บทที่ 8. ความในใจที่แสนเจ็บปวด..? จบตอน   1/    
已经是第一章了
บทที่ 8. ความในใจที่แสนเจ็บปวด..? จบตอน
“มานอนได้แล้วอุ้ม” คีแรนทำเสียงดุๆ เมื่อเห็นท่าทางอิดออดจะออกไปนอนกับลูกที่อยู่อีกห้อง ซึ่งน้องครีมนอนกับพี่สมปอง และเด็กหญิงก็เป็นคนจัดแจงที่หลับที่นอนเองเสร็จสรรพ แน่นอนล่ะ.. เขากับน้องครีมวางแผนร่วมกันว่าใครจะตอนห้องไหนกับใคร... “อุ้มอยากไปนอนกับลูก” “อุ้มก็รู้ดีว่าไม่ได้ มานอนได้แล้ว จะให้คุณคีย์ไปอุ้มหรือจะเดินมาเอง แต่บอกก่อนนะว่าคุณคีย์คิดค่าบริการ..” เขากอดอกมองเธอด้วยแววตาพราวพราย สลักจิตทำปากยื่นแล้วเดินมาที่เตียงแต่โดยดี สลักจิตดีใจมากที่เขาใช้สรรพนามที่สนิทสนมกันเหมือนเคย และมันทำให้เธอใจชื้นขึ้นมาบ้าง “เอะอะๆ คิดค่าบริการ คิดค่านู่นนี่นั่น คุณคีย์หน้าเลือด ใจร้าย..” “หืม.. ว่าผัวแบบนี้จะต้องโดนทำโทษนะรู้ไหม” “ถึงอุ้มไม่ได้ทำอะไรผิดหรือไม่ได้ทำอะไรเลย คุณคีย์ก็จ้องจะลงโทษคิดค่าเสียหายกับอุ้มอยู่แล้วล่ะ ไม่ต้องมาทำพูดดีหรอกค่ะ” “รู้ใจจริงๆ งั้นมาหอมแก้มทีนึง” เขากวักมือเรียกเสียเลย สาวเจ้าทำหน้างอแต่ก็มาหาโดยดีซ้ำยังหอมแก้มเขาเสียเองอีกต่างหาก คีแรนยิ้มกว้างชอบใจ “พอใจมั้ยคะ” “ไม่พอหรอก แบบนี้คุณคีย์เสียเปรียบ..” เธอทำเสียงหึในลำคอ เขาจึงยกร่างบอบบางมานั่งคร่อมร่างของตนไว้ มือหนาสอดเข้าไปในเรือนผมนุ่ม แล้วไล้แก้มสาวนวลปลั่งแผ่วเบาอ่อนโยน “อุ้มรู้หรือรึเปล่าว่าตัวเองทำผิดกับคุณคีย์มากแค่ไหน ทำร้ายจิตใจคุณคีย์มากที่สุด..” ดวงตางามหม่นลงพร้อมทั้งพยักหน้ารับ “อุ้มก็ยอมให้คุณคีย์ลงโทษแล้วไงคะ หรือคุณคีย์ยังไม่พอใจอยากให้อุ้มทำอะไรเป็นการชดเชยให้มากกว่านี้อุ้มก็ทำได้ จริงๆ นะคะ” เธอบอกเขาด้วยแววตามุ่งมั่นจริงใจ เขารู้ว่าเธอรักเขาและยังรักอยู่ เขาเองก็ยังรักเธออยู่เช่นกันแต่เพราะมีเรื่องที่ทำให้เขากับเธอต้องพลัดพรากจากกัน มันไม่ใช่ความผิดของสลักจิตเสียทีเดียว และเขาไตร่ตรองมันมาตลอดหกปีว่าไม่ควรใช้อารมณ์แก้ปัญหา เขาควรมีสติ คิดใคร่ครวญให้รอบคอบเพราะไม่ต้องการจะเสียเธอกับลูกไปอีก แต่ทุกอย่างจะเคลียร์และกระจ่างก็ต่อเมือเจ้าตัวปัญญาตัวต้นเหตุมาจัดการเอง “วันนี้คุณคีย์อยากให้รางวัลอุ้มมากกว่า” เห็นใบหน้าเศร้าๆ ของเธอแล้วเขาก็ไม่อยากจะใจร้ายลงโทษเธอ สู้ให้รางวัลจะดีกว่า ชายหนุ่มคิดอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณคีย์น่ะคิดอยู่แต่เรื่องเดียว” แก้มซีดเซียวเมื่อครู่แดงปลั่งขึ้นมาดูน่ามองน่าหอมที่สุด คีแรนยิ้มบางๆ “อุ้มไม่รู้หรอกว่าคุณคีย์ทรมานแค่ไหน ไม่มีใครแทนที่อุ้มได้สักคน ทุกวันทุกคืนคิดถึงแต่อุ้มคนเดียว ห่วงใยสารพัด อุ้มจะอยู่ยังไง อยู่ที่ไหน จะเป็นยังไง ลูกจะปลอดภัยไหม รู้ไหมว่าคุณคีย์แทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ และโกรธอุ้มมากๆ อยากจะหักคอจิ้มน้ำพริกเสียนัก แต่ก็ทำไม่ลง เพราะอะไรรู้ไหม..” สลักจิตส่ายหน้าช้าๆ ใบหน้าหงอยๆ ดูน่าสงสารไม่น้อย จนเขาไม่อยากแกล้งเธออีกต่อไป “เพราะคุณคีย์รักอุ้มไงล่ะ..” “หา.. อะไรนะคะ” คราวนี้แม่คนหน้างอยเหงาเมื่อครู่หน้าตื่นตาโตเสียงดังอีกต่างหาก “โอ๊ย.. ยายบ๊อง คุณคีย์หูแตกแล้ว..” คีแรนพูดพลางบีบปลายจมูกเธอส่ายไปมาอย่างมันเขี้ยว “คุณคีย์พูดใหม่อีกทีสิคะ” สลักจิตทำตาละห้อยเขย่าแขนเขาเบาๆ “ไม่พูดแล้ว..” คราวนี้เขานี่ล่ะเป็นฝ่ายที่เขินเสียเอง “น่านะ อุ้มอยากได้ยิน คุณคีย์พูดว่าอะไรน้า.. นะคะ พูดอีกทีๆ พูดอีกทีได้รึเปล่า..” เธอทำตาวิบวับออดอ้อน คีแรนหน้าแดงอย่างช่วยไม่ได้และก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักจากเธอ “งั้นอุ้มบอกคุณคีย์อีกทีก็ได้ว่า ไม่ว่าจะวันนั้นหรือวันนี้อุ้มก็รัก รักๆๆ คุณคีย์เสมอ และขอโทษที่อุ้มทำให้คุณคีย์เสียใจ แต่ทั้งหมดนั้นก็เพราะอุ้มห่วงใยคณคีแรนก็เลยต้องหนีไป อุ้มขอโทษนะคะที่โง่เขลา ถ้าวันนั้นอุ้มบอกคุณคีย์ปรึกษาคุณคีย์เราก็คงไม่ต้องจากกัน ไม่ต้องเจ็บปวดถึงหกปี แต่อุ้มสัญญานะคะว่านับจากนี้ อุ้มจะพูด จะบอกเล่าทุกอย่างให้คุณคีย์รับรู้จะปรึกษาคุณคีย์และจะเป็นเพื่อนคู่คิดคู่ใจที่ดีของคุณคีย์ตลอดไป ” สลักจิตบอกพร้อมทั้งโน้มมาจูบแก้มเขาเบาๆ คีแรนประคองใบหน้านวลที่ตรึงใจเขานับตั้งแต่แรกเจอไว้มองลึกเข้าไปในดวงตาสวย “คุณคีย์รู้ รู้ว่าอุ้มตกหลุมรักคุณคีย์ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกันแล้ว..” “ขี้ตู่.. หลงตัวเอง” “แน่นอน เพราะคุณคีย์ก็ตกหลุมรักยายเด็กนักเรียนหน้าตามอมแมมเหมือนแมวหลงทางในคืนนั้นเหมือนกัน.. คุณคีย์รักอุ้มกับลูกที่สุดเลยรู้ไหม..” ทั้งสองมองสบตากันอย่างเข้าใจความรักส่งผ่านทางสายตาช่วงเวลานั้นเหมือนทั้งโลกหยุดเคลื่อนไหว มีเพียงหัวใจสองดวงที่เต้นด้วยจังหวะรักและเข้าใจ “จริงๆ อุ้มอยากเล่าให้คุณคีย์ฟังตั้งแต่แรกเจอกันแล้วค่ะว่าทำไมอุ้มถึงได้หนีไป.. แต่อุ้มกลัวว่าคุณคีย์จะไม่เชื่อ..” ในที่สุดเธอก็ยอมเอ่ยปากถึงสาเหตุที่ทำให้ต้องหนีไป “อุ้มไม่ต้องเล่าหรอก คุณคีย์รู้หมดทุกอย่างแล้วว่ามันเป็นแผนการของชารอน..” สลักจิตนั่งงัน ฟังเรื่องราวที่คีแรนเล่าให้ฟังคร่าวๆ และบอกเธอว่าชารอนอยากจะพบเธอเพื่อขอโทษและชารอนจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เธอฟังเอง “แต่คุณคีย์ทำเหมือนโกรธอุ้ม..” สลักจิตหรี่ตามองเขาเหมือนจับผิด คีแรนกระแอมในลำคอเบาๆ รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “ก็.. คุณคีย์ก็แค่ ยังไม่หายโกรธไง แค่ยังงอนอยู่” “อ้อ... อย่างนั้นหรือคะ ก็เลยแกล้งอุ้มใช่ไหมคะ” “ก็.. ไม่ใช่หรอกน่า คุณคีย์รักอุ้มมากขนาดนี้จะแกล้งได้ยังไงกัน..” “นั่นสินะคะ คุณคีย์จะแกล้งอุ้มทำไมกัน” สลักจิตทำทีเออออกับเขาด้วย คีแรนจังหยุดการสนทนาอันจะนำพาเขาไปสู่ความซวยนี้เสียด้วยการพลิกร่างเธอลงบนที่นอนนุ่ม “เราเลิกคุยกันเรื่องนั้นดีกว่า” “ไม่เอาค่ะ อุ้มอยากเล่าอยากคุย” สลักจิตบ่ายเบี่ยงพยายามหลบตาคมของเขาอย่างขัดเขิน แต่คีแรนไม่ยอมให้เธอหลบหลีกไปไหนได้อีก “คุณคีย์ไม่อยากคุยนี่นา อยากทำอย่างอื่นมากกว่า” และไม่ต้องพูดอะไรให้เสียเวลาเขาก็ปิดปากคนที่กำลังจะประท้วงทันที คีแรนร่ายมนต์จุมพิตหวานล้ำหลอกล่อให้เธอคล้อยตามได้ไม่ยาก ชายหนุ่มมปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างงามอย่างรวดเร็ว ดวงตาคมมองร่างเปลือยเปล่าตรงหน้าอย่างแสนรักและหวงแหน ในขณะที่เธอเองก็มองเขาด้วยแววตาเช่นเดียวกัน มือเล็กลูบไล้เรือนกายแข็งแรงของเขาอย่างซุกซนและยั่วเย้า ทั้งยังเป็นฝ่ายพลิกกายขึ้นทาบทับเขาอย่างอาจหาญและเป็นเขาเองที่ตกเป็นทาสสวาทของเธออย่างไม่อาจจะถอนตัวได้ เพลิงเสน่หาค่อยๆ ลุกลามร้อนแรงขึ้น และเต็มไปด้วยความรักที่เข้าอกเข้าใจของพวกเขา... ชารอนเดินไปเดินมาอย่างกลัดกลุ้มทั้งวิตกกังวล คิดไปต่างๆ นานา คุณย่าแครอลมองหลานสาวแล้วก็ถอนใจเบาๆ แล้วเอ่ยขึ้น... “ชารอน.. หยุดเดินได้แล้วย่าเวียนหัว” “คุณย่าขา.. ชารอนจะทำไงดีคะ” หญิงสาวที่บัดนี้ได้รู้และสำนึกถึงสิ่งที่ตนทำลงไปและรู้สึกละอายจนไม่กล้าสู้หน้าคนที่เธอเคยทำร้าย จึงได้มาร้อนรุ่มกลุ้มใจอยู่อย่างนี้ “ชารอนกลัวจังเลยค่ะ” “แล้วตอนที่ทำไม่ยักจะกลัว” คุณย่าค้อนอย่างหมั่นไส้ “โธ่.. คุณย่าขา ตอนนั้นชารอนมันงี่เง่าเอาแต่ใจแล้วก็โง่มากๆ ไงล่ะคะ” หญิงสาวพ้อผู้เป็นย่าหน้างอง้ำ “ตอนนี้ชารอนรู้แล้วว่า ตัวเองทำผิดร้ายแรงแค่ไหน ชารอนอยากชดใช้ให้อุ้มกับน้องครีมที่สุด คุณย่าขาถ้าอุ้มเขาไม่ยกโทษให้ชารอน ชารอนจะทำไงคะ” คราวนี้หญิงสาวตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้ มันเป็นความรู้สึกขลาดกลัวอย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน คุณย่าแครอลถอนใจเบาๆ “ย่าเชื่อว่าคนอย่างอุ้มใจดีและจะยกโทษให้อภัยชารอนของย่าแน่นอนจ้ะ” “จริงหรือคะ.. แต่ชารอนร้ายกับเธอมากนะคะ” “ย่าเชื่อว่าคีแรนเลือกคนไม่ผิด สลักจิตต้องเป็นคนดีคีแรนถึงยอมเลือก ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมาเป็นเมีย เป็นแม่ของลูก.. หรือชารอนไม่คิดแบบนั้น” ชารอนพยักหน้าเห็นด้วย “แต่.. คนดีเขาก็โกรธเป็นนี่คะคุณย่า” “โกรธได้ก็หายได้นี่นา ถ้าชารอนอยากจะขอโทษอุ้มจริงๆ ย่าเชื่อว่ารอนของย่าจะต้องทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้อุ้มเห็นและยกโทษให้หลานของย่าอย่างแน่นอน” คุณย่าลูบเรือนผมนุ่มอย่างให้กำลังใจ “ชารอนจะพยายามค่ะ” “ดีแล้วลูก เมื่อเราทำผิดก็ควรยอมรับและแก้ไข.. พวกเราควรจะมีความสุขกันได้แล้ว หกปีที่ผ่านมาเราเจ็บปวดกันพอแล้ว” ชารอนน้ำตาซึมโผเข้ากอดคุณย่าแน่น ดวงตางามเอ่อด้วยหยาดน้ำตา “ชารอนขอโทษนะคะที่ทำให้ทุกคนเจ็บปวด ต่อจากนี้ไปชารอนจะไม่ทำให้ใครต้องเจ็บปวดอีก” หญิงสาวบอกอย่างหนักแน่น แล้วภาพในวันวานก็เข้ามาในความทรงจำ... หกปีก่อน... หลังจากที่เธอนัดเจอกับไลลาแล้ว ชารอนก็ครุ่นคิดหาทางหลอกสลักจิตออกมาข้างนอกกับตนโดยอ้างว่าอยากจะออกมาเปิดหูเปิดตาและเธอก็แสร้งเป็นทำดีกับสลักจิต สลักจิตดีใจมากที่เธอไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจเหมือนในตอนแรกที่เจอกันทำให้แผนของเธอง่ายขึ้น.. “เราจะไปไหนกันคะ” สลักจิตถามเธอเมื่อเห็นว่าหลังจากที่ซื้อของแล้วชารอนไม่ได้พากลับบ้าน “ไปหาเพื่อนน่ะ นัดกินข้าวกัน” “อ้อ.. ค่ะ” ชารอนปรายตามองแล้วยิ้มน้อยๆ อย่างพอใจเมื่อเห็นว่าสลักจิตไม่ได้เอะใจอะไร จนเมื่อเธอให้คนขับรถมาจอดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างร่มรื่นและบรรยากาศดี เธอก็พาสลักจิตเข้าไปในร้าน และเมื่อสลักจิตเห็นไลลาก็ชะงักเล็กน้อย “มีอะไรหรือ” “เปล่าค่ะ..” “นี่เพื่อนฉัน ไลลา” สลักจิตหน้าซีดไปอย่างเห็นได้ชัด “หวัดดีจ้ะ ฉันคิดว่าฉันจำเธอได้นะ” ไลลาเล่นไปตามแผนที่วางไว้ ชารอนยิ้มบางๆ “อ้าวเธอรู้จักพี่สะใภ้ฉันด้วยเหรอ” “รู้จักสิ เราเคยเจอกันที่สนามบินไง จำฉันได้ไหม” “ค่ะ..” “แหม.. บังเอิญจังไม่คิดเลยว่าโลกจะกลมขนาดนี้ เอาล่ะ เราสั่งอะไรกันดี อุ้มจ๊ะอยากกินอะไรสั่งได้เลยนะ..” ชารอนพูดยิ้มๆ แล้วก็จัดการสั่งอาหารกับไลลาพูดคุยกันอย่างสนิทสนม ชารอนหันมามองคนที่นั่งนิ่งไม่ยอมสั่งอาหารแล้วก็ยิ้มให้ “สั่งสิจ๊ะอุ้มอยากกินอะไร สั่งได้เลยวันนี้ฉันเลี้ยงเอง..” “เอ่อ.. อุ้มไม่ค่อยหิวค่ะ..” “ไม่หิวก็ต้องกินเพื่อหลานของฉันนะจ๊ะ” “งั้นอุ้มขอต้มจืดเต้าหู้สาหร่ายก็ได้ค่ะ” ชารอนพยักหน้าแล้วเรียกพนักงานมาเพื่อสั่งอาหาร ไม่นานอาหารหลากหลายอย่างก็มาเรียงตรงหน้า ทั้งสามสาวรับประทานอาหารกันไปเรื่อยๆ จนเมื่ออิ่มแล้วชารอนก็เอ่ยขึ้น “ไลลาเธอบอกว่ามีเรื่องอะไรจะบอกเราเหรอ” สลักจิตหันไปมองไลลา “ความจริงฉันก็ไม่อยากจะบอกเธอหรอกนะชารอน น้องอุ้ม..” ไลลาถอนใจเบาๆ ทำหน้ายุ่ง “มีเรื่องอะไรหรือ มันเกี่ยวกับฉันกับอุ้มหรือ” ชารอนทำหน้าตกอกตกใจ “เกี่ยวหรือเปล่าฉันไม่รู้ แต่เกี่ยวกับพี่ชายเธอแน่ๆ ฉันไม่อยากจะบอกเลย น้องอุ้มก็ท้องอยู่ กลัวว่าจะได้รับผลกระทบ” “บอกมาเถอะ พูดแบบนั้นฉันยิ่งกังวล” ชารอนทำทีเร่งเร้า “มีอะไรเกี่ยวกับคุณคีย์หรือคะ” สลักจิตก็อดรนทนไม่ไหวจึงถามออกไป ไลลากับชารอนลอบยิ้มให้กัน “คือแบบนี้นะน้องอุ้ม พี่ก็ไม่อยากจะเอามาพูดเลย แต่ก็ห่วงน้องอุ้มกับคุณคีย์อีกอย่างถ้าเกิดอะไรขึ้นชารอนก็คงจะโกรธพี่ที่ไม่ยอมบอก..” “มีเรื่องอะไรร้ายแรงหรือคะ” สลักจิตมีท่าทีร้อนใจ “คือแบบนี้นะ เอางี้ดีกว่า อุ้มดูเอาเองก็แล้วกัน..” ไลลาหยิบสมาร์ทโฟนของตนมาเปิดรูปและคลิปให้สลักจิตกับชารอนดู และเมื่อเห็นรูปต่างๆ ในโทรศัพท์สลักจิตก็หน้าซีดลงทันทีแทบปล่อยสมาร์ทโฟน หลุดมือเลยทีเดียว.. “น้องอุ้ม.. เป็นไงบ้าง โธ่.. พี่ไม่น่าให้อุ้มดูเลย..” ไลลาเข้ามากอดสลักจิตลูบหลังลูบไหล่อย่างปลอบประโลมแต่ก็ลอบสบตากับชารอนอย่างสมใจ...
已经是最新一章了
加载中