บทที่4 ผู้หญิงที่สง่างาม   1/    
已经是第一章了
บทที่4 ผู้หญิงที่สง่างาม
บทที่4 ผู้หญิงที่สง่างาม ในตอนนั้น ผมไม่รู้ว่าอะไรคือความรัก ชีวิตคนเรามีภพก่อน มีภพหน้า แต่ไม่มีชีวิตนี้ ระหว่างตรงนั้นมันคือข้อผิดพลาด ทันใดนั้นผมได้ก้าวกระโดดมาอยู่ในขั้นตอนที่แปลกประหลาดและมหัศจรรย์ บางครั้งคุณต้องเชื่อในโชคชะตาของตัวเอง คืนนั้นพวกเรามีอะไรกันหลายครั้ง รอบหลังๆเรามีอะไรกันในท่าที่เธอหมอบตัวลง หลังจากนั้นเธอกับผมมีอะไรกันในห้องน้ำอีกหนึ่งครั้ง ทั้งหมดนั้นเธอเป็นคนสอนและชี้นำผม เธอเป็นเหมือนครู เป็นเหมือนพี่สาว เป็นเหมือนแม่ ผมยังคงจำความอบอุ่นจากเธอในวันนั้นได้ดี รสชาติจากมือของเธอ ความประทับใจนั้นยังคงอยู่ตลอดเหมือนกับวันแรกที่ได้รู้จักกัน พี่เหมยดูเป็นผู้หญิงที่มีความซุกซน มีน่ารักอยู่ในตัวอีกด้วย คุณไม่อาจจะจินตนาการได้ว่าสาวใหญ่คนหนึ่งจะมีความไร้เดียงสาที่ดูสง่างามได้เพียงนี้ ต่อมาเธอลากผมไปอาบน้ำ เธออาบน้ำให้ผม เธอจ้องมองตรงนั้นของผม เธอเบะปาก เธอยิ้ม เธอส่ายหัว เธอถอนหายใจแล้วพูด “เห้อ พ่อเณรน้อยคนนี้ต้องอาบน้ำดีดีแล้วล่ะ!” ตอนนั้นผมอดที่หัวเราะออกมาไม่ได้ เธอทำให้ผมรู้สึกตลก เธอเห็นผมหัวเราะจึงเอามือมาจักจี้บริเวณรักแร้ของผม ยิ่งผมหัวเราะเท่าไหร่เธอก็ยิ่งจักจี้ผมหนักขึ้นทุกที ตัวผมถูกเธอแกล้งเล่นราวกับเป็นสาวใหญ่คนหนึ่ง เธอหัวเราะอย่างสนุกสนาน สุดท้ายเธอไล่หยิกก้นของผมจากในห้องน้ำจนออกมาอยู่บนเตียง ตอนอยู่บนเตียงเธอโอบกอดผม จากนั้นจ้องมองผมอย่างใจจดใจจ่อแล้วพูด “นายเหมือนเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันเคยแอบชอบตอนสมัยเด็กๆ นายรู้มั้ย?” ผมพยักหน้าตอบ “อืม!” “นายซื่อบื้อรึเปล่า ฉันจะพูดอะไรนายก็ตอบอืมหมดเลยหรอ!” เธอพูดไปด้วยลูบไล้ตัวของผมไปด้วย “ฉันรู้ว่านายไม่ได้ทำงานในบาร์นั้นแล้ว เพราะทำผิดอะไรบางอย่างเลยโดนเจ้านายไล่ออกใช่มั้ย?” ผมส่ายหัวแล้วพูด “ไม่ใช่ เป็นเพราะผมไม่อยากทำแล้ว ฝึกงานยุ่งมาก ผมทำงานสองที่ไม่ไหว!” “นายวางแผนเกี่ยวกับอนาคตยังไงบ้าง? อยากไปเรียนต่อที่ต่างประเทศมั้ย?” “เรียนต่อต่างประเทศ?” ผมส่ายหัวแล้วพูด “ผมไม่เคยคิดแบบนั้นมาก่อน ผมอยากทำงานในรัฐวิสาหกิจ ผมเรียนด้านเครื่องจักรกลมา อย่างเช่นได้ทำงานเกี่ยวกับธุรกิจด้านอุตสาหกรรมหนักต่างๆ มีงานการที่มั่นคง” ผมเล่าเรื่องเหล่านี้ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมเคยชอบเล่าให้กับเพื่อนๆตอนสมัยอยู่หอพักให้เธอได้ฟัง แต่เธอพยักหน้าแล้วพูด “จริงๆแล้วไปเรียนต่อต่างประเทศดีมากๆนะ อย่างเช่นไปเรียนที่สิงคโปร ไทย หรือประเทศอื่นๆในอาเซียน!” ผมไม่ได้พูดอะไร ผมยิ้มอย่างเดียว เธอพูดอีกว่า “ถ้านายอยากจะไปเรียนต่อทางนั้น ฉันช่วยนายได้นะ มันง่ายมากๆ แต่ฉันก็ได้ยินมาว่าด้านอุตสาหกรรมของเยอรมนีพัฒนาก้าวไกลมาก แต่ฉันไม่มีคนรู้จักอยู่ที่นั่น ฉันเคยอยู่ที่ฝรั่งเศสกับอิตาลีแค่ปีสองปี!” คำพูดของเธอ ผมไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด นั่นคือเรื่องของเธอ “บ้านเกิดนายอยู่ที่ไหน?” เธอนั่งอยู่บนเตียง ส่วนผมนอนอยู่ ไม่รู้ว่าเธอหยิบบุหรี่555ออกมาจากตรงไหน เธอยื่นบุหรี่มวนหนึ่งให้ผม ผมในตอนนั้นไม่ค่อยสูบบุหรี่ เธอจุดบุหรี่ให้ผม จากนั้นจุดให้ตัวเอง เธอพ่นควันออกมาแล้วพูด “เขตซีเป่ย!” ผมหันหน้าไปพูดกับเธอ ผมเห็นเธอนั่งเปลือยอยู่ตรงนั้น หน้าอกสองข้างของเธอยังคงดูมีเสน่ห์เหลือเกิน ไม่หย่อนยานเลยสักนิด มีรูปทรงที่สวย เป็นก้อนกลมๆยื่นออกมาจากตรงนั้น เธอดูแลตัวเองได้ดีจริงๆ ในตอนนั้นเองที่ผมค้นพบว่าบนร่างกายของเธอมีรอยสักหนึ่งจุดอยู่เยื้องๆบริเวณบนเนินอก เป็นรูปดอกกุหลาบเล็กๆหนึ่งดอก “ฉันไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน ใช่ที่ที่จางอี้โหมวไปถ่ายทำหนังรึเปล่า!” ผมพยักหน้าแล้วพูด “น่าจะใช่นะ ผมไม่รู้ว่าคุณพูดถึงหนังเรื่องไหน!” ตอนนั้นคือปี1999 อินเทอร์เน็ตยังไม่พัฒนาเหมือนทุกวันนี้ หนังที่จะย้อนกลับไปดูได้มีไม่เยอะ ในค่ำคืนนั้นพวกเรานั่งคุยกันไปเรื่อยๆ พี่เหมยหัวเราะอย่างสนุกสนาน เธอใช้แววตาที่ลุ่มลึกจ้องมองมาที่ผม เธอเป็นคนฉลาดมาก อีกทั้งยังเป็นคนสนุกสนาน ใจกว้าง เธอดูสง่ากว่าผู้หญิงจากบ้านเกิดของผมเยอะ อีกทั้งดูสง่ากว่าผู้หญิงในเมืองใหญ่อีกมากมาย ตัวเธอให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป ราวกับเป็นคนจีนที่เคยอาศัยอยู่ในต่างประเทศมาเป็นเวลานาน บางครั้งเธอก็เผลอหลุดพูดภาษาอังกฤษออกมา ภาษาอังกฤษของผมที่เรียนในรั่วมหาวิทยาลัยไม่ได้แย่ เธอพูดอะไร ผมก็เข้าใจ บางครั้งผมก็ใช้ภาษาอังกฤษไม่กี่ประโยคในการพูดคุยกับเธอ หลังจากที่เธอได้ฟังเธอก็รู้สึกประหลาดใจมาก เธอบอกว่าผมออกเสียงได้ดีมาก เธอชมว่าผมเป็นคนฉลาด จะต้องมีอนาคตที่ดีและสวยงามแน่นอน ผมในตอนนั้นไม่รู้ว่าอนาคตที่สวยงามอยู่ที่ไหน ผมไม่รู้ ผมไม่รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ผมจำได้ว่าในคืนนั้น ผมถามเธอว่าทำไมถึงดูมีความสุขขนาดนี้ เธอพูดออกมาคำหนึ่งว่า “เจียเหลียง ชีวิตคนเรามันสั้น เรามีชีวิตอยู่หลายสิบกว่าปี บางทีถึงบทที่ชีวิตจะจบแล้วมันก็จบลงจริงๆ ทำไมจะต้องไม่มีความสุขแล้วปั้นหน้าเศร้าด้วย นายว่ามั้ย? พ่อหนุ่มน้อย!” ผมยิ้มอ่อนๆแล้วพยักหน้าตอบ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นมีเหตุผล เธอเป็นคนรู้จักพูดราวกับเป็นนักกวี ค่ำคืนนั้นเธอนอนกอดผม เธอกอดผมไว้แน่น เธอบอกว่าตอนเด็กๆเธอชอบนอนกอดตุ๊กตาแล้วหลับไป เธอกอดผมแน่นมากทำให้ผมนอนไม่หลับ พอถึงกลางดึกผมจึงค่อยๆเผลอหลับไป ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าพบว่าเตียงนั้นว่างเปล่า ผมเจอกระดาษแผ่นหนึ่งกับเงินหนึ่งปึกอยู่ใต้ผ้าห่ม ในกระดาษเขียนไว้ว่า : เจียเหลียง พ่อหนุ่มน้อย พี่มีธุระเลยต้องบินออกไปในเช้านี้ ตอนที่พี่ออกไปพี่เห็นว่านายยังหลับสนิทเลยไม่ได้ปลุก พี่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรนายถึงรู้สึกไม่มีความสุขเช่นนี้ พอมาคิดดูดีดีบางทีนี่อาจจะเป็นบุคลิกนิสัยของนายก็ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าคิดมาก เข้มแข็งให้มากๆ พี่ให้เงินกับนายเอาไว้ นายอย่าคิดมากนะ พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น นายตั้งใจฝึกงานให้มากๆ พยายามเข้านะ รอให้ฉันจัดการธุระในช่วงนี้เสร็จเมื่อไหร่ ฉันจะกลับมาหานาย ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ช่องทางการติดต่อกับนาย แต่เชื่อพี่ จากความสามารถของพี่แล้วพี่จะต้องตามหานายจนเจอ บาย! ผมจ้องมองกระดาษแผ่นนี้ ความรู้สึกราวกับว่าคืนนั้นผมได้ฝันไป เป็นความฝันที่ยาวนาน แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่ความฝันอยู่ดี มันคือเรื่องจริง พอมานึกย้อนในวันนี้ เหมือนว่าเรื่องราวเหล่านั้นพึ่งเกิดขึ้นในเมื่อวาน เป็นไปตามที่เธอพูด หนึ่งเดือนผ่านไป เธอตามหาผมจนเจอจริงๆ แล้วในวันนั้นเองที่เธอได้ค้นพบเรื่องสกปรกโสมมทั้งหมดในตัวผม
已经是最新一章了
加载中