บทที่ 7. การพบกันอีกครั้ง.. จบตอน   1/    
已经是第一章了
บทที่ 7. การพบกันอีกครั้ง.. จบตอน
คีแรนมองคนที่อุ้มน้องครีมไม่ยอมปล่อยง่ายๆ ทั้งจับทั้งจูงไม่ห่างเหมือนกลัวว่าเขาจะแย่งน้องครีมไปอย่างขบขันแต่ก็ต้องตีหน้าเข้มขรึมเข้าไว้ ทั้งที่ตั้งใจจะใจร้ายกับเธอให้มากๆ แต่เมื่อเห็นดวงตาใสๆ และรอยยิ้มแสนสวยของน้องครีม และดวงตาเศร้าๆ ที่ฉายแววอ้อนวอนของสลักจิตแล้ว ความตั้งใจอันแรงกล้าก็มีอันไหวสะเทือน... แต่เธอพรากลูกไปจากเราตั้งหกปีนะ เราควรลงโทษเธอให้สาสม ทำให้เธอเจ็บปวด เสียใจให้เหมือนกับที่เราเสียใจ.. เสียงเล็กๆ ในใจบอกให้เขาทำแบบนั้นแต่.. เธอมีเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้นและเราควรใช้สติแก้ไขปัญหา เราควรมีความสุข.. อีกเสียงหนึ่งแย้งขึ้นมาทำให้เขาได้สติและใจเย็นลง เขาเรียนรู้ที่จะต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานมาเพียงพอแล้ว และไม่อยากให้ใครต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบตนอีก และเขาก็รักพวกเธอเหลือเกิน... แน่นอน.. เขารักสลักจิตกับลูก.. ความรู้สึกนี้มันชัดเจนมาตั้งแต่วันที่เธอหายไปจากชีวิตเขาพร้อมกับน้องครีมที่ยังไม่เกิด ตอนนั้นเขาเหมือนหัวใจหยุดเต้น เหมือนโลกทั้งใบมันมืดดับไปต่อหน้าต่อตา... “คุณพ่อขา นี่บ้านของคุณพ่อหรือคะ..” เสียงใสๆ ของน้องครีมดึงเขาให้หันกลับมามองคนที่อยู่ในวงแขนบอบบางของผู้เป็นแม่ และเขาสังเกตเห็นความเหนื่อยอ่อนของเธอ “คุณคีย์จะอุ้มน้องครีมเอง แขนจะหักแล้วนั่น” “ไม่เป็นไรอุ้ม อุ้มน้องครีมได้” “อย่าดื้อสิ” “คุณแม่ขอ น้องครีมอยากให้คุณพ่ออุ้ม” สลักจิตหน้าเสียเมื่อลูกสาวเองก็ร่ำร้อง “คุณแม่ขาปวดแขนน้า น้องครีมรักแม่อุ้มเหมือนเดิม” เหมือนเด็กน้อยจะรู้ว่าผู้เป็นแม่รู้สึกอย่างไร จึงพูดเอาใจแล้วหอมแก้มนวลเธอเบาๆ สลักจิตจึงพยักหน้าช้าๆ แล้วสบตาเขาเป็นสัญญาณว่ายินยอมให้เขาอุ้มลูก คีแรนเอื้อมมือไปรับน้องครีมมาอุ้ม เด็กหญิงดีใจยิ้มหน้าบาน “นี่บ้านของเรา ไม่ใช่บ้านของคุณพ่อเสียหน่อย..” คีแรนเอาใจลูกสาวที่ยิ้มแก้มแทบแตกแล้ว “ว้าว.. จริงๆ นะคะ นี่คือ บ้าน ของ เรา” น้องครีมพูดย้ำทีละคำด้วยหัวใจพองโต “จริงสิครับ นี่คือบ้านของพวกเรา เอาล่ะไปดูในบ้านกันดีกว่า คุณพ่อมีอะไรจะอวดน้องครีมด้วยนะ” “ไปค่ะไปๆๆ ตื่นเต้นจังเลยค่า ต้องเป็นของที่น้องครีมชอบแน่ๆ เลยใช่ไหมคะ” “แน่นอนสิครับ..” คีแรนหอมแก้มยุ้ยๆ ของน้องครีมหนักๆ อย่างมันเขี้ยวแล้วเดินเข้าบ้านไป ร่างสูงใหญ่เดินผ่านหน้าสลักจิตที่ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่แล้วหันกลับมามอง “ไม่เข้าบ้านหรือไง” “ค่ะ เข้าค่ะ” สลักจิตรีบเดินไปหาเขากับลูก แล้วเธอก็ชะงักแล้วเงยหน้ามองเขาอย่างงงๆ “มองอะไร เข้าบ้านสิ” คีแรนทำเสียงดุๆ แล้วเดินเข้าบ้านไป โดยมืออีกข้างก็จับจูงมือเธอไปด้วย สลักจิตมองมือของตนในอุ้งมือใหญ่แล้วอมยิ้มน้อยๆ ใบหน้าแดงเรื่อใจเต้นแรงด้วยความอิ่มเอมใจ ในขณะที่คีแรนเองก็ยกยิ้มบางๆ ในหน้า ส่วนน้องครีมนั้นกำลังคุยเจื้อยแจ้วชี้ชวนให้ผู้เป็นพ่อแม่ดูอะไรก็ตามที่ตนสนใจ และพวกเขาก็เพลิดเพลินที่จะได้ยินเสียงใสๆ ของน้องครีมที่ดูเหมือนจะตื่นเต้นไปเสียทุกอย่างที่พบเห็น... สลักจิตยืนคว้างอยู่กลางห้องเมื่อน้องครีมหลับแล้ว เมื่อคีแรนเดินเข้ามาในห้องเธอก็รีบกลับไปที่เตียงแล้วก็ล้มตัวนอนแล้วหลับตาลงทันที คีแรนเลิกคิ้วมองการกระทำของเธอแล้วก็อยากหัวเราะออกมา แต่ก็แสร้งตีหน้าเข้มเสียงแข็งไว้ก่อน “เธอจะไม่ได้นอนห้องนี้” สลักจิตไม่ยอมลืมตาและทำทีไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับคำพูดของเขา คีแรนยิ้มบางๆ นึกอยากแกล้งคนที่ทำหน้าซึนๆ มึนๆ เสียนัก “ไม่ได้ยินที่พูดหรือไง..” “อุ๊ย..” เธอสะดุ้งลืมตาแทบจะทันทีเมื่อเขาก้มลงไปชิดจนปลายจมูกชนกับแก้วนวลที่ซับสีเรื่อขึ้นมาทันที “ถามว่าไม่ได้ยินที่พูดหรือไง” “อะ อุ้มกำลังจะหลับ” “โกหกเก่ง.. เอาล่ะลุกไปนอนห้องที่เตรียมไว้ให้ได้แล้ว” เขากอดอกมองคนที่หน้าจ๋อยหม่นลงพยายามกลั้นยิ้มไว้อย่างสุดความสามารถ “อุ้มขอนอนกับน้องครีมไม่ได้เหรอคะ เราไม่เคยห่างกันเลย อีกอย่างอุ้มกลัวลูกตื่นมากลางดึกแล้วไม่เจอใคร แกเพิ่งจะมาที่นี่วันแรกเองนะคะ” “ไม่เป็นไรหรอกเพราะฉันอยู่ทั้งคนไม่ยอมให้ลูกร้องไห้หรือว่ากลัวหรอกน่า อย่ามาอิดออด ทีฉันยังไม่มีโอกาสนอนห้องเดียวกับเธอและลูกเลย.. จำได้ไหมว่าใครใจร้ายกับฉันก่อน” “แต่ตอนนั้นอุ้มกลัวว่าคุณคีย์จะพาลูกหนีอุ้มไปนี่คะ” “แล้วตอนนี้ไม่กลัวหรือไง” “อุ้มกลัวไม่ได้นอนกอดลูกมากกว่า” “ไม่ได้หรอก มันถึงเวลาแล้วที่ฉันจะได้นอนกอดลูกบ้าง นี่อย่าพูดมากน่าฉันง่วงแล้ว เธอควรไปนอนห้องตัวเองได้แล้ว เดี๋ยวน้องครีมก็ตื่นเพราะเสียงเราเนี่ย เอาล่ะลุกๆ” คีแรนดึงมือเธอให้ลุกขึ้นแต่สลักจิตอิดออดไม่ยอมง่ายๆ จึงเกิดการยื้อยุดกันขึ้นเล็กๆ “ไม่เอา อุ้มจะนอนกับลูก คุณคีย์อย่าให้อุ้มไปนอนที่อื่นเลยนะคะ ให้อุ้มนอนกับน้องครีมเถอะ” หญิงสาวส่ายหน้าไม่ยอมไปท่าเดียว คีแรนซ่อนยิ้มอย่างพอใจ... “ถ้าเธอไม่ไปก็หมายความเธอจะต้องนอนเตียงเดียวกับฉันนะ” สลักจิตชะงักไปเล็กน้อยทำท่าคิดและเขาจะไม่มีทางให้เธอได้คิดนานหรอก “ถ้าไม่นอนเตียงเดียวกันเห็นทีเธอจะต้องนอนกับพื้นและหากลูกตื่นมาเจอว่าเธอนอนกับพื้นก็หาคำตอบให้ลูกเองก็แล้วกันว่าทำไมต้องไปนอนแบบนั้น” “งั้นอุ้มนอนบนเตียงกับคุณคีย์ก็ได้” “ไม่อยากให้นอนด้วย” พูดไปแบบนั้นแต่ในใจนั้นมันตรงกันข้ามเลยล่ะ “แต่อุ้มอยากนอน” สลักจิตแย้งเขาท่าทางดูดื้อดึงไม่น้อย เขาจะต้องแสดงความอึดอัดลำบากใจสินะ.. “แต่ฉันทนนอนร่วมเตียงกับเธอไม่ได้หรอก ตอนนี้แม้แต่หน้าเธอฉันก็ไม่อยากจะมอง เพราะเธอมันคนใจร้าย” สลักจิตหน้าหมองลงตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้ ทำให้เขาเกือบจะใจอ่อน “แต่เอาเถอะ คืนนี้ฉันจะฝืนๆ ใจนอนเตียงเดียวกับเธอดูก็แล้วกัน เขยิบไปสิ” เขาบอกพลางก้าวขึ้นเตียงหลังจากปิดไฟแล้ว เหลือเพียงแสงสว่างจากไฟหัวเตียง สลักจิตเงอะงะ ทำตัวไม่ถูกเขาจึงช้อนอุ้มร่างที่ยังบอบบางเหมือนเคยไปนอนข้างๆ น้องครีมที่หลับปุ๋ยอย่างไม่ไหวติงเพราะคงเหนื่อยอ่อนจากการสำรวจบ้านด้วยความสนุกสนาน โดยมีพี่สมปองเป็นพี่เลี้ยงที่แสนดี และดูท่าพี่สมปองนั้นทั้งรักทั้งหลงน้องครีมจนถอนตัวไม่ขึ้น ไม่ว่าคุณหนูตัวน้อยอยากได้อะไรพี่สมปองหาให้ไม่เคยขัดซ้ำยังเป็นเพื่อนเล่นขายของกับน้องครีมได้อีกด้วย “คุณคีย์จะทำอะไรคะ” สลักจิตหน้าเหลอหลาทั้งแก้มก็แดงก่ำด้วยความขัดเขิน ท่าทางขัดเขินของเธอนี่เองที่ทำให้เขาร้อนรุ่มขึ้นมาจนต้องพยายามข่มใจไว้ “ก็จะนอนน่ะสิ ง่วงแล้ว ถ้าเธอไม่นอนก็ออกไปข้างนอกได้นะ” “ไม่ค่ะ อุ้มจะนอนแล้ว..” หญิงสาวส่ายหน้าหวือแล้วรีบนอนตะแคงข้างให้เขาพร้อมกับโอบกอดน้องครีมอย่างหวงแหนจนเขานึกมันเขี้ยวแกมหมั่นไส้แม่คนขี้หวง ขนาดว่าขโมยลูกไปจากเขาตั้งหกปีแล้วยังไม่ยอมแบ่งลูกให้เขาชื่นชมบ้าง... “อุ๊ย..” สลักจิตลืมตาตื่นหันขวับมามองเขาตาโต “อะไรอีกล่ะ..” เธอไม่ตอบแต่มองแขนแข็งแรงของเขาที่พาดโอบเธอกับน้องครีมไว้ “ฉันมีสิทธิ์กอดลูกนะ และเธอขึ้นมานอนบนเตียงของฉันก็ต้องยอมรับการกระทำของฉันด้วย มันอยู่ในเงื่อนไขที่ฉันอนุญาตให้เธอขึ้นมานอนด้วยเหมือนกัน” เขาสังเกตว่าใบหน้านวลงอง้ำเล็กน้อยเหมือนจะงอนๆ “ค่ะ.. คุณคีย์จะทำอะไรก็ได้ตามใจเลยค่ะ เอาที่สบายใจเลย” พูดจบเธอก็หลับตาลงแต่แก้มยังคงซับสีแดงเรื่อยุบๆ พองๆ น่าหอมสักฟอดสองฟอด และเขาก็อดใจไม่ไหวจริงๆ ก้มลงหอมแก้มเธอหนักๆ เสียสองฟอด คนโดนหอมแก้มก็ได้แต่ลืมตาโตมองเขา คีแรนตีหน้านิ่ง “มันคือการจ่ายค่าที่นอน ต่อจากนี้หากเธอจะทำอะไรหรือต้องการจะเขาใกล้น้องครีม หรือว่าทำการใดๆ ก็แล้วแต่เกี่ยวกับเรื่องของน้องครีมเธอจะต้องได้รับอนุญาตจากฉัน และต้องมีการ จ่าย.. สำหรับการนั้นๆ ด้วย” เหมือนได้ยินเสียง หึ ในลำคอระหงก่อนเจ้าตัวจะค้อนเขาตาเขียว “มันจะเกินไปไหมคะ” “ไม่เกินหรอก เธอทำผิดสัญญาหากฉันฟ้องร้องเธอจะไม่ได้แม้แต่เห็นหน้าน้องครีมด้วยซ้ำ แถมยังจะต้องติดคุกหัวโตอีกด้วย ถ้าอยากอยู่นี่นี่กับน้องครีมเธอต้องทำตามกฎของฉัน และต้องจ่ายตามที่ฉันต้องการด้วย.. โอเค้..” “ได้..” เหมือนเธอกัดฟันพูดกับเขามากกว่า ดวงตางามก็วาววับด้วยความขุ่นเคืองไม่น้อย แล้วสลักจิตก็หลบตาลงเหมือนเป็นการตัดบทสนทนา คีแรนหัวเราะเบาๆ ในลำคอกับท่าทางของเธอ แล้วเท้าคางมองสองแม่ลูกที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของตนอย่างมีความสุข นี่ล่ะคือความสุขที่เขาอดทนเฝ้ารอมาถึงหกปี...
已经是最新一章了
加载中