ขอพิชิตใจตัวร้าย (ช่วยเหลือ)   1/    
已经是第一章了
ขอพิชิตใจตัวร้าย (ช่วยเหลือ)
เช้าวันนี้หญิงสาวอุตส่าห์ตื่นมาแต่งตัวสวยเป็นพิเศษใบหน้าสวยหวานยิ้มตั้งแต่ตื่นนอนเห็นจะได้เพราะวันนี้คือวันที่เพลิงกัลป์จะมาหาคุณพ่อเธอที่บ้านส่วนเรื่องเมื่อวานที่เธอเสียใจเพราะเขาหญิงสาวก็ให้มันจมลงไปในส่วนลึกของสมองแทน ใจเธอเต้นตึกตักรู้สึกเหมือนตัวเองประหม่าเธอกังวลอยู่ไม่น้อยว่าเรื่องที่เธออยากไปฝึกงานกับเขาไม่รู้ว่าจะยอมให้ไหม ในหัวคิดขึ้นมาไปร้อยแปดเหตุการณ์แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือเธอไม่ได้อยู่บ้านรอต้อนรับเขา! ยังไม่ทันก้าวขาออกจากห้องคุณพ่อก็เปิดประตูเดินหน้าตั้งเข้ามาเรียกเธอด้วยนำ้เสียงร้อนรนบอกกับเธอว่าพึ่งได้รับโทรศัพท์กับแม่บ้านคนสนิทของคุณย่าว่าท่านป่วยหนัก เธอก็ตกใจแต่อย่างแรกที่ตกใจมากสุดคือหญิงสาวพึ่งจะรู้ว่านอกจากคุณพ่อแล้วไพรินยังมีคุณย่าด้วยคิดมาตลอดว่าคนในครอบครัวที่เหลืออยู่ของหญิงสาวมีเพียงคนเดียวคือคุณพ่อของเจ้าตัว นึกเสียดายที่ไม่ได้อยู่รออีกคนมาแต่เรื่องนี้เธอก็ปล่อยไปไม่ได้เหมือนกัน “เดี่ยวพ่อจะรีบตามไปส่วนเรื่องของเราก็ไม่ต้องห่วงลูกรีบไปหาคุณย่าเถอะ” เธอพยักหน้าว่าเข้าใจก่อนยกมือลาขึ้นไปนั่งบนรถ หญิงสาวนั่งรถมาเกือบจะชั่วโมงกว่าเรียกได้ว่าเหนื่อยตั้งแต่ยังไม่ได้ทำอะไรข้าวเช้าก็ยังไม่ตกถึงท้องเธอสักคำ “คุณหนู ทานแซนด์วิชลองท้องก่อนนะคะ” ปลาเอ่ยพร้อมยื่นกล่องใส่แซนด์วิชมาตรงหน้าของเธอเมื่อเราถึงที่หมาย “ขอบใจจ๊ะ” มือเรียวหยิบแซนด์วิชขึ้นมากินเข้าไปภายในคำเดียวอย่างไม่อยากจะมาเสียเวลา สายตาพลางมองสำรวจมองไปรอบๆบ้านที่ดูแปลกตาบ้านหลังไม่ได้ใหญ่โตเท่าบ้านที่เธออาศัยอยู่มาตลอดแต่ความหรูหรานี้ไม่ต้องพูดถึงกินกันไม่ลง “โห บ้านหลังนั้นทำไมดูหรูมากจัง” เธอเอ่ยขึ้นเมื่อสายตาไปสะดุดกับบ้านที่อยู่ข้างๆบ้านย่าของไพริน ใหญ่โตมโหฬารมากจริงๆ “คุณหนูจำไม่ได้เหรอคะ เมื่อปีที่แล้วก็พึ่งมา” จะจำได้ยังไงกันเธอเคยมาซะที่ไหน “ลืมไปหมดแล้วละแต่ใหญ่โตมากจริงๆว่าแต่คนบ้านนั้นปลาเคยเห็นบ้างไหม” “ไม่เลยค่ะปลามาทีไรบ้านนั้นถูกปิดไว้ตลอดปลาก็พึ่งจะเห็นเปิดก็วันนี้ละค่ะ” “ปกติไม่มีคนอยู่เหรอ?” “ปลาไม่เห็นคนเดินเข้าเดินออกเลยนะคะ” น่าแปลกแล้วจะสร้างขึ้นมาทำไมซะใหญ่โต เธอพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านคุณย่าพึ่งจะคิดได้ว่าเธอมาที่นี้ด้วยเรื่องอะไร หญิงสาวก้มหัวรับไหว้คนใช้ภายในบ้านก่อนจะเดินตามปลาเข้าไปในห้องนอน “ยัยรินมางั้นเหรอ” หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้นั่งลงข้างเตียงนอนยื่นมือไปจับมือเหี่ยวย่นตามวัยของคุณย่าขึ้นมาจับเอาไว้ “รินเองค่ะคุณย่า” เธอเอ่ยเสียงอ่อนหวานเผยรอยยิ้มกว้าง “ฉันน่าจะป่วยมากจริงๆถึงเห็นหลานตัวเองเปลี่ยนไปแบบนี้” คำพูดของคุณย่าทำเอาหน้าเธอกระตุก ปกติไพรินในนิยายทำนิสัยยังไงที่อยู่ต่อหน้าอีกคนกัน... “สวนหลังบ้านอากาศดีมากเลย” หลังจากอยู่ดูแลจนคุณย่าหลับไปแล้วเธอจึงถือโอกาสมาเดินดูรอบๆบ้านด้วยความตื่นตาส่วนปลาไปช่วยงานสาวใช้คนอื่นๆอยู่ สวนหลังบ้านกว้างและทอดยาวหญิงสาวเดินไปเรื่อยๆมองดูต้นไม้ธรรมชาติแบบนี้ไม่ค่อยจะได้เห็นบ่อยนักคุณย่าแกคงชอบชมธรรมาชาติมากจริงๆถึงได้ออกแบบมาอย่างดีขนาดนี้ “มีประตูหลังกำแพงบ้านอยู่ด้วยเหรอเนี่ย” สายตาเหลือบไปเห็นหญิงสาวมองดูประตูไม้ดูน่าจะเก่ามานานด้วยความสนใจ ก่อนจะยื่นมือไปลองเปิดมัน “เปิดได้ด้วย” เธอเปิดมันออกกว้างก่อนจะรู้ว่าตรงหน้าเธอคือถนนที่ข้ามไปจะเป็นสวนสาธารณะเล็กๆน่าจะเป็นสวนสาธารณะของหมู่บ้าน มีแบบนี้อยู่ด้วยเหรอเนี้ย...? คุณย่าสร้างประตูไว้เป็นทางลัดมาสวนสาธารณะแน่ๆ ขาเรียวเดินเข้าไปที่นั้นโดยข้ามถนนเล็กๆที่มากั้นไว้“มีบ้านอยู่แถวนี้ก็ดีอยากจะมาเดินออกกำลังกายก็ทำได้ง่ายๆ” เป็นบ้านปลายซีวิตที่ดูเข้าท่าและน่าจะมีความสุข ไม่แปลกที่คุณย่าอยู่ที่นี้แทนทีจะไปอยู่กับคุณพ่อและไพริน ดูเหมือนตรงนี้น่าจะเป็นพื้นที่หลังสุดของสวนสาธารณะละมั่งเธอไม่เห็นมีผู้คน หญิงสาวเดินดูรอบๆจนทั่วก่อนที่จะรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างเข้า... หญิงสาวหยุดกึกนิ่งไปทันทีเมื่อได้ยินเสียงอะไรสักอย่างดังมาจากฝั่งซ้ายมือดวงตาของเธอวูบไหว เธอได้ยินเสียงเหมือนงูกำลังขู่! ใบหน้าหวานทำใจอยู่อึดใจเดียวหันไปมองทางที่มาของเสียงแทบจะช็อคลืมหายใจหน้าของเธอซีดลงไปถนัดตา งูเห่ากำลังแผ่แม่เบี้ยใส่เธอ คุณพระคุณเจ้า! ลูกไม่อยากมาตายซำ้สองหรอกนะเจ้าค่ะ!! “กรี้ด” เธอกรี้ดขึ้นสุดเสียงมันกำลังจะชูคอหมายจะฉกเธอแน่ๆอยากจะขยับแต่ตอนนี้แรงมันหายไปซะหมด ฉึก! ไพรินหัวใจแทบจะหลุดออกจากร่างก่อนที่หญิงสาวจะตกใจขึ้นมาอีกระลอกและเบิดตากว้างเท่าไข่ห่านเมื่อมืดสั้นที่น่าจะคมไม่น้อยถูกปาใส่หัวเจ้างูนั้นอย่างแม่นยำมันล้มลงไปก่อนที่จะได้มากัดเธอ เธอก้าวขาถอยหลังหนีออกห่างงูตัวนั้นอย่างหวาดกลัวก่อนจะหันไปมองทางที่มีดถูกปามาหญิงสาวเห็นร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ใบหน้าหล่อของเจ้าตัวไม่แสดงอารมณ์ใดๆแววตาดูเลือดเย็นมองที่งูนั้นแล้วหันมามองเธอ เขาเป็นคนช่วยเธอเอาไว้... “ขอบคุณมากนะคะ” เธอยกมือไหว้อย่างซาบซึ้งใจแต่ความกลัวและระแวงอีกคนก็มีอยู่ไม่น้อยชายหนุ่มมีกลิ่นไออันตรายแผ่ออกมารอบตัววิธีการช่วยเธอของเขาก็ทำให้น่าหวั่นใจมากเหมือนกัน เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับแต่ขายาวนั้นกำลังก้าวเข้ามาใกล้เธออยากจะเดินถอยหลบแต่ทางนั้นเธอก็พึ่งถอยหนีงูมาจึงทำได้แค่ยืนตัวเกร็งนิ่งๆ เธออดที่จะลอบมองอีกคนที่มาใกล้เรื่อยๆนั้นไม่ได้เขาดูหล่อมากจริงๆแบบถ้าเป็นคนสมัยก่อนคงจะว่ารูปงามปานปั้นไว้เธอมองดวงตามืดสนิทของเขาดูแล้วความไม่น่าไว้ใจมากที่สุด เธอคงไม่ได้หนีงูปะเสือหรอกใช่ไหม!? อีกคนมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอแต่ไม่เอ่ยพูดอะไรออกมาพาลรู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศที่กำลังเจอ เขาใบ้กินรึไงกัน!? พูดอะไรออกมาสักคำเถอะ เธอเกร็งไปหมดแล้ว! “เดินไม่ดูอะไรเลยรึไง” อ้าว นึกว่าพูดไม่ได้เห็นเงียบเล่นเกมส์จ้องตากับเธออยู่ตั้งนาน “ค่ะไม่ได้ดู” ไพรินยอมรับสิ่งที่เขาพูดเพราะเธอไม่ได้ดูหรือระมัดระวังอะไรจริงๆ สายตายังคงมองอีกคนในความรู้สึกลึกๆที่ไม่ไว้ใจ “ตอบกวน” เขาเหมือนจะตำหนิแต่เธอไม่ได้คิดจะสน เธอออกมานานแล้วอีกอย่างอยู่กับเขานานๆก็คงไม่ดีเหมือนกัน “ขอตัวก่อนนะคะ” เสียงหวานเอ่ยแบบรวบรัดไม่รอฟังคำอนุญาตขาเรียวหันตัวกลับไปทางที่ตัวเองพึ่งจะมาแล้วออกตัววิ่งหมายจะวิ่งหนีอีกคน “เหวอ!” แขนเรียวของหญิงสาวถูกฉุดรั้งเอาไว้ก่อนตกใจอยู่ไม่น้อยไม่คิดว่าเขาจะจับตัวเธอเอาไว้ทันใบหน้าสวยดูตื่นตระหนกเงยหน้ามองร่างสูง สีหน้าเหมือนจะหงุดหงุดเธอแสดงบอกบนใบหน้าหล่อของชายหนุ่มไพรินไม่เข้าใจนักว่าเรื่องน่าปวดหัวทำไมถึงได้มาเกิดขึ้นกับตัวเธออยู่บ่อยครั้ง “คุณจับฉันไว้ทำไม” เธอเอ่ยเสียงดื้อรั้นหันตัวกลับมามองหน้าอีกคน “จะวิ่งหนีไปเลยรึไง” ก็ใช่นะสิ! จะให้เธอยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ทำไมกันเล่า! “ฉันรีบ” เธอเอ่ยตอบเสียงติดจะห้วน “คนที่รีบเขาไม่มาชมนกชมไม้จนเกือบโดนงูกัดเข้าหรอก”คำพูดตอกกลับแทงเข้าไปในใจหญิงสาวจึกใหญ่! “เมื่อกี้ไม่รีบแต่ตอนนี้รีบแล้วไงค่ะ” เธอเอ่ยเสียงแบบกัดฟันพูดดวงตาฉายแววแข็งกร้าวต่อคนตรงหน้าลืมไปสิ้นถึงความรู้สึกระแวงกลัวก่อนหน้านี้ เราสองคนจ้องตากันไปมาไม่มีใครยอมหลบ... ชายหนุ่มพิจารณาหญิงสาวอยู่ครู่หนึ่งก่อนมือหนาจะปล่อยให้แขนเรียวบางให้เป็นอิสระเท่านั้นแหละหญิงสาวก็สับขาวิ่งหน้าตั้งหนีเขาไปอย่างรวดเร็ว มองดูแล้วก็น่าหัวเราะไม่น้อย เขามองแผ่นหลังบางที่วิ่งหนีหายไปคิดบางอย่างอยู่คนเดียวสักพักก่อนจะเบนสายตาไปมองงูเห่าที่ตัวเองพึ่งจะจัดการตัวของมันซีดตายไปในสภาพที่ยังลืมตาเลือดสีแดงเข้มไหลลงพื้นหญ้าเป็นวงเขาดึงมีดของตัวเองกลับมอง ดูเลือดและพิษบางส่วนที่ติดคมมีดมาก่อนจะโยนลงสระบัวที่อยู่ใกล้ๆอย่างไม่ใส่ใจ “แค่ก!” เธอหยุดวิ่งเมื่อเข้ามาในตัวบ้านของคุณย่าหญิงสาวยืนกอบโกยอากาศเข้าสู่ปอดเหงื่อไหลลงอาบแก้มที่เริ่มแดงของเธอ เล่นวิ่งแบบไม่คิดชีวิตทำเอาหอบแทบจับ... “คุณหนูไปไหนมาคะ” ปลาวิ่งเข้ามาหามองดูใบหน้าสวยที่มีเหงื่อผุดขึ้นมาอยู่ไม่น้อย “ก็อยู่แถวนี้แหละมีอะไรรึเปล่า” ทั้งพูดทั้งหอบดูเหมือนไพรินจะไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเท่าไหร่วิ่งแค่ระยะทางเท่านี้ก็หอบจับเข้าให้แล้ว “คุณท่านมาแล้วค่ะ” “แล้วตอนนี้คุณพ่ออยู่ไหน” เธอลืมอาการเหนื่อยของตัวเองไปสนิทสมองของเธอกลับมาคิดถึงเรื่องที่คุณพ่อได้รับปากตกลงกันไว้ “อยู่กับคุณหญิงในห้องค่ะ” พอฟังจบขาเรียวก็รีบเดินเร็วเข้าไปในตัวบ้านทันทีเป็นจังหวะมั่งตรงไปที่ห้องนอนคุณย่าขณะเดียวกันที่คุณพ่อเดินออกมาจากห้องพอดี “คุณย่าเอ่ยชมว่าเราเป็นเด็กดีขึ้นเยอะ ดีแล้วนะลูก” ยังไม่ทันได้เอ่ยทักอะไรเธอก็ได้รับคำชมมาก่อนหญิงสาวยิ้มรับมันไว้ก่อนจะรีบถามสิ่งที่อยากรู้ออกไป “คุณพ่อคะเรื่องฝึกงานของรินพี่เพลิงว่าไงบ้างค่ะ” ร่างบางมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกลุ้นคำตอบที่จะเอ่ยมาในใจ “พ่อคุยแล้วเพลิงกัลป์ว่าเขาให้ลูกมาฝึกด้วยไม่ได้” สีหน้าผิดหวังของหญิงสาวฉายชัดขึ้นทันทีใจจากที่พองโตเริ่มจะเฟบลงเหมือนลูกโป่งที่ถูกจิ้มจนอากาศออกไปหมด “ทำไมคะ” “รายละเอียดพ่อก็ไม่เข้าใจนัก” คำตอบที่ไม่ชัดเจนถูกส่งมาให้เธอ “งั้นรินจะไปถามเองค่ะ” ร่างของเธอหันหลังกลับเตรียมตัวจะออกเดินไปอย่างที่พูด เธอนึกว่าความสัมพันธ์ของเราพัฒนาจนเธอได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขาแล้วเชียวแล้วนี้อะไรกันทำไมแค่เธอจะไปฝึกงานด้วยเขาถึงไม่ยอม เริ่มจะท้อใจแล้วนะใช่ว่าเธอจะต้องมาเสียใจซำ้แล้วซำ้แล้วกับอีกคนแล้วจะชินชาไม่รู้สึกอะไรซะที่ไหน “ริน” มือของคุณพ่อจับที่ไหล่บางรั้งเธอที่อารมณ์หุนหันพลันแล่นเอาไว้ “เพลิงกัลป์ทำแบบนี้อาจจะมีเหตุ” คุณพ่อพูดอย่างแฝงความหมายผ่านสีหน้ามาแต่หญิงสาวไม่คิดจะสนใจสังเกตมัน ความไม่เข้าใจกำลังผุดขึ้นเต็มหัวของเธอ เหตุผลงั้นเหรอ? แล้วมันเหตุผลบ้าอะไรกันหละ...! “ขอโทษด้วยครับคุณเพลิงเพราะผมประมาทเกินไป” เพลิงกัลป์มองลูกน้องที่คุกเข่าเอ่ยสำนึกผิดกับตน เขาเลือกที่จะไม่เอาความเพราะเข้าใจเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร “คราวหลังอย่าให้มีอีก” “ครับ” “มันยอมเปิดปากรึยัง” “ยังครับ” ถึงเพลิงกัลป์จะรู้ว่าเป็นฝีมือของใครแต่เขายังต้องการข้อมูลบางส่วนจากปากของมันแต่ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องง่ายดูท่าว่าจะถูกฝึกมาก่อนแล้ว เขารู้ตัวช้ามากไปแต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจที่อีกฝ่ายส่งคนมาสะกดรอยเขา ไม่รู้ว่ามันต้องการอะไร หรือจะเป็นการใช้ผลประโยชน์จากบริษัทขนส่งอันนี้ก็ตัดออกไปไม่ได้คิ้วถูกชนเข้าหากันร่างสูงตอนนี้เหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่คนที่ดูออกจะรู้อารมณ์ตอนนี้ดีเหมือนคลื่นน้ำที่กำลังสงบแต่จริงๆแล้วอีกไม่นานคลื่นลูกใหญ่กำลังจะมาทำเอาบรรยารอบตัวดูเย็นวาบไปทั่วรอบตัวของพวกเขา เพลิงกัลป์คิดหนักอยู่หลายอย่างไม่ใช่แค่เขาที่ตกเป็นเป้าหมายแต่คนรอบตัวก็เหมือนกันดังนั้นชายหนุ่มจึงหลีกเลี่ยงการอยู่ห่างไม่ทำตัวใกล้ชิดกับใครเพื่อไม่ให้ต้องมาถูกเป็นเป้าหมายแบบชายหนุ่มเพราะไม่รู้จะถูกเล่นงานเข้าเมื่อไหร่ ใบหน้าของไพรินแวบเข้ามาในหัวของเขาให้ร่างสูงคิดไม่ตกไม่รู้ว่าพวกมันจะเล่นงานหญิงสาวรึเปล่า ดังนั้นการอยู่ให้ห่างจากเธอคือสิ่งที่เขาปกป้องอีกคนได้ในตอนนี้ เธอยังอยู่ที่บ้านของคุณย่าตอนนี้เป็นเวลาตอนเย็นหญิงสาวมานั่งลงที่สวนหลังบ้านนั่งอยู่นิ่งๆพาตัวเองตกอยู่ในภวังค์ของความคิด “เราอยู่นี่เอง” ใบหน้าสวยหันไปเมื่อได้ยินเสียงจากด้านหลังเห็นคุณพ่อมายืนอยู่ด้านหลังของเธอ “คุณพ่อมีอะไรคะ” “เพลิงกัลป์ฝากให้เรา” หญิงสาวเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินชื่ออีกคนก่อนจะมองไปที่มือของคุณพ่อท่านยื่นหนังสือนิยายแนวสยองขวัญมาให้ตรงหน้า ดวงตาหวานมองมันนึกถึงครั้งแรกที่ได้เจออีกคนเธอใช้มันเป็นเรื่องยกขึ้นมาเพื่อจะคุยกับเขา มือเรียวยื่นไปรับมา นึกว่าเขาจะลืมซะอีก... คุณพ่อเดินกลับเข้าไปในบ้านแล้วเมื่อหมดธุระกับเธอ ไพรินวางหนังสือเอาไว้ที่โต๊ะใกล้ตัวรู้สึกว่าในหนังสือจะแนบกระดาษเอาไว้ด้วยใบหนึ่งแต่หญิงสาวก็ไม่คิดจะหยิบมาเปิดอ่านเธอวางมันเอาไว้เฉยๆแบบนั้น . . . เช้าอีกวันเริ่มขึ้นหญิงสาวยังก็ยังไม่ได้กลับบ้านแต่คุณพ่อกลับไปก่อนแล้วเพราะหยุดงานที่บริษัทไม่ได้ส่วนเธอต้องอยู่ดูแลคุณย่าให้แน่ใจว่าหายดีแล้วจริงๆถึงจะวางใจกลับได้ ที่นี่ในตอนเช้าอากาศดีเยอะมากจนทำให้สูดเข้าเต็มปอดก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เห็นปลาบอกว่าห่างไปไม่เท่าไหร่มีตลาดตอนเช้าตั้งอยู่พอได้ฟังแล้วเธอก็อยากจะลองไปเดินดู “ตาล ตลาดตอนเช้าต้องเดินไปทางไหนจ๊ะ” ไพรินเดินเข้าไปถามทางจากสาวใช้ที่อายุยังน้อยของคุณย่าเธอกำลังตั้งใจรดน้ำต้นไม้ดอกไม้อยู่หน้าบ้าน “คุณหนูจะไปตลาดเหรอคะ” “ใช่มันไปยากไหม” “ไม่ค่ะคุณหนูแค่เดินออกจากบ้านไปทางขวามือเดินตรงไปเรื่อยๆไม่นานก็เจอ” “ขอบใจนะจ๊ะ”พอรู้เส้นทางแล้วเธอเดินออกไปตามที่อีกคนได้บอกหญิงสาวเดินไปตามทางเรื่อยๆเหมือนใกล้จะถึงแล้วเพราะก็เห็นผู้คนเดินสวนตัวเองไปมาและกลิ่นหอมบางอย่างลอยเข้าจมูกหญิงสาว ใกล้กว่าที่คิดอีกนะเนี่ย... นึกว่าจะเดินจนขาลากนานกว่านี้ซะอีก “ป้าคะ เอาชาเขียวแก้วนึงค่ะ” ตอนเดินมาไม่ได้รู้สึกอะไรแต่พอมาถึงคอเธอดันกระหายน้ำเข้าให้ซะงั้นเธอจึงเลือกแวะซื้อนำ้ร้านใกล้ตัวเป็นอย่างแรก หญิงสาวยื่นมือไปจ่ายเงินและหยิบแก้วนำ้ที่สั่งขึ้นมาดื่ม “เอ๊ะ!” ผู้คนในตลาดเดินกันมากจริงๆเธอก็เดินของเธออยู่ดีๆดันถูกใครบางคนชนเข้าจนร่างเซไปอีกฝั่งอย่างรวดเร็ว ไพรินไม่ค่อยเข้าใจนักว่าตลอดหลายวันมานี้ทำไมถึงได้เจอแต่เรื่องอยู่ตลอดเธอเซไปหาคนที่พึ่งเดินมา มือที่จับแก้วน้ำชนเข้ากับร่างของเขาเต็มๆนำ้ในแก้วกระเด็นออกมาเกือบจะถึงครึ่งร่างบางหันไปมองคนที่ต้องมาซวยเพราะเธอเพื่อจะขอโทษขอโพยแต่พอมองใบหน้าที่ก้มดูเสื้อตัวเองแล้วหญิงสาวก็เก็บคำขอโทษกลับลงไปเหมือนเดิมก่อนขาเธอก้าวคิดเดินหนี คนที่เธอเซไปหานั้นเป็นผู้ชายคนเมื่อวานที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้...! ไพรินไม่ได้อยากจะเจอเขาอีกคิดว่าขอให้การเจอกันครั้งนี้เป็นความบังเอิญครั้งสุดท้ายก็แล้วกัน... หมับ! “!” เขาจับแขนเธอไว้ได้อีกแล้วเมื่อกี้ยังไม่เห็นอีกคนสังเกตตัวเธอเลยด้วยซ้ำ! “คิดจะหนีอีกแล้วรึไง” เธอนิ่งไม่ได้หันกลับไปมองหน้าอีกคนแขนของเธอยังคงถูกจับไว้แน่นไม่ปล่อยให้ได้หนีไปง่ายๆ เลือกยืนนิ่งนึกโทษอะไรไปทั่วตัว ทำไมเธอต้องมาเจอเขาอีกครั้งกัน! แล้วเขายังจะมาจำเธอได้อีกขนาดหันหลังให้แล้ว “อ๊ะ! จะพาฉันไปไหน!” เขาออกแรงฉุดเธอให้เดินตามหญิงสาวจำต้องหันกลับไปหาตามแรงที่ถูกดึง เอ่ยถามร่างสูงแน่นอนความเงียบคือคำตอบที่เธอได้ แววตาของเธอมองแผ่นหลังกว้างนั้นอย่างคิดหาวิธีหนี “ชะ-“ “ทำเสื้อคนอื่นเปื้อนยังคิดจะหนีไปดื้อๆอีก” ไพรินที่ตอนแรกคิดจะเรียกให้คนช่วยแต่เขากลับเอ่ยพูดแทรกเธอขึ้นมาซะก่อนเธอนิ่งฟังคำด่าที่เขาว่าออกมา “ตอนนั้นก็เหมือนกัน”หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไรกลับเพราะหาคำเถียงกลับไปไม่ได้ เป็นอย่างที่เขาพูดมาทั้งสองครั้งเธอทำตัวเสียมารยาทใส่เขาครั้งแรกเขาช่วยเธอไว้ครั้งนี้เธอชนเขาจนเสื้ออีกคนเปื้อนแล้วยังจะคิดหนีอีก “ขอโทษ” เธอเอ่ยบอกอีกคนเสียงแทบจะเบาหวิวเขาพาเธอมาหยุดยืนอยู่ห่างจากตลาดตรงที่ไม่ค่อยมีคนเยอะเหมือนเดิม ใบหน้าสวยหลบสายตาของร่างสูงที่มองมาเธอหันหน้าหนีไปอีกทาง “จะเอายังไง” เขาเอ่ยก่อนจะชี้ไปที่เสื้อของตัวเองที่มันเปื้อนเพราะฝีมือเธอ จะเอายังไงนะเหรอ? แถวนี้มันมีร้านเสื้อผ้าขายซะที่ไหนกันจะเช็ดออกก็คงไม่ทันแล้วเปื้อนซึมเข้าเสื้อเป็นวงกว้างขนาดนั้น หญิงสาวมองดูผลงานที่ไม่ตั้งใจของตัวเองด้วยความรู้สึกอยากไปวัดให้หลวงตารดน้ำมนต์ใส่หัวเธอสักที อะไรจะเจอแต่เรื่องนั้นเรื่องนี้มาแบบไม่หยุดไม่หย่อนแทบจะตลอด...!? “ไม่รู้” เธอตอบอีกคนอย่างจนใจ “พูดง่าย” เขาก็ตอบเธอกลับมาอย่างเจ็บแสบเช่นกัน “ทำคนอื่นเดือดร้อนด้วยแล้วยังไม่รับผิดชอบอีก”ไม่ได้อยากจะเป็นอย่างที่เขาพูดสักหน่อย ไพรินหันไปสบตากับใบหน้าหล่อที่มองเธออยู่ก่อนเธอสบกับดวงตามืดสนิทที่มองอย่างตำหนิหญิงสาว “คุณให้ฉันเอาไปซักให้ไหมละค่ะ” เธอไม่ได้จะตอบกวนเพราะร้านเสื้อแถวนี้มันไม่มีจะเดินไปหาซื้อโดยที่อีกคนอยู่ในสภาพแบบนี้เขายิ่งจะไม่ตำหนิเธอมากขึ้นกว่าเดิมอีกเหรอ “จะเอาแบบนั้น” เขาถามกลับ ก็ถ้าเขากล้าถอดเสื้อโดยที่มีคนเดินไปมาแบบนี้อยู่เธอก็กล้ารับมันไว้เหมือนกัน “แสบนักนะ” คำพูดนี้ของเขาเธอได้ฟังมันมาจนชินไปหมดแล้ว “นี่คุณ! จะถอดจริงเหรอ!” ถึงจะคิดแบบนั้นพอชายหนุ่มเลิกเสื้อตัวเองขึ้นจนเห็นหน้าท้องมีกล้ามของเจ้าตัวเธอก็ตกใจเอ่ยถามอย่างไม่คิดว่าเขาจะทำมันจริงๆ ไม่อายสายตาคนอื่นเลยรึไง! มือเรียวของเธอดึงเสื้ออีกคนมาปิดลงเหมือนเดิมแค่หน้าตาของเขาก็มีพลังสูงมากแล้วนี้ยังจะมาถอดเสื้อให้เห็นกล้ามหน้าท้องอีก เธอไม่ใช่คนตายด้านกับคนหล่อหรอกนะเห็นแบบนี้เข้าให้เธอก็ไม่ไหวเหมือนกัน! แถมยังสายตาผู้คนที่มองมาที่เธอและเขานั้นด้วย “เป็นคนบอกเองไม่ใช่รึไง” นี่กำลังเล่นสงครามทางประสาทกับเธอสินะ บอกเลยว่ามันได้ผลตอนนี้เธอประสาทเสียไปแล้ว...! “ฉันแค่พูดไม่คิด” ไม่คิดว่าเขาจะทำตามที่เธอพูดขึ้นมาจริงๆ เราสองคนจ้องตากันเธอมองอีกคนอย่างหนักใจไม่รู้ทำไมต้องมาเจอกันแล้วตกอยู่ในสถานการณ์ยากจะรับมีอย่างงี้ด้วย!
已经是最新一章了
加载中