ตอนที่412 ถือว่ามีคุณสมบัติสมกับเป็นหลานสะใภ้
1/
ตอนที่412 ถือว่ามีคุณสมบัติสมกับเป็นหลานสะใภ้
ประธานาธิบดีไม่ดี
(
)
已经是第一章了
ตอนที่412 ถือว่ามีคุณสมบัติสมกับเป็นหลานสะใภ้
ตอนที่412 ถือว่ามีคุณสมบัติสมกับเป็นหลานสะใภ้ คำพูดของเขาราวกับมีความหมายแฝงอยู่ ไม่ได้รอให้จิดาภาตอบกลับอะไร เขาจึงหันกลับไปจัดการเรื่องในกองต่อ จิดาภาเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาจิรภาส แต่ในเวลาเดียวกันนั้น เธอได้รับสายของเขาเข้าเสียก่อน "เสร็จแล้วหรือครับ?" "ค่ะ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนทั้งหมด" "ถ้าอย่างนั้นคุณผู้หญิงจะพักผ่อนซักวัน แล้วไปรับประทานอาหารกลางวันกับผมได้ไหมครับ?" จิรภาสเอ่ยถาม ซึ่งตอนนี้เองรถของเขาได้มาจอดอยู่ตรงด้านหน้ากองถ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว "ผมรอคุณอยู่ข้างนอกนะครับ" หลังจากที่จิดาภาวางสายเขาแล้วนั้น จึงสวมเสื้อคลุมทับ แล้วเดินออกจากกองไป เห็นรถของจิรภาสที่จอดอยู่ตรงข้างทาง จึงเปิดประตูแล้วขึ้นรถไป และในวินาทีต่อมานั้นอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นก็เข้ามาโอบกอดเธอไว้ "อย่ากังวลไปเลยนะครับ เรื่องจะคลี่คลายลงแน่นอน" เขากลัวที่สุดว่าจิดาภาจะตกใจกับเหตุการณ์ที่เธอต้องได้มาเห็นกับตาตัวเองแบบนั้นในเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ แม้ว่าเธอจะเคยผ่านเรื่องราวคล้ายๆกันมามากมายขนาดไหน แต่การอยู่ในสถานการณ์จริงเช่นนี้ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในใจของเธอนั่นรู้สึกไม่สงบเนื่องจากเหตุการณ์อุบัติเหตุรถชนเมื่อครู่นี้จริงๆ นั่นเป็นเพราะว่าอีกเพียงแค่นิดเดียวคนที่นั่งอยู่ในรถคันนั้นเกือบจะต้องเป็นเธอแล้ว! บางทีอาจจะมีข่าวออกมาว่านักแสดงสาวคนหนึ่งเกิดอุบัติเหตุรถชนกะทันหันจากการถ่ายทำ จนเสียชีวิตก็ได้ "คุณรู้สึกว่าฉันทำเกินไป ร้ายเกินไปหรือเปล่าคะ?" จิดาภาเงยหน้าขึ้นมาจากอ้อมกอดของเขาแล้วเอ่ยถามขึ้น "ถ้าหากไม่ใช่เพราะคุณบอกว่าจะแก้ไขปัญหาด้วยวิธีนี้ วิธีของผมจะยิ่งร้ายกว่านี้อีกครับ" ในใจของจิรภาสแสดงความโมโหออกมา ดวงตาสีดำนั้นมีแต่ความเยือกเย็น .......... อีกทางด้านหนึ่ง เมื่อชนุดมจัดการเรื่องที่กองถ่ายเสร็จแล้วนั้น เขาก็ถูกผู้ช่วยของท่านเดชเชิญตัวไป “ดูเหมือนว่า เรื่องที่เกิดวันนี้ท่านจะทราบแล้วนะครับ?” ชนุดมที่เห็นหน้าของท่านเดชแล้วนั้นก็รับรู้เลยทันทีว่าท่านไม่พอใจในเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นอย่างมาก หรือแม้กระทั่งเขาคงรู้สึกโมโห เพียงเหตุผลเดียว ถึงแม้ว่าท่านเดชจะยังคิดอยากที่จะทดสอบจิดาภาอยู่ก็ตาม แต่ในเมื่อจิดาภาเป็นคนของตระกูลปรีดาอัครกุลแล้ว ครั้งนี้จะเป็นอุบัติเหตุจริงๆหรือเปล่า? หากไม่ใช่อุบัติเหตุ ก็คงจะมีคนเล่นอะไรบ้าๆอยู่เบื้องหลัง หากเป็นเช่นนั้นคนทำก็จะต้องได้รับโทษ “ตรวจสอบเรื่องราวแล้วหรือยัง?” “กำลังตรวจสอบกันอยู่ครับ แต่......ประมาณ80-90%มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณนวาระและคุณปรียสครับ โชคดีที่คุณจิดาภาไม่ได้รับบาดเจ็บ ผมคิดว่าเธอน่าจะรู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” ท่านเดชเลิกคิ้วขึ้น อาการของเขาเปลี่ยนไปอย่างยากที่จะคาดเดา “พวกเขาต้องการทำร้ายจิดาภา แต่กลับถูกโจมตีกลับไปอย่างนั้นหรือ” “ถ้าหากคุณจิดาภารู้ว่ารถคนนั้นมีปัญหาอยู่แล้ว ยังให้คุณปรียสขึ้นไปขับอีก นั่นการสั่งสอนให้บทเรียนเขาไปแบบนี้จะดูรุนแรงเกินไปหรือเปล่าครับ? ตอนนี้มาคิดๆดู ก็เป็นเธอที่เสนอขึ้นมาว่าจะให้ถ่ายฉากนี้ก่อน......” “ก็ถือว่าพอใช้ได้” ท่านเดชนั่งพิงโซฟา ในใจของเขาไม่คิดว่าวิธีการของจิดาภานั้นจะมีปัญหาอะไร เขาเป็นญาติผู้ใหญ่ของจิรภาส คนในตระกูลอัครปรีดากุลอย่างพวกเขาจะลงมือทำอะไร ก็จะไม่จบลงได้ง่ายแบบนี้ บางคนก็มีค่าพอที่จะให้ปฏิบัติดีด้วยได้ แต่บางคนจะต้องตอบโต้กลับไปด้วยความโหดร้าย ถึงแม้ว่าจิดาภาใช้วิธีนี้ในการโต้ตอบกลับไป ในมุมมองของท่านเดชนั้น ก็ไม่นับว่าเฉียบขาดอะไรนัก แต่หากเทียบกับนวาระที่ทำได้เพียงร้องไห้ออกมาเช่นนั้น คะแนนของเธอนั้นก็นับว่าสูงมากแล้ว “แต่ว่าจากเรื่องนี้สามารถมองเห็นได้เลยนะครับ ท่านเดช ว่าหลานสะใภ้ของท่านคนนี้ไม่ธรรมดาเลย เส้นทางต่อไปของเธอจะต้องเดินไปได้อีกไกล” ชนุดมรู้ว่าในวงการนี้มีเรื่องราวที่ไม่ชอบมาพากลและการร่วมมือกันทำเรื่องไม่ดีอยู่มากมาย ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีสามารถปกป้องตัวเองได้ตลอด จิดาภาเดินมาจนถึงวันนี้ได้เธออาศัยความสามารถของเธอเป็นส่วนมากอยู่แล้ว ไม่แปลกใจเลยว่าจิรภาสถึงได้รักเธอถึงเพียงนี้ สองสามีภรรยาอย่างพวกเขาทั้งสองคนมีหลายๆอย่างที่คล้ายกันจริงๆ “ทางยังอีกไกล.....” ท่านเดชยังคงไม่คิดจะหยุดเพียงแค่นี้ สิ่งที่เธอต้องการจากหลานสะใภ้ของเธอนั้นไม่ได้มีเพียงแค่นี้เท่านั้น เขาไม่ได้เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณธรรมสูงเหมือนกับตระกูลอื่นๆ จึงต้องมีเงื่อนไขสำหรับหลานสะใภ้ที่จะแต่งเข้ามา หลานสะใภ้ที่มาจากตระกูลที่มีฐานะและชื่อเสียง ได้รับการอบรมมาดี ความต้องการของเขานั้นจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก นั่นก็คืออยากให้ลูกหลานของตระกูลอัครปรีดากุลแต่งงานกับผู้หญิงที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ผู้หญิงที่ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ตามจะสามารถมีความคิดที่เหมือนกันกับคนในตระกูลของเขาได้ จิดาภาจะทำได้ถึงขั้นไหน เขายังต้องรอดูอีก “ท่านเดชครับ ผมว่าหลังจากเรื่องวันนี้แล้ว พวกเขาคงจะไม่ทำอะไรคุณจิดาภาอีกแล้วล่ะครับ ตั้งแต่ที่คนพยุงเขาออกมาจากรถนั้น สีหน้าของคุณปรียสตกใจเป็นอย่างมาก ทางโรงพยาบาลก็โทรติดต่อมาแล้ว ยืนยันว่าเขาตกใจไปไม่น้อยเลยจริงๆครับ” ชนุดมเอ่ยออกมาอย่างเรียบๆ ถึงแม้ว่าจิดาภาจะไม่ได้ต้องการให้ปรียสต้องมาชดใช้ด้วยชีวิตของเขาจริงๆนั้น แต่ความรู้สึกที่เดินเข้าใกล้ความตายเช่นนั้น เกรงว่าคงจะมีเพียงปรียสคนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจกับความรู้สึกนี้ ไม่รู้ว่าจิดาภาจะร้ายกาจถึงเพียงนี้ หรือว่าจะเป็นเพราะอยู่กับจิรภาสมาเป็นเวลานานแล้ว จึงได้รับอิทธิพลนี้จากเขา..... ........... ในห้องพักผู้ป่วยที่โรงพยาบาล นวาระให้ผู้ช่วยของปรียสเฝ้าอยู่หน้าประตู แล้วเธอจึงเดินถอนหายใจเข้ามายังด้านใน “ทีมงานที่กองถ่ายกลับไปกันหมดแล้วค่ะ” นวาระเป็นกังวล ทั้งยังรู้สึกจนใจ เธอจับมือเขาขึ้นมา “รับปากฉันนะคะ ว่าอย่าไปตั้งตัวเป็นศัตรูกับจิดาภาอีกแล้ว เธอไม่ได้รับมือง่ายๆอย่างที่พวกเราคิด ตอนที่คุณหมอตรวจร่างกายให้คุณเมื่อครู่นี้ ฉันได้มาคิดดูอย่างละเอียดแล้วค่ะ บางที่ที่เธอกลับเข้ามาในวงการนี้ได้สำเร็จ แล้วเดินมาจนถึงวันนี้ได้ ไม่เพียงแค่อาศัยคุณจิรภาสเท่านั้นหรอกค่ะ ตัวเธอเองก็เก่งมากเช่นกัน” สายตาของปรียสนั้นมองไปยังต้นไม้ที่อยู่นอกหน้าต่าง ราวกับว่าเขายังไม่สามารถเรียกสติกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้กลับมาได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย “วันนี้ผมทำขายหน้ามากเลยใช่ไหม?” “ไม่เลยค่ะ! คนในกองถ่ายเป็นห่วงคุณกันทั้งนั้น ผู้กำกับชนุดมก็โทรมาหาถึงสองรอบเลยนะคะ ปรียส คุณไม่เป็นอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้วค่ะ! ต่อไปพวกเราตั้งใจแสดงกันนะคะ ไม่ต้องสนใจเรื่องที่เธอเป็นนางเอกแล้วค่ะ ดีไหม?” ปรียสตอบกลับไปด้วยความนิ่งเฉย นอกจากนี้แล้ว เขายังจะมีทางเลือกอื่นอีกหรือ? เวลานี้ ใจของนวาระที่ยังคงเป็นกังวลอยู่นั้นในที่สุดก็หล่นลงมาอยู่ที่พื้น ถึงแม้ว่าคนที่ผ่านอุบัติเหตุเรื่องรถชนมานั้นจะเป็นปรียส แต่เธอเองหลังจากที่ได้เห็นความคิดอันแสนลึกซึ้งนี้ของจิดาภานั้น เธอก็รู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก เรื่องที่พวกเขาคิดว่าจะทำออกมาโดยไม่ขาดตกบกพร่องนี้ แต่ความจริงแล้วมีคนคอยมองพวกเขาอยู่ตลอด เพื่อให้ความร่วมมือกับแผนร้ายของพวกเขา.. ถ้าหากจิดาภาโหดร้ายกว่านี้ ปรียสจะยังมีชีวิตออกมาจากกองถ่ายนั้นได้หรือเปล่า? หลังจากที่พักผ่อนไปเป็นเวลาหนึ่งวัน ปรียสก็กลับมายังกองถ่ายอีกครั้ง “ทำไมไม่พักอีกซักหน่อยล่ะครับ? หมอว่าอย่างไรบ้าง?” ชนุดมเห็นปรียสมา จึงรีบเดินไปต้อนรับเขา “ผมแค่ตกใจน่ะครับ ไม่เป็นไรแล้ว” ปรียสพยายามฉีกยิ้มออกมา เพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัย นวาระจึงมาช้ากว่าเขาเล็กน้อย หลังจากนั้นเธอเห็นจิดาภาที่แต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว กำลังท่องบทอยู่ในมุมหนึ่งของกองถ่าย เธอดูสงบนิ่งมาก ราวกับว่าเมื่อวานไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น เนื่องจากอุบัติเหตุฉากนั้นของเมื่อวาน ชนุดมจึงจัดถ่ายทำในฉากที่อยู่ในสตูดิโอภายในห้องไว้สองฉาก และเมื่อสิ้นสุดการถ่ายทำในวันนี้แล้วนั้น เขาตะโกน คัต ออกมา นวาระและจิดาภาจึงเดินเข้าไปยังห้องแต่งหน้า “ฉันมีเรื่องอยากจะถามคุณค่ะ ทำไมเมื่อวานนี้คุณไม่บอกเรื่องทั้งหมดกับผู้กำกับไป ทั้งๆที่คุณมีโอกาสที่จะทำให้พวกฉันออกไปจากที่นี่ได้.....” หรือแม้กระทั่งจะยืมอำนาจจากเค.เอฟ ทำให้พวกเขาหายไปจากวงการบันเทิงนี้เลยก็ได้ ตอนเช้าที่เธอไม่ได้เห็นข่าวสารใดๆที่จะเปิดเผยถึงเรื่องนี้นั้น เธอจึงรู้สึกสงสัยกับการมองพลาดของตัวเองไปเสียอย่างนั้น
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่412 ถือว่ามีคุณสมบัติสมกับเป็นหลานสะใภ้
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A