บทที่ 20 โคแก่เปย์ไม่อั้น 2   1/    
已经是第一章了
บทที่ 20 โคแก่เปย์ไม่อั้น 2
“พี่ไม่เหนื่อย พี่เดินเป็นเพื่อนน้ำได้ทั้งวัน แต่แค่สงสัยว่า ทำไมน้ำไม่ซื้อของสักที เดินดูหลายร้านแล้ว” บุรินทร์ถามในเรื่องที่ตนสงสัย “น้ำดูราคาของค่ะ แม้ว่าจะยี่ห้อเดียวกันแต่บางร้านก็มีโปรโมชั่นไม่เหมือนกัน น้ำจะเดินดูหลายๆ ร้าน ร้านไหนถูกสุดหรือซื้อได้ประหยัดเงินสุดน้ำก็ซื้อร้านนั้น” ธารทิพย์บอกเหตุผล “น้ำมีเงินจำกัด ซื้อทันทีไม่ได้ค่ะก็เลยทำอย่างนี้ตามประสาคนงบน้อย” บุรินทร์เข้าใจธารทิพย์ การใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเป็นนักเรียนทุนที่มีฐานะไม่สู้ดีก็ต้องดิ้นรนหนอาชีพเสริม เพื่อนำรายได้มาใช้จ่ายระหว่างเรียน ธารทิพย์ไม่เพียงแค่หาเงินเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวเอง เขายังรู้อีกว่า หล่อนนำเงินส่วนนี้เจียดให้ทางบ้านทุกเดือน ไม่แปลกที่ธารทิพย์จะประหยัดเงินในการซื้อเครื่องสำอางมากขนาดนี้ “แล้ววันนี้น้ำซื้ออะไรบ้าง” “ก็กะว่าจะซื้อลิปเฉดสีใหม่สองแท่ง สีเดิมอีกสองแท่ง ครีมรองพื้นแล้วก็แปรงปัดแก้มค่ะ อยากซื้อมากกว่านี้แต่เงินมีแค่นี้ แต่ถ้าได้ร้านจัดโปรก็อาจมีเงินเหลือ น้ำก็จะเก็บสะสมไว้เป็นทุนซื้อกระเป๋าเครื่องสำอางใบใหม่แทนใบเก่าที่มันเริ่มจะพังแล้ว เวลาไปประกวดแต่งหน้าคนจะได้ไม่ดูถูก” บุรินทร์มองหน้าผู้พูด เขามองเห็นทั้งความสุขและความเศร้าในเวลาเดียวกัน เวลาหล่อนเลือกซื้อเครื่องสำอาง แววตาธารทิพย์จะเปล่งประกาย หล่อนจะยิ้มเมื่อหยิบเครื่องสำอางขึ้นมาดู ทว่าครั้งใดที่หล่อนเห็นป้ายราคาที่สูงเกินเอื้อม แววตาคู่นั้นจะหมองลงทันใด ธารทิพย์ค่อยๆ วางเครื่องสำอางลงที่เดิมคล้ายตัดใจ “งั้นน้ำเลือกซื้อของได้ตามสบาย พอใจจะซื้อร้านไหนตามแต่ใจน้ำเลย ไม่ต้องห่วงพี่ พี่เดินเป็นเพื่อนน้ำได้ทั้งวัน” บุรินทร์พูดพร้อมรอยยิ้ม “ค่ะ ไปร้านโน้นต่อนะคะ เหลืออีกร้านเดียวค่ะ ถ้าร้านนี้แพง เราค่อยเดินกลับไปร้านที่สอง” บุรินทร์พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะพากันเดินไปร้านสุดท้ายที่หล่อนตั้งใจไปสำรวจราคา แต่แล้วอีกสิบนาทีต่อมา ธารทิพย์กับบุรินทร์ก็ต้องเดินออกจากร้านนั้น เนื่องจากราคายังไม่โดนใจเท่าร้านที่สอง “น้ำไปร้านนั้นก่อนเลยนะ พี่จำได้ว่าอยู่ตรงไหน พี่ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อน ปวดท้องหนักน่ะ” “อ๋อค่ะ ได้ค่ะ” “พี่ไปก่อนนะ ข้าศึกบุกประชิดเมืองแล้ว” พูดจบก็รีบเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลนัก ส่วนธารทิพย์ได้เดินลงบันไดเลื่อนไปยังชั้นสามของห้าง เพื่อไปร้านขายเครื่องสำอางร้านที่ตั้งใจจะซื้อ ธารทิพย์ใช้เวลาซื้อของที่ตนต้องการราวสิบห้านาที แต่ก็ไม่เห็นว่าบุรินทร์จะมา หล่อนจึงมายืนรอนอกร้าน “ขอโทษนะน้ำ พอดีพี่ถ่ายหนักมากๆ” บุรินทร์ขอโทษขอโพย ฉวยถุงในมือธารทิพย์มาถือไว้เอง “ไม่เป็นไรค่ะ” “น้ำจะซื้ออะไรเพิ่มอีกไหม หรือว่าจะกลับเลย” “น้ำซื้อครบแล้วค่ะ กลับกันเลยดีกว่า” “สุดแต่ใจเจ้าหญิงธารทิพย์ขอรับ” บุรินทร์โค้งตัวเล็กน้อย ผายมือให้หล่อนเดิน ธารทิพย์ยิ้มเขิน หัวใจพองโตกับการกระทำของเขาที่แม้ว่าจะเป็นเพียงการแสดง แต่ก็ยอมรับมันอิ่มในหัวใจ ระหว่างทางที่เดินธารทิพย์ได้คุยเรื่องที่ตนไปสมัครประกวดแต่งหน้าที่มีผู้ร่วมเข้าแข่งขัน ณ ขณะนี้เกือบห้าสิบคน แต่ละคนล้วนเป็นมืออาชีพ หล่อนเกิดความกลัวและประหม่า ธารทิพย์มีแผนจะฝึกซ้อมการแต่งหน้าโดยมีวารุณีที่ยินดีเป็นหุ่นให้หล่อนได้ฝึกฝนฝีมือ ซึ่งบุรินทร์ได้พูดให้กำลังใจ เพราะทุกคนย่อมมีครั้งแรกเสมอ จะชนะหรือแพ้ก็ให้ถือว่า เป็นประสบการณ์ชีวิต “พี่มีอะไรจะให้น้ำ” บุรินทร์บอกธารทิพย์เมื่อเข้ามานั่งในรถยนต์ พูดจบเขาก็เอี้ยวตัวไปหยิบถุงหลายใบที่วางอยู่บนเบาะรถ “เอาไว้สร้างความฝันให้ตัวเองนะ” ธารทิพย์มองถุงหลายใบที่เขาส่งให้ด้วยอาการตกใจ หัวใจเต้นแรง ยกมือขึ้นรับถุงนั้นไว้แล้วเปิดปากถุงออก หล่อนเบิกตากว้างเมื่อเห็นของในถุง มันคือเครื่องสำอางหลากหลายอย่าง ถุงอีกใบใส่กระเป๋าเครื่องสำอางที่แค่พอเห็นก็รู้ว่า ยี่ห้อใดและราคาสูงมากแค่ไหน “พี่น็อตซื้อให้น้ำหรือคะ” ธารทิพย์ถามอย่างไม่แน่ใจ “ใช่ พี่ซื้อให้ ซื้อให้น้ำไปสร้างความฝันของตัวเอง” เขาบอกจุดประสงค์ “ทั้งหมดนี้มันแพงนะคะ ที่พี่น็อตซื้อมายี่ห้อดังๆ ทั้งนั้นเลย หมดนี่คงหลายอยู่” ปฏิเสธไม่ได้ว่า เครื่องสำอางที่เขาซื้อให้ ไม่ว่าจะเป็นลิปสติกสิบสองเฉดสีใหม่ล่าสุดของแบรนด์ดัง บลัชออน มาสคาร่าและอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่ใช้สำหรับแต่งหน้า กระเป๋าแต่งหน้าแบบสะพายสีเงินนี่อีก ราคาของมันเท่าที่หล่อนรู้มาราคาสูงถึงห้าร้อยยูโร คิดเป็นเงินไทยก็ตกสองหมื่นกว่าบาท เป็นมูลค่าที่สูงเกินมือเอื้อม “มันไม่แพงเท่าความสำเร็จและความฝันของน้ำ” ธารทิพย์มองบุรินทร์ด้วยความซาบซึ้งใจ ไม่คิดว่าเขาจะใส่ใจความรู้สึกของตนมากเพียงนี้ น้ำตาหล่อนถึงกับคลอเบ้า “รับไว้เถอะ ถือเสียว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ พี่เต็มใจให้ น้ำก็ต้องเต็มใจรับนะ” “ขอบคุณค่ะพี่น็อต” หล่อนยกมือไหว้กล่าวคำขอบคุณ “แต่พี่น็อตอย่าหวังในตัวน้ำมากนะคะ น้ำกลัวไม่ชนะแล้วจะทำให้พี่น็อตผิดหวัง” “พี่จะผิดหวังก็ต่อเมื่อน้ำไม่สู้ แต่ถ้าน้ำสู้แล้วผลออกมาแพ้ พี่ก็จะถือว่าน้ำชนะใจตัวเอง ก้าวผ่านประสบการณ์แรกได้อย่างสวยงาม” บุรินทร์พูดเสียงนุ่ม “การแข่งขันมีแพ้มีชนะ พี่เชื่อว่าคนที่ประสบความสำเร็จย่อมผ่านช่วงเวลาแพ้มาก่อน เขาเก็บเอาความพ่ายแพ้มาเป็นพลังต่อสู่กับชัยชนะครั้งหน้า น้ำเองก็อย่าหวังว่าจะชนะ หวังแค่ว่า ทำให้ดีที่สุดในแต่ละครั้ง แล้วผลที่ออกมามันจะสวยงาม” บุรินทร์ให้กำลังใจธารทิพย์เต็มที่ “พี่เป็นกำลังใจให้น้ำก้าวผ่านทุกเรื่องในชีวิต พี่จะเป็นสปอนเซอร์หลักอย่างเป็นทางการให้น้ำเอง ส่วนเรื่องที่น้ำจะให้วาเป็นหุ่นฝึกฝนฝีมือ พี่ว่าอย่าดีกว่า การฝึกฝนมันต้องฝึกกับใบหน้าคนหลายคน และหลายโครงหน้า แต่งให้วาหน้าเดียวมันก็ออกมาเดิมๆ พนักงานในโรงแรมของพี่มีผู้หญิงเป็นสิบ ต่างเชื้อชาติ เค้าโครงหน้าก็ต่างกัน พี่จะให้พนักงานโรงแรมเป็นหุ่นให้น้ำเอง วันละสามคนดีไหม กว่าจะถึงวันแข่งขัน น้ำก็ซ้อมแต่งหน้าเป็นสิบคนแล้ว แข่งวันจริงจะได้ทำตามโจทย์ได้ไง” ธารทิพย์น้ำตาไหลกับความคำพูดให้กำลังใจและความหวังดี รวมถึงเรื่องที่เขาช่วย หล่อนไม่คิดว่าจะได้รับความเมตตาจากเขามากขนาดนี้ ความรู้สึกตอนนี้ของหล่อนคือดีใจ ดีใจที่บุรินทร์เห็นหล่อนอยู่ในสายตา เพราะหากเขาไม่เห็นคงไม่ทำเช่นนี้ “ขอบคุณพี่น็อตมากค่ะ” หล่อนยกมือไหว้ ยิ้มให้เขา “อย่าร้องไห้สิ พี่ไม่อยากเห็นน้ำตาน้ำ” บุรินทร์ไม่เพียงแค่พูดว่าไม่อยากเห็นน้ำตา นิ้วเรียวใหญ่ปาดน้ำตาที่ไหลลงมาบนแก้มของธารทิพย์ออกทั้งสองข้าง ธารทิพย์ได้รับความอ่อนโยนจากเขาก็ยิ่งอยากร้องไห้หนักขึ้น “ความฝันของน้ำคือความฝันของพี่ พี่จะสนับสนุนทุกทางให้น้ำก้าวเดินไปยังเส้นชัยของความฝัน น้ำอยากได้อะไรเพิ่มอีกบอกพี่ พี่จัดให้ พี่ทุ่มไม่อั้น” “น้ำเพิ่งรู้ว่า พี่น็อตเป็นพ่อบุญทุ่ม สงสัยว่าคงเคยทุ่มให้ผู้หญิงอื่นบ่อยแน่ๆ” “หึ พูดไปน้ำก็ไม่เชื่อหรอก พี่ไม่เคยทุ่มให้ใคร น้ำเป็นคนแรกนะที่พี่ทำแบบนี้ให้ ไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือลมหายใจ ถ้าน้ำต้องการพี่ให้น้ำได้หมดเลยนะ” บุรินทร์พูดคล้ายเปิดเผยความรู้สึกให้หล่อนรับรู้แบบอ้อมๆ เขาหวังลึกๆ ว่า หล่อนจะเข้าใจความหมาย เป็นคำหวานที่ทำให้หัวใจธารทิพย์พองโต จากเดิมที่เหี่ยวเฉาเกิดความชุ่มชื้นขึ้นมาทันใด ประโยคที่เขาพูด มันชวนให้หล่อนคิดว่า เขารักตนและพร้อมทุ่มเทให้ตน แต่ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่ บุรินทร์ไม่ได้รักตน ที่เขาทำเพราะสงสารกับความจนของตนต่างหาก ไม่มีทางที่บุรินทร์จะหลงรักหล่อน ถึงคาดหวังแบบนั้นไปก็รังแต่จะทำให้เจ็บปวดมากกว่าเดิมเสียเปล่า แค่เขาดีกับตนเท่านี้ก็พอแล้ว “ขอบคุณพี่น็อตมากค่ะ” “ที่พี่พูดและทำให้น้ำ น้ำรู้หรือยังว่าเพราะอะไร” “เพราะพี่น็อตสงสารน้ำไงคะ เห็นว่าน้ำไม่มีเงินซื้อของพวกนี้พี่น็อตเลยซื้อให้” เป็นคำตอบที่บุรินทร์อยากจะเอาหน้าผากตนโขกกับพวงมาลัยรถยนต์ เขาไม่คิดว่า สมองของธารทิพย์จะประมวลผลได้ช้ามากขนาดนี้ เขาแสดงออกทั้งการกระทำและคำพูด หล่อนก็ยังไม่เข้าใจ เห็นทีต้องพูดตรงๆ พูดชัดๆ ให้แจ่มแจ้งแดงแจ๋กันไปเลย “น้ำไม่รู้จริงๆ เหรอ” บุรินทร์ถาม ธารทิพย์ไม่เข้าใจคำถามเขา ถามตัวเองกลับว่า หล่อนไม่รู้เรื่องอะไร คำตอบที่ธารทิพย์ให้บุรินทร์คือ ส่ายหน้า บุรินทร์ถอนหายใจพรืดยาว มองหน้าธารทิพย์ ก่อนพูดความจริงที่เขาปกปิดมานาน “พี่รักน้ำ พี่พูดตรงๆ แบบนี้น้ำคงเข้าใจนะ พี่จะย้ำให้น้ำฟังอีกครั้ง พี่รักน้ำ” ธารทิพย์ตกอยู่ในอาการตาค้าง ความตกใจเคลือบบนดวงหน้า หัวใจเต้นระทึกมีความตื่นเต้นที่มาพร้อมกับความดีใจ หล่อนมองหน้าชายหนุ่มที่เพิ่งบอกรักตนนิ่ง ไม่อยากจะเชื่อว่า บุรินทร์รักตน หากหล่อนไม่ได้สัมผัสความอบอุ่นจากมือใหญ่ของบุรินทร์ที่จับมือตน ธารทิพย์คงคิดว่า ตนเองอยู่ในความฝัน บุรินทร์รักตน...ธารทิพย์อยากกรีดร้องให้ลั่นรถ “พี่น็อตพูดจริงหรือคะ” ธารทิพย์ถามเสียงสั่น ไม่มั่นใจกับหูตัวเองว่าได้ยินถูกต้องหรือไม่ “จะย้ำชัดๆ ให้อีกครั้งนะ แบบใกล้ๆ หู น้ำจะได้ยินชัดๆ” บุรินทร์ตอบกลับ ขยับใบหน้ามาใกล้ธารทิพย์ ให้ปากของตนอยู่ชิดใบหูหล่อน “พี่รักน้ำ รักมาตั้งนานแล้วครับ” พูดจบก็ไม่ได้ดึงใบหน้าตัวเองให้ออกห่างนวลหน้าระเรื่อแดงของธารทิพย์ เขาขยับใบหน้ามาตรงหน้าธารทิพย์ ทิ้งระยะห่างราวหนึ่งคืบ
已经是最新一章了
加载中