ตอนที่ 2
หม่อนหัวเราะคิกและยอมนั่งเฉย ๆ ให้กานดา ป้าที่เลี้ยงหล่อนกับพี่สาวมาเพราะพ่อกับแม่เสียชีวิตไปทั้งหมดแล้วขัดสีฉวีวรรณให้ ขณะนั้นหล่อนก็นั่งนึกในใจเกี่ยวกับเรื่องงานแต่งที่จะมีในวันรุ่งขึ้น หลังพี่สาวหอบเงินสินสอดว่าที่เจ้าบ่าวหนีก่อนวันแต่งก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ กานดาโทรไปฟูมฟายกับหล่อนว่าต้องชดใช้และหาเจ้าสาวทดแทนให้ อัครเดช พ่อเลี้ยงหนุ่มที่หม่อนเคยเห็นหน้าแต่ยังไม่ชัด เพราะหม่อนไปเรียนต่อที่กรุงเทพแต่ไหมช่วยงานป้าของหล่อนอยู่กับบ้าน หม่อนไม่รู้มาก่อนว่าไหมมีแฟนอยู่แล้วและพอเกิดเรื่องก็ทำให้ต้องกลับมารับหน้าที่เปป็นเจ้าสาวแทนพี่สาวโดยไม่ได้ตั้งใจ
เพราะหล่อนสงสารกานดา ป้าที่ชุบเลี้ยงมา ไม่อยากให้ต้องแบกรับภาระหาเงินหลายแสนมาชดใช้หนี้ให้ว่าที่เจ้าบ่าวที่หล่อนรู้คร่าว ๆ ว่าเขาอายุสามสิบกว่าปีในขณะที่หล่อนอายุยังไม่ถึงยี่สิบด้วยซ้ำ แต่ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าอัครเดชเป็นพ่อเลี้ยงมหาเศรษฐีหน้าตาดี หล่อเหลาแต่ล่ำหรือเปล่านั้นไม่รู้ หม่อนตั้งใจแล้วว่าหล่อนจะรับหน้าที่เป็นเจ้าสาวแทนพี่สาวที่หนีไปก็จริง
แต่พอถึงฤกษ์เข้าหอก็จะขอพูดคุยกับว่าที่เจ้าบ่าวให้รู้เรื่องว่าหล่อนไม่ได้ทำหน้าที่แทนไหมทุกสิ่งทุกอย่าง หล่อนตั้งใจจะตกลงกับเขาว่าจะขอทำงานชดใช้แทนการเป็นเมีย ผู้ชายรวย ๆ อย่างนั้นมีหรือจะไม่อยากมีเล็กมีน้อย ถ้าเขาอยากมีผู้หญิงคนอื่นหล่อนก็จะปล่อยเขาไปและเต็มใจให้เขามีเมียใหม่ในเร็ววัน นึกแล้วน่าจะเป็นเรื่องง่าย ๆ หม่อนนั่งนึกแล้วกระหยิ่มกับความคิดของตัวเองจนเผลอส่งเสียงหัวเราะออกมา
“แกบ้ารึเปล่านังหม่อน”
“อะไรอีกล่ะป้า”
“แกหัวเราะอะไรคนเดียว ถ้าเป็นบ้าฉันจะได้หาเจ้าสาวคนใหม่ให้พ่อเลี้ยง”
“โอ๊ยป้า...ฉันคิดของฉันไปเรื่อย ป้านี่ก็...ไม่เคยเห็นรึไงคนกำลังมีความสุขกับความคิดของตัวเองน่ะ”
“เออ...เคยเห็น แต่เห็นคนแบบนี้ที่โรงพยาบาลบ้า ไม่สบายเดี๋ยวจะให้แกไปรับยาช่องสอง”
“ป้าจ๋า...หม่อนกำลังมีความคิดอะไรดี ๆ น่ะ ช่างเถอะ...ป้าไม่เข้าใจหม่อนเข้าใจของหม่อนคนเดียวละกัน”