บทที่ 18 โคแก่อยากกินหญ้าอ่อน 3
1/
บทที่ 18 โคแก่อยากกินหญ้าอ่อน 3
โซ่พิศวาสใยเสน่หา
(
)
已经是第一章了
บทที่ 18 โคแก่อยากกินหญ้าอ่อน 3
เจ็บ... เอมม่ายอมรับว่าเจ็บกับคำพูดของวารุณี และเจ็บยิ่งกว่ากับประโยคนี้ เลือกจากไปอย่างมนุษย์หรืออยู่เลือกเป็นหมาเฝ้าบ้าน เอมม่าทรุดกายนั่งลงบนเก้าอี้ สาวมั่นถึงกับคิดหนักกับหนทางที่ตนต้องเลือก “แอรี่ คุณพูดได้เจ็บมากเลยนะ ฉันหวังว่าเอมม่าจะคิดได้” นีโอพูดกับวารุณีขณะเดินกลับไปห้องจัดเลี้ยง “ต้องให้เธอคิดให้ได้ค่ะ ให้เธอเดินออกไปจากที่นี่ด้วยความจำยอมไม่ใช่เพราะเงิน หากเธอยอมจากไปดีๆ เธอก็จะไม่กลับมาที่นี่อีก แต่ถ้าให้เงินเธอไป มีหรือคะว่าเธอจะไม่กลับมา ครั้งแรกได้เงินไปแล้ว ครั้งที่สองก็ต้องได้” วารุณีตอบกลับ “แล้วคุณมั่นใจมากแค่ไหนว่า เอมม่าจะยอมไปดีๆ” นีโอถามเรื่องที่ตนยังไม่คลายความกังวล “เดี๋ยวเราก็รู้ค่ะ” เสียงหวานตอบกลับ ก่อนเงยหน้ามองนานโอ “ทีหลังคุณอย่าเสนอเงินให้ใครง่ายๆ เพียงแค่จบเรื่องนะคะ เพราะบางทีผลที่ออกมามันอาจไม่เป็นไปตามที่คุณคิด เช่นคุณเอมม่า เธอไม่ทำตามที่พูดหรอกค่ะ” “มันก็จริงนะ ทำไมผมถึงคิดไม่ถึง” นานโอพูดขึ้นบ้าง เริ่มหวั่นๆ กับคนตัวเล็ก “ไม่คิดเลยว่าเบบี๋จะพูดได้โดนใจอย่างนี้ ให้นิ่งๆ แบบนี้ร้ายไม่เบานะเนี่ย” “เป็นแฟนคุณก็ต้องร้ายสิคะ ไม่รู้ว่าจะมีผู้หญิงมาทวงสิทธิ์อีกหรือเปล่า” วารุณีขยับสายตามองคนตัวโตที่ยิ้มเจื่อน “ไม่มีแล้วจ้ะเบบี๋ มีคนเดียวนี่แหละ” นานโอตอบเสียงอ่อน โอบกอดหล่อนอย่างเอาใจ และมั่นใจว่าจะไม่มีผู้หญิงคนไหนมาสร้างความกังวลใจให้ตนอีก เพราะส่วนใหญ่เขาจะซื้อกิน “ไปจ้ะเบบี๋ ไปสนุกกันดีกว่านะครับ” นีโออดที่จะขำกับท่าทางของนานโอไม่ได้ เขาไม่อยากเชื่อเลยว่า คนที่ใครๆ ขนานนามว่าเป็นเสือร้ายจะกลายเป็นแมวเชื่อง ที่เชื่องมากๆ ไม่หือไม่อือ ไม่กล้าต่อปากต่อคำกับวารุณีสักคำเดียว ไม่ได้เจอกับตัว คงเข้าไม่ถึงคำว่า ความรักเปลี่ยนนิสัยคนได้จริงๆ ณ กรุงโรม ไม่บ่อยครั้งนักที่ธารทิพย์จะรับงานแต่งหน้าเจ้าสาวที่เป็นคนไทย แล้วยิ่งจัดงานตามประเพณีไทยด้วยแล้วยิ่งหาโอกาสแบบนี้ได้ยาก แล้วที่ยากยิ่งกว่าคือ เจ้าบ่าวเป็นถึงนักธุรกิจชื่อดัง ส่วนเจ้าสาวก็ไม่น้อยหน้า เป็นลูกสาวร้านอาหารไทยรุ่งทิวาที่โด่งดังที่สุดในกรุงโรม ด้วยฐานะของทั้งคู่สามารถจ้างช่างแต่งหน้าทำผมมืออาชีพได้สบายๆ ทว่ารุ่งนภาหรือเจ้าสาวของงานกลับเลือกธารทิพย์ให้มาเนรมิตความงามในวันสำคัญของชีวิต หล่อนจึงทำงานอย่างเต็มที่และสุดฝีมือ ให้สมกับที่รุ่งนภาไว้วางใจ ธารทิพย์ตรวจดูความเรียบร้อยในกระเป๋าเครื่องสำอางและกระเป๋าใส่อุปกรณ์ทำผม เมื่อแน่ใจว่าไม่ได้หลงลืมอะไร หล่อนจึงปิดกระเป๋าแล้วสะพายคล้องบ่า ก่อนเดินไปที่ประตูห้องเพื่อเดินทางไปบ้านเจ้าสาว หล่อนชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นบุรินทร์ยืนอยู่หน้าประตูห้อง “มาทันเวลาพอดี” บุรินทร์พูดขณะนำมือมาจับสายสะพายกระเป๋าให้หลุดจากบ่าธารทิพย์ แล้วนำมันมาคล้องบ่าตนแทน “พี่น็อตมาได้ไงคะ แล้วมาทำไมแต่เช้า” ธารทิพย์ถาม “ถามแปลก ก็มารับแฟนตัวเองสิ” เขาตอบ “โหพี่น็อต ไม่ต้องเคร่งขนาดนี้ก็ได้มั้งคะ เราเป็นแฟนกันหลอกๆ เฉพาะต่อหน้าคุณแม่พี่ก็ได้” ธารทิพย์ไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกแย่มากไปกว่านี้ นับตั้งแต่เขาพาหล่อนไปพบบิดาบุญธรรมและมารดา บุรินทร์ทำหน้าที่คนรักมาตลอดนับตั้งแต่วันนั้น ไปรับไปส่งหล่อนที่มหาวิทยาลัย วันไหนหล่อนมีงานพิเศษเขาก็ไปรับไปส่ง ยังรับไปทานอาหาร ดูหนัง ตลอดเวลาที่เดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าหรือไปไหนมาไหนด้วยกัน เขาจะกุมมือตนเดินไปตลอดทาง มันอบอุ่นและรู้สึกดีก็จริง แต่ในอีกความรู้สึกหนึ่ง หล่อนกลับรู้สึกแย่ ยิ่งเขาใกล้ชิดธารทิพย์เท่าไหร่ ความเสียใจก็มากขึ้นเท่านั้น อยู่ใกล้คนที่ตนรัก แต่เขาไม่รักตอบ เป็นความเจ็บปวดยากเกินบรรยาย “พี่บอกน้ำไปครั้งหนึ่งแล้วนะว่า เราจะมาทำหลอกตาคุณแม่พี่ไม่ได้ คุณแม่พี่ฉลาดเป็นกรด ถ้าเผื่อส่งคนดูพฤติกรรมเราความได้แตกพอดี เพราะฉะนั้นเราสองคนต้องทำตัวเหมือนแฟนกันจริงๆ คุณแม่จะได้จับไม่ได้ พี่ก็ไม่ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก ส่วนวาก็ได้รักกับคุณนานโอโดยที่เหนือไม่ขัดขวาง เห็นไหมว่าได้ประโยชน์หลายทางเลย” บุรินทร์ตอบ ธารทิพย์ถอนหายใจพรืดยาว ผลประโยชน์ที่ได้มีต่อคนอื่นทั้งสิ้น ไม่มีผลประโยชน์ที่เป็นของธารทิพย์เลย คิดแล้วก็เศร้าใจ จะกลับตัวก็ไม่ได้ จะเดินต่อไปก็ยิ่งปวดร้าว เกิดเป็นธารทิพย์นี่มันต้องอดทนและอดทน มีเพียงคำนี้คำเดียว “ตามนั้นค่ะ หลวมตัวแล้วนี่” “ต้องอย่างสิแฟนพี่ ไปกันดีกว่า ไปสายจะโดนตำหนิ พี่ไม่ชอบให้ใครมาตำหนิแฟนพี่” พูดจบเขาก็คว้ามือนุ่มมากุมไว้ ก่อนพาเดินไปยังลิฟต์โดยสารของอพาร์ตเมนต์ ธารทิพย์ก้มมองมือใหญ่ที่กุมมือตนด้วยความรู้สึกขัดแย้ง มีทั้งความสุขและความทุกข์ในเวลาเดียวกัน หล่อนหวังลึกๆ ว่า สักวันหนึ่งตนจะได้ยืนเคียงข้างเขาในฐานะคนรักตัวจริง หาใช่คนรักกำมะลอเช่นทุกวันนี้ เป็นความหวังที่หล่อนรู้ดีว่า...ไม่มีทางเป็นไปได้ ................................ ธารทิพย์ตัวแทบลอยเมื่อได้รับคำชมจากเจ้าสาวและเครือญาติว่า แต่งหน้าทำผมเจ้าสาวได้อย่างสวยงามราวกับมืออาชีพ สบประมาทใครหลายคนที่ปรามาสธารทิพย์ได้อย่างเฉียบขาด สามารถเปลี่ยนคำติให้กลายเป็นคำชมได้ถ้วนหน้า “พี่คิดไม่ผิดที่จ้างน้ำมาแต่งหน้าให้พี่” รุ่งทิวาบอกธารทิพย์ขณะมองดูใบหน้าตัวเองในกระจก “น้ำไม่ทำให้พี่ผิดหวังแน่นอนค่ะ พี่ไว้ใจน้ำมากขนาดนี้ น้ำต้องทำให้เต็มที่สุดความสามารถอยู่แล้วค่ะ” ธารทิพย์ไม่หลงคำเยินยอ หล่อนคิดเสมอว่า ฝีมือของตัวเองต้องพัฒนาอีกไกล หากเปรียบเทียบ ตอนนี้หล่อนอยู่ในขั้นมัธยม กว่าจะถึงระดับมหาวิทยาลัยต้องฝึกฝนกันอีกยาว “เออจริงสิ เดือนหน้าจะมีการประกวดแต่งหน้าระดับประเทศเชียวนะ น้ำไม่ลองไปสมัครล่ะ ไม่ผ่านเข้ารอบหรือไม่ชนะก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นประสบการณ์ อีกอย่างการที่เราได้เข้าประกวดระดับนี้ ต้องมีเทรนเนอร์มาแนะนำนั่นโน่นนี่ ได้ประโยชน์และความรู้กลับมาด้วยนะ พี่ถือว่าไม่เสียหลาย ลองไปสมัครดูนะน้ำ” รุ่งทิวาบอกข่าวสาร “น้ำไม่กล้าค่ะ คนที่ไปประกวดมีแต่เก่งๆ ทั้งนั้น น้ำคงสู้พวกเขาไม่ได้” ธารทิพย์เจียมตัว “ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิดนะน้ำ คนที่เก่งกว่าน้ำเขาก็ต้องผ่านการฝึกฝนมาด้วยกันทั้งนั้น น้ำอย่าคิดสิว่า น้ำไปแข่งกับใคร ให้คิดว่าแข่งกับตัวเอง แล้วการประกวดถือว่าฝึกฝนฝีมือไปในตัวด้วย ถ้าเผื่อน้ำคำนึงผลแพ้ชนะ มันอาจทำให้น้ำรู้สึกประหม่าและกลัว ลองคิดว่า มันคือการพัฒนาตัวเองสิจะได้สบายใจ” รุ่งทิวาแนะนำ ธารทิพย์คิดตามคำพูดของเจ้าสาวแล้วคิดว่า เป็นเรื่องที่น่าลอง เป็นการพัฒนาฝีมือไปในตัว ผลออกมาเป็นเช่นไร จะแพ้หรือชนะหล่อนรับได้ทั้งนั้น “ค่ะ น้ำจะเข้าประกวดค่ะ” ธารทิพย์ตัดสินใจ “เพื่อนพี่เป็นเจ้าหน้าที่ในกองประกวด พี่จะให้เขาส่งใบสมัครไปที่อีเมล์น้ำเลยนะ” “ค่ะพี่รุ่ง ขอบคุณมากค่ะ” ธารทิพย์พนมมือไหว้ขอบคุณในน้ำใจของรุ่งทิวา “เจ้าสาวจ๋า ออกไปได้แล้วจ้ะ” แม่อุ่นมารดาของรุ่งทิวาเดินเข้ามาตามเจ้าสาว พอเห็นความงามของลูกสาว นางถึงกับอ้าปากค้าง “โอ้โห สวยมากเลยลูกแม่ น้ำแต่งหน้าสวยมาก” “พี่รุ่งสวยอยู่แล้วค่ะ น้ำแค่เติมนิดๆ หน่อยๆ” “ไม่จริงหรอก น้ำแต่งหน้าสวยต่างหาก” รุ่งทิวาค้านคำพูดธารทิพย์ เพราะรู้ดีว่าหน้าตาของตนประมาณไหน “เอาล่ะไม่ต้องเถียงกัน แต่งออกมาสวยถือว่าจบ ออกไปต้อนรับแขกเถอะ ทยอยมากันแล้ว” รุ่งทิวาลุกเดินมารดาออกไปจากห้องแต่งตัว โดยมีธารทิพย์ก้าวเดินตามไปด้วย และได้รับเกียรติให้ร่วมงานแต่งงาน รวมทั้งบุรินทร์ก็ร่วมงานด้วยเช่นกัน ความที่คนไทยที่อาศัยอยู่ในกรุงโรมมีไม่มากนัก ชาวไทยทุกคนที่มาร่วมงามจึงเคยเห็นหน้าเห็นตากัน ญาติของรุ่งทิวาหลายคนก็รู้จักบุรินทร์ ทายาทเจ้าของโรงแรมขึ้นชื่อหลายแห่งทั่วอิตาลี ที่เป็นลูกค้าประจำร้านอาหารรุ่งทิวา แล้วยิ่งมารู้ว่า บุรินทร์เป็นคนรักของธารทิพย์ ทุกคนพากันแปลกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน “แหม ไม่คิดนะคะว่า คุณน็อตจะเป็นแฟนน้ำ” นภาพรหนึ่งในชาวไทยหลายคนที่ได้แต่งงานกับผู้ชายอิตาเลี่ยนเอ่ยขึ้น มองเหยียดธารทิพย์อย่างเปิดเผย คนถูกมองทำหน้าไม่ถูก ธารทิพย์รู้ดีว่า ตนด้อยกว่าทุกคนที่มาร่วมงานเลี้ยงวันนี้ “ทำไมล่ะครับ ทำไมถึงคิดว่า ผมเป็นแฟนน้ำไม่ได้” บุรินทร์ถามเสียงเรียบ ใบหน้ามีรอยยิ้มน้อยๆ “ก็ฐานะต่างกันไงคะ เท่าที่นภารู้มา น้ำเป็นนักเรียนทุน ฐานะทางบ้านก็ไม่ดี ไม่มีอะไรคู่ควรกับคุณน็อตเลย” นภาพรจีบปากจีบคอพูด ธารทิพย์หน้าเศร้ากับความจริงที่ตนเองหนีไม่พ้น แต่เป็นความจริงที่หล่อนยอมรับได้ และไม่เคยเทียบตัวเองไปเสมอใคร อยู่อย่างเจียมตนและเจียมใจ “ผมก็ว่าไม่เห็นแปลก จะว่าไปคุณนภาก็มาจากครอบครัวที่ฐานะไม่ดีไม่ใช่หรือครับ ก่อนจะแต่งงานกับสามีก็เป็นพนักงานทำความสะอาดของโรงแรมมาก่อน ถ้าไม่ได้เจอสามีคงไม่ได้มาเป็นมาดามอยู่ที่นี่ คุณนภาน่าจะเห็นใจคนที่ฐานะด้อยกว่าไม่ใช่หรือครับ ยิ่งเป็นคนไทยที่จากบ้านเกิดเมืองนอนมาด้วยกันยิ่งต้องช่วยเหลือค่ำจุน ไม่ใช่ดูถูกเหยียดหยามทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีกว่าคนที่ดูถูกสักเท่าไหร่” บุรินทร์ตอกกลับจนนภาพรอ้าปากค้าง “คราวหน้ากรุณาอย่าหมิ่นเกียรติน้ำอีก ค่าความเป็นคนไม่ได้วัดกันที่ฐานะนะครับ เขาวัดกันด้วยใจ ใจต่ำหรือใจสูง ผมขอตัวนะครับ” บุรินทร์กุมมือธารทิพย์แล้วพาเดินให้ห่างนภาพรที่เข่นเขี้ยวฟันด้วยความโกรธที่ถูกบุรินทร์ต่อว่าแบบไม่ไว้หน้า “พี่น็อตไปพูดแบบนั้นไม่กลัวเธอโกรธหรือคะ” ธารทิพย์ถามอย่างเป็นกังวล หล่อนไม่ห่วงความรู้สึกของตนเองเพราะเป็นความคุ้นชินมานานนม “ที่จริงน้ำก็ชินกันการถูกดูถูก น้ำเจอมาตั้งแต่เด็กๆ น้ำทนได้ค่ะ” “แต่พี่ทนไม่ได้ พี่ทนเห็นใครมาลอยหน้าพูดดูถูกน้ำไม่ได้ น้ำเป็นแฟนพี่ พี่ต้องปกป้องสิ ดีนะที่พี่ยั้งใจไว้ได้ ไม่งั้นล่ะก็ เจอคำพูดหนักกว่านี้แน่” ธารทิพย์ดีใจกับประโยคนี้ แต่ก็ห่อเหี่ยวใจในเวลาเดียวกัน “ขอบคุณค่ะที่ปกป้องน้ำ แต่พี่น็อตอย่าลืมนะคะว่า เราไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆ ถ้าพี่น็อตจะแสดงบทบาทแฟน พี่น็อตไม่ต้องทุ่มสุดแรงก็ได้ค่ะ เอาแบบพอดีๆ น้ำไม่อยากให้ใครมองพี่น็อตในทางที่ไม่ดี” “จริงๆ แล้วพี่ไม่ได้แสดงบทบาทแฟนนะ พี่ทำอยู่จริงๆ” บุรินทร์พูดเสียงจริงจัง “พี่ทำให้ทุกคนรู้ว่าน้ำสำคัญกับพี่ ทำให้ทุกคนรู้ว่าน้ำคือแฟนของพี่ เพราะฉะนั้นน้ำก็ต้องทำตัวให้เป็นแฟนพี่จริงๆ ด้วย ทำให้ชินจะได้ไม่เขิน เข้าใจนะ” เข้าใจ...เข้าใจอะไร ยิ่งเขาพูดธารทิพย์ยิ่งไม่เข้าใจ สมองหล่อนดูช้าคิดไม่ทันเมื่ออยู่ใกล้บุรินทร์ คิดอะไรไม่ทันเขาสักอย่าง เช่นเรื่องนี้เป็นต้น เวลาผ่านหลายวินาที ธารทิพย์ก็ยังไม่เข้าใจความหมายแอบแฝงของบุรินทร์ “ไปกันเถอะ พี่จะพาไปแนะนำให้ทุกคนในงานที่พี่รู้จักได้รู้จักกับน้ำ ใครมาว่าน้ำของพี่ พี่จะซัดให้หมอบเลยคอยดู” ธารทิพย์รู้สึกอบอุ่นกับคำพูดของบุรินทร์ เพราะมันทำให้หล่อนคิดว่า ต่อไปนี้หากใครดูถูกหรือเหยียดหยามฐานะอันต่ำเตี้ยของตน บุรินทร์พร้อมจะอ้าแขนปกป้อง เป็นเช่นทุกครั้งที่เกิดความคิดเช่นนี้ แม้อีกใจจะยินดี แต่อีกใจก็หมองเศร้ากับสถานะคนรักหลอกๆ หญ้าอ่อนไม่ทันโคแก่ซะแล้ว
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 18 โคแก่อยากกินหญ้าอ่อน 3
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A