บทที่ 12 หมู่บ้านที่ถูกทำลาย
1/
บทที่ 12 หมู่บ้านที่ถูกทำลาย
Selena and the Vampire เซลีน่ากับผู้มาจากรัตติกาล
(
)
已经是第一章了
บทที่ 12 หมู่บ้านที่ถูกทำลาย
ฝูงค้างคาวร่อนลงพื้นก่อนจะหายไปกับอากาศธาตุแล้วแทนที่ด้วยร่างของแวมไพร์ซึ่งกำลังกึ่งวิ่งกึ่งเดินตรงมาเคาะประตู ทว่าการที่ไม่มีแสงไฟในบ้าน ทำให้นอสรู้สึกร้อนใจ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าของบ้านระหว่างที่เขาไม่อยู่หรือจะมีใครบุกมาแล้วพาเธอไปที่อื่น “เซลีน่า ข้ากลับมาแล้ว อยู่หรือเปล่า เปิดประตูด้วย” พอลองเคาะเรียกอีกสองสามครั้งก็ไม่มีเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างในเลย ชายหนุ่มรู้สึกไม่ดีจึงตะโกนเรียกเธออีก “เซลีน่า ข้านอสเองนะ เปิดประตูด้วย” ปึง! ปึง! ปึง! คราวนี้เขาเปลี่ยนมาทุบประตูแทน ทว่าเจ้าของบ้านก็ยังไม่เปิดให้ เจ้าของนัยน์ตาสีไพลินสบถเบา ๆ ด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพพลางทุบประตูเป็นครั้งสุดท้าย แวมไพร์หนุ่มหันหลังเดินหนีไปสองสามก้าวตามด้วยเตะก้อนหินตามพื้น ก่อนจะหันหลังเดินกลับมาแล้วถีบประตู ทันทีที่บานไม้เปิดออก เจ้าตัวก็พุ่งเข้าไปด้านในอย่างเร่งรีบ “เซลีน่า!” ร่างสูงวิ่งหาเจ้าของชื่อทั่วบ้านแต่ก็ไม่พบ นอสกลับมายังห้องนั่งเล่นพลางกวาดสายตาไปรอบ ๆ เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะวางจึงหยิบขึ้นมาดู มีคนจากหมู่บ้านมาหา พวกเขาไม่อยากให้ข้าอยู่ที่นี่ มีสัตว์ร้ายออกอาละวาด พวกเขาบอกว่าข้าควรไปอยู่ในหมู่บ้าน จะได้ปลอดภัย พวกเขาถามถึงเจ้าด้วยนะ ข้าก็เลยโกหกว่าเจ้าไปล่าสัตว์ อีกอย่างข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะกลับมาตอนไหน ข้าก็เลยทิ้งข้อความไว้ ถ้าอ่านแล้วค่อยตามมานะ เซลีน่า “ฉิบหายแล้ว!” นอสทิ้งกระดาษตามด้วยพุ่งออกจากบ้านไปโดยเร็ว พลันร่างของชายหนุ่มก็กลายเป็นฝูงค้างคาวก่อนจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้ากลืนหายไปกับความมืดยามราตรี เขาต้องรีบไปยังหมู่บ้าน ที่นั่นอันตรายเกินไป! เพราะไม่มีบ้านอยู่ในชุมชน หญิงสาวจึงต้องอาศัยบ้านคนอื่นเพื่อค้างแรม คุณยายเจ้าของร้านขายผลไม้เป็นคนให้ที่พักกับเธอ และเพื่อเป็นการตอบแทน ระหว่างที่หญิงชราไปเก็บของในครัว เซลีน่าก็นั่งปอกผลไม้อยู่ในห้องนั่งเล่นทั้งที่ขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าป่านนี้นอสจะเห็นข้อความที่เธอทิ้งไว้หรือยัง ถ้าเห็นแล้วคงจะมาเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเธอก็เชื่อว่าเขาต้องมาแน่ “เซลีน่า” เจ้าของชื่อเงยหน้ามองผู้มาใหม่ หลานชายเจ้าของบ้านยืนยิ้มกว้างก่อนจะวางแก้วน้ำส้มลงตรงเธอพลางลากเก้าอี้มานั่งใกล้ ๆ “มีอะไร อัลลี่” “ข้าเอาน้ำส้มมาให้” “ขอบใจ” หญิงสาวยกแก้วใบนั้นขึ้นมา อัลลี่มองตามอย่างลุ้นระทึกเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะดื่มแต่อยู่ ๆ เธอก็หยุดแล้วยื่นแก้วมาให้เขาแทน “ข้าไม่หิว เจ้าดื่มเถอะ” “แต่...” “ทำไม? น้ำส้มมีอะไรอยู่เหรอ” คำถามนั้นทำให้หลานชายเจ้าของบ้านถึงกับหลุดสะดุ้ง “หรือว่าเจ้าใส่ยานอนหลับ? ข้าพูดถูกหรือเปล่า” “ปะ...เปล่า” “อย่าโกหกข้า คิดว่าข้าไม่รู้เหรอ ถ้าไม่นับคุณตา คุณยาย ลุง ป้า น้า อาในหมู่บ้าน ก็ไม่มีใครเป็นมิตรกับข้านักหรอก พวกผู้หญิงเกลียดขี้หน้าข้า ส่วนพวกผู้ชายก็จ้องข้าตาเป็นมัน นี่ขนาดข้าแต่งงานแล้ว เจ้ายังกล้าทำแบบนี้อีก ศีลธรรมในหัวเคยมีบ้างไหม ยายเจ้าก็สอนอยู่ทุกวัน ทำไมไม่จำใส่กะโหลกไว้บ้าง” ถึงแม้ว่าเรื่องแต่งงานจะเป็นเรื่องหลอก แต่คนไม่รู้อย่างอัลลี่ก็ยังคิดจะวางยานอนหลับ มั่นใจเลยว่าถ้าเธอดื่มน้ำส้มแก้วนั้นไป เรื่องที่เธอไม่อยากเจอต้องเกิดขึ้นแน่ เป็นคนสวยนี่ลำบากจริง! “เซลีน่า ข้าขอโทษ แต่ที่ข้าทำเพราะข้ารักเจ้า ข้าอยากให้เจ้าอยู่กับข้า ข้าถึงได้...” “เจ้ารักข้า? ตายจริง ข้าควรจะขำใช่ไหม ถามจริงเถอะ เจ้ารักข้าจริง ๆ หรือรักที่หน้าตาข้ากันแน่ เจอมาหลายคนแล้ว นี่ถ้าข้าไม่สวย เจ้าจะรักข้าไหม ซึ่งข้าเดาว่าไม่” ว่าจบ เซลีน่าก็เอามีดเสียบคาโต๊ะทำให้ชายหนุ่มถึงกับหลุดสะดุ้ง เธอจ้องหน้าเขาเขม็งตามด้วยดึงมีดออกมาเช็ดด้วยผ้าให้สะอาด จากนั้นก็ปอกผลไม้ต่อ พลันเสียงเอะอะโวยวายก็ดังแว่วมาจากข้างนอก เซลีน่าวางของในมือแล้วลุกไปดูที่หน้าต่าง เป็นจังหวะเดียวกับที่หญิงชราลงบันไดมาอย่างเร่งรีบ อัลลี่เห็นยายเดินมาจึงพุ่งไปหา “ยาย” “แย่แล้ว ๆ เราอยู่ไม่ได้แล้ว!” “ยายเป็นอะไร อยู่ไม่ได้อะไร” คนเป็นหลานชายไม่เข้าใจว่าหญิงสูงวัยพยายามจะบอกอะไรเพราะปากของนางสั่นจนพูดไม่เป็นคำ แถมฟังก็ไม่รู้ความ “พระเจ้าช่วย...” เจ้าของเรือนผมสีแสงจันทร์ยกมือปิดปากเมื่อเห็นความวุ่นวายด้านนอก ซึ่งตอนนี้ถนนที่ตัดผ่านกลางหมู่บ้านเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่วิ่งหนีไปคนละทิศละทาง แถมยังเกิดไฟไหม้ลามไปตามบ้านหลังอื่น ๆ อีก พวกนักล่าแวมไพร์ก็วิ่งวุ่นจนเกือบชนพวกชาวบ้าน ทันใดนั้นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งก็กระโจนลงมากลางถนนตามด้วยคว้าร่างหญิงสาวคนหนึ่งมากัดต้นคอ “กรี๊ด!!!” “ฟะ...แฟนาติก” เซลีน่าพึมพำทั้งที่ปากสั่น พลันผนังบ้านก็ถูกบางสิ่งพุ่งชนเต็มแรง ก่อนที่สัตว์ร้ายจะกระโจนเข้ามาคว้าร่างของหญิงชรากับหลานชายหายไปทีเดียวสองคน เซลีน่าหน้าซีดเผือด เธอพยายามตั้งสติก่อนจะเปิดประตูวิ่งหนีออกจากบ้านทันที “กรี๊ด!” “ว้าก!” “ช่วยด้วย!” เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่วแต่เธอหันไปสนใจไม่ได้เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่มีใครสนใจชีวิตคนอื่น เจ้าของเรือนผมสีแสงจันทร์วิ่งไปทางท้ายหมู่บ้านแล้วก็ต้องเบรกทันควันเมื่อเห็นชายวัยกลางคนที่กำลังถือปืนยิงแฟนาติกถูกตบจนล้มกลิ้งและถูกกัดคอ ปืนยาวกระบอกนั้นกระเด็นมาตกอยู่ตรงหน้าเธอ เซลีน่าจึงรีบเก็บขึ้นมา ’ใจเย็น ๆ ตั้งสติไว้สิ’ เธอบอกตัวเองในใจขณะชักปืนจากนั้นก็เล็งไปยังสัตว์ร้ายตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด สมองก็เค้นความจำตอนที่นอสสอนยิงปืน ปัง! กระสุนพุ่งทะลุหัวใจทำให้แฟนาติกตัวนั้นทรุดลงกับพื้น ร่างบางอาศัยจังหวะนี้วิ่งผ่านไปโดยมุ่งไปยังทางออกท้ายหมู่บ้าน แวมไพร์กลายพันธุ์ตัวไหนขวางทาง หญิงสาวยิงตายหมดทุกตัว กี๊ซ! ปัง! กระสุนปืนระเบิดหัวสัตว์ร้ายกระจุยก่อนที่เซลีน่าจะกระโจนข้ามซากนั้นไป เธอยกปืนขึ้นพร้อมเหนี่ยวไกในขณะที่ขาสองข้างยังคงเร่งฝีเท้า สติทำให้เธอมีสมาธิจึงรู้ตัวว่าแฟนาติกจะวิ่งมาทางไหน เธอจึงหันปากกระบอกปืนยิงตอบโต้ก่อน ตอนนี้หญิงสาวหนีพ้นท้ายหมู่บ้านแล้ว เธอจึงวิ่งไปยังทางแยกขึ้นไปบนภูเขาซึ่งเป็นเส้นทางสู่บ้านตัวเอง “หลีกไป!” ปัง! เซลีน่าตะโกนไล่สัตว์ร้ายก่อนจะลั่นไกใส่แฟนาติกที่วิ่งมาดักหน้าจนล้มกลิ้ง พลันแวมไพร์กลายพันธุ์ก็พุ่งมาจากหลังต้นไม้ทางด้านซ้ายมือ ปากกระบอกปืนหันไปทันทีแล้วลั่นไกส่งกระสุนทะลุร่างจนมันกระเด็น จังหวะนั้นเธอก็หันปากกระบอกปืนไปทางด้านหลัง สัตว์ร้ายตวัดกรงเล็บปัดปืนกระเด็นหลุดมือก่อนที่มันจะใช้เท้าถีบอัดท้องหญิงสาวจนหงายหลังล้มกลิ้ง ’เจ้าสัตว์รกโลก! ถีบกันแบบนี้เลยเหรอ!’ เจ้าของเรือนผมสีแสงจันทร์สบถในใจขณะกัดฟันยันตัวลุกขึ้น มือข้างหนึ่งก็กุมท้องด้วยความเจ็บปวด กี๊ซ! เสียงแหลมสูงดังไปทั่วอาณาบริเวณ เซลีน่าจึงมองไปรอบ ๆ ตอนนี้เธอตกอยู่กลางวงล้อมของพวกแฟนาติกแล้ว ทั้งบนพื้นและต้นไม้มีพวกมันอยู่เต็มไปหมด แถมสายตายังจ้องมาที่เธออีกต่างหาก บางทีพวกมันอาจจะรู้ว่าเธอคือหญิงสาวแห่งดวงจันทร์จึงคิดจะสูบเลือดเพื่อเพิ่มพลัง จังหวะนั้นพวกมันก็พุ่งเข้ามา! “กรี๊ด!” กี๊ซ! อยู่ ๆ ค้างคาวฝูงหนึ่งก็พุ่งมาชนแฟนาติกที่จะกระโจนใส่เธอจนปลิวไปอีกทาง เซลีน่าเบิกตากว้างก่อนจะหันไปมองทางอื่น รอบด้านในตอนนี้เต็มไปด้วยฝูงสัตว์ดูดเลือดที่กำลังเล่นงานพวกแวมไพร์กลายพันธุ์ หญิงสาวเห็นแฟนาติกบางตัวถูกค้างคาวรุมดูดเลือดจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก บางตัวก็ถูกฉีกร่างอย่างสยดสยอง เซลีน่าตั้งสติทั้งที่ตัวสั่น เธอตั้งใจจะวิ่งหนีแต่ขาเจ้าปัญหาดันก้าวไม่ออก “เซลีน่า” เจ้าของเสียงมาพร้อมมือที่ยื่นมาแตะไหล่ซ้าย ทำเอาคนถูกเรียกถึงกับหลุดสะดุ้งจนเกือบร้องลั่นป่า พอหันกลับมาจึงเห็นว่าเป็นนอส เขาย่องมาหาเธอตอนไหน ทำไม่รู้ตัวเลย! “เจ้าบ้า! ตกใจหมดเลย!” “ข้าขอโทษ แต่ตอนนี้เราต้องหนีแล้ว” “ดะ...เดี๋ยว! ไม่ต้องอุ้มท่านี้ก็ได้!” หญิงสาวถูกอุ้มท่าเจ้าหญิง แก้มสองข้างก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ นอสชำเลืองมองแล้วพ่นลมหายใจพรืดใหญ่ “ตอนไปแบล็ควอล ข้าก็อุ้มเจ้าท่านี้ จะกลัวอะไร ไม่มีใครเห็นหรอก รีบไปเถอะ การสร้างฝูงค้างคาวมันกินพลังเยอะ อีกอย่างตอนนี้ข้าใช้พลังได้ไม่เต็มที่” ว่าแล้วปีกแบบค้างคาวก็ปรากฏขึ้นบนแผ่นหลัง นอสพุ่งขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว เมื่อขึ้นมาบนที่สูง ทั้งสองจึงเห็นภาพหมู่บ้านที่ถูกไฟไหม้ได้อย่างชัดเจน “ที่นั่น...” “เสียใจด้วย ถึงไปตอนนี้ก็ช่วยใครไม่ได้ พวกนักล่าแวมไพร์ไม่มีทางรับมือฝูงใหญ่ได้หรอก ข้าจะพาเจ้ากลับบ้านไปเก็บของ เราอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้อีกแล้ว” นอสพาเธอกลับไปยังบ้านไม้ที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางป่า เมื่อมาถึง เขาจึงวางเซลีน่าลงพื้นจากนั้นเธอก็วิ่งเข้าบ้านไปเก็บของที่จำเป็น จริงอยู่ที่เจ้าของบ้านกำลังเร่งรีบ แวมไพร์ผู้มาขออาศัยก็ต้องช่วย ไม่ใช่เอาแต่ยืนเฉย ๆ ดังนั้นเขาจึงเก็บพวกบันทึกและรูปภาพครอบครัวของเซลีน่าใส่ห่อผ้า ทางด้านเจ้าของเรือนผมสีแสงจันทร์ก็นำเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ไม่กี่ชิ้นไป โดยไม่ลืมนำของที่ได้มาจากแบล็ควอลไปด้วย “นอส” จังหวะที่เจ้าของชื่อกำลังเก็บขวดใส่เลือดเข้าไปในห่อผ้า เซลีน่าก็เดินหน้าเครียด ๆ มาหาทั้งที่ตัวสั่นเล็กน้อยเพราะยังไม่หายตกใจ “มีอะไรเหรอ” “ถ้าข้าไปจากที่นี่ แล้วข้าจะไปอยู่ที่ไหน” ตั้งแต่เกิดมาเธอก็ใช้ชีวิตอยู่กับบ้านหลังนี้ตลอด ญาติพี่น้องก็ไม่รู้ว่ามีหรือไม่เพราะพ่อแม่ไม่ได้บอกไว้ ที่สำคัญเธอมีแค่บ้านกับชุมชนเท่านั้นที่รู้จัก แต่นอกเหนือจากนั้น เธอไม่รู้จะไปไหนจริง ๆ “ถ้าไม่มีที่ไป เจ้าจะไปอยู่กับข้าที่ดินแดนรัตติกาลก็ได้ จริงอยู่ที่ว่าเป็นดินแดนแวมไพร์ แต่ก็มีมนุษย์อาศัยอยู่ที่นั่นเยอะพอสมควร” “มีมนุษย์ด้วยเหรอ” เธอนึกว่าที่นั่นจะมีแวมไพร์อย่างเดียวเท่านั้นที่อาศัยอยู่ “บางครั้งมนุษย์ก็ทำสงครามต่อสู้กันเอง พวกที่เดือดร้อนคือประชาชนธรรมดาที่ต้องลี้ภัย บางส่วนหลงเข้ามาในดินแดนเรา แวมไพร์อาจเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับมนุษย์แต่เราก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น เราให้ที่อยู่กับมนุษย์ ให้สิทธิ์และฐานะเท่าเทียมกับประชาชนของเราแลกกับการที่พวกเขาต้องทำงานให้เรา คนพวกนี้จะเข้าไปในเมืองมนุษย์ คอยติดต่อค้าขายรวมทั้งหาเสบียงให้เราด้วย” นอสอธิบายพลางใช้พลังเก็บสิ่งของที่จะนำไปด้วยเพื่อความสะดวกระหว่างเดินทาง เซลีน่าพยักหน้าเข้าใจแล้วถามต่อ “ถ้าข้าไปอยู่ที่นั่น ข้าต้องทำอะไรบ้าง” “เอาไว้ไปถึงบ้านข้าก่อนละกัน” คนพูดยิ้มกว้างทำให้คนมองขมวดคิ้วทั้งที่หน้าแดง หญิงสาวจึงสะบัดหน้าเดินหนีไปตรวจสอบดูว่ามีของที่อยากเอาไปอีกหรือไม่ ’ให้ตายเถอะ เซลีน่า ขืนอยู่กับเจ้าแวมไพร์บ้านี่ไปนาน ๆ ใจเจ้าต้องมีปัญหาแน่ ๆ’ ร่างบางบ่นในใจพลางส่ายหน้าไล่ความรู้สึกที่เกิดขึ้น “ไปกันเถอะ เราช้าไม่ได้” “ขอข้าทำใจก่อนได้ไหม” “งั้นข้าไปรอข้างนอกนะ” นอสรู้ดีว่าเธอรู้สึกใจหายที่ต้องจากบ้านเกิดอันแสนอบอุ่นไป จึงคิดว่าให้เวลาเธอสักพักคงไม่เป็นไร ร่างสูงเปิดประตูออกมาข้างนอก ปล่อยให้เซลีน่าอยู่คนเดียว ส่วนตัวเองก็แหงนหน้ามองท้องฟ้าที่วันนี้แม้แต่ดาวสักดวงก็ไม่มี บรรยากาศไม่ค่อยดีเลย! การรุกรานของแฟนาติกทำให้หมู่บ้านถูกทำลาย ผู้คนมากมายล้มตายและไม่มีชีวิตรอดเลยสักราย โคลวิสในสภาพเหมือนไปบุกน้ำลุยไฟมาหมาด ๆ นั่งถอนหายใจอยู่ที่กลางลานหมู่บ้านซึ่งบริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยซากศพและบ้านเรือนที่ถูกไฟไหม้ นอกจากเขาแล้วก็ยังมีนักล่าแวมไพร์คนอื่น ๆ อีกที่ยังอยู่ “เราช่วยใครไม่ได้สักคนเลยค่ะ หัวหน้า” หญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มเดินมาหา สีหน้าของเธอหม่นหมองเพราะคิดว่าอย่างน้อยขอให้มีคนรอดสักคนก็ยังดี “วิโนน่า ภารกิจเราไม่ใช่ปกป้องผู้คน จริงอยู่ที่งานหลักของเราคือล่าพวกแวมไพร์กับแฟนาติก แต่อย่าลืมว่าพวกเราได้รับคำสั่งให้มาพาตัวหญิงสาวแห่งดวงจันทร์กลับไป” โคลวิสย้ำงานที่ต้องทำก่อนจะหันไปทางลูกน้องคนหนึ่งที่วิ่งหน้าตั้งมาหา “หัวหน้า มีคนของเราเห็นเซลีน่าหนีขึ้นไปบนภูเขา นางน่าจะกลับไปที่บ้านของนาง” “งั้นก็ดี ตอนนี้ไม่มีใครเห็น เราอาจพานางไปได้” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนปัดฝุ่น แต่วิโนน่ากลับขมวดคิ้วเพราะเธอจำได้ว่าหญิงสาวแห่งดวงจันทร์คนนั้นมีสามีอยู่ที่บ้านด้วย “จะไม่เป็นไรเหรอคะ หัวหน้า ข้าจำได้ว่าที่บ้านนางยังมีผู้ชายที่ชื่อนอสอยู่อีกคน” “หมายถึงสามีของนางน่ะเหรอ เขาไม่ใช่คนสำคัญอะไร ถ้าจำเป็นก็ฆ่าทิ้งซะ ไม่ว่าอย่างไร เราก็ต้องพาเซลีน่ากลับไปกับเราให้ได้ ตระกูลเซนวิกมีผู้ใช้อำนาจเหนือธรรมชาติ คงใช้ลบความทรงจำของเซลีน่าได้ หลังจากนั้นนางจะเป็นคนของเรา ถ้าเข้าใจแล้วก็ไปทำตามที่สั่งเถอะ” “รับทราบค่ะ” วิโนน่าค้อมศีรษะจากนั้นก็เดินแยกไปสั่งงานกับคนอื่น ๆ ในขณะที่โคลวิสชำเลืองมองตามหลังก่อนจะทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเดินไปรวมกลุ่มกับลูกน้องที่วิ่งมาสมทบ ภารกิจต่อไป ตามจับเซลีน่า!
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 12 หมู่บ้านที่ถูกทำลาย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A