บทที่ 27 นางฟ้าของวารุณี 1   1/    
已经是第一章了
บทที่ 27 นางฟ้าของวารุณี 1
การเดินทางมาอิตาลีครั้งนี้ของเหนือเมฆกับช้องนางเป็นความลับสุดยอด ไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากเดชดวงลูกน้องคนสนิทที่ช่วยจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินและเรื่องวีซ่า แม้กระทั่งช้องนางเองก็ไม่รู้ มารู้ก่อนวันเดินทางหนึ่งวัน และไม่รู้ด้วยว่าจุดหมายปลายทางของการเดินทางครั้งนี้คือที่ใดกันแน่ เนื่องจากเหนือเมฆบอกว่าจะพาตนไปเที่ยวฝรั่งเศส แต่กลับตีตั๋วไปอิตาลีแทน “ไหนพี่เหนือบอกว่าจะไปฝรั่งเศสไม่ใช่เหรอคะ แล้วทำไมซื้อตั๋วไปอิตาลี” ช้องนางถามขณะยืนรอคิวเช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ “พี่กะว่าจะพาวาไปด้วย ใกล้สอบแล้วพี่ไม่อยากให้วาเครียด พาไปเปิดสมองบ้าง กลับมาอ่านหนังสือสอบความรู้จะได้ไหลเข้าหัว” เหนือเมฆแก้ตัว “พอรับวาแล้วเราก็ไปฝรั่งเศสกัน” “วารู้หรือยังคะว่าเรากำลังไปรับไปเที่ยว” “ไม่ได้บอกหรอก พี่ตั้งใจเซอร์ไพร์สวาน่ะ กุ้งก็ห้ามบอกวานะ เดี๋ยวไม่เซอร์ไพร์ส” “ค่ะพี่เหนือ กุ้งจะไม่บอกวาค่ะ” ช้องนางรับคำโดยไม่เฉลียวใจอันใด หมดคำถามรวมทั้งความสงสัยที่เขามากรุงโรม และไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้วารุณีรู้ตัว จุดหมายของเหนือเมฆกับช้องนางคือ อพาร์ตเมนต์ที่วารุณีพักอาศัย โดยไม่ได้บอกใครทั้งสิ้น แม้แต่บุรินทร์เพื่อนสนิทที่เขาจะบอกให้มารับที่สนามบินทุกครั้งที่เดินทางมากรุงโรม ทว่าครั้งนี้เขาต้องการมาแบบเงียบๆ เพื่อจับแมวที่แอบดอดมาขโมยปลาย่าง ความที่เดินทางไกลมากว่าสิบชั่วโมง เหนือเมฆเลือกจะพาช้องนางไปพักผ่อนที่โรงแรม ขจัดความเมื่อยล้าก่อน แล้วค่อยไปจับแมวขโมยที่เขารู้มาว่า เย็นนี้นานโอจะมารับวารุณีที่อพาร์ตเมนต์ แล้วเวลาที่เหนือเมฆรอคอยก็มาถึง เขากับภรรยาออกจากโรงแรมก่อนเวลาที่นานโอจะมารับวารุณีสี่สิบห้านาที ยานพาหนะที่เขาใช้คือรถเช่าที่ทางโรงแรมจัดหาใหม่ ก่อนจะขับไปจอดห่างจาก อพาร์ตเมนต์ไม่มากนัก “อย่าเพิ่งลง รอเดี๋ยว” ช้องนางชะงักมือที่กำลังเปิดประตูรถ หันมามองคนพูดที่ทำหน้านิ่ง “ทำไมคะ” คนเป็นภรรยาอดถามไม่ได้ “รอก่อน” เหนือเมฆพูดเพียงแค่นี้ ความสงสัยเกิดขึ้นในใจช้องนางทันที “พี่เหนือกำลังทำอะไรคะ” ช้องนางถามสามีตรงๆ อย่างรู้นิสัย “รอแมวขโมย” คำตอบของสามียิ่งเรียกความสงสัยให้ช้องนางมากขึ้น ‘แมวขโมย’ หล่อนทวนคำนี้ในใจ แมวที่ว่านี้คือใคร แล้วกำลังขโมยอะไรจากเหนือเมฆ ถึงขั้นที่เขาต้องมานั่งเฝ้ารอแมว เมื่อความสงสัยคงอยู่ หล่อนกำลังเอ่ยปากถามต่อ ทว่าเสียงของสามีดังขัดขึ้นเสียก่อน “นั่นไงมาแล้ว” ช้องนางมองตามสายตาของสามี ภาพที่หล่อนเห็นคือ นานโอกำลังเดินเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ที่วารุณีพักอาศัยอยู่ คำถามหลายคำถามเกิดขึ้นในหัว นานโอมาทำอะไรที่นี่ เขามาหาใคร มาหาเพื่อนหรือเปล่า แล้วที่เหนือเมฆบอกว่ามาจับแมวขโมยจะหมายถึงใครล่ะ จะใช่นานโอหรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่น่าจะใช่ เนื่องจากสายตาของสามีมองไปยังนานโอเขม็ง อยู่ๆ ก็มีความคิดหนึ่งเกิดขึ้นในหัวช้องนาง หล่อนทำหน้าตกใจทันทีกับความคิดนั้น ความคิดที่ไม่น่าเป็นไปได้ นานโอมาหาวารุณี... ต้องใช่แน่ๆ ไม่เช่นนั้นเหนือเมฆไม่นั่งรออยู่ในรถแบบนี้ ป่านนี้คงขึ้นไปหาวารุณีที่ห้องแล้ว และเป็นอีกครั้งที่ช้องนางยังไม่ได้ถามคำถามใดกับสามี หล่อนต้องรีบลงจากรถก้าวเดินตามเหนือเมฆที่เดินจ้ำอ้าวไปยังอพาร์ตเมนต์ ขณะที่ช้องนางเดินตามสามี ใจคอหล่อนรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย แรงกับแรงกำลังเจอกัน งานนี้คงบรรลัย นานโอที่ยังไม่รู้ตัวว่า ตกอยู่ในสายตาของเหนือเมฆก้าวออกจากลิฟต์อย่างอารมณ์ดี เขาเดินมาตามทางจนมาถึงหน้าห้องคนรัก เขากดกริ่งหน้าห้อง ยืนคอยไม่กี่อึดใจ บานประตูห้องก็เปิดออก คนที่เปิดประตูคือวารุณี ภาพที่นานโอก้มลงหอมแก้มวารุณีหน้าห้อง เรียกความโกรธและไม่พอใจให้เหนือเมฆที่ทันเห็นภาพนั้นพอดี มีหรือคนหวงน้องอย่างเขาจะไม่รีบไปจัดการแมวขโมยรูปงาม “ไอ้นานโอ” เจ้าของชื่อหันมาตามเสียงเรียก นานโอมองเห็นชายรูปร่างสูงพอๆ กับตนเดินอาดมาหา แววตาของชายผู้นั้นบอกให้รู้ว่าไม่พอใจเต็มที่ รูปหน้าของอีกฝ่าย เขาจำได้แม่นว่าคือใคร เขาคนนั้นคือชายหนุ่มที่อยู่บนหน้าจอมือถือของวารุณี… เหนือเมฆหรือแอนดริว วารุณีดวงตาเบิกกว้าง ความตกใจระบายเต็มดวงหน้า หล่อนอ้าปากค้างเมื่อเห็นเหนือเมฆกับช้องนางเดินมาหาตน ความรู้สึกหล่อนตอนนี้ไม่ใช่แค่ตกใจ หล่อนยังแปลกใจที่เห็นเหนือเมฆมาที่นี่ เพราะทุกครั้งที่พี่ชายมากรุงโรมจะต้องบอกให้ตนรู้ ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่ “พี่เหนือ” “มึง...” เหมือนเหนือเมฆจะไม่ฟังเสียงใครทั้งสิ้น เขาปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อนานโอที่ไม่มีทีท่าขัดขืนหรือต่อสู้ ราวกับจำยอมให้อีกฝ่ายทำตามใจชอบ “พี่เหนืออย่าค่ะ” วารุณีรีบห้ามเมื่อเห็นพี่ชายกำลังชกหน้านานโอ แต่คงช้ากว่าความโกรธและไม่พอใจของเหนือเมฆ เขาซัดหมัดไปบนแก้มของนานโอสองครั้งติด “พี่เหนือพอแล้วค่ะ...กุ้งบอกว่าให้พอไงคะ” ช้องนางที่หายตะลึง เข้าไปห้ามอีกคน ทว่าหล่อนไม่ได้ห้ามเปล่า ช้องนางกอดเอวสามีไว้แน่นและพยายามดึงให้ห่างร่างนานโอที่ไม่คิดตอบโต้ “ปล่อยพี่ ปล่อย” อารมณ์เหนือเมฆตอนนี้เกิดฉุดรั้ง เขาทนไม่ได้ที่เห็นนานโอหอมแก้มวารุณี ความคิดที่ว่านานโอไม่จริงใจกับน้องสาวต่างมารดายังคงวนเวียนในหัว เขาไม่ยอมให้วารุณีเป็นของเล่นของนานโอ เขาต้องขัดขวางให้ถึงที่สุด และนั่นทำให้เหนือเมฆปล่อยมือที่กำคอเสื้อนานโอออก ปลดแขนภรรยาออกจากเอวตนและสะบัดตัวสุดแรงคล้ายกำลังเหวี่ยงร่างช้องนางออก ส่งผลให้ร่างภรรยาเซไปกระแทกกับผนังปูน เมื่อตัวเองคล่องตัวขึ้น เหนือเมฆตั้งท่าจะซัดนานโออีกรอบ ทว่าเสียงหนึ่งทำให้เหนือเมฆชะงักทุกอย่างแล้วหันมามองต้นเสียง “โอ๊ย!” ด้วยความเจ็บช้องนางจึงร้องออกไป “กุ้ง!” เหนือเมฆเปลี่ยนความสนใจจากนานโอมาเป็นเมียรัก เขารีบเข้ามาประคองร่างช้องนาง “เป็นไงบ้างกุ้ง พี่ขอโทษ” คงจะมีเพียงช้องนางคนเดียวที่ทำให้ทีท่าของเหนือเมฆอ่อนลง “พี่เหนืออย่าทำร้ายคุณนานโอนะคะ กุ้งไม่อยากให้พี่เหนือทำร้ายใคร” ทั้งน้ำเสียงและแววตาของช้องนาง แสดงให้เหนือเมฆเห็นว่า หล่อนกำลังขอร้องอ้อนวอนเขา “คนเริ่มออกมามองกันแล้ว เราเข้าห้องกันดีกว่าค่ะ” เสียงที่ค่อนข้างดังตรงทางเดิน เรียกความสนใจให้คนที่อยู่ร่วมชั้นออกมามองดูเหตุการณ์ ช้องนางกลัวว่า ผู้ร่วมพักอาศัยชั้นนี้ห้องใดห้องหนึ่งจะโทรแจ้งตำรวจมาดูเหตุการณ์ หล่อนไม่อยากให้เรื่องราวใหญ่โตจึงรีบฉุดมือสามีเข้าไปในห้อง โดยมีวารุณีกับนานโอเดินตามเข้าไป “มึงออกไปจากห้องน้องสาวกูเดี๋ยวนี้ ที่นี่ไม่ต้อนรับมึง” เหนือเมฆพูดใส่หน้านานโอเป็นภาษาสากลพูดอย่างไม่เกรงใจใคร กระชากตัววารุณีให้พ้นจากลำแขนใหญ่ของนานโอที่โอบบ่า วารุณีไม่มีทีท่าขัดขืนการกระทำของพี่ชาย เพราะรู้ดีว่าตอนนี้เหนือเมฆเหมือนไฟ หากต่อต้านมีหวังไฟลุกลามแน่นอน ก่อนที่เขาจะถลาไปหานานโอ ซัดด้วยกำปั้นไปที่แก้มของอีกฝ่าย นานโอหลบได้แต่ไม่หลบ ปล่อยให้ตัวเองเป็นเป้านิ่ง หากเขาต่อสู้กลับ รับรองได้ว่า มันยิ่งกว่ามวยคู่เอกบนเวทีมวยเสียอีก “พี่เหนือพอแล้วค่ะ กุ้งบอกให้พอไงคะ” เหนือเมฆชะงักหมัดที่กำลังลงน้ำหนักไปบนแก้มของนานโอทันที “พี่เหนือใจเย็นๆ สิคะ ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตอะไรสักหน่อย” เสียงช้องนางดังขึ้น เสียงที่จะทำให้อารมณ์ของเหนือเมฆเบาลง วารุณีก้าวเดินไปดูคนรักที่ตอนนี้แก้มเกิดรอยช้ำ มีรอยหมัดประทับอยู่ “พี่เหนือขา ฟังวาก่อนนะคะ” วารุณีรีบพูด “วาไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังเรื่องนี้ คุณนานโอกับวาคุยกันไว้ว่า หลังสอบเสร็จวากับคุณนานโอจะไปเมืองไทย ไปบอกเรื่องของเราให้พี่เหนือรู้ แต่พี่เหนือมานี่ซะก่อนค่ะ” วารุณีพยายามอธิบายให้พี่ชายฟัง แต่ดูเหมือนว่าแรงโกรธจะปิดหูปิดตาพี่ชายคนนี้เสียสนิท “พูดภาษาที่ผมเข้าใจได้ไหมครับ” นานโอพูดขึ้น เนื่องจากเขาฟังภาษาไทยไม่เข้าใจ “มึงหุบปากไปเลย” เหนือเมฆชี้หน้านานโอ สายตาโกรธเกรี้ยว “น้องของกูไม่ใช่ของเล่นของใคร วายังเด็กไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคนแก่อย่างมึงหรอก กูขอเตือนนะว่า อยู่ห่างๆ วาไว้ ไม่งั้นมึงเจ็บตัวแน่” เหนือเมฆไม่สนใจอิทธิพลของนานโอ ที่เขารู้ดีว่าใหญ่คับกรุงโรมมากแค่ไหน แต่ขอโทษ คนอย่างเหนือเมฆไม่เคยกลัว “ผมรู้ว่าคุณห่วงและหวงแอรี่ แต่ผมบอกคุณตรงนี้เลยว่า ผมไม่เคยเห็นแอรี่เป็นของเล่น ผมจริงจังกับเธอ ผมรักแอรี่ครับ” แม้ว่าเหนือเมฆจะเป็นไฟ ซึ่งจะว่าไปนานโอก็เป็นยิ่งกว่าไฟบรรลัยกัลป์ ทว่างานนี้นานโอข่มอารมณ์ตัวเองเต็มที่ ไม่แสดงทีท่าโมโหหรือไม่พอใจน้ำเสียงอันแข็งกร้าวของเหนือเมฆ อาจเป็นเพราะเขาเข้าใจความรู้สึกของคนหวงน้อง อีกทั้งอีกฝ่ายคือว่าที่พี่เมียของตน นานโอจึงใช้น้ำเย็นเข้าลูบ นานโอไม่เคยใจเย็นเช่นนี้มาก่อน หากมีใครทำร้ายเขาแม้แต่ปลายก้อย เขาอัดสวนจนอีกฝ่ายเลือดนองหน้าแน่นอน “พี่เหนือคะ ใจเย็นๆ ค่ะ” ช้องนางปรามอารมณ์สามี ซึ่งหล่อนเป็นเพียงคนเดียวที่ทำให้อารมณ์ของเหนือเมฆเบาลงได้ในระยะเวลาไม่กี่อึดใจ “พูดกันดีๆ นะคะ” “ไม่ต้องมาทำพูดดี คำพูดของคนจะพูดให้ดูดี ให้ดูน่าเชื่อถือยังไงก็ได้ แต่ถ้าพฤติกรรมสวนทางกับคำพูดมันก็ไร้ประโยชน์ พฤติกรรมคุณที่ผ่านมา มันบอกให้ฉันเข้าใจว่า คุณไม่มีวันจริงใจกับแอรี่” น้ำเสียงเหนือเมฆลดความแข็งกระด้างลง ช้องนางสอดมือประสานกับมือใหญ่ของสามี หล่อนกระชับเบาๆ เป็นเชิงเตือนสติ “ผมเข้าใจคุณ การที่ผมปล่อยให้อายุของตัวเองมาถึงขนาดนี้โดยไม่คิดจริงจังกับใคร คนอื่นมองว่าผมเจ้าชู้ซึ่งมันไม่ใช่ ผมก็เหมือนกับชายโสดทั่วไปที่ซื้อผู้หญิงมานอนด้วย เรามีความสัมพันธ์ทางกายแต่ไม่มีความสัมพันธ์ทางใจ ผมไม่เคยคบกับใครเป็นตัวเป็นตน นั่นหมายความว่าผมมีผู้หญิงกี่คนก็ได้ ผมถือว่าผมไม่ผิด แต่จะผิดหากผมมีแอรี่แล้วยังยุ่งกับผู้หญิงอื่น ผมก็เหมือนกับคุณที่หยุดทุกอย่างเมื่อเจอคนที่ใช่ ซึ่งตอนนี้ผมก็หยุดแล้วจริงๆ ผมรักแอรี่ ผมมีแอรี่คนเดียว” นานโอพูดจากใจ เขาไม่เคยมองหรือสนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ ส่วนมากหากถูกใจก็จะหิ้วขึ้นเตียง นั่นถือว่าเป็นเรื่องปกติของชายโสด แต่พอมาเจอวารุณี ผู้หญิงที่ทำให้ความคิดและหัวใจเขาเปลี่ยนไป นานโอก็ไม่เคยคิดทำตัวเหมือนก่อน เขาหยุดทุกอย่างไว้ที่วารุณีคนเดียว คำพูดของนานโอ วารุณีกับช้องนางเชื่อตามคำพูดนั้น ช้องนางเห็นความจริงใจและความรักที่นานโอมีให้วารุณีในแววตาของเขา หล่อนเชื่อว่านานโอรักน้องสามีตนจริง แต่ก็รู้ว่า มีอีกคนที่ไม่เชื่อ และไม่คิดจะเชื่อด้วย คนนั้นคือเหนือเมฆ “คำว่ารักจะพูดยังไง จะพูดกี่ครั้ง จะพูดที่ไหนก็ได้ แต่มันจะไม่สำคัญหากคำว่ารักที่พูดไม่ได้ออกมาจากใจจริงๆ” แม้ว่านานโอจะเปิดเผยความรู้สึก ทว่าเหนือเมฆก็ยังไม่เชื่อ “ผู้ชายหลอกว่ารักมีออกเยอะแยะ พอได้สิ่งที่หวังก็เฉดหัวทิ้งอย่างคนไร้ค่า ฉันไม่อยากให้แอรี่เป็นแบบนั้น ทางที่ดีคุณควรออกไปจากชีวิตแอรี่ซะ อย่าให้ชีวิตที่สดใสของแอรี่ต้องมัวหมองเพราะคุณเลย” เหนือเมฆเป็นคนไม่ยอมคน ยิ่งมาทำร้ายหรือทำลายคนที่เขารัก เหนือเมฆไม่มีวันยอมเข้าไปใหญ่ วารุณีเป็นน้องสาวที่น่ารักคนเดียวของเขา คนเป็นพี่จึงต้องดูแลและปกป้องสุดชีวิต “ถึงคุณจะฆ่าผมตรงนี้ ผมก็ยังยืนกรานว่า ผมรักแอรี่ เป็นความรักที่ผมไม่เคยมอบให้ใครมาก่อน ผมเข้าใจว่าเป็นคำพูดที่ทำให้คุณเชื่อยาก แต่ผมก็ไม่มีคำไหนที่จะบอกนอกจากคำนี้...ผมรักแอรี่ ผมจริงใจกับเธอ ผมตั้งใจว่าพอแอรี่เรียนจบ ผมจะไปขอเธอแต่งงาน ซึ่งผมตั้งใจทำตามที่คิดไว้จริงๆ” “ถ้าคิดว่าจริงใจกันจริงๆ ทำไมต้องปิดบังกันด้วย น่าจะเปิดเผยไม่ใช่เหรอ นี่เล่นปิดกันซะเงียบ รวมหัวกันปิดบังฉันทุกคนไม่เว้นแม้แต่โจนาธาน ถ้าเพื่อนฉันไม่มาบอก ฉันก็คงเป็นคนโง่ต่อไป” เหนือเมฆขุ่นในจิตใจขึ้นมาทันใดเมื่อนึกถึงข้อนี้ “วาไม่ได้ตั้งใจปิดบังพี่เหนือ แต่ที่ไม่บอกให้รู้เพราะวากลัวว่า จะทำให้พี่เหนือรู้สึกผิดหวังในตัววา วารอให้เรียนจบก่อน ให้พี่เหนือภูมิใจกับน้องสาวคนนี้ วาถึงบอกพี่เหนือค่ะ ส่วนพี่น็อต วาเป็นคนขอร้องเขาเองค่ะ ถ้าเรื่องนี้จะมีคนผิด คนนั้นก็คือวาค่ะ วาผิดเอง วาผิดคนเดียว” วารุณีน้อมรับความผิดไว้คนเดียว นานโอเห็นสีหน้าวารุณีแล้วเสียดหัวใจสุดๆ วารุณีทำท่าเหมือนจะร้องไห้ มองหน้าพี่ชายที มองหน้าเขาที ราวกับว่าตัดสินใจไม่ถูกหากเลือกข้าง นานโอใจกล้าบ้าบิ่น ก้าวเท้ามาหาวารุณีที่ยืนข้างพี่ชาย ดึงแขนหล่อนเบาๆ แล้วโอบกอดสาวร่างเล็กไว้ต่อหน้าเหนือเมฆที่ทำท่าจะเดินมาขัดขวาง ทว่าขาเหนือเมฆก้าวไม่ออกเพราะมือของภรรยาที่ยังคงประสานกับมือตน บีบเบาๆ เป็นเชิงเตือน ไม่มีแค่บีบมือ ช้องนางยังส่งสายตาห้ามปรามไว้ด้วย เหนือเมฆที่เป็นเสือ กลายเป็นแมวทันที “ผมต่างหากที่ผิด แอรี่ไม่ผิด” นานโอพูด “ผมขอยืนยันกับคุณอีกครั้งว่า ผมรักและจริงใจกับแอรี่ ถ้าหากคุณไม่เชื่อคำพูดผม จะให้ผมพิสูจน์ยังไงก็ว่ามา ผมพร้อมยอมทำ” นานโอมองสบตาเหนือเมฆนิ่ง ต่างฝ่ายต่างไม่หลบสายที่พร้อมประหัตประหาร ทว่าชั่วขณะนั้น แววตาของนานโออ่อนลงเมื่อหลุบตามองนัยน์ตาคู่สวยของวารุณีที่เอ่อคลอด้วยน้ำตา วินาทีนี้เขาบอกกับตัวเองว่า เขาพร้อมพิสูจน์ความรักที่มีต่อวารุณีทุกทางที่เหนือเมฆบัญชามา “ฉันไม่พิสูจน์อะไรทั้งนั้น เพราะฉันเชื่อว่าคุณไม่ได้รักน้องสาวฉันจริง” เหนือเมฆยังคิดเช่นเดิม ก่อนจะเอื้อมมือมาจับท่อนแขนน้องสาวดึงกลับให้หล่อนมายืนข้างตน “คุณหลอกใครหลอกได้ แต่อย่ามาหลอกน้องสาวฉัน เพราะมันจะไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้” ช้องนางเห็นความแข็งกร้าวของสามี ที่จะว่าไป พูดกันวันนี้คงไม่รู้เรื่อง ต้องรอให้เหนือเมฆใจเย็นกว่านี้อีกสักนิด แล้วค่อยนำเหตุผลมาพูดคุยกัน “ฉันว่าวันนี้คุณกลับไปก่อนดีกว่าค่ะ เอาไว้พรุ่งนี้เราค่อยคุยกันใหม่ ตอนนี้อารมณ์ของสามีฉันคงพูดอะไรเข้าใจยาก ถ้าคุณอยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี คุณต้องกลับค่ะ” ช้องนางที่รู้นิสัยสามีดีพูดกับนานโอ นานโอหันมามองหน้าวารุณีที่พยักหน้า ราวกับจะบอกเขาว่า ให้ทำตามที่ช้องนางบอก “ก็ได้ครับ ผมจะกลับ แล้วจะมาใหม่ในวันพรุ่งนี้ ผมไม่มีวันยอมง่ายๆ เหมือนกัน” นานโอยิ้มอ่อนให้วารุณี ก่อนหมุนตัวเดินออกจากห้องพักของคนรัก ยอมเป็นฝ่ายล่าถอยทั้งที่ใจอยากจะสู้ให้รู้ดำรู้ดี “พี่เหนือขา วาขอโทษนะคะ” วารุณีพนมมือไหว้บนอกพี่ชาย เงยหน้ามองเหนือเมฆด้วยน้ำตาอาบแก้ม เหนือเมฆหลุบตามองน้องสาว แต่ไม่ปริปากคำใดออกมา “วาขอโทษ” กิริยาท่าทางนิ่งเฉยของพี่ชายเรียกความเสียใจให้เกิดขึ้นในจิตใจของคนเป็นน้อง เหนือเมฆไม่เคยแสดงทีท่านิ่งเฉยกับตนเช่นนี้มาก่อน แววตาของเหนือเมฆที่มองมาคล้ายตำหนิและไม่พอใจ “พี่จะอยู่ที่นี่จนกว่าวาจะสอบเสร็จ” เสียงเหนือเมฆทำลายความเงียบ “เราจะกลับเมืองไทยกันทันทีที่เรื่องเรียนของวาเรียบร้อย” “ค่ะ” วารุณีไม่มีคำใดจะเอ่ย และไม่มีคำใดค้าน สิ่งที่หล่อนทำได้ตอนนี้คือ ยอมพี่ชาย “ระหว่างนี้พี่จะให้วาพักที่โรงแรม พี่ให้เวลาวาไปเก็บเสื้อผ้าสิบนาที” “ค่ะพี่เหนือ” วารุณีรับคำ เดินน้ำตานองหน้าเข้าไปในห้องนอนเพื่อเก็บเสื้อผ้าตามคำสั่งของพี่ชาย ใจหนึ่งหล่อนไม่อยากไปพักที่โรงแรม แต่ก็ขัดคำสั่งเหนือเมฆไม่ได้ หากขัดขืนเรื่องมันอาจแย่ลงกว่าที่เป็นอยู่ อีกสิบห้านาทีต่อมาเหนือเมฆกับภรรยาและวารุณีได้เดินทางออกจากอพาร์ตเมนต์ มุ่งตรงไปยังโรงแรมที่เขาพักอาศัย การนี้เขาได้ยึดมือถือของวารุณีไว้ด้วย กันไม่ให้น้องสาวติดต่อกับนานโอ วารุณีถึงกับเศร้ามองมือถือที่อยู่ในมือพี่ชายตาละห้อย ช้องนางเหมือนเข้าใจความรู้สึกของน้องสามี และสงสารไปในที หล่อนคิดว่าเรื่องของความรักสมควรให้วารุณีตัดสินใจและเลือก ไม่ใช่เหนือเมฆที่จะคอยบงการชี้แนะชี้นำ หล่อนเองไม่เห็นด้วยกับการกระทำของสามี ทว่าอีกเสี้ยวความคิดก็เข้าใจสิ่งที่สามีทำ แล้วยังมองเห็นความยุ่งยากที่ตามมา เป็นเพราะนานโอคงไม่ยอมให้ความรักของตนด้วนกุดง่ายๆ แน่นอน เช่นเดียวกับเหนือเมฆที่จะทำตัวเป็นขวากหนามชิ้นใหญ่ เห็นทีงานนี้ช้องนางคงต้องหาแผนเด็ดๆ ช่วยเหลือน้องสะใภ้ ช้องนางกำลังเป็นนางฟ้าประจำตัววารุณี...
已经是最新一章了
加载中