ตอนที่6 รับมาราคาถูกและขายดี   1/    
已经是第一章了
ตอนที่6 รับมาราคาถูกและขายดี
ตอนที่6 รับมาราคาถูกและขายดี เซี่ยวลั่วหยาวมองดูเขาด้วยดวงตาสีดำกลมโต เงยหน้ามองเขาและนิ่งงันไปชั่วครู่ จากนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าควรทักทาย “ฮาย สวัสดี” เขาดูหยิ่งมาก เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและทำเสียงออกมาจากจมูก “อืม” เช่นนั้นก็ถือว่าเป็นการตอบกลับแล้ว ผู้ชายหล่อๆมักจะเจ้าอารมณ์ สามารถเข้าใจได้ เฮยๆ เซี่ยวลั่วหยาวคิดว่าตัวเองโชคดีมาก ที่มาทำงานวันแรกก็ได้พบชายหนุ่มรูปงาม “ฉันชื่อเซี่ยวลั่วหยาว เป็นผู้ช่วยชั่วคราวของตาแก่เฉียว ใช่ๆ เธอเห็นตาแก่เฉียวบ้างไหม อ่อใช่แล้ว ตาแก่เฉียวนั่นก็คือ ประธานเฉียวของเราไง” เซี่ยวลั่วหยาวเป็นเหมือนหนูตัวเล็กๆเธอมองซ้ายมองขวาและมองรอบๆเพื่อหาประธาน “ไม่เห็นว่าเขาจะอยู่ในห้อง?” ชายรูปงามยิ้มมุมปากและหรี่ตามองเธอ “เธอมองอะไรใต้โต๊ะ? ประธานเฉียวสามารถเข้าไปอยู่ในนั้นได้งั้นเหรอ?” “เฮ้ๆ ฉันก็แค่มองไปรอบๆ พี่ชาย ทำความรู้จักกันหน่อย ฉันชื่อเซี่ยวลั่วหยาว” ชายหนุ่มรูปงามตอบเพียงแค่ไม่กี่คำ ก็ทำให้เซี่ยวลั่วหยาวตาโตและเกือบจะหยุดหายใจ นี่....ชายรูปงามคนนี้ มีทักษะในการพูดมากๆ ไม่ง่ายที่จะเจอชายรูปงามเช่นนี้ เซี่ยวลั่วหยาวโน้มตัวเข้าหาชายรูปงามคนนั้นและกระพริบตา “เฮ้ๆ ในตอนที่ตาแก่เฉียวยังไม่กลับมา พวกเรารีบมาคุยกันดีกว่า เธอชื่ออะไร?” ชายหนุ่มรูปงามก้าวเท้าไปข้างหน้าสองก้าวและค่อยๆนั่งลงบนโซฟาและกุมมือตัวเองไว้พูดอย่างเย็นชา “เฉียวอีฟาน” “ฮ่าๆ เฉียวอีฟานเหรอ เป็นชื่อที่ดีเป็นชื่อที่....เฉียว เฉียวอะไรนะ เฉียว...อี...ฟาน?” เซี่ยวลั่วหยาวหน้าซีดเซียว “ทำไมฟังแล้วคุ้นหูเหรอ?” ในตอนนั้นประตูก็เปิดขึ้น หลิวโอเฉินได้เดินข้ามา นำเอกสารมาให้เฉียวอีฟานและพูด “ประธานเฉียว คุณช่วยดูหน่อยว่านำไปปรับมาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ใช้ประโยคแบบนี้เหมาะสมหรือยัง?” ดวงตาของเซี่ยวลั่วหยาวเบิกกว้างขึ้นไปอีก มองดูหลิวโอเฉินและหันไปมองชายหนุ่มรูปงามที่นั่งอย่างใจเย็น รองประธานหลิวเรียกหนุ่มรูปงามนี้ว่าอะไร?....เฉียว ประธานเฉียว? เฉียวอีฟานมองดูไฟล์งานและพยักหน้า “แบบนี้โอเคแล้ว” หลิวโอเฉินก็ได้ถืองานและเดินออกไป แต่ก็เหลือบมองเซี่ยวลั่วหยาวที่กำลังยืนอย่างหวาดกลัว เมื่อหลิวโอเฉินเดินออกไปแล้ว ในห้องกว้างๆนี่จึงมีเพียงแค่เซี่ยวลั่วหยาวและเฉียวอีฟาน เฉียวอีฟานค่อยๆเงยหน้ามองเซี่ยวลั่วหยาวอย่างเยือกเย็น เขาพูดและยิ้ม “พูดสิ เมื่อกี้ยังพูดไม่หยุดอยู่เลย ทำไมตอนนี้ไม่พูดแล้วล่ะ?” ใบหน้าของเซี่ยวลั่วหยาวเปลี่ยนเป็นสีแดงและพูดติดๆขัดๆ “คุณ คุณ คุณคือเฉียว ประธานเฉียว?” ชายคนนั้นเลิกคิ้วซ้ายขึ้นและริมฝีปากบางๆก็ได้พูดขึ้น “อืม ตาแก่เฉียว” เซี่ยวลั่วหยาวรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลออกมา “ทำไมคุณคือประธานเฉียว?” ประธานไม่ใช่ว่าต้องเป็นคนแก่ที่แก่มากๆหรอกเหรอ? “งั้นเธอคิดว่าใครควรจะเป็นล่ะ?” สมองสั่งการของเซี่ยวลั่วหยาวได้หยุดลงไปชั่วขณะ และใช้น้ำเสียงที่รู้สึกผิดพูดขึ้น “ฉันผิดไปแล้ว เป็นครั้งแรกที่ฉันเจอประธานเฉียว คิดไม่ถึงเลยว่าประธานจะยังหนุ่มขนาดนี้และยังมีความหล่อมีออร่าอีกด้วย” เฉียวอีฟานคิดอยากจะหัวเราะแต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้ “เราสองคนไม่ได้เจอกันครั้งแรก” “เอ๊ะ!” เซี่ยวลั่วหยาวเงยหน้าขึ้นและมองเขาอย่างประหลาดใจ เธอยอมฟังเขาอย่างจำนน ผู้ชายคนนี้ทำมาจากวัสดุอะไร ทำไมถึงได้หล่ออะไรขนาดนี้ ดวงตาเธอมองเขาอย่างไม่ละสายตา เฉียวอีฟานยกขาซ้ายของเขาวางลงบนขาขวาอย่างเอื่อยๆและอ้าแขนกว้างเอนหลังพิงโซฟาและมองไปยังเซี่ยวลั่วหยาวและถอนหายใจ “เธอ ความผิดพลาดที่แย่ที่สุด คือลืมในสิ่งที่ไม่ควรลืม!” “หา? งั้นคือเรื่องอะไรล่ะ?” เซี่ยวลั่วหยาวคิดแล้วคิดอีกใช้สมองคิดวกไปวนมา เฉียวอีฟานเริ่มแสดงความเฉยชาบนใบหน้าและมีท่าทีไม่พอใจ “เธอลืมจริงๆเหรอ?” เซี่ยวลั่วหยาวเกาหัว “คุณพูด เราเคยเจอกันที่ไหน?” ชายรูปงามหรี่ตามองเธอเป็นท่าทีที่ชัดเจน เซี่ยวลั่วหยาวเงยหน้ามองเพดาน ภายในสมองเธอก็คิดไม่ออก นึกถึงเรื่องอื่นๆและไม่มีความคิดแวบขึ้นมาเลยว่าเธอเคยเจอเขามาก่อน “ฉันไม่เคยเจอคุณมาก่อน...” “โง่จริงๆ” หนุ่มรูปงามให้คำพูดทิ้งท้ายไว้กับเซี่ยวลั่วหยาว เซี่ยวลั่วหยาวทำได้เพียงแต่ยิ้ม ถ้าเธอเคยเจอเขา ถ้าเป็นผู้หญิงเธอก็ต้องจำได้จากความงดงามนี้แน่นอนเธอต้องจำได้ และถ้าเป็นผู้ชายหล่อขนาดนี้ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่เซี่ยวลั่วหยาวไม่โผเข้าหาเขา เฉียวอีฟานเหลือบมองเซี่ยวลั่วหยาวและลุกขึ้นอย่างขัดใจ ทันใดนั้นเซี่ยวลั่วหยาวก็รู้สึกว่าประธานเฉียวคนนี้สูงมาก จนเธอต้องมองหา ช่องว่างความสูงนี้ ... ไม่ควรถูกล่อลวงใช่ไหม? มันยากที่จะก้มตัวลงเพื่อมาจูบ เฉียวอีฟานเดินไปยังโต๊ะทำงาน ใบหน้าเล็กของเซี่ยวลั่วหยาวก็เดินเกาหัวและตามเขามา “เซี่ยวลั่วหยาว...” “คะ?” “คืนนั้นเธอโวยวายทั้งคืน ฉันเหนื่อยกับเธอมาก เธอจากไปโดยที่ไม่บอกฉันก่อนเลย?” “เอ๊ะ?หา?” เซี่ยวลั่วหยาวจ้องมองไปยังแผ่นหลังของเขา เฉียวอีฟานเดินไปยังเก้าอี้ประธานและนั่งลง หมุนเก้าอี้เล็กน้อยเพื่อหันไปทางเซี่ยวลั่วหยาวและถอนหายใจ “ตอนฉันอาบน้ำ เธอก็หนีออกไป ใช่มั้ย?” “…..” หลังจากความเงียบเกิดขึ้น เซี่ยวลั่วหยาวก็เริ่มเข้าใจ “อ่อ!” ด้วยเรียกร้อง เธอก้าวถอยหลังและเอามือขึ้นมาปิดหน้าอกไว้ แสดงท่าทางป้องกันตัวและใช้สายตาดุดัน “คุณ คุณเป็นผู้ชายขายบริการคนนั้นใช่ไหม?” ผู้ชายขายบริการ? เฉียวอีฟานนิ่งเงียบรู้สึกอับอาย นิ้วเรียวยาวรวมกันเป็นหนึ่งและทุบลงบนโต๊ะ “คุณพูดอะไรผู้ชายขายบริการ?” เซี่ยวลั่วหยาวก็รู้สึกหวาดกลัวด้วยออร่าของน่ากลัวของเขาและพูดด้วยความเศร้าใจ “ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่าคุณจะทำงานเป็นผู้ชายขายบริการด้วย....” “เซี่ยว ลั่ว หยาว!” ชายหนุ่มรูปงามเริ่มจะระเบิดอารมณ์ “อ่า คุณวางใจเถอะ ประธานเฉียว เรื่องราวนี้ฉันจะเก็บเป็นความลับ เรื่องที่คุณทำอาชีพขายบริการน่ะ จะไม่มีคนอื่นรู้จะไม่มีบุคคลที่สามรู้อย่างเด็ดขาด ฉันสาบาน!” “จนตอนนี้ เธอก็ยังไม่เข้าใจอะไรเลยใช่ไหม?” เฉียวอีฟานไม่สามารถชมเชยความเซ่อซ่าของเธอได้ “เข้าใจอะไร? อะไรคือเข้าใจ?” ดวงตาของเซี่ยวลั่วหยาวเบิกกว้างขึ้น และเหมือนจะเริ่มรับรู้ เฉียวอีฟานยิ้มอย่างเย็นชา “ตอนเธอตื่นมา เธออยู่ในสภาพอย่างไร?” “สภาพอย่างไร?....เฮ้ย!” ในสมองของเซี่ยวลั่วหยาวมีคำว่า “ร่างกายเปลือยเปล่า” 4พยางค์ดังขึ้นมา “แล้วฉันล่ะ?” เซี่ยวลั่วหยาวกัดปากและพูดเหมือนจะร้องไห้ “คุณ..กำลังอาบน้ำ...” “งั้น ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของเธอ ฉันและเธอเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น?” “เอ๊ะ ฉันไม่รู้!” เซี่ยวลั่วหยาวแกล้งปฏิเสธทำเป็นไม่รู้เรื่องราว “อ่อ ไม่รู้เหรอ? งั้นให้ฉันเล่ารายละเอียดทีละเล็กทีละน้อยให้เธอฟังดีไหม?” “ไม่ต้อง ไม่ ไม่ต้องพูด ฮือ ไม่ต้องพูด ฉันเข้าใจแล้ว” เซี่ยวลั่วหยาวก้มหน้าและจับมุมเสื้อเอาไว้ เฉียวอีฟาน จ้องมองเธอโดยเฉพาะที่หน้าอกและใช้มือแตะลงบนโต๊ะและพูดขึ้น “งั้น..ฉันขอถามเพื่อนเซี่ยว จู่ๆเธอก็วิ่งเข้ามาหาฉัน คว้าเสื้อฉันไว้ ขอร้องไห้ฉันนอนกับเธอ คืนนั้นฉันเหนื่อยมาก หลังจากใช้ประโยชน์กับฉันเสร็จแล้ว ทำไมถึงหนีออกไปโดยไม่พูดอะไรเลย นี่เป็นเรื่องปกติของการซื้อมาขายไปอย่างนั้นเหรอ? ”
已经是最新一章了
加载中