บทที่ 5 ก่อนภัยร้ายมาเยือน
1/
บทที่ 5 ก่อนภัยร้ายมาเยือน
Selena and the Vampire เซลีน่ากับผู้มาจากรัตติกาล
(
)
已经是第一章了
บทที่ 5 ก่อนภัยร้ายมาเยือน
“เอ้า! นี่เลือดข้า” “ขอบคุณ” “ระวังอย่าทำหก ข้าไม่ได้มีเลือดเยอะแยะไว้ให้ใครกินหรอกนะ” หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปหลังจากที่บ้านของหญิงสาวมีแวมไพร์เข้ามาอาศัยอยู่ วันนี้เซลีน่า (จำใจ) กรีดแขนแบ่งเลือดใส่แก้วจากนั้นก็นำมาให้ชายหนุ่มดื่มเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายควรดื่มเลือดมนุษย์สักที “แผลของข้าใกล้หายแล้ว” “ก็ดี หายแล้วก็รีบกลับบ้านซะ” เธอทำเป็นไม่สนใจผู้มาขออาศัย นอสถึงกับหน้าจ๋อยเมื่อเธอทำเป็นเย็นชาใส่ เมื่อก่อนเห็นถามนั่นถามนี่มากมาย เขานึกว่าจะเข้ากับเธอได้แล้วซะอีก หลังจากได้เลือดของเซลีน่าไป แวมไพร์หนุ่มพบว่าบาดแผลยาวบนท่อนแขนสมานตัวเร็วจนหายเป็นปกติ คงเพราะเลือดที่ได้รับมาจากหญิงสาวแห่งดวงจันทร์ เขาดึงแขนเสื้อลงเพื่อปกปิดก่อนจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทางด้านเจ้าของบ้านก็ทำอาหารมื้อเช้าตามปกติ เพียงแต่ว่านี้เธอทำอาหารเยอะเป็นพิเศษ “ทำไมทำกับข้าวเยอะจัง” “วันนี้เป็นวันที่แม่ข้าเสียชีวิต ศพของท่านฝังอยู่ที่หน้าผาบนเขาสูงข้าง ๆ สุสานพ่อข้า ข้าจะไปเคารพศพพวกท่าน” “ไปด้วย!” พอได้ยินว่าอีกฝ่ายพูดอะไร เธอก็สะบัดหน้ามามองทันที “ก็ข้าไม่เคยเห็นสุสานของมนุษย์นี่ ได้ยินว่า...เอ่อ...ขุดหลุมฝังแล้วปักไม้กางเขน” นอสอธิบายเท่าที่จำได้จากหนังสือ เซลีน่าถอนหายใจขณะจัดอาหารใส่ตะกร้าจากนั้นจึงเล่าให้ฟัง “ที่เจ้าพูดมาก็ถูก แต่บางทีเราก็ไม่ฝังแต่เผาเลยเพื่อไม่ให้เกิดโรคระบาด ถ้าเป็นคนมีตระกูลหน่อยก็จะมีการจัดพิธีและสุสานสมฐานะ แต่ข้ามีเรื่องแปลกใจ” “อะไรเหรอ” แวมไพร์หนุ่มเอียงคอมองอย่างงุนงง “แวมไพร์ไม่กลัวไม้กางเขนเหรอ” “ทำไมต้องกลัวด้วยล่ะ ไม้กางเขนทำจากเงินเหรอ” “...ช่างเถอะ แล้วน้ำมนต์ล่ะ เจ้ากลัวน้ำมนต์หรือเปล่า” นอกจากกระเทียมที่แวมไพร์ไม่ถูกกับมันแล้วยังมีไม้กางเขนกับน้ำมนต์ที่เธอได้ยินว่าสามารถขับไล่แวมไพร์ได้ “น้ำมนต์? อ้อ...จำได้ว่าก่อนที่ข้าจะถูกส่งมาสมทบกับแนวหน้า ข้าเห็นขุนนางแวมไพร์ท่านหนึ่งนำน้ำมนต์จากเมืองมนุษย์มาอวดด้วยล่ะ คนที่ขายให้บอกว่ามันสามารถปัดเป่าพวกภูตผีปีศาจอะไรนี่แหละไปได้” “...” ’เดี๋ยว ๆ ขายน้ำมนต์ให้แวมไพร์เหรอ อย่างนี้ก็มีด้วยเหรอ!’ เธอเห็นนอสหยิบกระเทียมมาดูเล่นก็น่าตกใจพอแล้ว นี่ยังมีเรื่องแวมไพร์ไปซื้อน้ำมนต์มาจากมนุษย์อีก โลกนี้ช่างเต็มไปด้วยเรื่องประหลาดโดยแท้! “ข้าจะไปสุสานพ่อกับแม่แล้ว” “ข้าไปด้วยสิ” “...” “ไปนะ ๆ ข้าอยากไป” “นี่พ่อคุณ ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว แวมไพร์แพ้แดดไม่ใช่เหรอ เจ้าอยากโดนเผาตายหรือไง” วันแรกที่เขามาอยู่บ้านเธอ อีกฝ่ายโวยวายปนขอร้องไม่ให้ไล่เขาไปเพราะอาจถูกแดดเผาตาย แต่ทำไมตอนนี้เกิดนึกคึกอยากออกไปเดินทอดน่องกลางแสงแดดไม่ทราบ “เจ้าพอจะมีอะไรที่ช่วยบังแดดได้ไหม อย่างเช่นร่มสักคัน” “...ก็มีร่มอยู่คันหนึ่ง” สุดท้ายเธอก็ยอมพาเจ้าแวมไพร์แปลก ๆ นี่ไปด้วย! เมื่อก่อนเซลีน่าจะออกไปเคารพสุสานของพ่อแม่คนเดียว และเธอก็ทำแบบนี้มาทุกปี ทว่าปีนี้พิเศษหน่อยตรงที่มีคนมาเป็นเพื่อน แถมยังเป็นคนต่างเผ่าพันธุ์ ทำตัวเหมือนเด็ก อยากรู้อยากเห็นไปทั่ว อย่างตอนนี้ นอสกำลังกางร่มคันใหญ่เดินตามหลังเซลีน่าพลางมองต้นไม้ตลอดสองข้างทางอย่างสนใจ “นั่นนกอะไร ทำไมสวย” “ดอกไม้ที่อยู่ตรงนั้นชื่อดอกอะไรเหรอ” “ท้องฟ้าตอนกลางวันเป็นสีคราม ส่วนก้อนสีขาวนั่นคือเมฆสินะ” ’พระเจ้า! อีตานี่มันโตแล้วแน่เหรอ ทำไมเหมือนเด็กอย่างนี้!’ ร่างบางที่หิ้วตะกร้าใส่กับข้าวถึงกับโวยวายในใจ ตอนนี้ทั้งสองเดินมาถึงหน้าผาที่มีเนินดินอยู่สองเนินและมีไม้กางเขนปักไว้แล้ว “สุสานพ่อแม่เจ้าเหรอ” “ใช่ ข้าขอให้พวกชาวบ้านฝังพวกท่านไว้ที่นี่ เพราะพ่อแม่ข้าชอบมาดูดวงอาทิตย์สมัยเพิ่งแต่งงานกัน” เซลีน่าตอบคำถามพลางนำภาชนะสามใบที่บรรจุอาหารออกมาวางตรงหน้า เธอนั่งประสานมือคล้ายกำลังอธิษฐานจากนั้นจึงนำดอกไม้สีขาวสองช่อเล็ก ๆ ไปวางบนหลุมศพ “แปลก” “อะไรแปลกอีกล่ะ” “ก็เวลามาพบญาติหรือคนรู้จักที่หลุมศพ ข้าเห็นพวกเขาวางแค่ดอกไม้ แต่ไม่เห็นมีใครนำอาหารมาด้วยเลย” สิ่งที่เซลีน่าทำนับว่าแปลกมาก เพราะไม่เคยอ่านเจอในหนังสือ รวมทั้งไม่เคยเห็นด้วย หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะอธิบายให้ฟัง “พ่อแม่ข้ามีเชื้อสายมาจากคนต่างถิ่น ประเพณีบางอย่างก็เลยไม่เหมือนชาวบ้าน แต่ข้าชอบนะ แปลกดี ไม่ซ้ำคนแถวนี้” คนพูดกลับมานั่งตรงหน้าสุสานของพ่อแม่ วันนี้แดดไม่ร้อน เธอจึงกล้านั่งกลางแดดนาน ๆ ผิดกับนอสที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ห้ามทิ้งร่มเด็ดขาด “เมื่อกี้เจ้าบอกว่าพ่อแม่เจ้าชอบดูดวงอาทิตย์เหรอ” “ใช่ ถามทำไม” “ดวงอาทิตย์มีอะไรน่าดู พ่อแม่เจ้าถึงชอบ” ’แวมไพร์คงไม่เคยเห็นสินะ’ เซลีน่าส่ายหน้าเล็กน้อย ท่าทางนอสจะไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ เห็นทีเธอคงต้องอธิบายให้เขาฟังอีก “ธรรมชาติสร้างสิ่งสวยงามได้อย่างน่าทึ่ง มนุษย์ที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนก็เลยได้เห็นสิ่งสวยงามอย่างหนึ่งนั่นคือดวงอาทิตย์ ตอนเช้าตรู่ ยามที่ท้องฟ้าเป็นสีทองอยู่ไกล ๆ ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะค่อย ๆ ขึ้นมาส่องแสง มันสวยมากเลยล่ะ และนั่นก็เป็นสัญญาณการเริ่มต้นของวันใหม่ด้วย” “มนุษย์ชอบดูดวงอาทิตย์เพราะมันสวยตอนกำลังขึ้นนี่เอง” นอสเข้าใจแล้วว่าทำไมมนุษย์ถึงชอบ “ไม่มีอย่างอื่นอีกเหรอ หรือว่ามีแค่นั้น” “มีสิ ตอนเย็น ๆ ช่วงดวงอาทิตย์กำลังจะตกดินน่ะ ทางทิศตะวันตก ท้องฟ้าเป็นสีเพลิง ส่วนดวงอาทิตย์ก็ค่อย ๆ หายลับขอบฟ้าไป มันสวยไม่แพ้ตอนดวงอาทิตย์ขึ้นเลย สมัยเด็ก พ่อกับแม่ชอบพาข้ามาดูบ่อย ๆ พูดแล้วก็คิดถึงตอนนั้นเลย” เซลีน่าเล่าไปยิ้มไปอย่างมีความสุขเมื่อนึกถึงสมัยที่ครอบครัวยังอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา นอสที่นั่งฟังอยู่ก็มีสีหน้าเศร้าหมอง ก็จริงที่มนุษย์อาจอ่อนแอกว่าแวมไพร์ แต่พวกเขากลับได้สิ่งดี ๆ ที่เผ่าพันธุ์ของเขาไม่มีวันได้มา “ข้าชักอยากดูบ้างแล้วสิ” “เจ้าถูกแสงแดดไม่ได้ คงไม่เคยเห็นล่ะสิ” “เคย” “อะไรนะ” “เปล่า ข้าแค่จะบอกว่าไม่มีแวมไพร์ตนไหนเคยเห็นหรอก พวกเรามีชีวิตอยู่ได้แค่หลังดวงอาทิตย์ตกดินเท่านั้น” นอสรีบเปลี่ยนคำพูดทันควัน จริงอยู่ที่เผ่าพันธุ์ของเขามีพลังแข็งแกร่งแต่น่าเสียดายที่สู้แสงแดดไม่ได้ หรือนี่ก็เป็นสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้ เช่นเดียวกับมนุษย์ที่อ่อนแอกว่าแต่กลับอยู่ได้ทุกช่วงเวลา เฝ้ามองวันคืนที่ผ่านมาและผ่านไป “ข้าจะกลับแล้ว” เซลีน่าเก็บข้าวของใส่ตะกร้าแล้วลุกขึ้นเดินไปตามเส้นทางลงเขา นอสก็ถือร่มเดินตาม นัยน์ตาสีไพลินมองท้องฟ้าสีครามพลางนึกถึงภาพวิวของดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นยามเช้า นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้เห็นมัน ช่วงเย็นวันนั้น เซลีน่าก็เข้าครัวทำอาหารง่าย ๆ ตามปกติ ส่วนอาหารที่นำไปยังสุสานของพ่อแม่ เธอก็เก็บกวาดหมดแล้วตั้งแต่ตอนเที่ยง ตอนนี้นอสยังเข้านอนอยู่ กว่าจะตื่นก็คงเป็นช่วงหลังดวงอาทิตย์ตกดิน บรรยากาศเงียบเหงาจึงทำให้เธอรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวอีกครั้ง “อะไรกัน ข้าก็อยู่คนเดียวมานาน อยู่ ๆ ทำไมถึงรู้สึกไม่ชินเนี่ย” เธอไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกเหมือนมีบางอย่างหายไป หรือเป็นเพราะตอนนี้ในบ้านไม่ได้มีแค่เธอคนเดียวที่อาศัยอยู่ วันใดวันหนึ่ง ถ้าอีกฝ่ายไม่อยู่ บ้านคงเงียบเหงาน่าดู ’ทำไมข้าต้องมาคิดเรื่องอีตาแวมไพร์นั่นด้วย’ เซลีน่าบ่นในใจขณะตักอาหารเข้าปาก ใช้เวลาไม่นานเธอก็จัดการมื้อเย็นจนหมด จากนั้นก็เก็บจานไปล้างตามด้วยจัดโต๊ะให้เป็นระเบียบ เสียงเปิดประตูห้องนอนดังแว่วมา นอสเดินขยี้ตางัวเงียออกมาก่อนจะโบกมือทักทายหญิงสาว นัยน์ตาสีแสงจันทร์เบนไปทางหน้าต่างจึงพบว่าตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว จึงไม่น่าแปลกที่เขาจะออกมาทำหน้ายิ้มระรื่น “จะไปหาเลือดสัตว์กินใช่ไหม” “ข้าไปไม่นาน เดี๋ยวก็กลับ” ร่างสูงกล่าวพลางเปิดประตูออกไปนอกบ้าน จังหวะนั้นสัญชาตญาณบางอย่างก็ร้องเตือนทำให้เขาชะงัก เซลีน่าเห็นปฏิกิริยานั้นจึงเดินมาถาม “เป็นอะไร” ทว่าคนถูกถามไม่ตอบแถมยังถอยกลับเข้ามาในบ้านตามด้วยปิดประตูลงกลอน ร่างบางเห็นดังนั้นจึงเข้าใจว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น “นอส มีอะไร” “มีแวมไพร์อยู่ไม่ไกลจากที่นี่” “!!!” “ถอยไปก่อน อย่าเข้าใกล้หน้าต่างนะ” หญิงสาวถอยหลังไปอยู่กลางห้อง ส่วนชายหนุ่มหายวับไป เซลีน่าเห็นเงาสีดำเคลื่อนไหววูบไปวูบมาพร้อมกับที่หน้าต่างทุกบานปิดลงพร้อมลงกลอน จากนั้นชายหนุ่มก็หายแวบมาอยู่ข้าง ๆ “เร็วจัง” “แวมไพร์เคลื่อนที่เร็วอยู่แล้ว” นอสกวาดสายตาไปรอบ ๆ อย่างระวังภัย หญิงสาวก็ทำแบบนั้นเช่นกัน แม้จะเคยอยู่คนเดียวบนเขามานานแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกหวาดระแวง ปึง! ปึง! ปึง! พลันเสียงทุบประตูบ้านก็ดังขึ้นทำลายความเงียบ นอสกับเซลีน่าหันไปมองต้นเสียงทันควัน แต่ยังไม่มีใครกล้าเปิดประตูเพราะไม่รู้ว่าเป็นใครและอันตรายหรือไม่ “ใครก็ได้เปิดประตูที มันมาแล้ว มันตามมาแล้ว!” เสียงตะโกนนั้นดังสลับกับเสียงทุบประตู เซลีน่าทำอะไรไม่ถูก เธอจะเปิดทางให้หรือจะปล่อยไว้ดีเนื่องจากไม่แน่ใจว่าเจ้าของเสียงเป็นคนหรือตัวอะไรกันแน่ “นอส!” อยู่ ๆ คนข้างตัวก็พุ่งออกไปทำให้เธอร้องเรียก แวมไพร์หนุ่มไม่สนใจ เขารีบเปิดประตู พริบตานั้นใครบางคนที่รออยู่ด้านนอกก็ล้มลงมาทำให้ร่างสูงรีบรับทันควันก่อนที่เขาจะลากเข้ามาด้านใน ส่วนเซลีน่าก็รีบตั้งสติแล้ววิ่งไปปิดประตูตามเดิม “ทำใจดี ๆ ไว้” นอสนั่งลงข้าง ๆ ผู้บาดเจ็บสาหัสซึ่งตอนนี้ตามตัวเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์จากการถูกกัดอย่างน่ากลัว “อยู่เฉย ๆ ข้าจะห้ามเลือดให้” หมับ! ชายชุดดำที่บาดเจ็บปางตายคว้าต้นแขนสองข้าง นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวนั้นสบกับนัยน์ตาสีไพลิน เขาสำลักลิ่มเลือดและเค้นแรงที่เหลืออยู่บอกสิ่งที่เกิดให้นอสรับรู้ “แนวหน้า...ทุกคนตายหมดแล้ว แฟนาติกผ่านเข้ามาแล้ว!” ประโยคนั้นทำให้คนฟังเบิกตากว้าง เซลีน่าที่ยืนมองอยู่ก็เดาว่าชายคนนี้น่าจะเป็นแวมไพร์เหมือนกัน นอสอาจรู้สึกได้ว่าเป็นคนรู้จักจึงเปิดประตู “แล้วหน่วยล่าสังหาร” “ถ้าไม่ตาย...ก็คง...หาทาง...กลับดินแดน...รัตติกาล แค่ก ๆ” คนบาดเจ็บสำลักลิ่มเลือดอีกรอบ เขาตัวสั่นจนนอสรู้สึกได้ ถ้าขืนยังให้พูดต่อมีหวังได้ตายจริง ๆ แน่ “อย่าเพิ่งพูดอะไรอีก เจ้าไม่ไหวแล้ว” “ไม่ได้” ชายคนนั้นสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเค้นแรงเฮือกสุดท้ายพูดต่อ “ถ้าเจ้าชาย...กับหน่วยล่า...สังหาร...กลุ่มเดิมยัง...อยู่ที่แนวหน้า...ก็คงดี...” เพียงแค่นั้นแวมไพร์ผู้เคราะห์ร้ายก็แน่นิ่งไปทั้งที่ดวงตายังเปิดอยู่ นอสไม่พูดอะไรนอกจากช่วยปิดตาให้ “หน่วยล่าสังหารเป็นกลุ่มแวมไพร์ที่เก่งที่สุดในเผ่าพันธุ์ข้า ภารกิจที่ได้รับมีแต่เรื่องอันตรายและรับคำสั่งโดยตรงจากเจ้าชายลำดับที่หนึ่ง แต่สองสามร้อยปีมานี้ งานหลักของพวกเขาคือต่อสู้และยับยั้งการรุกรานของพวกแฟนาติก อืม...น่าจะรวมทั้งรับมือกับพวกนักล่าแวมไพร์ด้วย” เซลีน่านึกถึงคำพูดของนอส ก่อนหน้านี้เขาเล่าว่าหน่วยล่าสังหารขึ้นตรงต่อเจ้าชายลำดับที่หนึ่งของแวมไพร์ แต่คำพูดของชายที่ตายนั้นทำให้เธอรู้สึกว่าแนวหน้าไม่ได้รับคำสั่งจากเขาแล้ว “ที่เขาพูด หมายความว่าอย่างไร” “แนวหน้าที่ต่อสู้กับพวกแฟนาติกแพ้แล้ว มิน่าล่ะ ถึงมีพวกมันมาป้วนเปี้ยนแถวนี้” นอสถอนหายใจเหมือนคนท้อแท้ ตอนที่เขาเดินทางกลับหลังจากทำหน้าที่ของหน่วยขนส่งเสร็จสิ้น หน่วยล่าสังหารยังรักษาฐานที่มั่นได้อยู่เลย “แล้วเจ้าชายลำดับที่หนึ่งล่ะ เจ้าบอกว่าหน่วยล่าสังหารอะไรนั่นขึ้นตรงต่อเขานี่” “เมื่อครึ่งปีก่อน เจ้าชายถูกเรียกตัวกลับไปดินแดนรัตติกาล หน่วยล่าสังหารเดิมถูกปลดประจำการแล้วคนใหม่ก็มาแทน ข้าไม่ชอบเลย มั่นใจว่าต่อมาต้องมีปัญหาแน่ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ฐานแนวหน้าแตกแล้ว” คนพูดถอนหายใจยาวจากนั้นก็ควานหาอะไรสักอย่างจากศพจนกระทั่งเจอตราสัญลักษณ์ค้างคาวสีแดง “นั่นอะไรน่ะ” เซลีน่ามองด้วยความสนใจ “ตราของหน่วยขนส่ง เขาอยู่หน่วยเดียวกันกับข้า” นอสพลิกดูด้านหลังตราซึ่งสลักชื่อเจ้าของไว้ ชายหนุ่มนำตราของตัวเองออกมาก่อนจะเก็บไว้ด้วยกันเพื่อระลึกถึงผู้ที่จากไป กี๊ซ! เสียงแหลมเล็กดังแว่วมาแต่ไกลทำให้เซลีน่าถึงกับหลุดสะดุ้ง นอสรีบลุกขึ้นพลางถอยหลังมาหาเจ้าของบ้าน หญิงสาวหน้าซีดเผือดเพราะรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี เธอเผลอจับต้นแขนอีกฝ่ายพลางกวาดสายตาไปรอบ ๆ อย่างหวาดระแวง ทางด้านนอสก็ถึงกับหน้าเครียด เสียงคำรามนี้ไม่ผิดแน่ มีอยู่เผ่าพันธุ์เดียวที่ร้องแบบนี้และอยู่ในพื้นที่แถบนี้ด้วย เสียงนั้น...แฟนาติก!
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 5 ก่อนภัยร้ายมาเยือน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A