ไม่กี่คน....” ใช่..มันมีไม่กี่คนจริงๆ..แต่ว่ามันก็มีเรื่องบางอย่าง ที่ผมรู้ แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น.. ที่ผ่านมา ผมคือคนที่ชอบท้าทายและมักจะสร้างอะไรที่ขัดกับไอ้พวกนั้นอยู่เสมอ..ถ้าหากว่าภาพจากกล้องวงจรปิด มันหายไปเพราะสิ่งที่ไอ้ซันสร้างจริง.. สิ่งที่ผมสร้างมาอีกอันก็ต้องได้ผล.. เพราะมันคือกล้องวงจรปิดที่ไม่มีผลต่ออุปกรณ์ที่ไอ้ซันสร้าง และผมก็เอาไปวางตามจุดต่างๆในบ้านโดยที่ไม่มีใครรู้..และหนึ่งในจุดนั้นก็คือ..หน้าห้องทำงานพ่อผม หลังจากที่ผมคิดได้เช่นนั้น ผมก็จัดการเปิดมือถือและใส่ข้อมูลวันที่และเวลาที่สงสัยอย่างแม่นยำลงไปในทันที..พร้อมกับภาวนาว่าขออย่าให้เป็นอย่างที่คิด..จนกระทั่งภาพเคลื่อนไหว..ปรากฏออกมา.. ผมเปลี่ยนเป็นกำมือถือแน่นจนแทบอยากจะบีบให้แตกก่อนที่จะเอ่ยเสียงของบุคคลในภาพออกมาอย่างเจ็บใจ “ไอ้เคน....”
已经是最新一章了
加载中