ขอพิชิตใจตัวร้าย (เปิดตัว)
1/
ขอพิชิตใจตัวร้าย (เปิดตัว)
ขอพิชิตใจตัวร้าย
(
)
已经是第一章了
ขอพิชิตใจตัวร้าย (เปิดตัว)
“เฮ้ย!” วายุร้องเสียงหลงเมื่อเธอผลักเขาออกห่างจากตัวเองตอนทีเผลอไปอย่างเต็มแรง หลังของชายหนุ่มปะทะกับโซฟาจนเกิดเสียง ก็มันตกใจนิ เขาไม่ยอมผละออกห่างเธอสักที! “ยัยตัวแสบ” ชายหนุ่มคาดโทษขึ้น “ก็รินตกใจ พี่วายุละผิด” อีกคนกำลังจะเถียงกลับหญิงสาวแต่เสียงโทรศัพท์ของเจ้าตัวดังขึ้นมาเสียก่อน เขาหยิบมันมาดูสายที่โทรเข้าสายตาของเธอเลือบไปเห็นชื่อที่ปรากฎอยู่ ลานิล... “ครับนิล”วายุเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวานทำเอาไพรินที่ได้ยินแล้วก็อยากมองบนใส่แต่เก็บอาการเอาไว้ได้ซะก่อน “เดี่ยวพี่ไปครับ” “ริน” เธอหันหน้าไปมองเขาตามเสียงเรียก ชายหนุ่มมองเธอด้วยสีหน้าที่ดูจะจริงจัง “พี่ยอมให้เราไปฝึกงานกับมัน” เขาจะพูดทำไมต่อให้ไม่ยอมเธอก็ไม่ฟังเขาอยู่ดี “แต่ถ้ามันทำอะไรเราพี่ไม่ยอมแน่” แววตาจริงจังถูกส่งมาพร้อมคำพูดหนักแน่น หญิงสาวยิ้มบางๆรับความห่วงใยนั้นก่อนที่ชายหนุ่มจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “พี่ต้องไปแล้ว” ไปเถอะ เธอก็ไม่อยากจะเห็นหน้าเขานานๆนักหรอก ถึงในใจจะคิดอย่างงั้นแต่ใบหน้าของเธอก็เผยส่งยิ้มหวานลาเขาแทน เมื่อวายุออกไปได้ไม่นานหญิงสาวขึ้นห้องไปเปลี่ยนชุดใหม่พร้อมกับการแต่งหน้าที่เพิ่มสีสนช่วงตาขึ้นมาผมยาวตรงของเธอปลายผมถูกม้วนให้ไปลอนก่อนที่มือเรียวจะยื่นไปหยิบกล่องสีชมพูขนาดพอดีมือมามองแล้วยิ้ม ตอนทำเสร็จใหม่ๆเธอแบ่งเอาไว้สามส่วนส่วนแรกเก็บไว้ให้คุณพ่อส่วนที่สองก็ที่ปลาเอาไปให้พี่วายุชิมและส่วนสุดท้ายเธอจัดเรียงวางมันอย่างพิถีพิถันใส่กล่องคิดจะเอาไปให้... เพลิงกัลป์ เขาเคยบอกว่าขนมเธอมันไม่ได้เรื่อง อยากรู้นักว่าถ้าได้ชิมอันนี้เขายังจะว่าเธออยู่อีกรึเปล่า? เธอตั้งใจจะไปหาเขาที่บริษัท “ได้นัดท่านไว้รึเปล่าคะ”ไพรินแปลกใจอยู่เล็กน้อยเธอขึ้นมาหาเขาที่ห้องทำงานตอนแรกนึกว่าจะเจอกับเลขาหน้าสวยอกสะบึ้มสะอีกแต่กลับเป็นหญิงสาววัยกลางคนที่ดูท่าทางใจดีแทน “ไม่ว่างหรอคะ” เธอเอ่ยถามพลางชะโงกหน้ามองประตูบานใหญ่ที่ปิดไว้สนิท “ไม่ใช่ไม่ว่างหรอกค่ะ”แล้วมันหมายความว่าไงกัน เหมือนคนตรงหน้าจะรู้ว่าเธอไม่เข้าใจที่บอกจึงเอ่ยขยายความขึ้นบอกเธอใหม่อีกครั้ง “คือว่าตอนนี้ท่านไม่อยู่น่ะค่ะ” ไม่อยู่หรอกเหรอ “แล้วเขาไปไหนพอทราบไหมคะ” “ดิฉันก็ไม่ทราบ แต่ตอนออกไปเห็นท่านถือกล่องของขวัญเล็กๆติดมือไปด้วย” พอได้ฟังที่คนตรงหน้าพูดจบใบหน้าดีใจของเธอก็ค่อยๆเจื่อนลงไปก่อนจะรู้สึกถึงความหดหู่ขึ้นมาแทน กล่องของขวัญเหรอ นั้นสินะวันนี้มันวันเกิดของคนที่เขาแอบรัก... ใบหน้าสวยเศร้าหมองอารมณ์ตื่นเต้นดีใจก็อันตรธานหายไปจากเธอจนหมด มือเรียวยื่นถุงที่ใส่กล่องขนมไปให้กับคนตรงหน้า “อะไรคะ?” “ถ้าเกิดเขากลับมาฝากให้เขาทีค่ะ” เสียงหวานเอ่ยเหมือนจะไม่มีแรงพาลให้คนได้ฟังพลอยรู้สึกฉงนขึ้นมาในใจ “ได้สิค่ะว่าแต่คุณชื่ออะไรดิฉันจะได้เรียนท่านถูก” “ไพรินค่ะ” เธอเอ่ยเสียงแผ่วเบาอย่างไม่มีอารมณ์และเดินกลับออกไปเมื่อพูดจบ ร่างบางเดินออกมาจากตึกสูงใหญ่ของบริษัทชายหนุ่มด้วยร่างกายที่ดูจะไม่มีเรี่ยวแรงเอาจริงๆเธอรู้สึกโคตรเสียใจมากๆเมื่อรู้ว่าอีกคนไปหาใครหัวใจมันเจ็บขึ้นมาทันที ขนาดเขาก็รู้ว่ายังไงลานิลก็ไม่ชอบตัวเองแต่ก็ยังจะไปหาหญิงสาวเขาคงจะรักเธอมากเลยสินะ น่าอิจฉาจัง... เจ็บปวดใจชะมัดเลยเรา มันทำให้เธอจะเข้าใจถึงความรู้สึกของไพรินในนิยายเวลาที่ให้เห็นคนที่เรารักไปรักไปสนใจอีกคนมันรู้สึกเป็นยังไงมันเจ็บที่ใจขนาดไหน เธอคงรู้สึกแบบนี้อยู่ทุกครั้งสินะ... “ไปไหนมานะลูก” เสียงทักถามเอ่ยมาทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้านใบหน้าที่ดูติดจะเศร้างหมองพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ไม่เอาน่าเรื่องแค่นี้เองแกจะเศร้าไปถึงไหนกัน เรื่องแค่นี้เองท่องเอาไว้ๆใช่ว่าจะทำให้เขาหันมาชอบเธอไม่ได้สักหน่อย “รินไปขับรถเล่นมาน่ะค่ะ” คุณพ่อมองหน้าเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนมือหยาบกร้านตามอายุจะลูบที่หัวลูกสาว “เป็นอะไรไหมลูก หืม” เธอเก็บสีหน้าไม่อยู่จนมองออกง่ายเลยรึไงกันนะ “รินคงขับไปไกลเกินก็เลยเหมือนจะหมดแรงรู้สึกไม่มีชีวิตซีวา” โกหกเนียนไหมก็ชั่งมันไปก่อนตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์คิดหาข้ออ้างอะไรทั้งนั้น “งั้นก็ไปพักผ่อนเถอะ” “ค่ะ” . . . “เอกสารที่ให้เซ็นต์มีแค่นี้ใช่ไหม” เพลิงกัลป์ถามเลขาของตัวเอง เขาเข้าบริษัทอีกครั้งเพื่อมาเคลียร์งานส่วนที่ยังเหลือค้างอยู่ “ค่ะท่าน” “งั้นคุณก็กลับเถอะ” ชายหนุ่มบอกอีกคนที่อยู่ช่วยงานเขามาจนเลยเวลาเลิกงานมานานพอสมควร เพลิงกัลป์เอนหลังไปที่เก้าอี้ทำงานดวงตาสีนิลหลับลงเพื่อไล่ความเมื่อยล้าและให้รู้สึกผ่อนคลาย “เอ่อท่านคะมีคนฝากของให้ท่าน” ก่อนจะกลับเลขาเอ่ยสิ่งที่ตั้งใจว่าจะบอกชายหนุ่มไปตั้งนานแล้วแต่เพราะเจ้านายของเธอยังยุ่งๆอยู่เลยไม่อยากจะไปขัดไปรบกวน เพลิงกัลป์ลืมตาขึ้นมามองหน้าเลขา เขามองที่มือของเธอดูถุงใบหนึ่งที่ยื่นมาวางตรงโต๊ะทำงาน “ของใคร” นำ้เสียงดูจะเฉยชาเอ่ยถามไม่ได้คิดจะสนใจหยิบสิ่งที่อยู่ในถุงขึ้นมาดู “รู้สึกว่าจะชื่อไพรินนะคะ” เพลิงกัลป์สะดุดกับชื่อที่เลขาเอ่ย ใบหน้าของร่างบางลอยเข้ามาในหัวของชายหนุ่มทันที เขายกยิ้มขึ้นเมื่อนึกถึงใบหน้าหญิงสาว... เลขาคนสนิทลอบมองหน้าของผู้เป็นเจ้านายด้วยสีหน้าเก็บอาการสงสัย ไม่บ่อยนักที่เธอจะเห็นใบหน้าหล่อนั้นแสดงความรู้สึกอะไรนอกจากเรียบเฉย โดยเฉพาะยิ้มออกมาเนี่ยยิ่งหาได้ยาก... “งั้นดิฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” “ครับ” เมื่ออยู่คนเดียวชายหนุ่มยื่นมือไปหยิบสิ่งที่อยู่ในถุงเขาเห็นกล่องสีชมพูพอลองเปิดออกดู ทำให้เขานึกแวบเข้ามาในหัวถึงสีหน้าของหญิงสาวตอนที่ได้ยินเขาพูดว่าขนมของเธอไม่ได้เรื่อง แล้วมาวันนี้กลับเอามาให้เขาชิมมันอีก ไม่รู้ว่าแค้นที่เขาพูดไปตอนนั้นรึไงกัน เพลิงกัลป์หยิบบราวน์นี่ของหญิงสาวเข้าปาก ทั้งหน้าตาและรสชาติมันเปลี่ยนไปจากเดิมแตกต่างกันอยู่มาก . . . “รักมากเลยรึไงอีตาบ้าเอ้ย!” เมื่อกี้เธออาจจะอารมณ์เศร้าแต่ตอนนี้กลับรู้สึกโกรธปนน้อยใจอีกคนแทน หมอนข้างคือสิ่งที่หญิงสาวใช้เป็นตัวแทนของร่างสูงมือเรียวตีไปที่มันอย่างไม่ยั้งแรงไว้เธอระบายความรู้สึกทั้งหมดไปที่หมอนข้าง “ทั้งบ้าทั้งน่าโมโหที่สุดเลย!” หญิงสาวตีเข้าที่หมอนข้างทีเดียวอย่างสุดแรงพอนึกถึงขนมที่เธอได้ฝากไว้กับเลขาของเขาไม่รู้ว่าตอนนี้อีกคนได้กินมันไปรึยัง “กินให้ติดคอไปเลย!” ฮึ่ย! หงุดหงิดจริงๆเลย...!! “แค่ก” เหมือนคำแช่งของหญิงสาวจะได้ผลจริงๆ เพลิงกัลป์กินไปได้ไม่นานก็สำลักขึ้นมาทันที ไม่ใช่ว่าเธอกำลังแช่งเขาผ่านทางขนมมารึไงกัน...? ....... “ตอนนี้คู่แข็งของเราก็เพิ่มขึ้นมากจริงๆ” ชายคนหนึ่งเปิดประเด็นเอ่ยพูดขึ้นมาก่อนอีกสองคนที่เหลือพวกเขาทั้งสามมานั่งคุยกันแทบจะนับรอบได้ซึ่งการเจอกันโดยที่รู้ว่าเสี่ยงแบบนี้หมายถึงธุรกิจที่ทำอยู่กำลังอยู่ในช่วงน่าห่วง หรือถ้าไม่ใช่คุยเรื่องธุรกิจก็เป็นเรื่องการกำจัดคนที่กระดูกใหญ่แทน ข้างหลังของเขาทั้งสามมีบอดี้การ์ดยืนเตรียมตัวตลอดเวลาเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาอย่างไม่คาดฝัน “ค่าเปอร์เซ็นต์ที่ได้รับเมื่อเดือนที่แล้วก็ลดลงไปอยู่มากโข” ชายคนหนึ่งพูดเสริม “ดูเหมือนว่าถ้าไม่รีบทำอะไรสักอย่างเราคงโดนแย่งส่วนแบ่งไปแน่” คำพูดของคนที่พี่งจะเอ่ยทำให้บรรยากาศตอนแรกที่อึดอัดมากอยู่แล้วยิ่งทวีเพิ่มขึ้นอีก มันไม่ใช่แค่เรื่องส่วนแบ่งเท่านั้นแต่ถ้ายังปล่อยไว้อำนาจที่มีอยู่ในมือก็จะลดลงตามไปด้วย ทั้งสามเงียบเข้าสู้สภาวะกดดันและตึงเครียดอย่างเต็มรูปแบบก่อนที่คนเอ่ยพูดเปิดประเด็นจะโยนรูปใบหนึ่งไปที่กลางโต๊ะ “หมายความว่ายังไง” เขาทั้งสองมองรูปแล้วก็ยังไม่เข้าใจว่าอยากจะสื่ออะไร “นี้แหละทางออก” พวกเขามองที่รูปอีกครั้ง “เพลิงกัลป์ceo คนปัจจุบันของบริษัทข่นส่งรายใหญ่เกี่ยวยังไงกับเรา” คนที่ยื่นรูปให้ดูสูดควันบุหรี่เข้าเต็มปอดก่อนจะพ่นมันออกมาด้วยท่าทางสบายอารมณ์“ฉันจะใช้มันเป็นเครื่องมือ” “เครื่องมืองั้นเหรอ” เขาเอ่ยกลับนำ้เสียงฟังดูไม่เชื่ออีกคน “จริงอยู่ว่าถ้าเราได้บริษัทข่นส่งรายใหญ่มาร่วมอีกแรงการกระจ่ายสินค้าของเราก็จะยิ่งสะดวกแต่ฉันไม่คิดว่าหมอนี้จะยอมร่วมกับเราง่ายๆ” “นั้นสิเพลิงกัลป์ดูไม่ใช่คนที่เราจะจูงจมูกแล้วเขาจะไม่พยศ”ทั้งสองพอจะรู้ว่าคนที่กำลังพูดถึงกันอยู่เป็นยังไง มันไม่ใช่เรื่องที่ดูง่ายเพลิงกัลป์เปรียบเหมือนเสือตัวใหญ่ที่ไม่น่าจะฝึกให้เชื่องมีแต่ต้องคอยระวังมองรอบตัวให้ดีเพราะไม่รู้ว่าจะโดนเขี้ยวคมนั้นกัดเข้าวันไหน “ฉันมีวิธี” ชายหนุ่มเอ่ยตอบอีกสองคนที่ดูกังวลก่อนจะพูดขึ้นต่อ “ต่อให้แข็งแกร่งขนาดไหนก็มีจุดอ่อน” “จุดอ่อนงั้นเหรอ?” “คอยดูแล้วกัน” ก้นบุหรี่ถูกขยี้ลงที่ทิ้งบุหรี่จนมันดับสนิท สายตาของเขาฉายแววสิ่งที่ตัวเองคิดไว้ด้วยความมั่นใจเต็มร้อย “ถ้าจะใช้เพลิงกัลป์เป็นเครื่องมือทำไมไม่ลองใช้วายุแทนรายนั้นน่าจะง่ายกว่า” เหมือนคำบอกกล่าวของเขาดูจะไม่ได้มีนำ้หนักให้เชื่อใจเท่าไหร่ แววตาดูลึกลับมีแสบหนึ่งที่ประกายวามหงุดหงิดออกมาก่อนจะเปลี่ยนเป็นว่างเปล่าเหมือนเดิมที่เคยเป็น “วายุรู้จักกับพวกตำรวจระดับเอสถึงมันจะดูจูงง่ายกว่าแต่มีความเสี่ยงที่เราจะโดนเล่นงานกลับสูงมากเช่นกัน” นั้นมันก็จริง... “แต่วายุกับเพลิงกัลป์ก็รู้จักกันนิ” “มันเป็นอดีตไปแล้ว” ตลอดเวลาที่เขาให้สายจับตาดูความสัมพันธ์ของทั้งสองดูเหมือนจะเป็นแก้วที่แตกละเอียดยากที่จะประกอบขึ้นมาให้เหมือนเก่า “เอาเป็นว่ารอดูก็แล้วกัน” เขาพูดทิ้งท้ายก่อนจะลุกไปโดยไม่ได้รำ่ลาอะไร “นายครับพวกมันดูเหมือนจะยังไม่เชื่อ” มือขวาคนสนิทเอ่ยขึ้นเมื่อเจ้านายเข้ามาในรถกันกระสุนที่กำลังเคลื่อนตัวออกไป “ฉันก็คิดไว้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนี้” เขาตอบโดยยังไม่ลืมตาที่หลับตอนตื่นว่าดูน่าเกรงขามแล้วสำหรับผู้พบเห็นตอนนอนที่น่าจะไม่เห็นกลับไม่ต่างไปเลยสักนิด “ทำตามแผนต่อไป” “ครับนาย” ชายหนุ่มฟังเสียงรับคำสั่งของมือขวาคนสนิทที่กำลังขับรถอยู่ดวงตาดูเลือดเย็นลืมตาขึ้นมามองดูทิวทัศน์ของประเทศไทยที่ตนเองไม่ได้เหยียบมานาน เป็นบ้านเกิดที่ไม่ได้รู้สึกคิดถึงมัน... ความคิดนั้นแล่นเข้ามาในใจก่อนที่เปลือกตาจะปิดลงเช่นเดิมเหมือนกำลังหลับแต่จริงๆแล้วถ้ามีอะไรเข้าไปสะกิดเพียงนิดเดียวปืนที่ถูกซ้อนไว้อยู่ใต้เสื้อผ้าราคาแพงก็พร้อมจะยกมือปลิดชีพคนๆได้ทุกเมื่อ “ดูเหมือนว่าสายเราจะมีข้อมูลใหม่มานะครับ” พอถึงที่พักเรื่องที่เพิ่งจะถูกรายงานมาก็ถูกส่งทอดบอกเจ้านายอย่างรวดเร็วพร้อมกับซองสีนำ้ตาลที่ถูกยื่นมันไปตรงหน้า มือหนาหยิบรูปในซองสีนำ้ตาลขึ้นมาดูดวงตามืดดำมองรูปของหญิงสาวคนหนึ่ง “ใคร” “เหมือนจะเป็นลูกสาวของคนที่เพลิงกัลป์ร่วมธุรกิจอยู่ด้วย” ต่อให้จะเป็นข้อมูลที่เล็กน้อยแค่ไหนแต่มันก็ไม่ควรจะมองข้ามไปยังไงก็ต้องมารายงาน เพราะบางอย่างที่ดูจะเล็กน้อยมันอาจจะเป็นเชื้อเพลิงจุดประกายไฟให้ลุกโชนขึ้นมาได้เหมือนกัน “ไปพักเถอะ” “ครับนาย” ลูกน้องคนสนิทก้มหัวรับคำพูดของอีกคนจนตอนนี้ภายในบริเวณนี้เหลือเพียงชายหนุ่มผู้เป็นใหญ่ในที่นี้คนเดียว เขาจ้องมองดูหญิงสาวในรูปทุกอริยบทที่ถูกถ่ายส่งมาให้ด้วยแววตายังคงดูไร้อารมณ์แต่ถ้าจ้องลึกสังเกตดีๆจะเห็นว่ามีประกายบางอย่างฉายชัดขึ้นให้ได้เห็น
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ขอพิชิตใจตัวร้าย (เปิดตัว)
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A