บทที่2 งั้นมาเอาใจฉันสิ   1/    
已经是第一章了
บทที่2 งั้นมาเอาใจฉันสิ
บทที่2 งั้นมาเอาใจฉันสิ เสิ่นเฉียวค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา เธอมองเห็นแววตาอันสุขุมและเย็นชาคู่หนึ่ง คิ้วของผู้ชายคนนั้นคมเข้ม ดวงตาสุขุมลุ่มลึกราวกับหมาป่า จมูกของเขาสูงโด่ง เขาเม้มริมฝีปากอันเรียวบางเอาไว้ ถึงแม้ว่าเขาจะนั่งอยู่บนรถเข็น แต่มันก็ทำให้เธอรับรู้ถึงความกดดันบางอย่าง เขาเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง ไม่อาจจะเข้าถึงได้ง่าย “เสิ่นโย่ว?” เสิ่นเฉียว อึ้งไปชั่วครู่จากนั้นก็รีบลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง เธอทำตัวไม่ถูกแล้วจ้องมองผู้ชายคนนั้น เสิ่นเฉียว พยักหน้าด้วยความตื่นตระหนก เดิมทีเธอแต่งงานเข้าตระกูลเย่แทนเสิ่นโย่ว เธอจึงไม่กล้าที่จะเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอออกมา “อืม” แววตาของเย่โม่เซินแลดูเย็นชามากขึ้น เขาหยิบเอาจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้วโยนให้เสิ่นเฉียว เสิ่นเฉียวรีบหยิบจดหมายนั้นขึ้นมาอ่าน เธอพบว่าข้อมูลในจดหมายนั้นคือเอกสารข้อมูลและรูปของเสิ่นโย่วน้องสาวของเธอ เขาได้ตรวจสอบข้อมูลของคนที่เขาต้องแต่งงานด้วยไว้แล้ว แต่ทว่า ทำไมตอนที่แต่งงานกันเขาถึงไม่เอ่ยปากแย้งอะไรออกมา? เสิ่นเฉียวกำจดหมายในมือไว้แน่น กัดริมฝีปากล่างของเธอ จ้องมองเย่โม่เซินแล้วไม่พูดอะไรออกมา “ตระกูลเสิ่นคิดว่า ฉันเย่โม่เซินคนนี้ขามีปัญหา แล้วหาใครก็ได้มาแต่งกับฉันก็ได้อย่างนั้นหรือ?” เสิ่นเฉียวยืดตัวยืนขึ้นมา จ้องมองไปที่เขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “ฉันเองก็เป็นลูกสาวของตระกูลเสิ่น” “ผู้หญิงที่พึ่งจะหย่ามาน่ะหรอ? ตระกูลเสิ่นคิดว่า ตระกูลเย่เป็นถังขยะรีไซเคิลรึไง?” คำพูดที่ตรงและแรงของเขาทำให้เสิ่นเฉียวเริ่มมองหน้าเขาไม่ติด เธอกัดริมฝีปากล่างแน่น ผู้หญิงหม้ายมักจะโดนผู้คนรังเกียจอยู่แล้ว เป็นเพราะเหตุนี้ เธอจึงโดนพ่อแม่ของเธอบังคับให้แต่งเข้าตระกูลเย่ ยังไม่ทันที่เสิ่นเฉียวจะเปิดปากพูด น้ำเสียงอันเย็นชาของผู้ชายคนนี้ก็ดังขึ้นมา ราวกับสาดน้ำเย็นเข้ามาที่เธอ “ฉันให้เวลาเธอห้านาที เธอออกไปอธิบายทุกอย่างให้ชัดเจน แล้วออกไปจากตระกูลเย่ซะ” อะไรนะ? เสิ่นเฉียว เงยหน้ามองไปที่ตาของเขา “ไม่ได้นะ!” เธอจะไปไม่ได้! หากว่าเธอออกไปยอมรับทุกอย่างแล้วก็เท่ากับว่าตระกูลเสิ่นได้ทำให้ตระกูลเย่ ขุ่นเคืองใจ แล้วทีนี้ตระกูลเสิ่นจะปักหลักอยู่ในเมืองเป่ยยังไง? เสิ่นเฉียว ตั้งสติขึ้นมา ยกชายกระโปรงของชุดเจ้าสาวขึ้นแล้วเดินมาตรงหน้าของเย่โม่เซิน พูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “น้องสาวฉันมีแฟนแล้ว เธอไม่ยอมแต่งเข้าตระกูลเย่ แน่นอน” “ดังนั้น เธอก็เลยคิดเองเออเอง ตัดสินใจแต่งงานแทนน้องสาวอย่างนั้นหรอ?” เย่โม่เซินยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปากแล้วพูด ภาพนั้นช่างบาดตาบาดใจเธอเป็นอย่างมาก เสิ่นเฉียวรวบรวมความกล้า จ้องมองไปที่แววตาอันเย็นชาคู่นั้น “ฉันรู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นการแต่งที่พ่อแม่ได้จัดเตรียมไว้ให้ สำหรับคุณแล้ว แต่งกับใครนั้นไม่สำคัญ ไม่เช่นนั้นคุณก็คงไม่ตอบรับหรือยินยอมเรื่องแต่งงานครั้งนี้หรอก” เสิ่นเฉียว ไม่รู้ว่าการที่เธอพูดเช่นนี้จะสามารถทำอะไรเขาได้มั้ย “ถ้าเทียบกับการที่คุณต้องแต่งงานใหม่ คุณให้ฉันอยู่ที่นี่ต่อ ฉันสัญญาว่าพวกเราจะไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายต่อกัน” เมื่อพูดจบ เสิ่นเฉียวก็ยกมือสองข้างขึ้นมาสัญญา แววตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความกล้าหาญ สีหน้าที่ระแวดระวังสื่อผ่านใบหน้าเล็กๆที่ขาวผ่องของเธอ เธอกลัวว่าเขาจะไม่ยอมรับข้อเสนอนี้ สีหน้าเช่นนี้...... เย่โม่เซินหรี่ตาลง จ้องมองและครุ่นคิดไปที่ตัวเธอ เมื่อเธอพูดจบ เย่โม่เซินก็หัวเราะ หึ ออกมาอย่างเย็นชาแล้วพูด “เธอคิดว่าฉันไม่มีผู้หญิงแบบที่อยากได้งั้นหรอ? ฉันต้องมาเอาผู้หญิงอย่างเธอเนี่ยนะ?” สีหน้าของเสิ่นเฉียว ขาวซีดทันที ปากของเธอนั้นสั่น เธอยังไม่ทันได้เปิดปากพูด เย่โม่เซินก็หมุนกลับรถเข็นแล้วหันหลังให้เธอ เขาจะหมุนล้อรถเข็นออกไปจากห้องนี้ เสิ่นเฉียว ตกใจจนอยากจะเดินไปขวางทางข้างหน้าของเขาเอาไว้ แต่โดนแขนของเขาขวางเอาไว้ก่อน “คุณหนูเสิ่น กรุณารู้ว่าอะไรควรไม่ควรทำด้วย!” เธอจ้องมองแผ่นหลังของเย่โม่เซินที่กำลังขยับออกไปจากเธออย่างไร้เยื่อใย เสิ่นเฉียวเครียดเป็นอย่างมาก ตะโกนเรียกเย่โม่เซินจากด้านหลังของเขา “ถ้าคุณไม่ให้ฉันอยู่ที่นี่ต่อ ฉันจะบอกทุกคนว่าคุณไร้น้ำยา!” เธอใช้ไม้แข็งกับเขาราวกับโยนระเบิดมือใส่เขา เสิ่นเฉียวได้พยายามดึงรั้งตัวเขาเอาไว้สุดๆแล้ว คำพูดของเธอทำให้มือที่หมุนขยับรถเข็นของเย่โม่เซินหยุดชะงัก ร่างกายของเขาไม่ขยับ แต่เขาหันหน้ามามองเธอ แววตาของเขาช่างเย็นชาแล้วพูด “เธอบอกว่าใครไร้น้ำยานะ?” แววตาที่น่ากลัวและแฝงไปด้วยความดุร้ายของเย่โม่เซินราวกับสัตว์ร้ายจ้องมองเธออย่างไม่กะพริบตา จ้องเธอราวกับว่าหากเธอกล้าที่จะพูดแม้แต่อีกคำเดียว เขาก็พร้อมจะพุ่งเข้าไปตะครุบกัดเธอให้ตายซะเลย นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทั้งทั้งที่เขาเป็นคนขามีปัญหา แต่ทำไมเขาจึงส่งรังสีอำมหิตอันแรงกล้าออกมาได้เช่นนี้? เมื่อเหตุการณ์มันเป็นเช่นนี้ เสิ่นเฉียว หนีไปไหนไม่ได้แล้ว เธอกัดฟันแล้วกำหมัดในมือแน่น จ้องมองเย่โม่เซินอย่างดุดัน “นอกจากซะว่าคุณจะให้ฉันอยู่ต่อ” เซียวซู่ที่ยืนอยู่อีกฝั่งอ้าปากค้างอึ้งกับสิ่งที่เห็น นึกไม่ถึงว่าคุณนายน้อยตัวเล็กๆคนนี้ จะใจกล้าได้เพียงนี้ เธอกล้าหือกับคุณชายเย่สองของพวกเขา เย่โม่เซิน หมุนรถเข็นกลับมาแล้วค่อยๆหมุนล้อรถเข็นขยับเข้ามาหาเธอ แววตาของเขาแลดูมืดหม่น เสิ่นเฉียวตกใจถอยหลังไปสองก้าว เย่โม่เซินหมุนล้อรถเข็นมาอย่างไวแล้วจอดอยู่ตรงหน้าเธอ ยกมือขึ้นจับข้อแขนอันขาวบางของเธอเอาไว้ “เมื่อตะกี้เธอพูดว่าใครไร้น้ำยา?”เย่โม่เซินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา จ้องมองเธอด้วยสายตาที่แหลมคมดุดัน “คุณ คุณปล่อยฉันนะ.....” การที่เขาเข้ามาใกล้เธอเช่นนี้ ทำให้เสิ่นเฉียวทำตัวไม่ถูกในทันที ไอร้อนจากตัวผู้ชายค่อยๆโอบล้อมเธอเอาไว้ เธอรับรู้ถึงอันตรายบางอย่าง ความรู้สึกนี้... ทำให้เสิ่นเฉียวนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว นึกถึงผู้ชายที่อยู่ในรถวันนั้น ไอร้อนจากร่างกายของผู้ชายคนนั้นช่างคล้ายกับผู้ชายตรงหน้าเธอคนนี้ ใบหน้าของเสิ่นเฉียวนั้นขาวซีด ทำไมอยู่ๆถึงนึกถึงผู้ชายในคืนนั้นด้วย สำหรับเสิ่นเฉียวแล้ว เรื่องในค่ำคืนนั้นคือเรื่องที่น่าอับอายในชีวิตของเธอ “อยากจะเป็นคุณนายเย่มากจนไม่เลือกวิธีแล้วสินะ?” เสียงของผู้ชายดึงเอาสติของเธอกลับมา เสิ่นเฉียวลืมตาโต หน้าผากของเสิ่นเฉียวเต็มไปด้วยเหงื่อ “คุณเองก็ยอมให้งานแต่งนี้จัดขึ้นมาถูกมั้ย? คุณรู้มาตั้งนานว่าฉันไม่ใช่เสิ่นโย่ว แต่คุณเองก็ไม่ได้เปิดเผยความจริงให้คนอื่นรู้ในงานแต่งงาน” “แล้วยังไงล่ะ?” “คุณปล่อยฉันก่อน”เสิ่นเฉียว ผลักเขาออก “หึ”เย่โม่เซินหัวเราะอย่างเย็นชา “เป็นผู้หญิงหม้ายแท้ๆยังต้องตื่นตัวขนาดนี้อีกหรอ? เธอไม่เคยทำเรื่องพวกนี้รึไง?” เสิ่นเฉียว จ้องหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ “คุณอย่ามากดขี่ข่มเหงคนอื่นแบบนี้นะ! ” “อยากอยู่ต่องั้นหรอ ได้ เธอเอาใจฉันสิ ทำให้ฉันชอบเธอให้ได้สิ” ผู้หญิงที่แต่งงานแทนน้องตัวเองแล้วพยายามจะแต่งเข้าครอบครัวที่ร่ำรวยเพื่อจับสามีรวยเช่นนี้ เย่โม่เซินเจอมานักต่อนักแล้ว สีหน้าของเสิ่นเฉียวขาวซีด ปากของเธอสั่น “ทำไม่ได้?”แววตาของเย่โม่เซินแลดูสุขุมลุ่มลึก มือข้างหนึ่งของเขายื่นมาจับคางของเธอ ริมฝีปากอันเรียวบางของเขาค่อยๆพูด “จากที่ฉันดู ไม่ใช่เป็นเพราะว่าฉันไร้น้ำยาหรอก แต่เธอนั่นแหละที่ไร้เสน่ห์ ไม่ทำให้ฉันรู้สึกหลงใหลอะไร” เมื่อพูดจบ เย่โม่เซินก็ผลักเธอออก ร่างของเสิ่นเฉียว เซไปข้างหลังชนเข้ากับประตู เธอจ้องมองเย่โม่เซินด้วยความโกรธ เย่โม่เซิน บอกกำชับให้ผู้ช่วยของเขาเข็นเขาออกไป เสิ่นเฉียวจ้องมองหลังของทั้งสองที่เดินออกห่างเธอไป เธอกัดริมฝีปากล่างเล็กน้อย เธอทำสำเร็จมั้ย? เธอจะได้อยู่ที่นี่ต่อมั้ย? เสิ่นเฉียวเอามือลูบจับคางที่รู้สึกเจ็บเบาๆ เดินกลับเข้าไปในห้องใหม่ของเธอ สิบนาทีผ่านไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เสิ่นเฉียวถอนหายใจออกมา เธอน่าจะทำสำเร็จแล้วล่ะ
已经是最新一章了
加载中