บทที่ 3. ความจำเป็น...   1/    
已经是第一章了
บทที่ 3. ความจำเป็น...
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้คนที่เผลองีบหลับไปสะดุ้งตื่น แล้วกระวีกระวาดมาเปิดประตู “ค่ะๆ มาแล้วๆ” สลักจิตเปิดประตูออกอย่างรวดเร็ว แล้วก็ยืนนิ่งเมื่อพบว่าคีแรนยืนอยู่หน้าห้อง “หลับอยู่หรือ..” “ขอโทษค่ะ อุ้มเผลอหลับไป..” สลักจิตยิ้มแหยๆ เธอนึกถึงอดีตแล้วก็เผลอหลับไปนานทีเดียว ตอนนี้เธอก็รู้ตัวดีทีเดียวว่าการที่เธอมาอยู่ที่นี่และมีเขายืนอยู่ตรงหน้านี่ไม่ใช่ความฝัน มันคือความจริง ตอนนี้เธออยู่ในโลกความเป็นจริงแล้ว... “มาตามไปกินข้าว” “ค่ะ..” “ไปล้างหน้าล้างตาเสียไป แล้วลงไปกินข้าว..” “ค่ะๆ” สลักจิตรับคำ คีแรนยิ้มน้อยๆ แล้วเดินลงไปห้องรับประทานอาหาร สลักจิตพ่นลมหายใจเบาๆ แล้วเดินเข้าห้องน้ำพบว่าในห้องน้ำมีข้าวของเครื่องใช้พร้อมสรรพถูกจัดวางไว้อย่างสวยงามเป็นระเบียบสมกับเป็นบ้านคนรวย “โอ้โห้ แบบนี้จะกล้าหยิบใช้ไหมเนี่ย” สลักจิตอุทานมองผ้าขนหนูที่พับวางไว้ในตู้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงามแล้วค่อยๆ หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กออกมาอย่างระมัดระวังก่อนจะเดินไปล้างหน้าและนั่นยิ่งทำให้เธอตกใจมากขึ้นไปอีก... “ว้าย.. คุณคีย์คงตกใจกับสภาพของเราแน่ๆ เลย ยายอุ้มเอ๊ย น่าอายชะมัด..” สาวน้อยโอดครวญเมื่อเห็นสภาพหน้าตาผมเผ้าของตัวเองในกระจก ภาพสาวน้อยหน้าตาดูยับยู่ยี่เพราะนอนทับที่นอนผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรงเหมือนยายเพิ้ง เพราะมันหลุดรุ่ยจากหนังยางที่มัดไว้แล้วยังพูฟ่องอย่างน่าขัน แล้วนั่น.. คราบน้ำลายยังคงเปียกชื้นอยู่ที่มุมปาก.. นี่มันสภาพของเด็กกะโปโลมากกว่าเป็นหญิงสาวที่น่าพิสมัย หรือน่าปรารถนา... “คุณคีย์คงแอบหัวเราะเราแน่ๆ เลย..” สลักจิตหน้ามุ่ยแล้วรีบล้างหน้าจัดแต่งทรงผมให้เรียบร้อย... เวลารับประทานอาหารเย็นผ่านไปอย่างรวดเร็วทั้งที่สลักจิตเองก็ตื่นเต้นมากด้วยเพราะนึกหวั่นหวาดเรื่องที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ เธอจะต้องนอนกับคีแรนจริงๆ น่ะหรือ... สลักจิตเดินไปเดินมาในห้องของตนอย่างกระวนกระวาย เธอยอมรับว่าหลงรักเขาตั้งแต่แรกพบ แต่การที่จู่ๆ จะต้องมานอนทอดกายให้เขาเชยชมมันก็เป็นอะไรที่ช็อคหน่อยๆ และก็น่าวิตกกังวลมากไม่น้อย “ทำไงดีล่ะยายอุ้ม เธอจะทำไงดี..” แล้วสลักจิตก็หยิบโทรศัพท์ของตนออกมาแม้มันจะไม่ได้ราคาแพงไฮโซหรูหราแต่มันก็สามารถใช้โทร.ออก รับสายและถ่ายรูปสวยๆ ได้บ้างเหมือนกันแต่รูปในเครื่องนั้นจะมีแต่รูปอาหารและขนมเสียส่วนใหญ่ “รัน.. นอนยัง” “โอ้ย.. จะนอนอะไรตั้งแต่สามทุ่มยะ ฉันไม่ได้อนามัยจัดขนาดนั้น” รัน หรือ ศรัณ เพื่อนชายใจสาวที่คบหากันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาลและเขาก็คอยช่วยเหลือเธอมาตลอดเป็นที่ปรึกษาเป็นที่พักใจให้เสมอ “เรื่องนั้นน่ะ ฉันจะทำไงดี” “โอ๊ยย นี่นังอุ้ม แกโชคดีนะที่ได้เจอคนหล่อๆ ฮีโร่ในดวงใจน่ะ..” สลักจิตเล่าเรื่องที่เคยเจอคีแรนคราวก่อนโน้นให้ศรัณฟังและศรัณก็ไปหารูปของเขามาจนได้ และยังตื่นเต้นแทนเธอเสียมากมายเมื่อรู้ว่าเธอได้มาทำงานกับคีแรนในฐานะแม่อุ้มบุญ “บ้าเหรอ ฉันกลัวเขาจะแย่แล้ว” “กลัวทำไมยะ มันเป็นบุญของแกมากเลยนะอุ้มที่ได้อยู่ใกล้ชิดคนดีๆ หล่อเริดขนาดนั้น อีกอย่างไหนๆ ก็ไหน ทำให้เขารักแล้วยกเลิกสัญญาสิ ทีนี้แกก็จะสมหวังทุกประการ” “คือ ฉัน..” “อุ้ม แกมีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้วนะ แม่ฉันไม่มีอะไรจะสอนแกแล้ว คุณหญิงแม่วิไลบอกมาแบบนั้น.. และตอนนี้แม่ไม่รับศิษย์เพิ่มแล้วนะยะ..” ศรัณรีบดักคอเมื่อรู้ดีว่าเพื่อนรักจะหาข้ออ้างมาหาตน สลักจิตเป็นลูกศิษย์คนเก่งของแม่เขา เรียกได้ว่าเป็นศิษย์เอกของ ครูวิไล เจ้าแม่ของวงการอาหารคาวหวาน เลยก็ว่าได้ เรื่องทำขนมสลักจิตนั้นนับว่าเก่งฉกาจ โรงแรมหลายที่ต้องการตัวสลักจิตไปทำหน้าที่เชฟประจำครัวขนมของโรงแรม อีกทั้งถ้าหากสลักจิตทำขนมขายหรือเปิดสอนก็คงจะมีคนมาเรียนด้วยมากมายอย่างแน่นอน... “เอาอย่างนั้นเหรอ.. แต่ฉันไม่กล้าหรอก อายตายเลย” “อายอะไรยะ เราต้องกล้าๆ หน่อย อ่อยให้สุดแรงเพื่อพิชิตใจชายในฝัน แกต้องทำให้ได้นะอุ้ม โอกาสมาแล้ว เขาจะต้องเป็นของเรา เอ๊ย ของแก..” ศรัณหัวเราะคิกคักมาตามสาย “พูดเหมือนง่ายแต่จะไปอ่อยให้เขารักยังไง แค่คิดมันก็ยากแล้ว ให้ทำขนมสักร้อยอย่างในเวลาหนึ่งวันยังทำง่ายกว่า” “เอาน่าค่อยๆ ลอง แค่ยิ้มหวานๆ เอาใจเก่งๆ คาดว่าคุณคีย์เขาก็หลงแกหัวปักหัวปำแล้ว” “เฮ้อ...” สลักจิตถอนหายใจหนักๆ “ถอนหายใจดังแบบนี้ คืนนี้ต้องเสียตัวให้ผู้ชายในฝันแน่นอน..” “บ้า.. ยายคนนี้นี่ลามกจริงเชียวโทร.มาปรึกษานะยะ” สลักจิตหน้าร้อนผ่าวไปกับคำหยอกล้อของเพื่อนรัก “เอาน่าๆ สู้ๆ จำไว้ว่าแกจะต้องได้คุณคีย์สุดหล่อเป็นผัวจริงๆ จำไว้ๆๆ แค่นี้นะ แล้วจะไปหา บาย..” ศรัณวางสายไปแล้วสลักจิตก็ถอนหายใจเบาๆ และยังสับสนกับตัวเองอยู่ ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นสลักจิตถึงกับสะดุ้งเฮือกตัวสั่นด้วยความหวั่นไหวอย่างช่วยไม่ได้ เธอไม่ได้กลัวคีแรน แต่ก็ยังไม่พร้อมจะเจอเขาในตอนนี้ คืนนี้... สลักจิตลุกเดินไปเปิดประตูด้วยใจที่ไหวหวั่น “พี่สมปอง..” สลักจิตลอบถอนใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นพี่สมปองยืนยิ้มกว้างอยู่หน้าห้อง “จะนอนแล้วหรือคะ” “ยังค่ะ คือ อุ้มรู้สึกแปลกๆ น่ะค่ะ” “แปลกที่หรือคะ เป็นเรื่องปกติแหละค่ะ” “แล้วนี่ พี่สมปองมีธุระอะไรสำคัญกับอุ้มไหมคะ..” สลักจิตถามแต่ก็เห็นว่าพี่สมปองถือถาดเครื่องดื่มมาด้วยมีทั้งกาแฟและนมสด.. ใครกันจะมาดื่มกาแฟตอนสามทุ่ม ดื่มตอนนี้จะได้นอนตอนไหน.. “พี่เอานมสดมาให้คุณอุ้มค่ะ ส่วนกาแฟนี่ของคุณคีย์” “หา.. ดื่มกาแฟตอนนี้นี่นะ แล้วคุณคีย์จะได้นอนตอนไหนล่ะคะ” สลักจิตตาโต “ก็ช่วงนี้คุณคีย์ดื่มกาแฟดึกๆ ประจำค่ะ เห็นว่างานเยอะและมีปัญหาด้วย คุณคีย์บอกว่าจะเคลียร์งานให้เรียบร้อยเพราะมันเร่งด่วนและสำคัญมาก เดี๋ยวพี่เอานมไปวางไว้ให้นะคะ” “ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวอุ้มถือไปเอง พี่สมปองเอากาแฟไปให้คุณคีย์เถอะค่ะ” สลักจิตหยิบแก้วนมของตนมาถือไว้ “อย่างนั้นก็ได้ค่ะ อ้อ.. คุณคีย์บอกว่าให้คุณอุ้มนอนพักผ่อนให้สบายนะคะไม่ต้องกังวล..” สลักจิตพยักหน้าแล้วยิ้มบางๆ ให้พี่สมปอง มองตามพี่สมปองที่เดินเข้าห้องทำงานของคีแรนไปอย่างเป็นห่วงชายหนุ่มไม่น้อย “ทำงานดึกขนาดต้องดื่มกาแฟตอนนี้ แสดงว่างานเขาคงยุ่งมากและสำคัญมากๆ” สลักจิตตั้งข้อสงสัยแล้วกลับเข้าห้องของตนเองและด้วยความแปลกที่ทำให้เธอนอนไม่ค่อยหลับสุดท้ายก็ลุกขึ้นออกมาเดินเล่นด้านนอก เธอเดินเรื่อยๆ ไปยังระเบียงกว้างซึ่งมีม้านั่งและโต๊ะนั่งเล่นริมระเบียง สลักจิตเงยหน้ามองฟ้าที่ยังมีดวงดาวพร่างพรายอย่างหนักอกหนักใจ แม้ทุกคนที่นี่จะดีกับเธอให้เกียรติเธอเหมือนเจ้านายคนหนึ่งของบ้าน แต่สลักจิตก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจกับสถานะของตนอยู่ดี... คีแรนบอกว่าเขาไม่ต้องการแต่งงาน แต่คุณย่าของเขาต้องการให้แต่งงานกับคนที่หมั้นหมายไว้ให้ แต่เขาไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้นจึงบอกไปว่ามีเมียมีลูกแล้วที่เมืองไทย และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาจ้างเธอมาเป็นแม่อุ้มบุญให้ สัญญาหนึ่งปีเมื่อเธอท้องและคลอดลูกแล้วเธอจะเป็นอิสระ เขาจะบอกคุณย่าของเขาว่าหย่ากับเมียที่เมืองไทยและเขาได้สิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูก ส่วนเธอนั้นจะไปไหนก็แล้วแต่... “เห้อ... กลุ้มนอนไม่หลับ..” สลักจิตเท้าคางมองด้าวบนฟ้าอย่างเลื่อนลอย ตอนนี้เธอคิดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ แต่ชีวิตของเธอคงจะปลอดภัยกว่าอยู่ที่บ้านกับป้าสมจิตอย่างแน่นอน เธอรู้เพียงเท่านั้น...
已经是最新一章了
加载中