บทที่ 25 พี่หวงน้องกับน้องหวงพี่ 2   1/    
已经是第一章了
บทที่ 25 พี่หวงน้องกับน้องหวงพี่ 2
วันรุ่งขึ้น ธารทิพย์ทำสีหน้าเรียบเฉยเมื่อเห็นเธียน่านั่งอยู่ในรถยนต์ของบุรินทร์ แต่เป็นบุรินทร์ที่ทำสีหน้าลำบากใจขณะเดินมาหาคนรักที่คลี่ยิ้มให้ “พี่ขอโทษนะน้ำ เธีย...” บุรินทร์ยังพูดไม่ทันจบ เสียงของธารทิพย์ก็ทะลุกลางปล้อง “ไม่เป็นไรค่ะพี่น็อต น้ำเข้าใจค่ะ” ธารทิพย์ชิงพูด รู้ใจว่าเขากำลังพูดอะไร “ปล่อยเธอเถอะค่ะ เธออยากทำอะไรก็เรื่องของเธอ มันไม่ส่งผลกระทบอะไรกับความรักของเราอยู่แล้ว เชื่อเถอะคะว่า เธอตามเราไม่ได้ตลอดหรอก เบื่อก็หยุดไปเอง” “น้ำคิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ” “จริงสิคะ เธอเป็นคนขี้เบื่อจะตาย ดูอย่างเมื่อวานสิคะ รอนิดรอหน่อยก็บ่นอยากกลับบ้าน” บุรินทร์พยักหน้าเห็นด้วย เมื่อวานนี้เธียน่าทำตัวติดเขาแจ ไม่ว่าไปไหนหล่อนจะไปด้วย ตามปกติบุรินทร์จะรอรับธารทิพย์แต่งหน้าพนักงานเสร็จ แล้วไปหาอาหารอร่อยๆ ทาน ทว่าเมื่อวานกลับไม่เป็นเช่นนั้น เธียน่าร้องงอแงเหมือนเด็กอยากกลับบ้าน เขาอ่อนใจไม่รู้จะพูดอย่างไร คนนี้ก็น้อง คนนั้นก็แฟน ธารทิพย์เหมือนเข้าใจความรู้สึกของเขา ไม่ดื้อดึงไปทานอาหารทั้งที่ท้องร้องหิว หล่อนอยากให้เขาไม่เกิดความรู้สึกลำบากใจ “ไว้พี่จะค่อยๆ พูดกับเธียน่านะ พูดตอนนี้คงไม่ฟัง” “พี่น็อตไม่ต้องคิดมากนะคะ น้ำซะอย่าง อุปสรรคเท่าขี้มดแค่นี้สบายมาก” “จ้าคนเก่งของพี่” บุรินทร์จับปลายจมูกธารทิพย์แล้วขยับช้าๆ คล้ายกิริยาหยอกเย้าเอ็นดู “พี่น็อต” เสียงเธียน่าดังขึ้น หล่อนหน้าหงิกงอ “จะยืนจีบกันอีกนานไหมเนี่ย น้องรอนานแล้วนะ” บุรินทร์ส่ายหัวก่อนเดินจูงมือธารทิพย์ไปยังรถยนต์ เขาเปิดประตูรถให้ธารทิพย์ และนั่นทำให้เขาไม่ได้เห็นสีหน้าของเธียน่าที่เบ้ปาก หันมามองธารทิพย์ด้วยสายตาเกลียดชัง บุรินทร์ไม่เห็นแต่ธารทิพย์เห็น ธารทิพย์ไม่ได้ตีหน้าเข้มใส่อีกฝ่าย หล่อนกลับฉีกยิ้มกว้าง ส่งผลให้เธียน่านั่งฮึดฮัดทันที ความเจ็บใจท่วมท้นคนหวงพี่ชาย ที่ไม่มีวันยอมให้ธารทิพย์มาอยู่ในตำแหน่งพี่สะใภ้ของตนแน่นอน หนามยอกอกต้องถูกกำจัดทิ้ง... ................................ ธารทิพย์มองจอมป่วนที่เข้ามาวุ่นวายในห้องประชุมเล็กที่บุรินทร์จัดให้เป็นห้องซ้อมแต่งหน้า หล่อนถอนใจอย่างระอากับความหวงพี่ชายของเธียน่า ที่นับวันเธียน่าจะทำตัวปัญญาอ่อนให้เห็นทุกขณะ แต่ก็ทำเป็นนิ่งเฉยตั้งใจฟังซันนี่สาวประเภทสอง ช่างแต่งหน้ามืออาชีพและยังเป็นครูสอนแต่งหน้าที่บุรินทร์จ้างมาสอนให้ธารทิพย์โดยเฉพาะอธิบายการแต่งหน้า เธียน่าเห็นว่าธารทิพย์ไม่สนใจตนก็ยิ่งทำตัวให้อีกฝ่ายสนใจ “แหม เธอนี่โชคดีจังเลยนะน้ำ พี่ชายฉันเปย์เธอเต็มที่เลย สงสัยเธอต้องตอบแทนพี่ชายฉันอย่างดีแน่ๆ แต่เอ...ตอบแทนด้วยอะไรนะ คิดก่อน” ปกติแล้วเธียน่าจะพูดกับธารทิพย์เป็นภาษาไทย ทว่าครั้งนี้หล่อนอยากให้คนรักของพี่ชายขายหน้า หล่อนจึงเลือกพูดเป็นภาษาอิตาเลี่ยนให้ซันนี่และพนักงานของโรงแรมที่เป็นหุ่นแต่งหน้าได้ยินและเข้าใจ “อ้อ...นึกออกแล้ว ตอบแทนด้วยตัวใช่ไหม ต้องใช้แน่ๆ เลย ที่ฉันคิดอย่างนี้เพราะอะไรรู้ไหม เพราะเธอมันจน คงไม่ข้าวของแพงๆ มาตอบแทนน้ำใจที่พี่น็อตมีให้เธอได้ เธอก็เลยต้องพลีกายให้พี่น็อต” ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างมองเธียน่าสลับกับมองธารทิพย์ พวกหล่อนไม่คิดว่า เธียน่าจะพูดประโยคน่ารังเกียจนี้ออกมา พนักงานในโรงแรมต่างรู้กันว่า บุรินทร์กับธารทิพย์เป็นคนรักกัน หากบุรินทร์สนับสนุนและเป็นสปอนเซอร์ให้คนรัก เพื่อให้ธารทิพย์ได้ก้าวเดินตามความฝันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ช่วยสิถึงจะเรียกว่าแปลก ธารทิพย์มองหน้าเธียน่าเขม็ง หล่อนไม่พอใจกับคำพูดดูถูกดูแคลน แถมสายตาของเธียน่าก็แสดงให้เห็นว่า เหยียดหยามเต็มกำลัง ทว่าธารทิพย์อดทนกับคำพูด คำดูถูก เพราะหากตนโต้ตอบกลับไปก็จะเข้าทางเธียน่า “พี่ซันนี่สอนต่อเลยค่ะ” ธารทิพย์เลือกนิ่งเฉย ส่งผลให้เธียน่าร้อนรุ่มในอก หล่อนจึงคิดหาวิธีใหม่ ในจังหวะนั้นสายตาเธียน่ามองไปยังกระเป๋าเครื่องสำอางยี่ห้อดัง ซึ่งภายในนั้นมีอุปกรณ์แต่งหน้าครบชุด และเครื่องสำอางประทินโฉมไม่ว่าจะเป็นลิปสติกที่มีหลายเฉดสี บลัช-ออน มาคาร่า และอื่นๆ อีกหลายอย่างอยู่ในกระเป๋าใบนั้น วินาทีนั้นเธียน่านึกอะไรดีๆ ขึ้นมาได้ “ฉันคิดว่า ทั้งกระเป๋าและเครื่องสำอางพวกนี้เธอคงไม่มีปัญญาซื้อมาแน่ พี่น็อตจะต้องซื้อให้ เพราะฉะนั้นฉันจะเอาคืน เธอไม่สมควรได้มัน” เธียน่าหยิบเครื่องสำอางในกระเป๋าเครื่องสำอางขึ้นมาแล้วปาทิ้งลงไปบนพื้น ครั้งแรกหล่อนหยิบลิปสติกเต็มกำมือ ครั้งที่สองคือมาสคาร่า ตามด้วยบลัชออน ก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วเทของทุกอย่างไปกองรวมกันบนพื้น ชั่วขณะที่เธียน่ากำลังทำเรื่องไม่น่ารัก สี่ชีวิตที่อยู่ในห้องอ้าปากค้าง ต่างตกอยู่ในอารามตกใจ ธารทิพย์ที่หายตกใจและตั้งสติได้เป็นคนแรก ลุกขึ้นยืนตวาดใส่เธียน่าดังลั่นห้อง “หยุดนะเธียน่า เธอทำเกินไปแล้วนะ นั่นของของฉันนะ ทำตัวเหมือนเด็กไปได้” ธารทิพย์กำมือแน่น ดวงตาจ้องมองไปยังเธียน่าตาไม่กระพริบ มีความโกรธสุมอยู่ในนัยน์ตาสีน้ำตาล “ใช่ของเธอที่ไหน ของพี่น็อตต่างหาก คนอย่างเธอไม่มีปัญญาซื้อของพวกนี้หรอก รวมราคากันแล้วยังแพงกว่าค่าตัวของเธอซะอีก” เธียน่าดูถูกเหยียดหยามธารทิพย์ทั้งสายตาและคำพูด “พ่อแม่เธอไม่ได้สอนหรือไงว่า อย่าขายตัวแลกข้าวของเพราะมันเสียศักดิ์ศรี” ธารทิพย์ถึงกับทนไม่ไหว เธียน่าด่าว่าพูดกระทบกระเทียบตนคนเดียว หล่อนทนได้ แต่นี่เล่นลามปรามไปถึงบุพการี ธารทิพย์ถึงกับทนไม่ไหว “มันจะมากเกินไปแล้วนะ พ่อแม่ฉันมาเกี่ยวอะไรด้วย ฉันขอบอกเธอตรงนี้เลยนะว่า ของทุกอย่างที่พี่น็อตซื้อให้ฉัน เขาซื้อให้เพราะเขารักฉัน เขาเสน่หาในตัวฉัน แล้วในเมื่อพี่น็อตซื้อให้ฉันแล้วมันก็คือของฉัน เธอไม่มีสิทธิ์มาแสดงกิริยาต่ำๆ แบบนี้” ธารทิพย์โต้กลับ “เรื่องที่เธอพยายามทำอยู่ ฉันเข้าใจนะว่าเป็นเพราะเธอหวงพี่น็อต ไม่อยากให้ใครแย่งความรักที่พี่น็อตมีให้เธอไป แต่เธอรู้ไหมว่า ยิ่งเธอทำเธอก็ยิ่งทำให้พี่น็อตลำบากใจและไม่มีความสุขในชีวิต เธอมีความสุขที่กำจัดฉันออกไปได้ แล้วเธอนึกถึงพี่น็อตบ้างหรือเปล่าว่า เขาจะรู้สึกยังไง จะทุกข์ จะเสียใจมากแค่ไหน แต่ฉันว่า คนอย่างเธอคงไม่นึกถึงใครนอกจากความรู้สึกของตัวเอง คนแบบนี้แถวบ้านฉันเรียกว่าคนเห็นแก่ตัว” เธียน่าอึ้งไปกับคำต่อว่า ซึ่งมีส่วนจริงอยู่เกินครึ่ง หล่อนไม่เคยนึกถึงจิตใจของบุรินทร์ เอาตัวเองเป็นศูนย์รวมของจักรวาลตามประสาคนเอาแต่ใจ คิดเพียงอย่างเดียวว่า ไม่ยอมให้ใครมาแย่งพื้นที่ความรักของบุรินทร์ ลืมคิดไปว่า บุรินทร์ก็มีชีวิตเป็นของตัวเอง พอมาได้ยินประโยคนี้ เธียน่าถึงกับพูดไม่ออก แต่ก็ไม่ยอมแพ้ “พี่น็อตเป็นพี่ชายของฉัน ฉันระแวดระวังผู้หญิงที่จะมาสูบเลือดสูบเนื้อพี่น็อตก็ถูกแล้ว” เธียน่าเถียงข้างๆ คูๆ “โดยเฉพาะผู้หญิงหน้าเงินรักสบายอย่างเธอ ฉันยิ่งต้องกำจัดก่อนที่พี่ชายฉันจะหมดตัว” “เธอคิดว่าพี่น็อตโง่หรือไง โง่พอที่จะให้ฉันสูบเลือดสูบเนื้อ เธอก็น่าจะรู้นิสัยพี่ชายเธอดีกว่าฉันนะว่า พี่น็อตเป็นคนฉลาด มีความคิด เขามักคิดก่อนทำเสมอ เธอพูดอย่างนี้ไม่เพียงแค่ดูถูกฉัน เธอยังดูถูกพี่ชายเธออีกด้วย ตอนนี้ฉันชักไม่แน่ใจแล้วว่า ใครกันแน่ที่โง่ ระหว่างเธอที่มีสมองแค่ประดับหัวถึงได้คิดอะไรไม่เป็น กับพี่น็อตที่ฉลาดจนสมองแทบจะทะลุเพดาน” นิสัยธารทิพย์ อดทนได้ก็จะอดทน แต่ถ้าทนไม่ได้ขึ้นมา อีกฝ่ายม้วยแน่ “กรี๊ด!” ไม่ได้ดังใจอะไรเธียน่าก็จะกรีดร้องออกมา หล่อนกระทืบเท้าราวกับเด็กๆ “แก แกกล้าว่าฉันโง่เหรอ” “อย่าทำตัวโง่ให้คนอื่นเขาดูถูกสิ ฉันพูดขนาดนี้ยังไม่รู้ตัวอีก” ธารทิพย์กอดออกพูด ใบหน้ามีรอยยิ้มน้อยๆ “แล้วอย่าคิดว่า เรื่องที่เธอทำมันจะสำเร็จ เพราะเธอยิ่งทำ ความรักระหว่างฉันกับพี่น็อตก็ยิ่งเหนียวแน่นมากขึ้น ตัวเธอเองนั่นแหละที่จะแพ้อย่างหมดรูป” “ฉันไม่มีวันแพ้แก ไม่มีวัน” เธียน่าตะเบ็งเสียงใส่ธารทิพย์ ท่ามกลางความตกใจของซันนี่และพนักงานโรงแรมอีกสามคน ซันนี่ที่ยืนดูเหตุการณ์มาตลอด เดินปลีกตัวออกจากห้องเพื่อหาตัวช่วยมาช่วยแยกสองสาวที่กำลังปะทะคารมกันอย่างดุเดือด ก่อนที่ทั้งคู่จะก้าวผ่านการมีปากเสียงไปถึงขั้นลงไม้ลงมือ “ฉันว่านะ เธอเอาเวลาไปเรียนหนังสือดีกว่า อย่าให้คุณแม่และพี่น็อตผิดหวังในตัวเธอเลยนะ เพราะที่เธอทำอยู่หากรู้ถึงหูคุณแม่กับพี่น็อต รับรองได้ว่า จะต้องผิดหวังในตัวเธอแน่ๆ ที่ทำนิสัยแย่ๆ เยี่ยงคนไม่มีการศึกษา ไม่ได้ถูกอบรม” ธารทิพย์ตอกกลับ คนเอาแต่ใจเดือดในหัวใจปุดๆ เกิดมาไม่เคยมีใครต่อว่าหล่อนด้วยถ้อยคำรุนแรงขนาดนี้ มีแต่จะพูดเอาใจ พะเน้าพะนอ พอมาเจอแบบนี้ เธียน่าถึงกับทนไม่ไหว “แก แกปากดีเกินไปแล้วนะ อย่างนี้ต้องตบสั่งสอน” เธียน่าปรี่เข้ามาหาธารทิพย์ “อย่าค่ะ” เสียงแอลลี่ หนึ่งสามของพนักงานที่อยู่ในห้องรีบห้าม ทว่ากลับถูกเธียน่าตวาดใส่ “อย่ายุ่ง ถ้ายุ่งมากเดี๋ยวจะโดนอีกคน” ก่อนเธียน่าจะหันมามองหน้าธารทิพย์ที่ไม่แสดงความกลัวให้เห็นสักนิดเดียว “ฉันจะตบสั่งสอนแก ให้แกรู้จักสำนึก” เธียน่าก้าวเท้าไปหาธารทิพย์ที่ไม่มีทีท่าว่าจะก้าวเท้าเดินหนี ธารทิพย์ยืนอยู่ที่เดิม “หยุดนะ!” เสียงธารทิพย์ดังลั่นห้อง “หยุดแสดงกิริยาต่ำๆ ถ่อยๆ เสียที เธอก็อายุไม่น้อยแล้วนะ แต่ทำไมถึงไม่มีความคิดแบบนี้ ฉันเสียใจแทนพี่น็อตกับคุณแม่เหลือเกินที่เลี้ยงดูเธอมาอย่างกับไข่ในหิน แต่ดูสิ่งที่เธอทำสิ เหมือนพวกไม่มีการศึกษา ใช้กำลังตัดสินปัญหา แล้วเธอมั่นใจแค่ไหนว่า ฉันจะไม่สู้ ฉันมีมือมีเท้าเท่ากับเธอ ฉันจัดอยู่ในประเภทปากกัดตีนถีบตั้งแต่เกิด สู้คนมานักต่อนัก อย่างเธอไม่คณามือฉันหรอก แค่ผลักก็กระเด็นแล้ว แต่ถ้าตบ รับรองแก้มเธอได้ขึ้นรอยฝ่ามือฉันแน่ อยากลองไหมล่ะ ถ้าอยากลองก็เข้ามา หน้าไม่แหกให้เรียกหมา” เธียน่าชะงักกึก ค้างมือที่เงื้อไว้บนอากาศเมื่อได้ยินคำพูดจริงจังที่แสดงให้รู้ว่า อีกฝ่ายพูดจริงทำจริง ตอนนี้เธียน่าเริ่มกล้าๆ กลัวๆ ทว่าปากก็ยังคงดีอยู่ “ฉันไม่กลัวแกหรอก ฉันรู้ว่าแกไม่กล้า อย่างแกต้องถูกฉันตบถึงจะถูก” เธียน่าเงื้อมือสูงกว่าเดิม หมายจะฟาดลงไปบนแก้มของธารทิพย์ ทว่าหล่อนทำได้แค่เงื้อมือ ความตั้งใจก็ต้องเป็นศูนย์ เมื่อเสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้น “หยุดนะเธียน่า” ธารทิพย์มองหน้าต้นเสียง ขณะที่เธียน่าหันมามองเจ้าของเสียงที่เดินเข้ามาด้วยใบหน้าบึ้งตึง “ทำไมเธียน่าทำแบบนี้ แม่เคยสั่งสอนให้ลูกทำอย่างนี้เหรอ” ซันนี่ตั้งใจไปตามบุรินทร์มาช่วยธารทิพย์ แต่พอไปถึงห้องทำงานของบุรินทร์ก็พบว่า ประภาพรหรือเจน่าอยู่ในห้องนั้นด้วย ซันนีรีบเล่าเรื่องแบบพอรู้เรื่องราวให้ทั้งสองฟัง สองแม่ลูกหลังจากรู้ว่า เธียน่ากำลังทำอะไรก็รีบมาที่นี่ทันที “คุณแม่” “แม่รู้และเข้าใจลูกที่ลูกทำแบบนี้เพราะหวงพี่น็อต แต่แม่ไม่คิดว่า ลูกจะทำถึงขนาดนี้ มันไม่ใช่นิสัยของเธียน่าเลยนะลูก แม่เคยบอกเธียน่าแล้วว่า ต่อให้พี่น็อตแต่งงานมีครอบครัว แต่ความรักที่ให้ลูกก็ไม่ได้ลดลง มันยังอยู่คงเดิมและตลอดไป แม่ผิดหวังในตัวลูกมากนะรู้ไหม” สายตาของประภาพรและบุรินทร์ที่มองยังเธียน่า ทำให้คนถูกมองเกิดความรู้สึกทนไม่ไหว สายตาแบบนี้หล่อนไม่เคยได้รับจากทั้งคู่ ที่ผ่านมามีเพียงสายตาแห่งความรักและความอบอุ่น แต่ตั้งแต่ธารทิพย์เข้ามาในชีวิตของบุรินทร์ ความรู้สึกของหล่อนก็เปลี่ยนไป ยิ่งเห็นบุรินทร์เดินไปโอบบ่าธารทิพย์ แทนที่จะโอบบ่าตน ยิ่งทำให้เธียน่ารู้สึกแย่มากขึ้น น้ำตาหล่อนไหล หัวใจบอบช้ำ และไม่อาจทนอยู่ในห้องนี้ได้ หล่อนเลือกจะวิ่งออกไปจากห้องโดยไม่พูดอะไรสักคำ แต่ละก้าวที่ก้าวเดิน เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเสียใจ “เธียน่า” บุรินทร์ร้องเรียกน้องสาว ทำท่าคล้ายจะวิ่งตาม “น็อตไม่ต้อง ไม่ต้องตามไป” ประภาพรสั่งบุตรชาย “เราตามใจกับเธียน่าจนเคยตัว ถึงเวลาจะต้องดัดนิสัยเธียน่าบ้างแล้ว ขืนปล่อยไว้อย่างนี้จะยิ่งเคยตัว นิสัยจะแย่หนักกว่าเดิม” ประภาพรก็อ่อนใจกับลูกบุญธรรม ครั้นจะทอดทิ้งไม่ดูดำดูดีก็ไม่ได้ เพราะสาวตัวแสบก็เหมือนลูกในไส้ที่นางเลี้ยงมากับมือ แม้ว่าแท้จริงแล้วจะมีศักดิ์เป็นหลานก็ตาม “อายุจะยี่สิบอีกไม่กี่เดือน ยังทำตัวเหมือนเด็ก” ประภาพรพูดอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ส่วนหนึ่งก็โทษตัวเองที่ทำให้เธียน่ามีนิสัยเช่นนี้ “น็อตพาน้ำไปซื้อของใหม่เถอะ มันคงเสียหายใช้การไม่ได้แล้ว” “ไม่ต้องค่ะคุณแม่ บางอย่างก็ยังใช้ได้อยู่ ซื้อใหม่เสียดายเงินค่ะ” ธารทิพย์รีบแย้ง หล่อนคิดว่าเครื่องสำอางเสียหายไม่กี่อย่างและสามารถนำกลับมาใช้ได้โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่ เพราะราคาเครื่องสำอางหากซื้อใหม่ก็ไม่ใช่น้อย “ถือว่าเป็นค่าปลอบขวัญจากแม่และน็อตก็แล้วกันนะน้ำ ถ้าน้ำไม่รับ แม่จะถือว่าน้ำทำลายน้ำใจของแม่” ธารทิพย์เจอประโยคนี้เข้าไปถึงกับหันหัวเรือกลับ “ก็ได้ค่ะ” “น็อตรีบพาน้ำไปซื้อเครื่องสำอาง ใกล้วันประกวดแล้ว น้ำต้องฝึกฝนอีกหลายอย่าง ส่วนเรื่องเธียน่าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวแม่จัดการเอง” “ครับคุณแม่” “ขอบคุณคุณแม่มากค่ะ” ธารทิพย์ยกมือไหว้ประภาพร ก่อนจะเดินออกไปจากห้องประชุมพร้อมบุรินทร์ โดยมีประภาพรกับคนที่อยู่ในห้องเดินตามออกมา
已经是最新一章了
加载中