บทที่ 3. ความจำเป็น... จบตอน   1/    
已经是第一章了
บทที่ 3. ความจำเป็น... จบตอน
“นอนไม่หลับหรือไง” “อุ๊ย.. คุณคีย์” สลักจิตสะดุ้งหันขวับมาตามเสียงก็พบว่าคีแรนยืนอยู่ไม่ไกล ชายหนุ่มสวมชุดนอนผ้าฝ้ายสีเทาหม่น เรือนผมตัดเข้ารูปนั้นดูยุ่งน้อยๆ แต่ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาดูมีเสน่ห์มากขึ้น ใจสาวน้อยอย่างเธอสั่นไหวเลือดในกายร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “อุ้มกำลังจะกลับไปนอนแล้วค่ะ” “อย่างนั้นรึ” เขาว่าพลางเดินเข้ามาใกล้ สลักจิตนั่งนิ่งหายใจไม่ทั่วท้องได้แต่มองเขาตาโต “คะ ค่ะ..” “กลัวฉันหรือไง” คีแรนเดินมาใกล้แล้วเท้าแขนทั้งสองข้างกับราวระเบียงโดยมีเธออยู่ตรงกลางระหว่างเขากับราวระเบียงด้านหลัง เหมือนกักเธอไว้ในวงแขนของเขา สลักจิตส่ายหน้าช้าๆ ได้แต่ยืนนิ่งพูดไม่ออกเพราะหาเสียงตัวเองไม่เจอ “ส่ายหน้าเป็นอย่างเดียวหรือไง” เหมือนเขายั่วเย้าแล้วยังก้มหน้าลงมาใกล้ สลักจิตแทบเป็นลมด้วยความตื่นเต้น ร่างสาวร้อนผ่าวราวจับไข้ทั้งยังรู้สึกเหมือนมีลมร้อนๆ หมุนมวนอยู่ในช่องท้อง เธอเป็นอะไรกันนี่.. สลักจิตถามตัวเองแล้วแทบจะหยุดหายใจเมื่อคีแรนก้มลงมาอีกจนปลายจมูกโด่งสวยของเขาแทบชิดปลายจมูกเรียวเล็กของตน “จะเป็นลมเหรอ” “ปะ เปล่า.. ค่ะ คะ คือ อะ อุ้ม .” สลักจิตอ้ำๆ อึ้งๆ รู้สึกแขนขาอ่อนแรงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้และทำท่าว่าจะทรุดลงไปนั่งกับพื้นเสียอย่างนั้นแต่คีแรนสอดวงแขนเข้ามาโอบไว้ก่อนและนั่นมันทำให้เธอตกอยู่ในวงแขนของเขาและความแนบชิดก็มีมากขึ้น... สลักจิตตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวจึงโอบกอดเขาตามสัญชาตญาณ และกลายเป็นว่าตอนนี้เธอกับเขากอดกันกลมอยู่ตรงระเบียง “คะ คุณคีย์ปล่อย อุ้มเถอะค่ะ” เธอหาเสียงของตัวเองเจอแล้ว.. สลักจิตรู้สึกยินดีนัก แต่มันกลับแผ่วเบาเสียเหลือเกิน เบาจนไม่รู้ว่าเขาได้ยินหรือไม่และความใกล้ชิดนี้มันทำให้ใจของเธอมันเต้นแรงมากๆ มากจนแอบคิดว่าเสียงหัวใจเต้นมันดังมากกว่าเสียงที่พูดออกไปเสียอีก “จริงๆ แล้ววันนี้ฉันว่าจะมีบทเรียนพิเศษให้เธอได้เรียนรู้นะ” เขาพูดน้ำเสียงพร่าเล็กน้อยและลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดพวงแก้มใสนั้นราวกับมันจะแผดเผาผิวแก้มสาวแรกผลิให้ไหม้เกรียม สลักจิตได้แต่นิ่งงันอ้อมแขนของเขาและดวงตากมโตก็เบิกกว้างขึ้นเมื่อคีแรนประทับเรียวปากร้อนผ่าวลงมาบนกลีบปากอิ่มที่เผยอน้อยๆ อย่างไม่รู้ตัวนั้น... เหมือนถูกคลื่นทะเลที่บ้าคลั่งสาดซัดเข้าใส่จนร่างของเธอลอยคว้างไปในท้องทะเลที่แปรปรวนทั้งคลื่นลมและกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวจนเธอสับสน นี่มันคือจูบใช่ไหม และมันก็เป็นจูบแรกของเธอด้วย... การถูกจูบมันเป็นแบบนี้นี่เองอย่างนั้นหรือ ร้อนผ่าว นุ่มนวล น่าหลงใหล กลิ่นกายหอมสะอาดของเขาทำให้ใจของสาวน้อยลอยละลิ่ว ไปอย่างไร้ทิศทางแต่สุดท้ายเธอก็รับรู้ว่าร่างของเธอยังอยู่ในวงแขนแข็งแรงของคีแรน รับรู้ถึงเรียวลิ้นร้อนผ่าวที่กำลังหยอกเย้าลิ้นเล็กของเธออย่างอ่อนโยนอ่อนหวาน... สลักจิตล่องลอยหลงใหลไปกับความรู้สึกและประสบการณ์แปลกใหม่ครั้งแรกในชีวิตสาว... “เอาล่ะ.. ไปนอนได้แล้ว..” เธอได้ยินเสียงของคีแรนดังอยู่ไกลๆ เขาไปไหนแล้วล่ะ... สลักจิตที่ยังคงหลงเพริดอยู่ในห้วงจุมพิตแสนหวานคิดอย่างเบลอๆ ค่อยๆ ปรือเปลือกตาขึ้น แต่ก็ยังเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเขาอยู่ตรงหน้านี่เอง เขาไม่ได้ไปไหนสักหน่อย... “อย่ามายั่วนะเด็กดื้อไปนอนได้แล้ว..” คราวนี้เธอหายเบลอหายลอยละลิ่วเมื่อชายหนุ่มบีบปลายจมูกเล็กแล้วโยกส่ายไปมาเบาๆ เหมือนมันเขี้ยว สลักจิตหน้าร้อนผ่าวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ นึกละอายที่ตนหลงใหลไปกับเขาอย่างง่ายดาย “ระ ราตรีสวัสดิ์นะคะ” พอตั้งสติได้ก็รีบพูดแล้ววิ่งกลับห้องของตนไป “หึ.. ฉันจะให้เวลาเธออีกสักนิดนะสลักจิต..” คีแรนพูดกับตัวเองแล้วสลัดศีรษะไปมาพยายามที่จะไม่เดินตามสลักจิตไปที่ห้อง เธอไม่รู้หรอกว่าเขาต้องพยายามหักห้ามใจมากเพียงใดที่จะทำเพียงแต่ จูบ.. สลักจิตพยายามจะไม่สบตากับเขาเมื่อพบหน้าแต่มีหรือที่เธอจะหลบพ้นเพราะคีแรนเรียกให้เธอไปช่วยทำงานด้วยแต่เธอไม่มีความรู้ด้านการบริหารหรือการทำเครื่องประดับเพชรพลอยเลยสักอย่าง จะช่วยอะไรเขาได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน และงานที่คีแรนให้ทำก็คือให้เธอไปอ่านหนังสือรอเขาทำงานเท่านั้นเอง งงหนักเข้าไปอีก ให้มาช่วยงานโดยการให้เธอมาหาหนังสืออ่าน แต่ก็ดีแล้วล่ะเพราะเธอยังอ่านหนังสือค้างอยู่เล่มหนึ่งตั้งแต่วันนั้น... “อุ้มว่าอันไหนสวย..” เขาถามเมื่อเรียกให้เธอมาหาที่โต๊ะทำงานแล้วยื่นกระดาษที่เธอเห็นเขาก้มๆ เงยๆ ขีดๆ เขียนๆ อยู่อย่างขะมักเขม้นให้ดู “สวยทุกอันเลยค่ะ สวยมาก นี่ขนาดแค่แบบนะคะไม่ใช่ของจริงยังดูสวยเลยค่ะ” สลักจิตตื่นเต้นและชื่นชมฝีมือการออกแบบเครื่องประดับของเขามาก และเพิ่งรู้ว่าคีแรนทำงานอะไรและรวยมากแค่ไหน... “ชอบรึเปล่า” “ชอบสิคะ ของสวยๆ แบบนี้ใครก็ต้องชอบ ลูกค้าของคุณคีย์สั่งทำหรือคะ” “ก็ไม่เชิง เสร็จงานชิ้นนี้แล้วฉันจะพาอุ้มไปเที่ยว” “จริงหรือคะ จะไปเที่ยวไหนคะ” “จริงสิ อุ้มอยากไปเที่ยวไหนล่ะ” “อุ้มอยากไปดูทะเลหมอกค่ะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นกับเขาสักทีเลย เห็นเขาไปที่ภูชี้ฟ้ากัน เพื่อนอุ้มก็เคยไปมันสวยมาก อุ้มอยากไปเห็นของจริงค่ะ” สลักจิตยิ้มกว้างตื่นเต้นกับเรื่องเที่ยวจึงไม่ได้สังเกตว่าตอนนี้เธอกับเขาใกล้ชิดกันมากกว่าตอนแรกเพียงใด ตอนแรกเธอแค่ยืนใกล้ๆ เก้าอี้ตัวใหญ่ที่เขานั่ง แต่ตอนนี้เธอมานั่งเกยอยู่บนตักกว้างของเขาโดยมีวงแขนแข็งแรงโอบกอดกรายๆ “ถ้างั้นเราก็เตรียมตัวไปซื้อของกันดีกว่า ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่อุ้มยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยนี่นะ” “อุ้มเพิ่งมาได้สองวันเองนะคะ” เธอพูดคุยกับเขาอย่างเป็นกันเองเหมือนสนิทสนมกันมานานแต่ท่าทางของคีแรนก็ไม่ได้ถือเนื้อถือตัวอะไรจนเธอเองก็ลืมๆ ไปว่ายังขัดเขินเขาเรื่องจูบในวันนั้นอยู่ “ไม่เป็นไรเดี๋ยวพาไปซื้อของเตรียมตัวไปเที่ยว” “อุ๊ย..” เหมือนสลักจิตรู้ตัวว่าตนนั่งอยู่บนตักของเขาและทำท่าว่าจะลุกแต่ถูกวงแขนแข็งแรงเหนี่ยวรั้งไว้และตอนนี้ใบหน้าแดงเรื่อของเธออยู่ใกล้กับใบหน้าหล่อเหลาของเขาแค่ปลายนิ้ว “ฉันน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือ” “เปล่าค่ะ” “เปล่าแต่ทำท่าจะหนีตลอดเลย” เขาโน้มใบหน้าลงมาใกล้อีกและเธอก็ทำได้เพียงเอนกายไปด้านหลังแต่ก็ติดกับขอบโต๊ะทำงาน ใจสาวเต้นแรงเลือดในกายสูบฉีดเดือดพล่าน เนื้อตัวมันสั่นระริกไปหมดโดยที่เธอไม่อาจจะหักห้ามอาการนี้ได้... “ก็.. คือ อุ้ม..” “เคยบอกไปแล้วใช่ไหมว่าฉันไม่ใช่คนใจร้าย..” สลักจิตพยักหน้าหลบดวงตาคมที่ทอดมองมานั้นด้วยใจที่เต้นแรง แววตาคมพราวระยับวาวหวาน เรียวปากสีชมพูเข้มของเขายกยิ้มน้อยๆ นั่นยิ่งเขย่าใจสาวให้สั่นสะเทือน ร่างกายพลอยจะอ่อนระทวยเพราะรอยยิ้มแบบนั้น โอยยย.. อุ้มเอ๊ยอุ้ม แกจะรอดไหม แกจะรอดจากความรักไหม.. จะอดใจอย่างไรไหวที่จะไม่รักผู้ชายตรงหน้า... “บ้านคุณยายฉันอยู่ที่เชียงราย ใกล้กับภูชี้ฟ้าเลยล่ะ เราจะไปที่นั่นกัน” เขาบอกน้ำเสียงอ่อนโยนพลางยื่นมือมาปัดปอยผมที่คลอเคลียอยู่กับแก้มใสของเธอออกเบาๆ “เอาล่ะ ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปรอข้างล่าง ฉันขอเก็บงานแป๊บเดียว” “ไปตอนนี้เลยหรือคะ” สลักจิตตาโตไม่คิดว่าเขาจะตัดสินใจเร็วขนาดนี้ “ใช่สิ ฉันเองก็อยากพักผ่อนแล้วเหมือนกัน ทำงานหนักและนอนดึกมาหลายวันแล้ว” คีแรนพูดพลางยกเธอลงจากตักของเขา เหมือนยกสิ่งของไร้น้ำหนักราวกับว่าเธอเบาเหมือนนุ่นอย่างนั้นล่ะ สลักจิตได้แต่ยืนงงเพราะไม่ทันตั้งตัวและไม่รู้ว่าจะได้ไปเที่ยวตามที่ฝันไว้เร็วขนาดนี้ “เอ่อค่ะ..” “ค่ะก็ไปสิครับ หรืออยากได้อะไรเป็นพิเศษ อย่าง จูบหวานๆ จากคุณคีย์” เขาแทนตัวเองอย่างสนิทสนมและให้เธอเรียกเขาว่าคุณคีย์ “ไม่ค่ะไม่ ไปแล้วค่ะ” สลักจิตส่ายหน้าหวือแล้วถอยหลังไปหลายก้าวเมื่อเขาทำท่าว่าจะคว้าเธอไปจูบจริงๆ แล้วรีบเดินออกจากห้องทำงานโอ่โถงไปทันที คีแรนมองตามคนที่แทบจะวิ่งออกไปจากห้องอย่างขบขัน ชายหนุ่มส่ายหน้าช้าๆ แล้วถอนใจเบาๆ ครุ่นคิดในใจแล้วก็นึกขันตัวเอง... “หลอกเด็กมันยากเหมือนกันแฮะ.. บ้าไปแล้วแน่ๆ เรา..”
已经是最新一章了
加载中