บทที่ 13 สารภาพรัก
1/
บทที่ 13 สารภาพรัก
ลุ้นรักวิวาห์ร้อน
(
)
已经是第一章了
บทที่ 13 สารภาพรัก
บทที่ 13 สารภาพรัก ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! กำลังนั่งทาครีมอยู่หน้าโต๊ะกระจกอยู่ดี ๆ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนายฟีฟ่า จึงต้องวางมือแล้วเดินไปเปิดประตูให้ “มีอะไร” “โห...ทำไมพูดนักเลงอย่างนั้นล่ะครับ ผมไม่ได้มาหาเรื่องสักหน่อย” “แล้วมาเคาะทำไมตอนนี้ ฉันกำลังทาครีมอยู่ ไม่รู้เวล่ำเวลา” “ฉันจะรู้ได้ไงว่าเธอทำอะไรอยู่ ขอเข้าไปข้างในได้ไหมอ่ะ” “มีอะไรก็คุยกันตรงนี้ล่ะ ฉันไม่สะดวก” “ฉันไม่ทำอะไรหรอกน่ารู้ว่าเธอกำลังท้อง” “ถึงทำก็ไม่ให้หรอกย่ะ” ทำไมฉันต้องหน้าแดงด้วยเนี่ย อีตาบ้าทำไมต้องทำหน้าหื่นอย่างนั้นด้วย “นะๆๆ ขอเข้าไปหน่อยมีเรื่องจะคุยด้วย เรื่องสำคัญมาก ๆ” อีกฝ่ายเอื้อมจะมาจับมือ แต่ฉันรีบซ่อนไว้ด้านหลังเสียก่อน “อือๆ รีบคุยแล้วก็รีบออกไป” “คร้าบผม” เขาฉีกยิ้มกว้างรีบดันตัวเข้ามาในห้อง เดินไปนั่งบนเตียงอย่างถือวิสาสะ ทำหน้าระรื่นราวกับสุนัขที่กำลังได้กระดูกชิ้นโตก็ไม่ปาน ฉันเดินตามหลังเข้าไปยืนกอดอกมองหน้าแขกผู้มาเยือนอย่างเอาเรื่อง “มีอะไรว่ามา” “ฉันอยากจะคุยเรื่องน้องของเราสองคน” “นายรู้อะไรมาบ้างพูดมาให้หมด” “ยูโรกับเจ้าขุนมันไม่ใช่เพื่อนกันธรรมดา” “อันนั้นฉันรู้แล้ว มีอะไรที่มันชัดเจนกว่านี้ไหม นายอย่าอ้อมค้อม” “สองคนนั้นมีอะไรกันแล้ว” “ห๊ะ! มีอะไรกันแล้ว นายรู้ได้ยังไง” ฉันตะโกนเสียงดังอย่างลืมตัว จนนายฟีฟ่าสะดุ้งเล็กน้อย “จะตะโกนทำไมเนี่ยอยู่ใกล้แค่นี้เอง” “ก็ฉันตกใจนี่นา ว่าแต่นายรู้ได้ยังไงว่าสองคนมีอะไรกันแล้ว” “ฉันเคยแอบเล่นมือถือไอ้ยูโร เลยบังเอิญไปเห็นภาพเอ่อ...” “เอ่ออะไรก็พูดมาสิ” เห็นอย่างนี้ฉันยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่ ตายแล้วน้องฉันเสียเอกราชให้ลูกชายบ้านโน้นอีกคนแล้วหรือเนี่ย ถ้าป๊ารู้มีหวังมันตายก่อนเรียนจบมอหกแน่ ๆ “ภาพที่แม่งสองคนนอนแม่งกอดจูบกันบนเตียง ไม่สวมเหี้ยอะไรเลย แอบไปเปิดโรงแรมเอากันไม่รู้ต่อกี่รอบแล้ว ชัดเจนมะ” เขาพูดออกมาซะหมดเปลือกตอบสนองความอยากรู้ของฉันเต็มที่ ภาพที่เห็นในโรงหนังก็ชัดเจนประมาณหนึ่งแล้ว พอได้ยินอย่างนี้ภาพทุกอย่างยิ่งชัดเจนขึ้น ฉันอยากจะเป็นลมจริง ๆ “ตั้งแต่ตอนไหน” “ก่อนเราแต่งงานกันประมาณเดือนนึง” “แล้วทำไมนายไม่บอกฉัน ถ้ารู้คงจะบอกให้เลิกกันตั้งนานแล้ว” ฉันไม่ได้พูดเล่น ๆ อยากให้ทั้งสองคนเลิกกันจริง ๆ เพราะกลัวว่าวันหนึ่งถ้าป๊ารู้เข้าเจ้านายเองนั่นล่ะจะเดือดร้อน และอีกอย่างป๊าคงจะอกแตกตายแน่ ๆ ที่เราสองพี่น้องเสียท่าให้ลูกชายบ้านโน้นกันหมดทุกคน “เธอจะทำอย่างนั้นทำไม น้องมันรักกันนะ” “ถ้าไม่ทำอย่างนั้นมีหวังป๊าฆ่าเจ้านายแน่ ๆ ป๊าหวังกับมันไว้มากแทบไม่เผื่อใจ อีกอย่างป๊าเองก็ไม่ชอบแบบนี้ด้วย ขนาดเวลาโบ๊ทไปหาฉันที่บ้านยังต้องแอ๊บแมนเลย” ฉันอธิบายให้ฟัง “เธอคิดไปเองหรือเปล่า ยังไงเจ้านายก็เป็นลูกท่านคงไม่กล้าทำอย่างนั้นหรอกน่า” “นายจะมารู้จักป๊าฉันดีกว่าฉันได้ยังไง” “ถึงยังไงฉันก็ไม่เห็นด้วยที่เธอจะกีดกันความรักของสองคนนั้น” “แต่ฉันจะทำน้องฉันว่านอนสอนง่าย บอกอะไรมันต้องเชื่อ นายเองก็ไปบอกยูโรให้เลิกไปรับไปส่งน้องชายฉันได้แล้ว เลิกกันตอนนี้ยังจะดีกว่า เพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะเข้ามหาลัยกันแล้ว พอไปอยู่ที่ใหม่ เจอสังคมใหม่ ๆ เจอผู้คนหลากหลายขึ้นยังไงก็ต้องเลิกกันอยู่ดีนั่นล่ะ” “เธอแม่งเห็นแก่ตัว ถามจริงตั้งแต่เกิดมาเคยรักใครบ้างไหม” เขาเอ่ยถามอย่างใส่อารมณ์ แล้วลุกขึ้นยืนเผชิญหน้าด้วยท่าทีนักเลงหัวไม้ เห็นแล้วอยากจะเอาไม้ตีแสกกลางหน้าเสียเหลือเกิน “เคยสิ! ทำไมจะไม่เคย” ฉันจ้องหน้าอย่างเอาเรื่องไม่ยอมแพ้เช่นกัน “แล้วทำไมถึงอยากให้น้องชายเธอต้องเจ็บปวด เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าการที่เรารักใครมันมีความสุขมากแค่ไหน ไม่เห็นหน้าแค่วันสองวันก็จะลงแดงตาย ฉันว่าถ้าน้องเธอจะตายก็เพราะโดนบังคับให้เลิกกับน้องชายฉันมากกว่า” “นายไม่เข้าใจหรอก นายไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่คนในครอบครัวฉัน หุบปากแล้วออกไปจากห้องฉันซะ” “เธอไม่มีเหตุผลแล้วยังจะกล้าไล่ฉันอีกงั้นเหรอ อุตส่าห์จะมาปรึกษาเพื่อหาทางช่วยน้องเราทั้งคู่ แต่เธอกลับเป็นพี่สาวใจร้ายซะอย่างนั้น” “ออกไปเดี๋ยวนี้ฉันไม่อยากทะเลาะกับนาย” ฉันว่าพร้อมผลักอกเขาสุดแรง “ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น” ว่าแล้วก็รวบตัวเข้าไปกอดไว้แน่น จนมือทั้งสองข้างวางแนบบนแผงอกแกร่ง ขยับแทบไม่ได้ “นะ...นายจะทำบ้าอะไร ปล่อยฉันนะ อื้อ...” อีกฝ่ายโน้มใบหน้าเข้ามาประกบจูบโดยไม่ให้ฉันตั้งตัว บดเบียดริมฝีปากร้อนอย่างหนักหน่วง ราวกับต้องการสั่งสอนให้ฉันรับรู้ว่าไม่ควรต่อปากต่อคำด้วย มือหนาเลื้อยลงไปที่สะโพกงอน บีบเคล้นขยำแรง ๆ อย่างมันเขี้ยว “อืม” เมื่อเขาได้ปลุกไฟสวาทให้ลุกโชนขึ้น ทุกอย่างมันก็ลื่นไหลไปตามห้วงอารมณ์ เขานอนราบลงบนเตียงทั้งที่เรายังจูบกัน ฉันละทิ้งความอายทั้งหมดทั้งมวลนั่งคร่อมบนตัวเขา สายตาที่จับจ้องมองกันมีแรงดึงดูดมหาศาลไม่ให้ละสายตาไปไหนได้ “แฮ่กๆๆ นายทำเสน่ห์ใส่ฉันหรือไง ไอ้คนผีทะเล” ฉันว่าให้ทั้งที่ยังจ้องตาเขา บัดนี้ความอายหายกระเจิงหนีหายไปหมด หากจะเหลือก็เพียงแต่ความต้องการอันร้อนแรงเท่านั้น “ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นนั่นเพราะเธอต้องการฉัน เธอหลงใหลฉัน เธอรักฉันเข้าให้แล้วยังไงล่ะ หึๆ” เขาเอ่ยเสียงแหบพร่า จ้องมองดวงตาคู่สวย กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ราวกับกระหายตัวฉันเสียเต็มประดา มือหนาละจากสะโพกงามงอนเลื้อยขึ้นมาวางบนเนินเนื้อก้อนโตทั้งสอง บีบคลึงแรง ๆ ฉันได้แต่หลับตาพริ้ม ขบริมฝีปากล่างรับรสสัมผัสอันเสียวสยิวอย่างเต็มใจ “อะ...อื้อ...ฟีฟ่า” จำเป็นต้องร้องครวญครางออกมาอีกเมื่อเขาสะกิดยอดอกด้วยนิ้วหัวแม่มือ เขาเก่งเหลือเกิน เก่งจนฉันแทบจะล่องลอยในอากาศเสียตอนนี้ “ครางออกมาเลยครับที่รัก ครางออกมาดัง ๆ” เขาว่าขณะเริ่มปลดเปลื้องอาภรณ์ฉันออกอย่างช้า ๆ จนตอนนี้เหลือเพียงแพนตี้ตัวจิ๋วลายลูกไม้สีขาว ที่กำลังบดเบียดตรงกลางกายที่คับแน่นของเขา จากนั้นอีกฝ่ายก็พลิกตัวฉันให้นอนราบลงบนเตียง จัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ตัวเองออกบ้าง ฉันได้แต่หรี่ตามองความกำยำล่ำสันนั้นอย่างกระสันเสียว แม้รู้ดีว่าตัวเองกำลังมีเจ้าตัวน้อยในท้อง แต่ก็ไม่สามารถห้ามความปรารถนาได้เลย มั่นใจว่าเขาจะระมัดระวังไม่ให้กระทบกระเทือนถึงลูกในท้องอย่างแน่นอน หลังจากอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าแล้วนายฟีฟ่าก็คร่อมตัวฉันไว้ ส่งรอยยิ้มหื่นพร้อมกับดวงตาอันเป็นประกายแวววับ ซึ่งแฝงความหื่นกระหายไว้เต็มพิกัด ฉันมองเขาได้แค่ไม่นานก็หลุบตาลง นั่นเพราะแก่นกายอันมหึมากำลังถูไถบนแพนตี้ตัวจิ๋ว ราวกับกำลังหาทางเข้าไปในปากถ้ำอันคับแคบ “ฉันมีอะไรจะบอก” เขาโน้มใบหน้าลงมากระซิบเบา ๆ “อะ...อะไร” ฉันตอบกลับอย่างไม่เต็มเสียง ยังไม่กล้าสบตาเขา “ถึงแม้ฉันจะเจ้าชู้ไปบ้างแต่ตอนนี้หัวใจฉันไม่ว่างแล้วนะ” ได้ยินอย่างนั้นอารมณ์ฉันก็เปลี่ยนทันที เขาจะมาบอกอะไรตอนนี้ ฉันรู้ว่านายรักจอยมากแค่ไหน ทำไมจะต้องมาย้ำให้รู้สึกเจ็บปวดด้วย “ถ้าจะพูดเรื่องนี้ลุกขึ้นไปเลยฉันไม่ใช่ของเล่นของนาย” ตอนนี้ฉันกล้าสบตาเขาแล้ว แต่เป็นแววตาของคนที่กำลังโกรธอย่างหนัก มือทั้งสองข้างยกขึ้นไปทุบแผงอกรัว ๆ “เดี๋ยวก่อนสิ เธอกำลังเข้าใจผิด” เขาพยายามรวบมือฉันไว้ด้วยรอยยิ้ม ราวกับมันเป็นเรื่องสนุก แถมยังกดจมูกดอมดมมือฉันไม่หยุดหย่อน “ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย ถ้าชอบยัยจอยขนาดนั้นแล้วมาทำอย่างนี้กับฉันทำไม” “โถ ๆๆ งอนเค้าเหรอตัวเอง ตัวเองกำลังเข้าใจผิดนะ” “เข้าใจผิดเรื่องอะไร ในชีวิตนายตอนนี้ก็มีแค่ยัยจอยคนเดียวเท่านั้นล่ะ อย่าทำราวกับฉันเป็นแค่ของเล่นนายอีกเลยนะ รู้ไหมว่ามันเจ็บแค่ไหน ฮึก” ฉันยอมสงบลงเมื่อไม่มีทางสู้แรงเขาได้ ตอนนี้น้ำตาไหลลงจากหางตาเป็นสายด้วยความน้อยใจเป็นที่สุด “ไม่เอาไม่ร้องนะครับคนดี เธอชอบคิดเองเออเอง ที่ฉันบอกว่าหัวใจไม่ว่างไม่ใช่เพราะในนั้นมีน้องจอยหรอก แต่มันมีเธอต่างหากล่ะ” เขาโน้มใบหน้าลงมาจุมพิตที่กลางหน้าผาก พร้อมทั้งเกลี่ยน้ำตาออกให้ด้วยความเอ็นดู “นะ...นายหมายความว่ายังไง” “ฉันรักเธอนะขวัญข้าว ไม่รู้ว่ารักตอนไหนแต่หลังจากเราได้ใช้ชีวิตด้วยกันทุกวัน ถึงแม้จะทะเลาะกันบ่อย ๆ แต่นั่นไม่ทำให้ความสรู้สึกดี ๆ ที่มีให้เธอลดน้อยลงเลย พอมารู้ตัวอีกทีฉันก็ขาดเธอไม่ได้แล้ว ฉันรักเธอเข้าให้แล้วล่ะขวัญข้าว” เขาสารภาพอย่างหมดเปลือก ฉันอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก น้ำตาไหลยิ่งกว่าเดิมเสียอีก “นายไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม ฮึก...” “ใครจะมาพูดเล่นในช่วงเวลาแบบนี้ฮึ แล้วเธอล่ะจะให้คำตอบฉันได้หรือยัง ว่าจะให้ฉันดูแลเธอกับลูกในฐานะสามีและพ่อของลูกไปตลอดชีวิตได้หรือเปล่า” ใช่แล้ว! นี่คือสิ่งที่เขาเคยถาม ฉันจำมันได้แล้ว หัวใจฉันเต้นแรงกว่าตอนที่เราแต่งงานกันเสียอีก มันเป็นวินาทีแห่งความระทึกใจ ในช่วงวินาทีที่เขาระบายความในใจออกมา ทำให้ฉันรู้ตัวเองแล้วว่า...ฉันรักและแคร์เขามากแค่ไหน “อื้ม...ดูแลฉันกับลูกไปตลอดชีวิตนะ ฉันเองก็...รักนายเหมือนกัน” ได้ยินอย่างนั้นเขาก็ยิ้มแล้วสวมกอดฉันไว้ก่อน ระดมหอมแก้มซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่มีเบื่อ พูดซ้ำ ๆ ว่าฉันรักเธออยู่อย่างนั้นจนฉันยิ้มตามไปด้วย ทำไมการได้รักใครมันช่างมีความสุขอย่างนี้ ยิ่งเวลาได้อยู่กับเขามันทำให้ใจชุ่มฉ่ำเกินคำบรรยาย “อื้อ...ฟะ...ฟีฟ่า” กำลังยิ้มอยู่ดี ๆ อีกฝ่ายก็เลื้อยมือเข้าไปในแพนตี้ตัวจิ๋ว ส่งนิ้วยาวเข้าไปซุกซนในถ้ำอันคับแคบ พร้อมทั้งส่งปลายลิ้นออกมาละเลงเลียยอดปทุมถันระรัว จนฉันต้องแอ่นอกรับความเสียวซ่านนั้น แสดงท่าทีอันเร่าร้อนไม่ต่างจากผู้หญิงโคมเขียวเลยสักนิด เมื่อช่องทางเปียกชื้นไปด้วยน้ำหล่อลื่นแล้ว เขาจึงถอนนิ้วออกมา จัดการถอดแพนตี้ตัวนั้นออกไปให้พ้นทาง จับแท่งร้อนรูดขึ้นลงเพื่ออุ่นเครื่อง ก่อนจะจับมันถูไถหน้าปากถ้ำที่เต็มไปด้วยดงหญ้ารกรุงรัง ทุกสัมผัสส่งผ่านความเสียวซ่านมาให้ไม่หยุดหย่อน “มะ...ไม่ไหวแล้วเอามันเข้าไปเถอะนะฟีฟ่า ฉันต้องการมันเหลือเกิน” ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันพูดอย่างนั้น แต่ทว่าพอได้พูดออกมาแล้วกลับรู้สึกดี “วันนี้เราจะมีความสุขด้วยกันนะ ไอ้น้องชายฉันมันก็ต้องการเธอมากเหลือเกิน” เขาเงยขึ้นมาเอ่ยด้วยสีหน้าหื่นกระหาย เราจ้องตากันอย่างหวานซึ้ง ในขณะที่เขากำลังจับแท่งร้อนสอดใส่ดันเข้าไปอย่างช้า ๆ ส่งผ่านความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง ความใหญ่โตทำให้รู้สึกคับแน่นจนอยากจะกรีดร้องให้สุดเสียง “อื้อ...ฟีฟ่าฉันเจ็บ” “อีกหน่อยก็ไม่เจ็บแล้วนะ เชื่อฉัน อ่าส์” เมื่อร่างกายเราเชื่อมต่อกันแล้วเขาก็แช่มันไว้ สอดมือลงไปโอบกอดแผ่นหลังฉันไว้ “เบา ๆ นะอย่าลืมว่าฉันกำลังท้อง” “รู้แล้วครับ ผัวจะไม่ให้ลูกเราตื่นแน่นอนหึๆ” เขาหยอดมุกแล้วยิ้มมุมปาก จากนั้นบทรักอันร้อนแรงก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อเขาโน้มใบหน้าเข้ามาประกบจูบอีกครั้ง ส่งลิ้นเย็นสอดแทรกเข้ามาในโพรงปาก ตวัดเลียชอนไชอย่างหื่นกระหาย ในขณะที่ส่วนล่างเริ่มขยับอย่างเนิบนาบ “อืม..” ฉันทำได้เพียงร้องฮึมฮัมในลำคอไม่หยุดหย่อน เมื่อถูกความเป็นชายรุกล้ำเข้ามาอยู่เนือง ๆ แม้อีกฝ่ายจะพยายามไม่ให้รุนแรงจนเกินไปแต่ทว่าทุกครั้งที่ความใหญ่โตนั้นกระแทกกระทั้นเข้ามา มันช่างเปี่ยมไปด้วยพลังอันมหาศาล ลีลารักของเขาไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยสักครั้ง สวบ สวบ สวบ เสียงแท่งเนื้อขยับเข้าออกเสียดสีกับผนังช่องคลอดแคบๆ ที่อุดมไปด้วยน้ำหล่อลื่นขาว ๆ สร้างแรงปรารถนาให้เราทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี “ฮึมมมม!” เสียงคำรามในลำคอดังขึ้นเมื่อฉันตอดรัดท่อนเอ็นนั้นแรง ๆ เป็นระยะ ความร้อนแรงของรสรักทำให้อุณหภูมิร่างกายเราสูงขึ้น ส่งผลให้เม็ดเหงื่อผุดออกจากรูขุมขนทั่วทั้งร่าง โดยเฉพาะบนใบหน้าเขาที่เปียกโชก ไหลลงตามพวงแก้มจนถึงลำคอ เพิ่มความมีเสน่ห์ให้เขาขึ้นไปอีก เมื่อสะโพกแกร่งขยับเร็วขึ้น ช่องกลีบสีหวานที่กำลังกลืนกินท่อนเอ็นใหญ่ก็ขมิบแรงขึ้นไปด้วย ฉันก้มมองช่วงล่างที่กำลังเชื่อมต่อกัน ท่อนเอ็นลำโตที่เขาสุดแสนจะภูมิใจผลุบโผล่เข้าออกรัว ๆ อย่างเมามัน ผิวเนื้อแข็งที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปน ฉาบไปด้วยน้ำนมหล่อลื่นขาว ๆ ของฉันจนมันวาวไปหมด ปั่บ ปั่บ ปั่บ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นเรื่อย ๆ สัมพันธ์กับแรงกระแทกกระทั้นถี่ ๆ นั่น “อ๊ายย! ระ...แรงกว่านี้ได้ไหม ฉะ...ฉันเสียวเหลือเกิน อ๊ะๆๆ มะ...ไม่ไหวแล้ว” ฉันกรีดร้องสุดเสียงด้วยความเสียวซ่านเหลือคณา เมื่อหัวเห็ดบานใหญ่ที่ครูดกับผนังช่องสีหวานรุนแรงขึ้น “ฉะ...ฉันก็ไม่ไหวแล้ว ตอดแรง ๆ เลยครับที่รัก ซี๊ดดส์ พะ...พร้อมกันนะ” ปั่บ ปั่บ ปั่บ ประโยคนั้นจบลงเขาก็เพิ่มแรงกระแทกมาอย่างหนักหน่วง ฉันกอดรัดตัวเขาไว้แน่น ยกขาเรียวทั้งสองข้างขึ้นเกี่ยวไว้บนเนินสะโพกแน่น “อ๊ายย!! สะ...เสร็จแล้ววววว” “แม่งตะ...แตกแล้วววว!!” เราทั้งคู่สั่นกระตุกถี่ ๆ ช่องทางรักขมิบตอดรัดท่อนเนื้อใหญ่อยู่เนือง ๆ ในขณะที่เขาเองก็ปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นมากมายจนล้นทะลัก แต่ทว่ายังคงขยับช่วงล่างเข้าออกอย่างเนิบนาบอยู่ตลอดเวลา ใบหน้าคมคายซบลงตรงซอกคอ จนได้ยินเสียงหายใจเหนื่อยหอบ มือหนายังคงบีบเคล้นเนินอกอยู่เนือง ๆ มันเป็นช่วงเวลาที่เปี่ยมไปด้วยความสุขมากเหลือเกิน...อยากอยู่แบบนี้ไปนาน ๆ จัง “ลุกออกดิ จะไปล้างตัว” “ไม่เอา...ขออยู่แบบนี้นาน ๆ ได้ไหม” เขายังงอแงเอาแต่ใจ ช่วงล่างที่ยังเชื่อมต่อยังคงมีการขยับอยู่เนือง ๆ “งั้น...เอามันออกไปก่อนได้ไหม” ฉันต่อรอง “ไม่เอา...ขออีกรอบนะ” “เหนื่อยขนาดนี้ยังจะมาโลภมากอีกนะ” “ใครบอกว่าฉันเหนื่อย แค่พักเอาแรง ตกลงให้ไม่ให้” เขาเงยหน้าขึ้นเอ่ยด้วยรอยยิ้ม จ้องลึกเข้าไปในดวงตาราวกับต้องการออกคำสั่ง “นี่บังคับกันใช่ไหม” “เปล่า ขอร้องใครจะกล้าบังคับเมียล่ะครับ นะ ๆๆ ” ว่าแล้วก็โน้มลงมาหอมแก้ม ฟอดดด!! “นายนี่มันขี้อ้อนจริง ๆ เลย จะทำอะไรก็ทำสิแต่เบา ๆ ด้วยนะ” “เยส!! นี่เป็นการเบิ้ลครั้งแรกของเราเลยนะ รับรองว่าเสียวไม่แพ้รอบแรกแน่นอนครับผม” “ไอ้บ้า!” ฉันด่าเขาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นอีกฝ่ายก็เริ่มปฏิบัติการรักอีกครั้ง ไม่น่าเชื่อว่าการมีอะไรกันในครั้งนั้นของเรา จะทำให้เรื่องทุกอย่างดำเนินมาจนถึงตอนนี้ จากที่ไม่เคยคิดจะรักแต่ตอนนี้กลับมอบหัวใจให้ไปเสียแล้ว ฉันไม่เคยจริงจังกับความรักเท่านี้มาก่อน หวังว่าผู้ชายคนนี้จะไม่ทำให้ความไว้วางใจของลูกผู้หญิงคนนี้ต้องสูญเปล่า และก็ได้แต่หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 13 สารภาพรัก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A