2. การให้อภัย คือการให้ที่ล้ำค่า   1/    
已经是第一章了
2. การให้อภัย คือการให้ที่ล้ำค่า
“คีแรน..” คุณย่าเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน เพราะเมื่อชารอนออกไปทั้งห้องก็เงียบเชียบทั้งนางกับคีแรนไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาเป็นเวลาเนิ่นนานหลายนาที “น้องสำนึกผิดแล้วจริงๆ และกำลังจะเดินทางไปเมืองไทยกับนีโอเพื่อตามหาสลักจิต..” คีแรนยังคงนั่งนิ่งไม่พูดอะไรออกมา คุณย่าถอนใจเบาๆ โอบกอดเขาไว้เหมือนเขาเป็นเด็กเล็กๆ ที่กำลังเคว้งคว้างเหว่ว่าท่ามกลางความเจ็บปวด “ย่าเชื่อว่าชารอนจะต้องตามหาสลักจิตพบ และพวกเราจะได้อยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง.. ย่ามีกำลังใจอยู่จนวันนี้ก็เพราะอยากเจอพวกเขา อยากรู้ว่าเขายังอยู่ดีไหม และเหลนของย่าน่ารักแค่ไหน..” “ผมคิดถึงพวกเขาเหลือเกิน ผมรักสลักจิตและอยากอยู่กับเธอตลอดไป” ชายหนุ่มพูดเบาๆ ดวงตาคมเหม่อลอยอยู่ในความมืดมนมีน้ำตาไหลออกมาช้าๆ อีกครั้ง “ย่ารู้.. ย่ารู้.. เราจะต้องได้เจอพวกเขาอีกครั้ง คีแรนต้องรักษาตัวเองให้หายดี และมีกำลังใจที่จะอยู่เพื่อได้พบกับพวกเขานะ” “ผมจะอยู่เพื่อพวกเขา..” ชายหนุ่มซุกหน้ากับอกอบอุ่นของผู้เป็นย่าและสะอื้นเบาๆ เหมือนเด็กชายตัวน้อยที่เสียขวัญ คุณย่าลูบหลังเขาเบาๆ “อภัยให้น้องเถอะลูก.. อย่างน้อยๆ ชารอนก็สำนึกผิดและทนทุกข์ทรมานไม่ต่างกับพวกเรา..” “ครับ..” “ครอบครัวเราจะต้องกลับมาพร้อมหน้าและเต็มไปด้วยความสุขอีกครั้ง.. ขอแค่เรารัก เข้าใจ และให้อภัยกันและกัน.. เรามีกันอยู่แค่นี้ และหากไม่มีชารอน เราก็คงลำบาก.. ตอนนี้เราต้องพึ่งพาชารอนเป็นอย่างมาก คีแรนรู้ใช่ไหมว่าน้องไปทำงานแทนและทำได้ดีด้วย นีโอก็คอยมาช่วยด้วยนะ..” คุณย่าเล่าให้ฟัง คีแรนพยักหน้าช้าๆ “ครอบครัวคือพื้นฐาน คือปัจจัยสำคัญในการสร้างชีวิตที่ดี ถ้าพื้นฐานของคนที่มาจากครอบครัวที่ดี ไม่ใช่แค่รวยเพียงอย่างเดียวแต่ไม่มีความรักไม่มีการสอนสั่งที่ดี พวกเขาก็จะเติบโตไปเป็นคนไม่ดี เป็นภาระเป็นตัวปัญหาของสังคม เช่นกัน ถ้าเราไม่สอน ไม่ให้บทเรียน แก่ชารอน เขาก็จะไม่มีทางรู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับสิ่งที่ทำผิดพลาดไป และเมื่อเขาผิดพลาดแล้ว และสำนึกแล้ว และเราไม่ยอมยกโทษ ไม่ยอมให้อภัย ไม่ให้โอกาสเธอแก้ตัว ผลักไสเธอออกจากชีวิตไป คีแรนคิดว่ามันจะเป็นผลดีหรือผลร้าย.. เราสูญเสียกันมาพอแล้วหรือยัง..” คีแรนนิ่งฟังคุณย่าพูดและคิดตามช้าๆ สติที่หลุดเลื่อนลอยเพราะความเศร้าเสียใจกลับคืนมา... “ครับ.. ผมเองก็ผิดที่ไม่ยอมพูดไม่ยอมบอกความจริงกับทุกคนว่าผมรักสลักจิตมากแค่ไหน และต้องการเธอเป็นภรรยา ต้องการมีลูกต้องการสร้างอนาคตกับเธอ ทำให้ชารอนเข้าใจผิดและคิดว่าสลักจิตเป็นคนไม่ดี” “ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาดหรอกคีแรน ทุกคนล้วนเคยผิดพลาด ร้ายแรงมากน้อยต่างกัน.. แค่คีแรนได้สติ ได้คิด และกลับมาเป็นคีแรนคนเดิมย่าก็ดีใจแล้ว” คุณย่าประคองใบหน้าหล่อเหลาที่ซูบซีดหมองคล่ำของหลานชายอย่างรักใคร่เมตตา “นับจากนาทีนี้ คีแรนต้องกลับมาเป็นคนเดิมของย่านะ และเรารอข่าวดีกัน” “เราจะได้รับข่าวดีหรือครับผมกลัวเหลือเกิน” “อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้สิจ๊ะ เราต้องมีความหวังนะ เชื่อย่า ชารอนจะต้องทำสำเร็จ..” “ครับ.. ผมจะเชื่อคุณย่า และ.. เชื่อใจชารอน” คุณย่ายิ้มกว้าง สองย่าหลานกอดกันอย่างรักใคร่อีกครั้ง ความมืดมนที่ปกคลุมในใจของพวกเขาค่อยๆ จากหายไป แสงสว่างเรืองรองขึ้นในชีวิตของพวกเขาอีกครั้งหลังจากที่พวกเขาจมอยู่กับความเศร้าโศกเสียใจมานานแรมปี... นับจากนี้พวกเขาก็แค่รอคอยความหวัง ว่าจะได้เจอสลักจิตกับลูกอีกครั้ง... ชารอนกำลังครุ่นคิดว่าการไปทำงานวันนี้จะต้องเจอกับอะไรบ้าง เธอตัดสินใจแล้วว่าจะต้องไปทำงานแทนพี่ชายเพื่อทำให้บริษัทของเธอยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้ เธอจะได้รับการยอมรับจากพนักงานรวมถึงคณะกรรมการบริษัทหรือเปล่าหนอ หญิงสาวถอนใจอีกครั้งแล้วเดินไปเปิดประตูแต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อพบว่าคีแรนอยู่หน้าห้องของเธอ “พี่คีแรน” “จะไปทำงานแล้วหรือ” เพียงแค่คำทักทายแสนธรรมดาแต่ทำให้ใจของเธอพองโตด้วยความยินดี น้ำตาที่คิดว่าแห้งเหือดไปแล้วไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอรีบวางกระเป๋าเอกสารแล้วโผเข้ากอดคนที่ใช้ไม้เท้าค้ำยันตัวเองอยู่ด้วยความดีใจ.. “พี่คีแรนของน้อง ชารอนขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณ” หญิงสาวร้องไห้เหมือนเด็กๆ คีแรนโอบกอดเธอไว้แล้วลูบเรือนผมสีทองอร่ามเบาๆ “ยายตัวร้าย ทำมาเป็นขี้แย” “ฮือๆๆ ชารอนเสียใจ” “พี่รู้ เราทุกคนเสียใจ..” ชารอนผละออกเช็ดน้ำตาป้อยๆ ใบน้างามหม่นเศร้า “เพราะชารอนคนเดียวเลยที่ทำให้ทุกอย่างมันแย่ๆ” “ตอนนี้ดีขึ้นแล้วเพราะชารอนด้วยเหมือนกัน” คีแรนวางมือบนศีรษะเธอแล้วโยกไปมา “ชารอนจะทำทุกอย่างเพื่อให้พี่คีแรนได้พบกับสลักจิตและลูกค่ะ และจะต้องดูแลงานของพี่อย่างดีจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังในตัวน้องอีก..” “พี่รู้แล้ว คุณย่าบอกว่าตอนนี้ชารอนเข้าไปทำงานแทนพี่” “พี่คีแรนต้องรีบหายนะคะ ชารอนสัญญาว่าจะพาพวกเขากลับมาเป็นครอบครัวของเราและจะทำงานแทนพี่ไปด้วยแต่อะไรที่เกินความสามารถของชารอนจะชารอจะให้พี่ช่วย..” หญิงสาวบอกอย่างมุ่งมั่น คีแรนยิ้มบางๆ ให้น้องสาวแม้ตอนนี้ดวงตาเขาจะเห็นเพียงเลือนราง แต่เขามั่นใจว่าชารอนต้องทำสำเร็จ... “พี่ช่วยเหลือน้องสาวของพี่อยู่แล้ว จะรอพบเมียกับลูกพี่นะ” “ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ชารอนรักพี่คีแรนนะคะ” “พี่ก็รักชารอน น้องสาวคนเก่งของพี่” สองพี่น้องกอดกันอย่างเข้าอกเข้าใจ คุณย่าแครอลซึ่งเฝ้ามองพวกเขาอยู่ห่างๆ ยิ้มกว้างและน้ำตาไหลด้วยความตื่นตันใจ “คุณหมอบอกว่าอาการของคุณย่าดีขึ้น” “รู้แล้ว” ชารอนถอนใจเบาๆ แล้วไม่สนใจคนที่เฝ้าวนเวียนอยู่กับเธอมาตลอดตั้งแต่เกิดเรื่อง สองปีมาแล้วแล้วที่เธอเห็นหน้าเขาแทบทุกวันจนกลายเป็นความเคยชิน แต่ก็อดไม่ได้ที่เจอหน้ากันแล้วจะต้องมีเรื่องให้ต่อปากต่อคำกันทุกครั้ง “พี่คีแรนก็ดีขึ้นด้วย” “อันนี้ก็รู้แล้ว.. นายมายุ่งอะไรเนี่ย บ้านช่องตัวเองมีทำไม่กลับไป งานตัวเองก็มีทำ ทำไมไม่ไปทำยะ มาวุ่นวายอยู่ได้” ชารอนวางปากกาลงมองชายหนุ่มที่ยิ้มเผล่ให้แล้วเมินหน้าหนี พยายามบอกตัวเองว่าอย่าหวั่นไหวกับนายหน้าทะเล้นจอมกวนตรงหน้า “ก็ตอนนี้ผมเป็นหุ่นส่วนของป้าแล้ว ลืมรึไง” “ไม่ใช่หุ้นส่วนของฉันย่ะ ฉันก็ลูกจ้างพี่คีแรนเหมือนกัน” “นั่นล่ะน่า ก็เหมือนๆ กันนั่นล่ะ” อันโตนิโอมองใบหน้าที่หม่นลงของคนที่ทำงานหนักมาตลอดสองปีที่ผ่านมาอย่างเห็นใจ เขารู้ว่าชารอนต้องแบกรับภาระงานของคีแรนทุกอย่างในช่วงที่คีแรนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และยังไม่สามารถมาทำงานได้เต็มที่ ในปีแรกๆ ชารอนต้องรับบทหนักทีเดียวแต่มาปีนี้งานทุกอย่างลงตัวแล้วและคีแรนก็สามารถทำงานได้บ้างแล้ว แต่งานส่วนใหญ่ชารอนก็ยังเป็นผู้จัดการบริหารเวนเสียแต่เป็นโครงการใหญ่ๆ และสำคัญคีแรนจึงจะเข้ามาช่วยตัดสินใจ ช่วงแรกที่เข้ามาทำงานแทนพี่ชายชารอนต้องแสดงความสามารถให้คณะกรรมการบริษัทเห็นว่าเธอสามารถบริหารจัดการแทนพี่ชายได้อย่างไม่มีข้อกังขาไม่มีข้อบกพร่องและต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับทุกคน ต้องตัดสินใจอนุมัติงบประมาณและโครงการต่างๆ ของบริษัท เรียกได้ว่ามีอะไรดีๆ เธองัดออกมาโชว์ให้ทุกคนเห็นว่าเธอไม่ใช่หญิงสาวเจ้าอารมณ์ที่เอาแต่เที่ยวเตร่ ราวีสาวๆ ของพี่ชายไปวันๆ ชารอนจัดแฟชั่นโชว์ชุดเครืองประดับและเสื้อผ้าที่เธอออกแบบเองอย่างอลังการเพื่อเป็นการโปรโมทบริษัทและโครงการใหม่ของบริษัทเพื่อให้นักธุรกิจและลูกค้าให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะออกสู่ตลาด ชารอนทำให้ลูกน้องของคีแรนยอมรับในตัวเธอและพวกเขาก็ทำงานให้ชารอนอย่างถวายหัวเลยทีเดียว งานจึงออกมาเพอร์เฟคและ ชารอนก็สามารถพาทีมงานของเธอคว้ารางวัลต่างๆ ที่ส่งเข้าแข่งขันกับบริษัทอื่นๆมาได้ด้วย “กลุ้มล่ะสิ” “รู้มาก” หญิงสาวค้อนเขาแล้วเมินหลบตา อันโตนิโอจึงเดินไปนั่งข้างๆ อย่างไม่แคร์สายตาขุ่นเขียวของเธอ อันโตนิโอรู้ว่าชารอนกลุ่มเรื่องอะไร เธอกำลังกลุ่มเรื่องพี่ชายนั่นล่ะ แม้ตอนนี้อาการทางกายของคีแรนจะดีขึ้นบ้างแล้ว แต่สภาพจิตใจก็ยังคงน่าห่วงเพราะตอนนี้พวกเขายังตามหาสลักจิตไม่พบ และชารอนจะบินไปเมืองไทยบ่อยๆ เพื่อตามหาสลักจิตทั้งจ้างนักสืบแต่ก็ยังไร้วี่แวว... “ผมช่วยได้นา ผมช่วยเพื่อนหาเมียได้หลายคนแล้ว” “มันเกี่ยวอะไรกันตรงไหน ถ้าเก่งจริง ทำไมตัวเองไม่มีเมียเหมือนเพื่อนล่ะ ขี้โม้..” ชารอนมองค้อนแล้วทำมีสนใจงานตรงหน้า “ผมเล่นตัวไง หล่อเลือกได้..” อันโตนิโอยิ้มเผล่ หญิงสาวมองค้อนอย่างแสนจะหมั่นไส้ “ผมช่วยป้าตามหาเมียพี่คีแรนได้ก็แล้วกันน่า “อย่ามาล้อเล่น ไม่ชอบ” “ไม่ได้อยากให้ชอบ อยากให้รักเลย ฮ่าๆ” ชายหนุ่มทำทีเล่นทีจริง ใบหน้างามแดงเรื่อขึ้นมาเล็กน้อยก่อนที่ทำตาดุๆ ใส่ “อย่ามาล้อเล่นกับฉันนะ ไม่ใช่เพื่อนเล่น” “ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนเสียหน่อย แต่ผมพูดจริงๆ นะ ผมช่วยได้ มีเพื่อนคู่คิดมันดีกว่าคิดมากคนเดียวน่า” “เอาล่ะๆ พูดมาๆ รำคาญ” “ป้าก็แค่ไปตามหาเขากลับมาแค่นั้นเอง...” “แค่นั้นเอง เหอะ.. พูดเหมือนง่าย.. ใครจะไปรู้ว่าสลักจิตไปอยู่ที่ไหน ฉันตามเขาหามาเป็นปีๆ แล้วยังไม่เจอเลย” พอพูดถึงสลักจิตแล้วหัวใจของเธอก็ห่อเหี่ยว ความรู้สึกผิดโจมตีเข้ามาในใจ.. “ผมถึงบอกว่าผมช่วยได้ไง..” อันโตนิโอหยิบสมาร์ตโฟนของตนออกมาพร้อมกับหยิบบางอย่างออกมาจากซองเอกสาร “ผมให้คนไปตามสืบหาเพื่อนรักของเมียพี่คีแรน บังเอิญจริงๆ ที่เพื่อนของเพื่อนผมเป็นคนรักของเขา นี่ไง” อันโตนิโอยื่นรูปของคู่รักซึ่งเป็นชายทั้งสองคนให้ชารอนดู “คนนี้คือเพื่อนของเมียพี่คีแรนชื่อ รันนี่ ออกเสียงว่าไงนะ สา รน สะ รัน ศรัณ ใช่ ชื่อจริงๆ เขาเรียกแบบนั้น” “แล้วเขาจะบอกฉันเหรือว่าสลักจิตอยู่ที่ไหน ฉันทำร้ายเพื่อนเขาขนาดนั้น” “ก็ต้องลองดู ป้าลองตามหาแล้วไม่เจอไม่ใช่เหรอ นี่คือทางเลือกสุดท้ายของป้าแล้วล่ะ” “นี่เลิกเรียกฉันว่าป้าสักที ฉันยังไม่แก่ขนาดนั้นสักหน่อย” “แล้วให้เรียกว่าอะไร ที่รักเหรอ” “ทะลึ่ง” ชารอนถลึงตามองเขา อันโตนิโอหัวเราะเบาๆ “เรียกอะไรก็เรื่องของนาย แต่ห้ามเรียกป้ากับที่รัก” “ว้า.. แย่จัง สำหรับผมแล้ว มีแค่สองคำที่จะเรียก คือ ป้า กับที่รัก ทำไงดีล่ะ” “โอ๊ย.. ไม่อยากพูดด้วยแล้ว จะไปไหนก็ไปเลยไป” ชารอนโวยขึ้นทำท่าจะเหวี่ยงหมัดใส่เขา อันโตนิโอลุกขึ้นหลบอย่างเร็วไวแล้วหัวเราะร่วนชอบอกชอบใจที่ยั่วให้เธอของขึ้นได้ “เอาล่ะๆ ผมไม่ล้อแล้ว เอาเป็นว่าจะเอายังไงเรื่องนี้” “ขอคิดดูก่อน” “โหย คุณคร้าบบ มีอะไรให้ต้องคิดคร้าบบ นี่ล่ะคือสิ่งที่ป้าควรทำ รีบๆนะก่อนจะสายเกินไป ผมได้ข่าวว่า คุณรันนี่จะกลับเมืองไทยเดือนหน้า ผมว่าเขาเป็นเพื่อนกัน เขาก็ต้องติดต่อกันไม่ทิ้งกันแน่นอน” “นายคิดแบบนั้นเหรอ แล้วถ้าเขาไม่ได้ติดต่อกันล่ะ..” “เราก็ต้องลองเสี่ยงไง” “เรา เหรอ..” ชารอนเสียงสูง “แน่นอน เรา.. เพราะหากป้าไปคนเดียว มีหวังล่มไม่เป็นท่า ต้องให้คนหล่อๆ อย่างผมไปด้วย ช่วยได้แน่นอน” ชารอนทำหน้าอิหลักอิเหลื่อแล้วมองรูปถ่ายของชายคู่นั้นในมืออย่างชั่งใจ...
已经是最新一章了
加载中