บทที่188 ผู้หญิงที่ไม่มีหัว   1/    
已经是第一章了
บทที่188 ผู้หญิงที่ไม่มีหัว
บทที่188 ผู้หญิงที่ไม่มีหัว เป้ยฉ่ายเวยมองเงาหลังพวกเขาจากไป เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา จากนั้นจึงเดินไปที่ห้องครัว เธอหายใจเข้าลึกๆ พยายามที่จะให้กำลังใจตัวเอง ในทางด้านหนึ่งหนานฉิงหลังจากที่รับโทรศัพท์แล้วมุมปากเธอก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจ เธอได้ยินเสียงปิดประตูใหญ่ เธอจึงรีบกดลบหมายเลขสายที่โทรเข้ามาในทันทีและวางโทรศัพท์ลงที่เดิม ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอรอให้ฉูเจ๋อหยางเดินเข้ามาอย่างใจเย็น ไม่ว่าคนที่ปลายสายนั้นจะเป็นใคร ตราบใดที่มีสัญญาณอันตราย เธอจะไม่ให้โอกาสใครหน้าไหนทั้งนั้นมาทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอาเจ๋อ ถ้าหากยังพอมีเวลาล่ะก็ เธอจะต้องหาทางรู้ให้ได้ว่าคนที่อยู่ในสายนั้นเป็นชายหรือว่าหญิง ถ้าหากเป็นผู้ชายก็แล้วไป แต่ถ้าหากเป็นผู้หญิงล่ะก็….. แววตาของหนานฉิงแสดงออกถึงความโหดเหี้ยม อย่าหาว่าเธอไม่เกรงใจก็แล้วกัน ฉูเจ๋อหยางผลักประตูเปิดออก เมื่อพบว่าหนานฉิงอยู่ที่นั่นเขาก็ขมวดคิ้วและถามอย่างเฉยเมย “คุณมาที่นี่ทำไม” รอยยิ้มบนใบหน้าของหนานฉิงแข็งทื่อ เมื่อคิดถึงเหตุที่มาในวันนี้ แต่ไม่นานก็กลับสู่สภาพเดิม เธอจ้องเขาและพูดอย่างน่าสงสาร “อาเจ๋อ คุณลืมแล้วหรอว่าเดี๋ยวก็จะถึงวันเกิดฉันแล้ว” ฉูเจ๋อหยางเดินผ่านเธอไปราวกับว่าไม่ได้ยินอะไรอย่างนั้น เขาเดินกลับไปหน้าโต๊ะทำงานของตัวเอง มองดูโทรศัพท์แวบหนึ่ง และดึงสายตากลับมาราวกับไม่มีอะไร หนานฉิงสังเกตเห็นได้ทันว่าสายตาของฉูเจ๋อหยางไปหยุดอยู่ที่โทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่ง เธอรู้สึกเจ็บใจ อาเจ๋อกำลังรอโทรศัพท์จากใครกัน ท่าทางดูจะเป็นกังวลเอามากๆ “ว่ามา” เมื่อได้ยินคำถามของฉูเจ๋อหยาง หนานฉิงได้สติกลับมาเพราะเสียงอันเยือกเย็นของฉูเจ๋อหยาง เธอยังพยายามรักษารอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้ “อาเจ๋อ ฉันอยากเชิญคุณมาเป็นคู่เต้นรำของฉันในวันงานค่ะ” เพื่อที่จะได้ให้ฉูเจ๋อหยางมาเห็น ทุกครั้งหนานฉิงจะแต่งตัวสวย บวกกับท่าทางแอ๊บแบ๊วที่เธอพยายามทำ ช่างเหมือนกับการทำขนมอบที่มีกลิ่นหอม เพื่อรอให้ชายคนรักมาลิ้มลอง ถ้าหากว่าฉูเจ๋อหยางยินดีล่ะก็ หนานฉิงไม่มีแม้แต่ลังเลที่จะพลีกายถวายตัว ฉูเจ๋อหยางกระพริบตาเล็กน้อย สายตาดำมืดมิดสองส่องไปขณะที่หนานฉิงมองไม่เห็น เขาหยุดไปไม่กี่วินาทีจากนั้นก็พูดขึ้นอย่างนุ่มนวล “ตกลง” หนานฉิงคิดว่าฉูเจ๋อหยางยังไม่หายโกรธ ไม่คาดคิดว่าเขาจะให้คำตอบเร็วเช่นนี้ เรื่องไม่สบายใจเมื่อสักครู่จึงหายวับไปจากสมองอย่างรวดเร็ว มีความลิงโลดอยู่ในดวงตาพร้อมพูดอย่างอ่อนหวาน “อาเจ๋อ จริงหรอคะ ดีจังเลย พ่อจะต้องดีใจมากแน่ๆ” “ผมคิดว่าคุณต่างหากที่ดีใจ” หนานฉิงมัวแต่ดื่มด่ำและตื่นเต้นจนไม่ได้รู้ตัวกำลังถูกฉูเจ๋อหยางเหน็บแนมอยู่ “อาเจ๋อ ฉันก็ต้องดีใจมากอยู่แล้วสิ” เธอหยุดครู่หนึ่งก่อนพูดด้วยความคับข้องใจ “ฉันคิดว่าคุณยังโกรธฉันอยู่ซะอีก” หนานฉิงเห็นฉูเจ๋อหยางไม่ได้ตอบและไม่ได้โกรธ ในออฟฟิตก็ไม่มีคนอื่นอยู่ อยู่ๆก็มีแรงกระตุ้นภายในใจ เธอเขย่งเท้าขึ้นหาร่างอันสูงใหญ่ “อาเจ๋อ ฉันรู้ว่าเรื่องที่พ่อกับแม่ฉันทำมันเกินไปมาก แต่พวกท่านก็ทำเพื่อฉัน ฉันหวังว่าคุณจะสามารถเห็นแก่หน้าฉันยกโทษให้พวกท่านได้หรือไม่คะ” มือของหนานฉิงไปวางอยู่บนไหล่อันแข็งแรงและแน่นของฉูเจ๋อหยางเรียบร้อยแล้ว หัวใจเธอยังเต้นเร็วอย่างต่อเนื่อง รออยู่นานเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ มันยากที่เธอจะซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้ เธอค่อยๆยืดร่างอ่อนช้อยแอบอิงไปที่ด้านหลังเขาและนั่นคือสิ่งที่เธอโหยหามานาน ร่างกายของเธอยังไม่ทันได้สัมผัสเสื้อผ้าของเขา ชายผู้นั่งอยู่บนเก้าอี้หมุนก็ลุกขึ้นในทันใด เธอจึงถอยหลังไปหลายก้าว แทบจะหยุดชะงัก และถามอย่างไม่เข้าใจ “อาเจ๋อเป็นอะไรคะ ฉันยังทำไม่ดีหรือคะ” เขาคิดว่าตัวเองสามารถรับได้ แต่เมื่อเธอเข้าใกล้ ร่างกายเขาก็ตอบสนอง ฉูเจ๋อหยางหันหลังให้เธอ ใบหน้าของเขาช่างมืดหม่น เสียงพูดก็เยือกเย็น “ตอนบ่ายผมยังมีงาน ถ้าไม่มีอะไรคุณกลับไปก่อนเถอะ” นี่ก็เหมือนกับการออกคำสั่งกับเธอ สีหน้าเขาไม่ค่อยดีเท่าไร หนานฉิงไม่ตายใจพยายามเข้ามาใกล้ “อาเจ๋อ คุณหนักใจกับเรื่องคดีวันนี้ใช่ไหมคะ เราต่างก็เห็นในรายการโทรทัศน์ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ” เธอคิดว่าเมื่อพูดอย่างนี้แล้วจะทำให้อาเจ๋อมีความสุข ที่ไหนได้น้ำเสียงเขากลับรุนแรงขึ้น “คุณคิดว่าผมอยากให้พ่อคุณช่วยหรอ” “อาเจ๋อ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันแค่อยากจะช่วยคุณค่ะ” หนานฉิงกระตือรือร้นแสดงความเป็นห่วง น้ำหอมราคาแพงนั้นทำให้ชายคนนั้นขมวดคิ้ว ทำไมผู้หญิงถึงชอบฉีดน้ำหอมกลิ่นนี้ ไม่เหมือนใครบางคนที่บนร่างกายไม่มีกลิ่นอะไรเลยนอกจากกลิ่นสบู่อาบน้ำ ทำไมเขาถึงคิดถึงเธออีกแล้ว สีหน้าฉูเจ๋อหยางไม่ค่อยดี “ไม่ต้องการ” “อาเจ๋อ คุณจะปฏิเสธความหวังดีของครอบครัวเราหรอคะ” หนานฉิงไม่เข้าใจ มีตระกูลหนานออกหน้าช่วยเหลือดีแค่ไหน อาเจ๋อจะได้ทำอะไรง่ายขึ้นอีกเยอะ และแน่นอนเธอไม่เคยสงสัยในความสามารถของอาเจ๋อ เธอแค่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างอาเจ๋อและที่บ้านกระชับแน่นแฟ้นกันมากยิ่งขึ้น ฉูเจ๋อหยางยิ้มเยาะในใจ เขาพูดอย่างไม่ทราบจุดประสงค์แท้จริง “ถ้าคุณอยากช่วยผมจริงๆ สู้คุณกลับไปลองถามพ่อคุณก่อนดีกว่า” ให้หนานฉิงออกหน้า เธอพูดออกมาพอดี คดีที่อยู่ในมือตอนนี้เป็นคดีฉ้อโกงทางการเงินครั้งใหญ่ มีข่าวจากรัฐบาลกลางออกมาตั้งแต่แรก หากพบว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะต้องถูกสอบสวนอย่างละเอียด ตอนนี้อย่าว่าแต่เมืองจิ่นอัน นักการเมืองชั้นผู้ใหญ่ทั้งประเทศพากันอดใจรอไม่ไหวที่จะแสดงความบริสุทธิ์ของตน เธอกลับทนรอไม่ไหวที่จะดึงหนานเทียนหยางให้ตกน้ำ ถ้าหากว่าหนานเทียนหยางรู้ว่าตัวเองมีลูกสาวที่ประเสริฐเช่นนี้เขาจะรู้สึกเช่นไร หนานฉิงไม่เข้าใจความนัยในคำพูดของฉูเจ๋อหยาง เธอฟังออกแต่เพียงเขามีน้ำเสียงของความเยาะเย้ย แต่เธอก็ไม่ได้เข้าใจในเรื่องของคดีอย่างแท้จริง เธอคิดแต่เพียงว่าถ้าตระกูลหนานออกหน้าให้อะไรอะไรก็อาจจะง่ายขึ้น ในเมื่อฉูเจ๋อหยางพูดอย่างนี้ หัวใจเธอก็จมดิ่งลง และไม่กล้าที่จะพูดต่อไปอีก "อาเจ๋อ คุณอย่าหักโหมร่างกายตัวเองเกินไป ถ้าอย่างนั้นฉันไม่รบกวนคุณทำงานแล้วล่ะ" พูดจบ เธอก็รีบออกไป ฉูเจ๋อหยางกลับมานั่งที่เก้าอี้ เขาหยิบไฟล์เอกสารขึ้นมาดูอีกครั้ง แต่พอหลังจากที่ดูเอกสารไปไม่ถึงห้านาที เขาก็วางเอกสารพวกนั้นลง ดวงตาลุ่มลึกจ้องไปที่โทรศัพท์อันนิ่งเงียบตลอด อยู่ๆเขาก็เลื่อนมือไปเปิดมัน ซึ่งก็ไม่มีข้อความอะไรปรากฏบนหน้าขอแม้เพียงข้อความเดียว ฉูเจ๋อหยางกำโทรศัพท์ในมือแน่น มีเสียงดังกรอกแกรก ถ้าไม่ใช่เพราะเขาควบคุมแรงตัวเองได้ดีล่ะก็ ป่านนี้เครื่องคงจะพังไปแล้ว เช้าวันนั้นผ่านไป เยี่ยม แม้แต่โทรศัพท์สักสายก็ไม่มี ฉูเจ๋อหยางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา หยิบเสื้อโค้ชและเดินออกไป เพราะว่างานของเขายุ่งมาจึงทำให้เขาลืมนึกถึงผู้หญิงคนนั้นไปอย่างไม่ทันรู้ตัว ดูเหมือนว่าเธอกำลังมีความสุขอยู่กับหลี่จื่อเชียน สุขจนไม่มีเวลาโทรกลับมา หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ถังฉีตงนั่งอยู่ในออฟฟิต เขาแปลกใจที่เห็นชายคนนั้นเดินเข้าประตูมา "อาเจ๋อคุณมีเวลามาหาผมที่นี่ได้อย่างไร" "ไปที่สังเวียน" ฉูเจ๋อหยางทิ้งท้ายไว้หนึ่งประโยค เขาเหลือบมองถังฉีตงแวบหนึ่งและเดินออกไปทันที
已经是最新一章了
加载中