4. วันนี้ที่รอคอย   1/    
已经是第一章了
4. วันนี้ที่รอคอย
ในที่สุดก็มีวันนี้.. ชารอนมองภาพครอบครัวแสนอบอุ่นของพี่ชายอย่างมีความสุข เธอตัดสินใจไม่ผิดที่ยอมทิ้งทิฐิ ยอมทิ้งศักดิ์ศรีคุกเข่าขอร้องให้ศรัณบอกที่อยู่ของสลักจิตจนเธอสามารถตามไปจนพบว่าสลักจิตอยู่ที่ไหนและเธอก็รีบบอกให้คีแรนมาหาลูกกับเมียของเขา และในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจกัน และเธอก็ยังคงเป็นที่รักของทุกคนเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือตอนนี้เธอหลงรักน้องครีม เด็กหญิงแก้มยุ้ยแสนน่ารักหลานสาวของตนและ น้องฌอร์น หลานชายคนใหม่มากๆ เธอได้ปรับความเข้าใจกับสลักจิตและได้รับการให้อภัยจากทุกคน การยอมรับผิดและแก้ไขความผิดพลาดมันดีแบบนี้นี่เอง หากเธอไม่ยอมรับไม่ยอมแก้ไขมัน วันนี้เธอคงไม่มีความสุข ตอนนี้เธอกับสลักจิตเข้าขากันได้อย่างดี และเธอก็ได้เรียนทำอาหารกับสลักจิตจนสามารถทำอาหารได้หลากหลายอย่างแล้วด้วย... แม้เธอจะได้ครอบครัวที่อบอุ่นกลับคืนมาแต่เหมือนบางส่างบางอย่างในชีวิตกลับขาดหายไป อีตาบ้านั่นหายหัวไปไหนกันนะ ไม่ติดต่อมาเลยหลายวันแล้วปกติจะส่งข้อความกวนๆ มาให้ หรือบางวันก็โทร.มายั่วแหย่เธอ... นี่เธอไม่ได้คิดอะไรกับอีตานีโอนั่นใช่ไหม.. หญิงสาวสะบัดศีรษะแรงๆ ไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปแล้วพยายามหาอะไรทำเพื่อให้ลืมเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ แต่มันก็ยากไม่น้อย... ตกเย็นวันหนึ่งในขณะที่เธอกับสลักจิตกำลังจัดโต๊ะอาหารและมีที่นั่งพิเศษสำหรับแขกของคีแรนด้วย น้องครีมก็เดินร้องเพลงเข้ามาในห้องรับประทานอาหารพร้อมด้วยดอกไม้ช่อสวย “สวยไหมคะคุณอาขา” “สวยมากจ้ะ หนุ่มๆ ที่ไหนให้ดอกไม้เจ้าหญิงแสนสวยของอาน้า” “หนุ่มคนนี้หล่อมากด้วยค่า คุณอา” “แหม.. แก่แดดจริงหลานฉัน” ชารอนขยี้เรือนผมหลานสาวเบาๆ อย่างมมันเขี้ยว “จริงๆ ดอกไม้นี้เป็นของคุณอานะคะ น้องครีมแค่ถือมาให้” ชารอนขมวดคิ้วยุ่งแต่ก็รับดอกไม้ช่องามจากมือน้องครีมมา “ใครนะ ช่างรู้ใจว่าคุณอาชอบกุหลาบสีม่วง” “ต้องเป็นคนรู้ใจคุณอาแน่นอนเลยค่ะ ถ้ารู้ใจขนาดนี้อย่าปล่อยให้หลุดมือนะคะ” “แก่แดดรู้มากไปแล้วนะเราเนี่ย” ชารอนบีบแก้มยุ้ยๆ ของหลานสาวอย่างมันเขี้ยวสุดกำลังกับความแก่นแก้วแสนซนของน้องครีม “คุณพ่อมาแล้วๆ” น้องครีมพูดขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นพ่อเดินเข้ามากับชายหนุ่มอีกคนที่พอชารอนเห็นว่าเป็นใครที่มากับพี่ชายก็หน้างอง้ำ แต่ทำไมนะใจของเธอมันเต้นแรงด้วยความยินดีแบบนี้ หญิงสาวพยายามทำหน้าให้บึ้งตึงและส่งสายตาเขียวๆ ไปให้แขกของพี่ชาย... “อย่าบอกนะคะว่า แขก ของพี่คีแรนคืออีตานี่” ชารอนกระแทกเสียงใส่พี่ชายที่หันไปหอมแก้มเมียกับลูกสาวและลูกชายตัวน้อยวัยหกเดือนอย่างรักใคร่ ซึ่งเป็นปกติที่ทุกคนต่างก็ชินกับการแสดงความรักของพวกเขา “อ้าว.. นี่ชารอนไม่รู้หรอกหรือว่านีโอ เขาจะมากินข้าวกับเรา” คีแรนทำหน้านิ่งเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ทั้งที่ตนวางแผนนี้กับหนุ่มรุ่นน้องที่อยากได้มาเป็นน้องเขย อยากได้คนที่มาสอยน้องสาวที่อยู่บนคานลงมาเสียที “ตอนนี้นีโอก็เป็นผู้บริหารเต็มตัวแล้วนะ” คีแรนมีท่าทางภาคภูมิใจในตัวอันโตนิโอเป็นอย่างมาก ชารอนเบ้ปากอย่างหมั่นไส้คนที่ทำมาดกวนใส่เธอ “ป้าคงแอบปลาบปลื้มผมอยู่ในใจแน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ” “หึ.. ปลื้มตายล่ะ หลงตัวเอง” แน่นอนเธอรู้ดีว่าอันโตนิโอชายหนุ่มอายุ 28 ปี ณ ตอนนี้ ได้กลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง เนื้อหอมมีสาวๆ รุมตอมเพียบ เขารุ่นน้องที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันกับคีแรน หรืออีกนัยหนึ่งก็เป็นญาติห่างๆ กันกับครอบครัวของพวกเธอนี่เอง ซึ่งตอนนี้อันโตนิโอก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของประธานบริหารบริษัทและพวกเขากำลังขายธุรกิจด้านเครื่องประดับและบริษัทออกแบบเครื่องประดับรวมไปถึงด้านแฟชั่นที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก “เอาล่ะๆ อย่าเถียงกันมากินข้าวดีกว่า ชารอนนี่ก็ไม่ต้องทำหน้าดุใส่แขกพี่มากนัก เดี๋ยวนีโอมันจะฝันร้าย “พี่คีแรนน่ะ.. ว่าน้อง” ชารอนหน้างอ คีแรนหัวเราะกับท่าทางเง้างอดของน้องสาว แล้วหันไปมองอันโตนิโอที่ทำท่ากวนๆ ยียวนใส่ชารอน อันโตนิโอเป็นชายหนุ่มเชื้อสายเดนมาร์ก อิตาลี ที่หน้าตาหล่อเหลาคมเข้ม ผิวสีแทน ร่างสูงใหญ่สมาร์ต นั้นเรียกได้ว่ามีเสน่ห์หาตัวจับยาก ทั้งฐานะที่มั่นคง มีหน้าตาทางสังคมไม่ด้อยกว่าชายหนุ่มคนไหนที่เข้ามาแจกขนมจีบชารอน แต่เพราะความเย่อหยิ่งเป็นคนที่หาคนอยู่ด้วยยากอย่างชารอนนั้น ไม่มีใครสักคนที่ผ่านด่านอรหันต์ยอดเยอะของเจ้าหล่อนมาได้ จนอายุย่างเข้าสามสิบสองแล้วชารอนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเดทกับชายหนุ่มคนไหน ซ้ำยังไม่เคยมีแฟนหรือคนรัก แม้แต่เพื่อนชายคนสนิทก็ไม่มี ด้วยความที่ชารอนเป็นคนแบบนี้ ทำให้เธอมีเพื่อนน้อยแต่ชารอนก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการคบหาเพื่อนและไม่เห็นว่าเธอจะเดือดร้อนที่ไม่มีเพื่อนเยอะแยะเหมือนคนอื่น เธอมักมีโลกส่วนตัวของตน ชอบวาดรูปถ่ายรูปและทำอาหารบ้าง หากคนที่รู้จักชารอนจริงๆ จะพบว่าหญิงสาวมีพรสวรรค์ด้านการวาดรูป อาชีพอิสระของเธอคือการเป็นจิตกร และภาพเขียนของชารอนนั้นมีผู้คนสนใจให้ราคาซื้อขายกันราคาไม่น้อยเลย แต่เพราะความเป็นคนโลกส่วนตัวสูงหญิงสาวก็มักจะทำงานตามใจตามอารมณ์ของตัวเองมากกว่าจะทำตามความต้องการของตลาด หรือตามใจลูกค้า แต่เมื่อเธอทำงาน ภาพเขียนของเธอจะเป็นที่ประทับใจของลูกค้าที่ได้ไป.. และน้อยคนจะรู้ว่าเธอมีเชื้อสายไทยอยู่ในตัว แม่ของชารอนเป็นลูกครึ่งไทยเดนมาร์ก และแต่งงานกับอาของเขาแล้วก็ใช้ชีวิตอยู่ที่เดนมาร์กมาตลอด แต่ด้วยความที่ชารอนมีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนและไม่มีส่วนไหนเลยที่เหมือนคนเอเชียหรือคนไทย จึงไม่มีใครรู้หรือสังเกต “ดีใจที่เจอหน้าผมก็บอกเหอะป้า” อันโตนิโอแกล้งเย้าแหย่ยิ่งเห็นแก้มแดงจัดเพาะความโกรธของหญิงสาวยิ่งอยากยั่ว “ใครคิดถึงนายกันห๊ะ หน้ายังไม่อยากจะมอง บ้านตัวเองไม่มีข้าวกินหรือไงถึงได้มาขอข้าวบ้านคนอื่นกิน” “ที่บ้านอยู่คนเดียวกินข้าวไม่อร่อย ให้พูดตรงๆ ก็คือ ผมอยากมาเจอหน้าสวยๆ ของป้านี่ล่ะ เพราะเห็นแล้วเจริญอาหาร” อันโตนิโอยิ้มกว้างทั้งหลิ่วตาให้เธออย่างยียวน “เอาล่ะๆ อย่าเถียงกันต่อหน้าเด็กๆ เลยน่าชารอน เดี๋ยวหลานตัวดีเราก็จำไปพูดหรอก” คีแรนเอ่ยขัด ชารอนทำหน้าเหมือนนนึกได้ว่ามีน้องครีมอยู่ด้วยก็ยิ้มแหยๆ ให้พี่ชายแล้วหันไปพูดกับน้องครีม “น้องครีมอย่าพูดไม่เพราะเหมือนอาชารอนที่พูดเมื่อกี้นะคะ มันไม่ดี ให้อาพูดคนเดียว กับคนบางคนเท่านั้น โอเคมั้ยคะ” “ได้ค่า” “เก่งมาก เด็กดีของอา” “กินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวพี่มีงานคุยกับนีโอต่อนิดหน่อย” คีแรนบอกแล้วตักกับข้าวให้ภรรยาอย่างรักใคร่ อันโตนิโอก็ตักกับข้าวใส่จานให้ชารอนบ้าง หญิงสาวก็ส่งสายตาขุ่นเขียวมาให้ แต่ชายหนุ่มก็ยิ้มทะเล้นๆ ส่งคืนไป... “ต่อไปนี้นายห้ามมาที่นี่อีก” อันโตนิโอชะงักเมื่อกำลังจะเดินไปที่รถคันหรูของตนร่างระหงของชารอนก็ก้าวออกมาจากมุมมืด หญิงสาวกอดอกมองเขาตาเขียวขุ่น “เป็นเจ้าของบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่กันนี่” “เป็นน้องเจ้าของบ้านก็มีสิทธิ์จะรับหรือไม่รับแขกได้เหมือนกัน” “ดุอะไรเบอร์นั้น” “ฉันไม่ใช่หมานะ” ชารอนเท้าสะเอวมองเขาตาเขียวปัด อันโตนิโอหัวเราะเบาๆ แล้วเดินกลับมาหาเธอ คราวนี้เป็นชารอนเองที่ต้องถอยหนี แม้ว่าเธอจะสูงถึง 175 เซนติเมตร ก็นับว่าเป็นความสูงโดยทั่วไปของสาวฟากยุโรป แต่เมื่อเทียบกับอันโตนิโอแล้วเธอก็ยังต้องเงยหน้าคุยกับเขา และเธอไม่อยากจะใกล้ชิดเขานักหรอก “ก็ไม่ได้ว่าเป็นหมาเสียหน่อย” “ถอยไปห่างๆ นะ” “กลัวอะไรล่ะครับป้า เราไม่ใช่คนไม่คุ้นเคยกันเสียหน่อย” “อย่ามาปีนเกลียวนะ” “ไม่ปีนอย่างเดียวนะ จะทำอย่างอื่นด้วย” “ไอ้เด็กบ้า..” “อย่ามาพูดแบบนี้กับผมน้า รู้ไม่ใช่เหรอว่าถ้าพูดแล้วจะเป็นยังไง เอ๋.. หรือว่าอยากจะ.. โอ๊ย..” ชายหนุ่มยื่นหน้ามาใกล้ยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วก็ต้องร้องเสียงหลงเมื่อชารอนชกเข้าที่ท้องของเขาอย่างไม่เบามือ ชายหนุ่มตัวงอด้วยความเจ็บจุก... “ปากดีนัก ถ้านายปากโป้ง ฉันเอานายตายแน่” พูดจบหญิงสาวก็สะบัดหน้าหนีวิ่งเข้าบ้านไป อันโตนิโอมองตามอยางหมายมาด “ฝากไว้ก่อนนะป้า.. ผมเอาคืนแน่ โอย.. หมัดหนักชะมัด” “ไปทำอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะ เป็นอะไร..” อันโตนิโอเงยหน้ามองหนุ่มรุ่นพี่ที่เดินมาหาตนเร็วๆ ท่าทางร้อนรนเป็นห่วง “ไม่เป็นไรแค่โดนมดกัด” “แน่ใจ..” คีแรนกอดอกมองด้วยแววตากังขา “มีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย” “อะไรวะ เรื่องใหญ่รึเปล่าเรื่องผู้หญิงไม่ยุ่งนะกลัวเมียฟันหัวแบะ” “เรื่องผู้หญิงนี่ล่ะ” “ห๊ะ.. อย่าบอกนะว่าอยากมีเมีย” คีแรนเสียงสูง อันโตนิโอหัวเราะเขินๆ “ใครวะ” “คนที่พี่ก็รู้ว่าใครน่า” คราวนี้ชายหนุ่มเขินจริงจังเมื่อเจอแววดาเข้มๆ จากคีแรน “เอาจริงรึเปล่าวะ น้องสาวฉันทั้งคนนะเว้ย ถึงจะชอบนายแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยกให้ง่ายๆ” “ก็เอาจริงดิ เอามาแล้วด้วย..” “หา ว่าไงนะ.. ไอ้..” “โว้วๆๆ อย่าเพิ่งๆ ฟังก่อนสิครับพี่ชาย” นีโอถอยห่างแล้วยกมือทำท่าห้ามคนที่ชูกำปั้นขึ้นพร้อมชก “ว่ามา อย่าให้ผิดหูผิดใจฉันนะ นายตายแน่” “ครับๆ พี่ฟังผมก่อนสิ คือเรื่องมันเป็นแบบนี้..” ทางด้านชารอนที่กลับขึ้นมาที่ห้องของตนก็เดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวายใจเพราะกลัวว่าความลับของตนจะถูกเปิดเผย “บ้าจริงๆ นายนีโอบ้า.. ไหนบอกจะไม่มาเมืองไทยนะ..” หญิงสาวนั่งลงบนเตียงอย่างกลัดกลุ้ม เธอรับรู้ได้ว่าอันโตนีโอไม่ได้มาเล่นๆ แน่ “เจ้าเด็กวายร้าย มันน่านัก” หญิงสาวบ่นกับตัวเองอย่างฉุนเฉียวแล้วมองเห็นกุหลาบสีม่วงช่องามบางอยู่บนโต๊ะจึงเดินไปหยิบมาชื่นชมประสาคนได้ของถูกใจ แล้วสายตาก็บังเอิญไปเห็นการ์ดใบหนึ่งซ่อนอยู่ด้านในช่อดอกไม้ช่องาม หญิงสาวหยิบมาเปิดอ่านอย่างอยากรู้ว่าใครเป็นคนที่ส่งมันมาให้ และทันทีที่เห็นชื่อของเจ้าของดอกไม้รอยยิ้มหวานที่ประดับอยู่บนใบหน้าสวยก็หุบลงทันใด “ไอ้เด็กแสบนี่.. หึ..” หญิงสาวฮึดฮัดไปที่ถังขยะทำท่าจะทุ่มเจ้าดอกไม้แสนสวยลงไปในนั้น แต่แล้วเธอก็ค่อยๆ ลดมือลงมองดอกไม้แสนสวยตรงหน้าอย่างแสนเสียดาย แต่เรียวปากอิ่มก็ยกยิ้มน้อยๆ “หึ.. เห็นว่ามันสวยหรอกนะ ทิ้งไม่ลงเสียดาย” แล้วหญิงสาวก็นำมันกลับไปวางไว้ที่เดิม มือเรียวหยิบกระดาษใบเล็กมาอ่านอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ ระบายในดวงหน้า แล้วแก้มสาวก็แดงก่ำเมื่อนึกถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้เมื่อหลายเดือนก่อนตอนที่เธอไปตามหาสลักจิต... หญิงสาวขยับตัวอย่างเมื่อยขบและรู้สึกปวดหัวมากจนไม่อาจจะลืมตาขึ้นมา แต่สิ่งที่มันวุ่นวายกับเนื้อตัวเธอนี่ล่ะที่ทำให้เธอพยายามลืมตาขึ้น “ลุกไหวไหมป้า” เสียงใคร คุ้นๆ เธอถามตัวเองและพยายามปรือเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นมามอง แต่กลิ่นน้ำหอมแบบนี้เธอได้กลิ่นจากใครนะ.. ชารอนพยายามนึกเมื่อจมูกของเธอได้กลิ่นน้ำหอมลอยเข้ามาแตะปลายจมูก น้ำหอม น้ำหอมผู้ชาย.. ไม่นะ “กรี๊ดดดดด.. ไอ้บ้า ไอ้คนเลวแกทำอะไรกับฉัน” เธอลืมตาตื่นขึ้นมาทันทีแล้วทุบตีคนที่ชะโงกอยู่เหนือร่างตนอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น “โอ๊ยๆๆ ป้าๆ พอแล้ว หยุดก่อน” “ไม่ นายตายแน่ ไอ้คนเฮงซวย” ชารอนเหมือนจะโมโหมากจนลืมไปว่าตอนนี้ตนไม่มีเสื้อผ้าติดตัวแม้แต่ชิ้นแล้วและการที่เธอโถมกายเข้าหาเขาแบบนี้ก็เหมือนเนื้อแนบเนื้อเพราะอันโตนิโอเองก็เปลือยเปล่าเช่นเดียวกัน “ไม่เหรอ แบบนี้ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด” ชายหนุ่มรวบมือทั้งสองข้างไว้ได้ก็พลิกกายขึ้นเหนือร่างของเธอ มือที่ทำร้ายเขาเมื่อครู่ก็ถูกกางตรึงไว้กับที่นอนยับย่น... “ปล่อยนะ แน่จริงสู้กันตัวต่อตัวสิ” ชารอนขู่ฟ่อ อันดตนิโอหัวเราะเบาๆ “ตอนนี้ก็ตัวต่อตัวอยู่แล้วครับป้า แนบชิดสนิทเนื้อด้วย...” “หา.. ว่าไงนะ กรี๊ดดด ไอ้คนเลว” ชารอนตาโตมองตามสายตาของเขาที่ทอดมองทรวงสาวเปลือยเปล่าท้าทายสายตาตรงหน้า ชารอนกรีดร้องด้วยความขัดใจและอับอายกับสภาพของตนแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะตอนนี้ร่างของเธอถุกเขาทาบทับไว้เกือบจะทั้งตัว “รู้ไหมคนเลวเขาจะทำอะไรกับผู้หญิงบ้าง” อันโตนิโอแกล้งทำเสียงพร่าและทำแววตาให้เหมือนคนวิกลจริต ชารอนหน้าซีดจนเขานึกสงสาร “อย่าทำอะไรฉันเลยนะ” “ไม่ทำไม่ได้หรอกเพราะผมเป็นคนเลว” “ไม่ๆ นายไม่เป็นคนเลวแล้ว นีโอปล่อยฉันเถอะนะ” ชารอนทำเสียงอ่อนอ้อนวอนดวงตางามมีน้ำคลอๆ แต่เขายังคงอยากแกล้งคนเก่งต่อ จึงก้มลงไปจนปลายจมูกชนกับแก้มสาว และกลิ่นกายสาวกับนวลเนื้อเปลือยเปล่า “ผมต้องมั่นใจก่อนว่าป้าจะไม่ดื้อกับผม..” “ยังไง..” “เราก็ต้อง... ทำสัญญากันก่อนไงว่าต่อไปนี้ป้าจะต้องเชื่อฟังผมและยอมทำตามใจผม แล้วผมจะไม่เอาเรื่องที่เรานอนแก้ผ้าอยู่ด้วยกันบนเตียงไปบอกใคร..” “นี่นาย..” “อ๊ะๆๆ” อันโตนิโอรีบทำเสียงเตือน ชารอนตาเขียวใส่เขาทั้งแก้มก็แดงก่ำน่ามอง จนเขาไม่อยากจะเป็นคนดีแล้วและอยากเป็นคนเลวจริงๆ เสียตอนนี้เลย... “ก็ได้ ทีนี้นายออกไปสิ” “ยัง..” “เอ๊ะ..” หญิงสาวตาขุ่นพยามจะดิ้นออกจากร่างแกร่งของเขาแต่ยิ่งเธอดิ้นร่างกายก็เสียดสีกันจนทำให้เขาเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่ได้ “หยุด อย่าดิ้น อย่าขยับ..” “อุ๊ย..” ชารอนอุทานเบาๆ เมื่อเธอรู้สึกได้ถึงสิ่งที่มันร้อนผะผ่าวเสียดสีอยู่ที่หน้าท้องของเธอ แก้มสาวแดงจัดและมันก็ลามไปทั้งตัว จนร่างขาวเนียนแดงก่ำไปทั้งร่าง ใจสาวเต้นไหวระรัวเมื่อเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงบอกให้เธอหยุดดิ้น และมันคงสายไปเมื่อใบหน้าหล่อเหลาของเขาโน้มลงมา เรียวปากสาวเผยอออกอย่างลืมตัว ชารอนรู้สึกชาวูบวาบและสั่นสะท้านในเวลาต่อมาเมื่อกระแสความร้อนและซาบซ่านแปลกๆ ที่ไม่เคยได้พานพบมาก่อนในชีวิตสาว มันกำลังไหลบ่าไปทั้งกาย ชารอนรู้สึกเหมือนร่างของเธอล่องลอยไปในท้องฟ้าอันเวิ้งว้าง ทั้งรู้สึกสะบัดร้อนสะบัดหนาว ร่างกายอ่อยเปลี้ยแขนขาเหมือนจะไร้กระดูก เสียงครางเล็กๆ ลอดผ่านลำคอระหงแผ่วเบาความเสียวซ่านรัญจวนแล่นพล่านในกายสาว อันโตนิโอทำให้เธอหลงเพริดไปกับจุมพิตแรกในชีวิตสาวอย่างไม่อาจเหนี่ยวรั้งได้ มือที่ทำท่าจะผลักไสร่างแกร่งสมบูรณ์แบบของเขาออกไป ก็กลายเป็นลูบไล้ร่างกายของเขาอย่างหลงใหลลืมตัวทั้งยังแอ่นกายเข้าหาเขาอย่างลืมอายอีกด้วย เรียวปากร้อนผ่าวของอันโตนิโอร่ายจุมพิตเร่าร้อนพร่างพรมไปทั้งกายสาวเปลือยเปล่าพาเธอล่องลอยไปในนาวาสวาทโดยที่เธอเองก็ให้ความร่วมมือกับเขาอย่างดี และเธอก็ได้เรียนรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงอย่างแท้จริง และเธอไม่เสียใจเลยที่สัมผัสรักแรกในชีวิตสาวถูกครอบครองโดยชายหนุ่มที่เธอมักบอกตัวเองว่าเกลียดนี้หน้าคนนี้ อันโตนิโอ... “เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ.. แต่ที่ผมทำไปก็เพราะรักชารอนจริงๆ แม้ผมจะฉวยโอกาสแต่ผมก็ไม่ได้ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ พี่คีแรนจะชกผมจะแตะ จะตีหัวผมแบะผมก็ยอมครับ..” อันโตนิโอสารภาพความในใจจนหมดสิ้น ในขณะที่คีแรนกอดอกนิ่งฟังเขาเงียบๆ เงียบจนเขาใจคอไม่ดี... “พี่คีแรนครับ เอ่อ.. ว่าไงครับ” อันโตนิโอทำใจกล้าถามอีกครั้งในใจก็ตั้งตัวรับหมัดหรือเท้าหนักๆ จากคีแรน “ฉันจะไม่ทำอะไรนายหรอก..” คีแรนที่นิ่งฟังเขามานานเอ่ยขึ้น ดวงตาคมกล้านิ่งอ่านอารมณ์ความรู้สึกไม่ออก อันโตนิโอถอนใจเบาๆ อย่างโล่งอก อย่างน้อยๆ ไม่โดนตีนพี่คีแรนล่ะวะ.. ชายหนุ่มคิดในใจ “เพราะถือว่านับจากนี้นายได้รับผลกรรมของนายอย่างเต็มที่แล้วล่ะ ดูแลน้องสาวของฉันดีๆ ล่ะ เอามาคืนเมื่อไหร่ นายตายแน่” คำพูดของคีแรนทำให้อันโตนิโอยิ้มกว้าง “ไม่มีทางครับ ผมไม่มีวันเอาชารอนมาคืนพี่แน่ๆ ผมสัญญาด้วยเกียรติทั้งหมดที่ผมมี ผมจะรักและดูแลเธออย่างดีและตลอดไป” “เอาล่ะ ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว นายจะให้ช่วยยังไง เพราะหากจะเดินไปขอชารอนแต่งงานเลยคงไม่มีวันสงบสุขแน่ๆ” “ตอนนี้ชารอนเชื่อฟังสลักจิตที่สุด..” อันโตนิโอให้ความเห็น คีแรนเองก็พยักหน้าเห็นด้วย... “งั้นคงต้องพึ่งพาแม่หัวเรือใหญ่.. แต่มันต้องมีแผนเด็ดๆ” คีแรนยิ้มกว้างแล้วยื่นมือไปหาอันโตนิโอ “ยินดีต้อนรับไอ้น้องเขย..” อันโตนิโอรีบจับมือกับพี่ชายของว่าที่เมียของตนอย่างยินดี...
已经是最新一章了
加载中