ตอนที่416 ท่านชลธีคนนี้มีเบื้องหลังอย่างไรกันแน่   1/    
已经是第一章了
ตอนที่416 ท่านชลธีคนนี้มีเบื้องหลังอย่างไรกันแน่
ตอนที่416 ท่านชลธีคนนี้มีเบื้องหลังอย่างไรกันแน่ “ยังมีอีก.....” “ถึงแม้เธอจะดูเป็นกันเอง แต่ความจริงแล้ว เธอมีความจริงใจจริงๆหรือ?” ท่านเดชพูดคำพูดเหล่านี้ออกมาอย่างเด็ดขาดมาก แล้วมองดูจิดาภาที่ใบหน้ายังคงนิ่งเฉยอยู่เช่นเคย “คำพูดของฉัน เธอไม่มีทางโต้แย้งกลับมาได้หรอกใช่ไหม? เพราะในใจของเธอเองก็คิดแบบนี้เช่นกัน!” ถ้าหากเป็นนวาระหรือจาริณี เวลานี้พวกเธอคงจะรู้สึกโกรธเคืองไปตั้งแต่แรกแล้ว จิดาภายืนอยู่ตรงนั้น ไม่ใช่ว่าอารมณ์ของเธอไม่ได้มีการขึ้นลงเหมือนกับคลื่นลูกใหญ่ แต่เธอไม่มีสิทธิและความมั่นใจมากพอที่จะโต้ตอบกลับไป.... สำหรับเธอแล้ว ท่านชลธีคนนี้มีคุณสมบัติและประสบการณ์ที่จะตำหนิเธอ อบรมสั่งสอนเธอ เนื่องจากตำแหน่งในวงการนี้ของเขานั้นอยู่ตรงนั้น เธอเองก็เป็นเพียงแค่นักแสดงตัวเล็กๆคนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้เพียงเท่านั้น “นับว่าเธอยังรู้จักข้อบกพร่องของตัวเองอยู่บ้าง ที่ถูกฉันพูดใส่มาขนาดนี้แล้ว ไม่ตอบโต้ฉันเลย เธอจำไว้นะ ตอนนี้สิ่งที่ถูกฉันติงไปนั้น ล้วนแต่เป็นคำพูดที่ต่อไปประชาชนจะเป็นคนพูดออกมากันเองทั้งนั้น!” ท่านเดชมองจิดาภาอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาราวกับอ่อนลงมาบ้างเล็กน้อย จิดาภาหลบตาลงเล็กน้อย ยังคงฟังคำตำหนิของท่านเดชโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา คนที่อยู่ในกองถ่ายยืนดูปฏิกิริยาของจิดาภากันอยู่ข้างๆ บ้างก็รู้สึกว่าเธอจะหันหลังแล้วเดินออกไป บางก็รู้สึกว่าเธอจะเหมือนกับนักแสดงหญิงคนอื่นๆที่พอได้รับความทุกข์ใจเหล่านี้แล้วก็จะน้ำตาไหลออกมา แต่ไม่มีใครคิดว่า จิดาภาจะยังคงยืนอยู่ตรงนั้น เหมือนกับนักเรียนคนหนึ่งที่กำลังยอมรับฟังคำตำหนิของท่านเดช โดยไม่รู้สึกน้อยใจหรือเป็นทุกข์ ไม่รู้สึกขายหน้าเลยเนื่องจากว่าเธอเองก็มีส่วนผิดอยู่จริง..... จิดาภาปฏิบัติกับท่านเดชเช่นนี้ อย่างไรเสียก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด หลังจากที่ท่านเดชพูดออกไปเช่นนั้นแล้ว พบว่าคำพูดของตัวเองนั้นเริ่มอ่อนลงเหมือนกับปุยฝ้ายไปเสียแล้ว แล้วก็ดูไม่ได้ยึดติดไม่ยอมว่างเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว “ฉันจะให้โอกาสเธออีกครั้ง ยอมให้เธออยู่ในกองนี้ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน เธอจะต้องยอมปล่อยบทนางเองนี้ แล้วมาเป็นผู้ช่วยให้ฉัน รอหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ ฉันจะพิจารณาอีกครั้งว่าเธอจะมีคุณสมบัติพอที่จะรับบทนางเอกนี้ได้หรือเปล่า แน่นอนว่าเธอก็สามารถเดินออกไปตอนนี้เลยก็ได้ เพราะถึงอย่างไรสามีของเธอก็มีความสามารถพอ จะกลับไประบายความทุกข์นี้ให้เขาฟังก็ได้นะ.....” จิดาภาเหลือบตาขึ้นมองท่านเดช แล้วหันกลับไปมองชนุดมอีกครั้ง แล้วพยักหน้ารับอย่างไม่ลังเล “ฉันจะเป็นค่ะ” “รับปากเร็วขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าเดี๋ยวก็จะขอลาเปลี่ยนใจไปเสียก่อนนะ?” เมื่อพูดจบแล้ว ท่านเดชจึงยิ้มแล้วลึกขึ้นและเดินออกไปทางด้านนอก ชนุดมที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ข้างๆนั้น เอ่ยพูดกับจิดาภาเสียงเบาๆ “ให้ผมเอาฉากของคุณเลื่อนไปไว้ทีหลังดีไหมครับ?” “ไม่ต้องค่ะ ฉันจะทำให้ได้ พยายามถ่ายฉากกลางคืนก็ได้ค่ะ เพียงแค่เวลาถ่ายแยกออกจากฉากของท่านเดชก็พอ ฉันอยากลองดูซักหนึ่งสัปดาห์ แล้วค่อยดูสถานการณ์อีกทีค่ะ ถ้าหากฉันมีความสามารถไม่มากพอ ฉันจะไม่ให้เป็นเพราะฉันเพียงคนเดียว แล้วต้องส่งผลกระทบกับกองถ่ายเรา” คำตอบของจิดาภานั้นมีความจริงใจเป็นอย่างมาก “เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ ถ้าหากคุณมีอะไรที่ทนรับไม่ไหวล่ะก็ ต้องบอกผมนะ!” ชายชราคนนี้จะทรมานจิดาภาไปถึงขนาดไหนกันเชียว? “ค่ะ” จิดาภาพยักหน้าเบาๆ หลังจากนั้น โรศนีรีบวิ่งเข้ามา “ขอโทษนะคะพี่จิดาภา ฉันมาช้าไปแล้ว เรื่องเมื่อครู่นี้ฉันได้ยินมาแล้วล่ะค่ะ ฉันว่า เราบอกเรื่องนี้กับประธานจิรภาสกันเถอะค่ะ?” “ไม่ต้องบอกเขานะ ระดับนี้ ฉันสามารถจัดการแก้ไขเองได้” จิดาภาว่าแล้ว จึงหันกลับไปแล้วเดินไปยังทิศทางที่ท่านเดชเดินไป โรศนียืนอยู่ตรงที่เดิมแล้วถอนหายใจออกมา “ผู้กำกับชนุดมคะ พี่จิดาภาของเราจะต้องไปเป็นผู้ช่วยของท่านชลธีจริงๆหรือคะ?” ชนุดมส่ายหน้า จริงๆแล้วเขาเองก็ไม่เข้าใจความคิดจริงๆของท่านเดชเหมือนกัน ตอนนี้คงต้องรอดูว่าจิดาภาจะสามารถยืนหยัดต่อไปได้หรือเปล่า ท่านเดชพักอยู่ที่โรงแรมอีกแห่งหนึ่งที่กองถ่ายจัดไว้ให้ เพียงแต่ภายในห้องของโรงแรมนี้เป็นห้องเดี่ยวที่ตกแต่งขึ้นมาอย่างหรูหรา และพอเข้าประตูไปแล้วนั้น ท่านเดชก็เอนกายลงบนเก้าอี้โยก “เธอรู้หรือเปล่าว่าผู้ช่วยจะต้องทำอะไรบ้าง?” “ทำตามคำสั่งของท่านค่ะ” จิดาภาตอบกลับอย่างว่าง่าย “ได้ ...ถ้าอย่างนั้นเธอไปทำอาหาร ฉันหิวแล้ว” “ท่านชลธีอยากทานอะไรคะ?” จิดาภาเอ่ยถาม “ไม่รู้ เธอไปลองทำดูก่อน ทำจนกว่าฉันจะพอใจ” ท่านเดชหลับตาลง แล้วโบกพัดในมือไปมา จิดาภาพยักหน้ารับ “ได้ค่ะ ท่านพักผ่อนก่อนนะคะ....” ท่านเดชที่ได้ยินเสียงฝีเท้าของจิดาภาที่เดินไกลออกไปแล้วนั้น ถึงได้ลืมตาขึ้นมา แล้วพึมพำออกมาด้วยเสียงเบาๆ เมื่อวานไปดื่มดำกับความหวานชื่นกับหลายชายของเขามาแล้วทั้งวัน วันนี้ต้องได้มาลิ้มรสความลำบากเสียบ้าง! เรื่องรสชาติอาหารของท่านเดชนั้นถือว่าต้องพิถีพิถันเป็นอย่างมาก! ที่ห้องครัวของตระกูลอัครปรีดากุลนั้นมีพ่อครัวถึงแปดคน แต่ก็มักจะยังไม่ถูกปากของท่านเดชอยู่บ่อยๆ จิดาภามาเป็นนักแสดง ตอนนี้เธอกลับต้องมารับทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของชายชราผู้นี้ รับผิดชอบเรื่องอาหารการกินของเขา ฟังคำสั่งของเขา แต่จิดาภากลับไม่รู้สึกว่าเป็นทุกข์ แต่กลับดูรู้สึกสนุกกับมันอีกอย่างนั้นหรือ? และไม่นาน ท่านเดชก็เห็นจิดาภายกข้าวต้มผักชามหนึ่ง และผัดผักอีกสองชามเดินเข้ามาหาเขา “ท่านชลธี ลองชิมดูก่อนนะคะ” ท่านเดชกวาดตามองไปเพียงแค่แวบเดียว ก็ตบโต๊ะขึ้นด้วยความไม่พอใจ “ฉันให้เธอเตรียมอาหาร เธอทำพวกนี้ให้ฉันกินอย่างนั้นหรือ? เธอคิดว่ากำลังจะเลี้ยงอาหารให้กระต่ายรึไงกัน?” “ท่านลองชิมดูก่อนสิคะ....” จิดาภาไม่ได้ตอบโต้กลับ แต่กลับยื่นตะเกียบส่งให้เขา ท่านเดชมองหน้าเธออย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก หลังจากนั้นจึงรับตะเกียบมาแล้วชิมอาหารที่เธอทำ แต่ชิมไปเพียงแค่คำเดียว เขากลับรู้สึกถูกปากกับรสชาตินี้ จิรภาส เจ้าเด็กนี้หาภรรยาได้มีทักษะการทำอาหารดีขนาดนี้เชียวหรือ ข้าวต้มแบบนี้ดูแล้วช่างจืดชืด แต่เมื่อทานเข้าไปแล้วนั้นกลับรู้สึกพอใจในรสชาตินั้นเป็นอย่างมาก เพียงแต่เขาให้จิดาภามาเป็นผู้ช่วยของเขา ก็เพื่อจะหาเรื่องเธอนี่! จะให้เธอผ่านไปง่ายๆได้อย่างไรกัน! ดังนั้น ท่านเดชจึงต้องวางความปรารถนาที่อยากจะทานข้าวต้มถ้วยนั้นลง แล้วส่ายหน้า “ไม่ถูกปากฉัน” “ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปทำมาให้ใหม่นะคะ” จิดาภาไม่ได้ตอบโต้อะไร เธอหันกลับไปยังห้องครัวเลยทันที แต่เธอไม่ได้เอาข้าวต้มบนโต๊ะนั้นยกกลับมาด้วย ท่านเดชอดไม่ได้กับความอยากนี้ จึงจัดการข้าวต้มในถ้วยเสียจนหมด แล้วยังทานผัดผักจานใหญ่นั่นด้วย สุดท้ายแล้วเขายังแสร้งทำเป็นบอกว่าเอาไปให้สุนัขที่อยู่ทางด้านนอกนั้นกินไปแล้วเสียอย่างนั้น.... ทรมานจิดาภาอยู่สองสามครั้ง ท่านเดชจึงทำเป็นฝืนทานอาหารที่จิดาภาทำครั้งสุดท้ายนั่น หลังจากนั้น เขาจึงเดินเซไปเซมามุ่งตรงไปยังสถานที่ถ่ายทำ และตอนที่ดูนักแสดงคนอื่นถ่ายทำนั้น เขาจะแสดงออกถึงความคิดเห็นของตัวเองออกมา ถ้าหากคนที่ถ่ายทำอยู่เป็นเขา บทท่อนนี้เขาจะพูดออกมาอย่างไร.... คนที่อยู่ข้างต่างพากันรับฟัง และแน่นอนว่าจิดาภาเองก็ได้ยินด้วยเช่นกัน เพียงแต่ในตอนนี้เธอไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ในกองถ่ายในฐานะของนางเอก แต่อยู่ในฐานะผู้ช่วยของท่านเดช เช่นนี้ความแตกต่างและการเปลี่ยนแปลงของฐานะเธอนั้นทำให้ทุกคนนั้นกองถ่ายไม่ค่อยเข้าใจเธอซักเท่าไหร่นัก มีบางคนที่รู้สึกเจ็บใจแทนจิดาภา รู้สึกแปลกใจว่าจริงๆแล้วเบื้องหลังของท่านชลธีนี้เป็นอย่างไรกันแน่ ไม่คาดคิดว่าแม้แต่ภรรยาของประธานบริษัทเค.เอฟต้องกลายมาเป็นผู้ช่วยของเขาเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเขาเป็นเพียงแค่นักแสดงเก่าที่มีประสบการณ์มามากคนหนึ่งเท่านั้นมิใช่หรือ? ดูจะเป็นการกลั่นแกล้งกันเกินไปหรือเปล่า! อีกทั้งที่ผ่านมาในวงการบันเทิงนี้ก็ไม่มีใครเคยได้ยินว่ามีตัวละครที่เป็นอันดับหนึ่งอย่างเขาด้วย คนแปลกๆแบบนี้ทำไมถึงเป็นจิดาภาที่ต้องพบเจอกัน?
已经是最新一章了
加载中