บทที่ 8 เซลีน่าแต่งงานแล้ว!
1/
บทที่ 8 เซลีน่าแต่งงานแล้ว!
Selena and the Vampire เซลีน่ากับผู้มาจากรัตติกาล
(
)
已经是第一章了
บทที่ 8 เซลีน่าแต่งงานแล้ว!
ปัง! เสียงปืนดังขึ้นแต่ผลไม้ที่มัดไว้กับเถาวัลย์และห้อยลงมาจากต้นไม้ยังคงมีสภาพเดิมทำให้เซลีน่าลดปืนลงทั้งที่หน้ามุ่ย เจ้าของเรือนผมสีแสงจันทร์หันหน้าบูด ๆ มาจ้องคนสอน นอสมองเธอกลับพลางส่ายหน้าเล็กน้อย หญิงสาวทิ้งตัวนั่งลงพื้นพร้อมกับวางกระบอกปืนยาวไว้ข้าง ๆ อย่างหงุดหงิด “ทำไมยิงปืนมันยากอย่างนี้เนี่ย ยิงหลายรอบแล้วไม่เห็นเข้าเป้าเลย!” “น่า ๆ เพิ่งหัดยิงครั้งแรกเอง ถ้ายิงครั้งแรกแล้วเข้าเป้าสิแปลก” แวมไพร์หนุ่มปลอบใจคนหงุดหงิด เซลีน่าชำเลืองมองอีกฝ่ายแล้วลุกขึ้นตามด้วยปิดปากหาวนอน “ข้าง่วงนอน จะกลับล่ะนะ” เพราะคนสอนออกนอกบ้านได้เฉพาะตอนกลางคืน ร่างบางจึงต้องซ้อมยิงปืนช่วงเวลานี้ ทว่าเมื่อถึงเวลานอนสำหรับมนุษย์ เธอก็จำเป็นต้องกลับบ้าน “คืนต่อไปค่อยมาฝึกต่อละกัน” นอสถือที่รองน้ำตาเทียนขึ้นมาทำให้แสงจากเทียนไขส่องสว่าง สำหรับเขา ความมืดในยามราตรีไม่ใช่ปัญหา แต่เซลีน่าเป็นมนุษย์ ยิ่งออกมาข้างนอกกลางค่ำกลางคืนเธอจึงมองทางไม่ค่อยเห็น ชายหนุ่มจึงใช้เทียนส่องทางให้เธอเดิน “งู!” นัยน์ตาสีแสงจันทร์เห็นงูเลื้อยผ่านไปก็ตกใจจนเซถอยหลังแต่เขาช่วยรับทันควัน พอเห็นสิ่งมีชีวิตตัวยาวเลื้อยเข้าพงหญ้าข้างทางไปแล้ว หญิงสาวจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก “มันไปแล้ว” “นอส” เซลีน่าเอ่ยเสียงเขียว ๆ เจ้าของชื่อหันมามองอย่างไม่เข้าใจว่าเธอหงุดหงิดอะไรจนกระทั่งเธอส่งสายตาที่อ่านได้ว่าให้ก้มมองลง แล้วจะรู้ว่าทำไม “จะโอบเอวข้าไปถึงไหน ปล่อยได้แล้ว” “ขอโทษที” เจ้าของมือรีบปล่อยโดยเร็ว “ยกเทียนขึ้นสูง ๆ ด้วย ข้ามองไม่เห็นทาง” “ก็ได้” คนถูกสั่งชูเทียนขึ้นสุดแขน แสงเทียนที่ส่องลงมาทำให้เซลีน่าเห็นทางเดินลงเขามากขึ้น แต่อยู่ ๆ นอสก็คว้าแขนเธอไว้ เจ้าของเรือนผมสีแสงจันทร์หันมาด้วยความสงสัย มันเกิดอะไรขึ้นอีก เขาถึงไม่ยอมไปต่อ “มีอะไรเหรอ” “ข้าได้กลิ่นเลือด” “!!!” ร่างบางเบิกตากว้างก่อนจะเขยิบมาหลบอยู่ด้านหลังชายหนุ่ม มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาบีบแขนเขาเบา ๆ นัยน์ตาสีไพลินเบนมามองเล็กน้อย ท่าทางแบบนั้นไม่บอกก็รู้ว่าเธอกำลังกลัว บางครั้งเซลีน่าก็ใช่ว่าจะยอมคน แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะกลัวไม่เป็น การเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายยามราตรีก็เช่นกัน และคนที่เธอนึกออกว่าพึ่งได้ก็มีแค่นอสเท่านั้น “รีบเดินเถอะ” แวมไพร์หนุ่มรีบพาร่างบางเร่งฝีเท้ากลับบ้าน ถ้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ เขาคงไม่ให้เซลีน่ามาหัดยิงปืนบนภูเขานานแล้ว กี๊ซ! เสียงแหลมสูงดังแว่วมาแต่ไกลทำให้ทั้งสองชะงัก นั่นคือเสียงของแฟนาติกไม่ผิดแน่ ทั้งคู่จำได้เพราะเคยเผชิญหน้ากับพวกมัน เจ้าของเรือนผมสีแสงจันทร์หันมาสบตาคนข้าง ๆ ชายหนุ่มรีบเป่าลมดับเทียนจากนั้นก็จูงมือหญิงสาวหนีไปหลบอยู่หลังต้นไม้ กี๊ซ! สัตว์ร้ายยามราตรีวิ่งออกมาจากแนวป่าอีกด้านของเส้นทาง บนแผ่นหลังของมันเต็มไปด้วยลูกธนูที่ทำจากเงิน เสียงฝีเท้าอีกหลายคู่ดังแว่วมาทำให้แฟนาติกตัวนั้นรีบวิ่งหนี พลันกระสุนปืนอีกหลายนัดก็พุ่งมาทะลุร่างทำให้มันล้มลงก่อนจะแน่นิ่งไป เวลาผ่านไปชั่วครู่ กลุ่มคนที่เล่นงานอสูรตัวนั้นก็กระโจนออกมาจากแนวป่าข้างทาง “เสร็จไปอีกหนึ่ง” หญิงสาวในชุดทะมัดทะแมงกล่าวขึ้นพลางกระชากลูกธนูออกมาจากซากแฟนาติก ใกล้ ๆ กันก็มีผู้ชายอีกสามคนใช้ดาบที่ทำจากเงินเสียบทะลุร่างสัตว์ร้ายเพื่อความแน่ใจว่ามันตายแล้ว “เรียบร้อยดีใช่ไหม” เสียงของผู้มาใหม่ที่ก้าวออกมาพร้อมผู้ติดตามอีกสองคนที่ถือคบเพลิงให้แสงสว่าง ทั้งสี่คนที่ล่วงหน้ามาก่อนจึงค้อมศีรษะตามมารยาท “เรียบร้อยดีค่ะ หัวหน้า เรากำจัดแฟนาติกไปทั้งหมดห้าตัวแล้ว” ผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มเป็นคนรายงาน “พื้นที่นี้ไม่เคยมีแฟนาติก ท่าทางพวกแวมไพร์จะรับมือไม่อยู่แล้วสินะ” โคลวิส เซนวิก เหยียดยิ้มเย้ยหยันเมื่อกล่าวถึงเผ่าพันธุ์แห่งรัตติกาล “สมควรแล้ว พวกมันทำให้แฟนาติกเกิดขึ้น สุดท้ายก็แก้ไขอะไรไม่ได้ สุดท้ายนักล่าแวมไพร์อย่างเราก็ต้องเข้ามาจัดการ” “จะว่าไปแล้ว ทางฝ่ายแวมไพร์เองก็มีปัญหาเหมือนกันนะครับ ตั้งแต่มีเจ้าชายแวมไพร์ตนหนึ่งถูกเนรเทศออกจากราชวงศ์ไป หน่วยล่าสังหารก็อ่อนแอลง แนวหน้าก็ไม่แข็งแกร่ง เจ้าชายลำดับที่หนึ่งก็ดูท่าจะควบคุมอะไรไม่ได้ ดีไม่ดี พวกแวมไพร์อาจใกล้ถึงยุคล่มสลายแล้วก็ได้นะครับ” ผู้ติดตามที่ถือคบเพลิงกล่าวเสริมต่อ เรียกเสียงหัวเราะเย้ยหยันจากเพื่อนร่วมงานทันที เผ่าพันธุ์แห่งรัตติกาลเริ่มอ่อนแอ พวกเขาต้องสมน้ำหน้า! “ใกล้ถึงยุคล่มสลายงั้นหรือ” เสียงพึมพำของนอสทำให้เซลีน่าที่แอบมองพวกนั้นอยู่หันมามอง เธอเห็นสีหน้าของเขาดูหงุดหงิดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “แวมไพร์ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น คิดว่าโดนไล่ออกจากบ้านแล้วจะทำอะไรไม่ได้เหรอ” “นอส” เจ้าของเสียงหวานเห็นเขาอารมณ์เสียจึงเขยิบมาใกล้ ๆ เพื่อหวังจะปลอบถ้าไม่ติดว่าเผลอเหยียบกิ่งไม้เข้าเสียก่อน เสียงดังที่เกิดขึ้นทำให้กลุ่มนักล่าแวมไพร์หันมาอย่างพร้อมเพรียง “หัวหน้า” “เสียงกิ่งไม้หัก บางทีอาจมีอะไรอยู่หลังต้นไม้ต้นนั้น” โคลวิสชักดาบออกจากฝักแล้วค่อย ๆ ก้าวไปหาต้นไม้ใหญ่ เซลีน่าที่หลบอยู่ถึงกับหน้าซีดเผือด นอสเห็นว่าท่าทางไม่ดีจึงคว้าปืนขึ้นเตรียมพร้อม ถ้าอีกฝ่ายโจมตี เขาจะลั่นไกทันที! กี๊ซ! “หัวหน้า เสียงแฟนาติกครับ” “หน่วยที่แยกกับเราไปคงเจอพวกมันสินะ” ทายาทตระกูลนักล่าแวมไพร์เก็บดาบเข้าฝักแล้ววิ่งนำกลุ่มไปตามเสียงทันที สองหนุ่มสาวที่แอบอยู่จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก “ข้าเชื่อแล้วว่าหมอนั่นเป็นนักล่าแวมไพร์จริง ๆ นึกว่าจะไม่รอดแล้ว” เซลีน่าเอนตัวลงมาพิงไหล่คนข้าง ๆ พลางพ่นลมหายใจพรืดใหญ่ ส่วนนอสก็วางปืนยาวลงข้างตัว ถ้าอีกฝ่ายเจอเขาคงไม่พ้นได้ฆ่ากันตายแน่ “แต่การที่พวกนั้นมาที่หมู่บ้านเจ้า แสดงว่าพวกแฟนาติกมาถึงที่นี่แล้วจริง ๆ ถ้าให้เดา พวกที่ตายคงเป็นกลุ่มย่อย” ชายหนุ่มเริ่มกังวล การที่พวกกลุ่มย่อยมาเพ่นพ่านแถวนี้ แสดงว่าฝูงใหญ่คงอยู่อีกไม่ไกล มั่นใจได้ว่าทุก ๆ คืนมันคงเคลื่อนฝูงเข้ามา แต่จะถึงที่นี่ตอนไหนก็ไม่มีใครรู้ “ข้าอยากกลับบ้านแล้ว...อะไร?” อยู่ดี ๆ นอสก็หันมามองหน้าเธอ เซลีน่าขมวดคิ้วก่อนจะนึกได้ว่าตัวเองซบไหล่เขาอยู่จึงรีบลุกแล้วถอยออกมาทันที “ได้ กลับบ้านกัน” แวมไพร์หนุ่มลุกตาม เขาใช้ก้อนหินกระทบกันแรง ๆ เพื่อใช้จุดไฟใส่เทียนไขจากนั้นก็ใช้มันส่องเส้นทางให้หญิงสาวเดินกลับบ้าน ร่างบางไม่กล้าเดินนำหน้าอีกเพราะตกใจเรื่องงูเลื้อยผ่านหน้า เธอจึงเปลี่ยนมาเดินอยู่ข้าง ๆ นอสแทน หวังว่าต่อไปคงไม่มีอะไรแล้วนะ! ช่วงสาย ๆ ของวันใหม่ เซลีน่าก็หิ้วตะกร้าเดินลงจากภูเขามาที่หมู่บ้านเพื่อมาซื้อของตามปกติ ส่วนชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในบ้านเธอก็เข้านอนตามเวลาพักผ่อนของแวมไพร์ ทุกอย่างในหมู่บ้านยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แน่นอนว่าความสวยของเธอก็ทำพิษอีก เมื่อพวกหนุ่ม ๆ หันมามองเธอตาเป็นมัน ส่วนพวกผู้หญิงก็จิกตาจ้องอย่างอิจฉาริษยา “จะมองกันทำไมเนี่ย” เซลีน่าไม่อยากเป็นเป้าสายตาเลย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำเป็นไม่สนใจ เธอเดินไปซื้อเนื้อไก่ที่ร้านขายเนื้อ จากนั้นก็แวะร้านขายเครื่องเทศ เสร็จแล้วก็หิ้วตะกร้าใส่ของกลับออกมาเพราะของที่จะซื้อมีเพียงเท่านี้ “เซลีน่า” ใครบางคนเรียกชื่อเธอ หญิงสาวจึงหันหลังกลับไปมอง “ใช่จริง ๆ ด้วย เห็นเดินเข้ามาในหมู่บ้านนานแล้วแต่ไม่กล้าทัก กลัวทักผิดน่ะ” “โคลวิส?” ’ไอ้หมอนี่อีกแล้วเหรอ!’ คราวก่อนอีกฝ่ายช่วยเธอไว้ อันนั้นก็ต้องขอบคุณ แต่เมื่อคืนเขาเกือบจะเจอเธอกับนอสแล้ว และยิ่งเป็นนักล่าแวมไพร์ เซลีน่าก็ยิ่งไม่อยากเข้าใกล้ ทั้งที่อีกฝ่ายเป็นมนุษย์ ผิดกับนอสที่เป็นแวมไพร์แต่ทำไมเธอถึงอยากอยู่ใกล้พวกไม่ใช่มนุษย์มากกว่า! “ข้ามาซื้อของไปทำอาหารน่ะ” หญิงสาวปั้นหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสแล้วคุยกับอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้มีพิรุธ “โคลวิสมาซื้อของเหรอ หรือว่ามาเดินเล่น” “ข้าแค่เดินทางผ่านมา คิดว่าจะพักอยู่ที่หมู่บ้านนี้สักระยะ อีกอย่างข้ากำลังเบื่อพอดี ข้าก็เลยออกมาเดินเล่นน่ะ” ชายหนุ่มก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งที่เมื่อคืน ตัวเองก็พาพรรคพวกไปตามล่าสัตว์ร้ายยามราตรี ยังดีที่เขารู้แค่ว่ามีแฟนาติกมาป้วนเปี้ยนใกล้หมู่บ้าน ถ้ารู้ว่ามีแวมไพร์อยู่ในบ้านใครบางคนคงเป็นเรื่องใหญ่แน่ “เอ่อ...ข้าคิดว่าข้าคงต้องกลับแล้ว ขอตัวนะ” “เดี๋ยวก่อน” ’อะไรอีกเนี่ย!’ เซลีน่ารู้สึกหงุดหงิดเมื่อถูกอีกฝ่ายเรียกไว้ แต่จะเผยพิรุธไม่ได้ ดังนั้นร่างบางจึงปั้นหน้ายิ้ม ๆ แล้วหันหลังกลับมาตามเดิม “มีอะไรหรือเปล่า” “บ้านเจ้าอยู่บนภูเขาใช่ไหม” “รู้ด้วยเหรอ” “พอดีคนในหมู่บ้านเล่าให้ฟัง ว่าแต่เจ้าไม่กลัวเหรอ อยู่คนเดียวบนนั้นมันอันตรายนะ” โคลวิสแสดงท่าทางเป็นห่วงหญิงสาว ขั้นแรกเขาต้องหาโอกาสคุยกับฝ่ายตรงข้าม จากนั้นก็ทำตัวดี ๆ เหมือนเอาใจใส่เธอ สักวันหนึ่งถ้าเธอตายใจ เขาก็จะได้เริ่มภารกิจพาหญิงสาวแห่งดวงจันทร์กลับไปยังฐานที่มั่นของนักล่าแวมไพร์ ’พวกสาว ๆ ในหมู่บ้านไม่ชอบนาง ส่วนพวกผู้ชายก็ชอบนางที่หน้าตานี่นะ ถ้าเราทำดีให้นางใจอ่อน แผนการขั้นต่อไปคงไม่มีอะไรยาก’ โคลวิสกล่าวกับตัวเองในใจ ลูกน้องที่ไปสืบเรื่องของเธอก็บอกว่าหญิงสาวอยู่คนเดียว แน่นอนว่าคนที่อยู่คนเดียวนาน ๆ จะมีความรู้สึกเหงาและอ้างว้าง ถ้าเข้ามาเติมเต็มส่วนนั้นได้ การเข้าหาเธอก็ง่ายเหมือนปอกกล้วย “ข้าไม่เป็นไร” “จะดีเหรอ กลางคืนอันตราย มีสัตว์ร้ายออกหากิน อยู่คนเดียวคงไม่ดีหรอก” โคลวิสพยายามเสนอความช่วยเหลือเมื่อเห็นว่าหญิงสาวปฏิเสธเขา “จริงอยู่ที่เมื่อก่อนข้าอยู่คนเดียว แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วล่ะ ขอโทษนะ โคลวิส ข้าต้องรีบกลับแล้ว ชักช้าเดี๋ยวสามีรอนาน” เจ้าของเสียงหวานทิ้งท้ายจากนั้นก็หันหลังเดินจากไป ทางด้านทายาทตระกูลนักล่าแวมไพร์ก็ยืนนิ่งไปชั่วขณะ เขาหูฝาดหรือเปล่า เธอบอกว่ามีสามีแล้ว! “เซลีน่า” เจ้าของชื่อหันมาอีกรอบทั้งที่ในใจรู้สึกรำคาญเต็มแก่ “เจ้าแต่งงานแล้วเหรอ” คำถามนั้นทำให้เธอยิ้มกว้างกว่าเดิมก่อนจะพยักหน้ารับ “ใช่ ข้าแต่งงานแล้ว” หญิงสาวเน้นย้ำชัด ๆ “อะไรนะ! เซลีน่าแต่งงานแล้วเหรอ!” คุณป้าคนหนึ่งที่กำลังจัดหน้าร้านขายผลไม้ได้ยินเข้าจึงหันมาตะโกนถาม ทันใดนั้นพวกชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงก็หันมาทางเจ้าของเรือนผมสีแสงจันทร์อย่างพร้อมเพรียง “เซลีน่าแต่งงานแล้ว?” “กับใครล่ะ” “ไม่รู้เหมือนกัน เพิ่งได้ยินเมื่อกี้นี้เอง” “เซลีน่า! มีผัวตอนไหนทำไมไม่บอกยาย!” หญิงชราเจ้าของร้านขายขนมปังที่อยู่ใกล้ ๆ เดินออกมาตะโกนถามอีกคน ทำให้คนถูกถามถึงกับหน้าเหวอเพราะไม่นึกว่าจะโดนถามตรง ๆ แบบนี้! ท่าทางจะกลายเป็นเรื่องฮือฮาทั้งหมู่บ้านแล้ว! เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นทำให้แวมไพร์ที่กำลังนอนมุดอยู่ใต้ผ้าห่มโผล่หน้าออกมาดูทันที นอสเห็นเซลีน่ายืนหอบอยู่คาดว่าหญิงสาวคงวิ่งจากหมู่บ้านมาที่นี่แน่ ร่างบางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ตามด้วยผ่อนลมหายใจออกยาว ๆ จากนั้นก็พุ่งมาเขย่าร่างคนนอนทันที “นอส! ช่วยข้าด้วย!” “ปะ...ปล่อยข้าก่อน” คนง่วงนอนรีบแกะมือบางที่คว้าคอเสื้อเขาแล้วเขย่าแรง ๆ เจ้าของเสียงหวานยอมปล่อยแต่โดยดีแล้วนั่งจ้องหน้าเจ้าของนัยน์ตาสีไพลินอย่างเคร่งเครียด “ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วย” “เกิดอะไรขึ้น” “คือว่าตอนที่ข้าไปซื้อของในหมู่บ้านน่ะ...” หลังจากนั้นเซลีน่าก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังอย่างละเอียดโดยไม่มีขาดตกบกพร่องตรงไหนเลยแม้แต่นิดเดียว หลังจากฟังจบ นอสก็ถึงกับหน้าเหวอ นานทีเดียวกว่าเขาจะหาเสียงตัวเองเจอแล้วหลุดพูดออกมา “เจ้า...เอาข้าไปอ้างว่าข้าเป็นสามีเจ้าเหรอ!” “ก็ถ้าข้าไม่ทำแบบนี้ ไอ้เจ้าโคลวิสอะไรนั่นก็จะตามติดข้าไม่เลิกน่ะสิ ถ้าเจ้าไม่พอใจ ข้าก็ขอโทษด้วย แต่ข้านึกวิธีสลัดเจ้านั่นไม่ออกแล้วจริง ๆ นอกจากต้องเอาเจ้ามาอ้าง ข้าขอร้องล่ะ ช่วยเล่นละครตบตากับข้าหน่อยนะ” หญิงสาวเขย่าแขนแวมไพร์พลางส่งสายตาออดอ้อน นอสนิ่งไปชั่วขณะเหมือนกำลังใช้ความคิด พลันรอยยิ้มไม่น่าไว้ใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า “ข้าจะช่วยก็ได้ แลกกับเลือดของเจ้า กินเลือดสัตว์บ่อย ๆ ข้าก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ” “เจ้านี่มัน...” พอได้ยินว่าต้องมีของมาแลกเปลี่ยน เซลีน่าก็รู้สึกอยากจะเอามีดมาแทงอีกฝ่ายให้ตายคาที่นัก “ที่แท้เจ้าก็เป็นพวกฉวยโอกาส ได้ทีแล้วเอาใหญ่เชียวนะ” “เจ้าจะไม่ให้เลือดกับข้าก็ได้ แต่...” อยู่ดี ๆ นอสก็โน้มใบหน้ามาใกล้ ๆ ทำให้เธอเผลอถอยหลังตามสัญชาตญาณ “แหม อุตส่าห์ขึ้นมาหาข้าถึงเตียง ถ้าไม่ให้เลือดแลกเปลี่ยน เจ้าจะใช้อย่างอื่นแลกก็ได้นะ” ชิ้ง! มีดทำครัวปลายแหลมที่ทำจากเงินถูกยกขึ้นมาจ่อคอชายหนุ่มทันที ร่างสูงชะงัก ส่วนเซลีน่าก็คลี่ยิ้มแบบนางมาร ถึงจะอยู่ด้วยกันมาหลายวัน แต่ใช่ว่าเธอจะไม่ระวังตัว หญิงสาวแห่งดวงจันทร์เป็นที่ต้องการอย่างมากโดยเฉพาะแวมไพร์ ไม่แน่นอสอาจกำลังคิดอะไรอยู่ก็ได้ ดังนั้นเธอจะต้องระวังให้ดี “เจ้าจะช่วยข้าดี ๆ หรือจะช่วยข้าทั้งน้ำตา” “ตกลง ข้าจะช่วยเจ้า” นอสรับปากโดยไม่ต้องคิด!
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 8 เซลีน่าแต่งงานแล้ว!
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A