ตอนที่417 คนจะมีค่าตรงที่รู้จักข้อบกพร่องของตัวเอง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่417 คนจะมีค่าตรงที่รู้จักข้อบกพร่องของตัวเอง
ตอนที่417 คนจะมีค่าตรงที่รู้จักข้อบกพร่องของตัวเอง หลังจากที่ปรียสได้ยินทีมงานในกองถ่ายวิพากษ์วิจารณ์กันแล้วนั้น ความคิดที่อยากจะให้นวาระมารับบทนางเอกแทนจิดาภานั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ในเมื่อท่านชลธีเป็นคนที่มีคุณธรรมและบารมีสูงและยังดูไม่ชอบจิดาภาถึงขนาดนั้น จะสามารถใช้ตรงจุดนี้ ให้เป็นไปตามสถานการณ์ได้หรือเปล่า? เขาหาโอกาสอยู่กับชนุดมตามลำพังเพื่อถามเขา “ผู้กำกับชนุดม จิดาภายอมวางบทนางเอกไปแล้ว เธอไปเป็นผู้ช่วยของคนอื่นแล้วไม่ใช่หรือ? จะไม่ส่งผลกับความคืบหน้าของกองเราหรือครับ?” “ฉากของเธอรวมไว้ถ่ายตอนกลางคืนน่ะ” “แต่ว่าแบบนี้จะส่งผลกับนักแสดงที่ต้องเข้าฉากร่วมกันกับเธอหรือเปล่าครับ อีกสองวันผมก็ต้องมีเข้าฉากกับเธอหลายฉาก ต้องให้ผมรอเธอจนถึงดึกดื่นทุกวันเลยแบบนี้หรือครับ?” ปรียสขมวดคิ้วเล็กน้อย แสดงออกถึงความไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก “ถ้าอย่างนั้นคุณหมายความว่าอย่างไรครับ?” ชนุดมได้กลิ่นถึงแผนการชั่วร้ายบางอย่างของเขา บางทีปรียสยังคงไม่ยอมละทิ้งความคิดที่อยากจะเปลี่ยนตัวนางเอกของเรื่องสินะ “ผมไม่ได้มีความหมายอื่นนะครับ เพียงแต่รู้สึกว่าคุณเป็นผู้กำกับ ควรจะยึดจากสถานการณ์โดยรวมเป็นหลัก ไม่ใช่ว่าเพื่อนักแสดงเพียงคนเดียวแต่กลับทำลายกฎเกณฑ์ทุกอย่างไป” เมื่อพูดจบแล้วปรียสจึงหันกลับแล้วเดินออกไปเลย ชนุดมมองเบื้องหลังของเขา ดวงตาค่อยๆจมดิ่งลง ถึงแม้ว่าจิดาภาไม่ให้โรศนีบอกเรื่องที่เธอไปเป็นผู้ช่วยของท่านชลธีกับจิรภาส แต่จิรภาสคอยใส่ใจกับความเคลื่อนไหวของทางกองถ่ายอยู่ตลอดเวลา ไม่นานเขาก็ได้รู้เรื่องนี้จากคนอื่นๆในกอง เขาไม่โทษจิดาภาที่ไม่ได้บอกให้เขารู้ เพียงแต่เขารู้สึกว่าท่านเดชทำเกินไปแล้วเท่านั้นเอง! ชายชราคนนี้ทำให้ภรรยาของเขาต้องลำบากไปมากแค่ไหนแล้ว เขาจะจดเอาไว้ แล้วจะเอาคืนในอีกไม่ช้า! แต่เขารู้สึกว่านี่อาจจะเป็นโอกาสให้ท่านเดชได้เข้าในในตัวจิดาภาได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก เขาจึงให้โรศนีจำทุกเรื่องที่ท่านเดินให้จิดาภาทำเอาไว้ ทั้งยังจะต้องจำให้ละเอียดและชัดเจนอีกด้วย! ……… ปรียสคิดอยู่ตลอดถึงเรื่องที่ว่าจะใช้เรื่องที่ท่านชลธีไม่ชอบหน้าจิดาภาอย่างไรดี เพื่อที่จะได้เตะจิดาภาให้ออกไปจากกองถ่ายเรื่องนี้ คืนนี้มีถ่ายฉากต่อสู้ของปรียสกับจิดาภา ไม่รู้ว่าจิดาภามักจะได้ยินที่ท่านชลธีคุยกับคนอื่นหรือเปล่า วิธีการแสดงของเธอราวกับแตกต่างไปจากเดิม..... ตอนที่เธอแสดงนั้น มักจะดูมุมกล้องตัวเองเป็นอย่างดี และราวกับว่าดูมีความยืนหยุ่นและคล่องแคล่วมากขึ้นไปอีกด้วย ปรียสเดินมาข้างๆเธอ เพื่อคลำหาปืน เพียงแต่พบว่าปืนนั้นได้อยู่ในมือของจิดาภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้แต่ฉากง่ายๆเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าปรียสจะถ่ายออกมาได้ไม่ดีไปถึงสองครั้ง! เนื่องจากว่าความคิดและจิตใจของเขานั้นไม่ได้อยู่ในฉากเลย กลับคอยแต่จะคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะเอาจิดาภาออกไปจากกองนี้ได้! "ปรียส ทำไมอารมณ์คุณถึงไม่ได้เลย? ไปพักก่อนไป!" ชนุดมตะโกนออกมา แล้วหันกลับมาดูฉากเมื่อครู่นี้ต่อ ท่านเดชที่ยืนดูอยู่ไม่ไกล "อืม นับว่าเธอเข้าใจได้เร็ว ไม่ถือว่าเป็นไม้ที่ผุแล้ว" ไม่ว่าท่านเดชจะยืมชื่อของท่านชลธีมาใช้เพื่อกลั่นแกล้งจิดาภาอย่างไรก็ตาม นั่นล้วนแต่เป็นการทดสอบหลานสะใภ้คนนี้ของเขา แต่หากคนนอกที่คิดจะรังแกจิดาภาล่ะก็! บอกได้เพียงคำเดียว ว่าไม่มีทาง นี่คงเป็นนิสัยของคนตระกูลอัครปรีดากุลของพวกเขานั่นเอง เช้าวันรุ่งขึ้น ท่านเดชที่เห็นสีหน้าของจิดาภาไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก จึงให้เธอพักอยู่ที่ห้องในช่วงเช้า จิดาภาก็มีเวลางีบอยู่ซักพักหนึ่ง ช่วงบ่าย เธอไปดูนักแสดงคนอื่นถ่ายทำกับท่าเดชที่กองถ่าย "การถ่ายทำละคร รีบร้อนไม่ได้หรอก แล้วก็จะมัวแต่ท่องจำบทก็ไม่ได้ด้วย ต้องทำให้ความคิดที่ล้าสมัยนี้เป็นเรื่องมหัศจรรย์ ใช้ท่าทางและอารมณ์มาเติมเต็มบทละคร แบบนี้จะได้ไม่กลายเป็นดูแข็งเป็นท่อนไม้ที่เอาแต่ท่องบทออกมา" ท่านเดชคุยกับคนอื่นๆ แต่คำพูดเหล่านี้กลับตั้งใจพูดให้จิดาภาได้ยิน จิดาภาเองก็ได้ยิน และจดจำคำพูดเหล่านี้เอาไว้ในใจแล้ว หลังจากนั้นจะต้องพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น จดจำไว้อย่างละเอียด พอดีกับปรียสที่เดินมาทางด้านข้าง หลังจากเห็นท่าชลธีและจิดาภาแล้ว ดูเหมือนจะมีความคิดบางอย่าง แล้วเอ่ยพูดกับผู้ช่วยของเขาแล้วรีบเดินออกไปด้วยความรีบร้อน ต่อจากนั้นผู้ช่วยของปรียสได้ขวางหน้าท่านเดชไว้ในช่วงที่จิดาภากำลังเตรียมตัวถ่ายฉากในช่วงกลางคืน เชิญให้เขาไปพบปรียสที่ร้านอาหาร ท่านเดชหันกลับไปมองทิศทางที่จิดาภาเดินออกไป "ได้ นำไปสิ" หลังจากนั้นสิบนาที ท่านเดชเดินเข้ามาในห้องอาหารของโรงแรม ปรียสรอเขาอยู่ก่อนแล้ว "มีเรื่องอะไร?" ท่านเดชเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา "ท่านชลธีครับ ช่วงนี้ผมได้ยินมาว่าท่านไม่ค่อยพอใจจิดาภาที่รับบทนางเองซักเท่าไหร่ ผมพูดตามความจริง ว่าผมก็คิดเหมือนกันกับท่าน ผมอยากให้นวาระรับบทเป็นนางเองเรื่องนี้ เพราะฉะนั้น....ขอให้ท่านช่วยหาวิธีเปลี่ยนตัวจิดาภาออก ส่วนเรื่องค่าตอบแทนนั้น จะไม่ทำให้คุณต้องเสียเวลาไปเปล่าๆอย่างแน่นอนครับ" ปรียสที่ใช้เวลาในการคอยสังเกตการณ์เรื่องนี้มาสองวันเต็มๆ รู้สึกว่าในเมื่อท่านชลธีไม่ชอบจิดาภาขนาดนี้ จะต้องตอบตกลงในคำขอของเขาอย่างแน่นอน เพียงแต่...... ท่านเดชจ้องมองเขาอยู่ซักพัก แล้วย้อนถามกลับไป "เธอรู้สึกว่าฉันเกลียดจิดาภาขนาดนั้นเลยหรือ?" "แล้วไม่ใช่หรอกหรือครับ? แล้วทำไมนักแสดงมากมายหลายคน ท่าจะต้องพุ่งเป้าหมายไปที่เธอด้วย?" "แปลกมากจริงๆ ฉันจะเกลียดใคร จะปฏิบัติต่อใคร เด็กผู้ชายอย่างเธอก็ดูออกอย่างนั้นหรือ? แล้วอีกอย่าง เธอไม่อยากให้จิดาภาเป็นนางเองก อยากจะให้นวาระเป็นแทน เธอคิดว่าทักษะการแสดงของนวาระดีกว่าจิดาภาอย่างนั้นรึ?" จู่ๆท่านเดชเปลี่ยนไปอย่างเด็ดขาด มารังแกหลายสะใภ้ของเขาอย่างนั้นหรือ? ก็ไม่ถามเขาซักคำว่าเขาจะยอมหรือเปล่า ปรียสทำตัวไม่ถูก และตอนที่ยังคิดจะเกลี้ยกล่อมเขาอีกนั้น ท่านเดชก็พูดขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค ซึ่งทำให้เขารู้สึกละอายใจเป็นอย่างยิ่ง "ที่ถ่ายฉากรถชนครั้งที่แล้ว จิดาภาไม่ได้ติโทษเรื่องในอดีตเหล่านั้นกับพวกเธอแล้ว ทำไมพวกเธอถึงได้ไร้ยางอายกันขนาดนี้!" ปรียสไม่คาดคิดว่าท่านเดชจะรู้เรื่องนี้ จริงอยู่ ที่เขาและนวาระยังคงอยู่ในกองถ่ายนี้ หรือแม้กระทั่งยังสามารถเดินอยู่ในวงการนี้ได้ เป็นเพราะจิดาภาไม่ได้พูดความจริงออกมา ดังนั้น เขาจึงลืมความรู้สึกตื่นกลัวในวันนั้นไปเสียแล้ว "ผม......" "พอได้แล้ว เธอลืมตามองดูดีๆนะ ว่าทำไมฉันถึงให้จิดาภามาเป็นผู้ช่วยฉัน ทำไมถึงเอาแต่ชี้แนะการแสดงของเธอ เพราะว่านอกจากเธอแล้ว พวกเธอก็ไม่มีใครเหมาะสมทั้งนั้น" ท่านเดชลุกขึ้นยืน แล้วเอ่ยพูดกับปรียสอย่างไม่เกรงใจ "คนเรา ต้องรู้จักตัวเองแล้วก็รักตัวเอง ใจคดแบบนี้ ไม่นานหรอกก็ต้องถูกฟ้าดินลงโทษ" พูดจบแล้วนั้น ท่านเดชก็ลุกขึ้นเพื่อจะเดินออกไป ปรียสเองก็รู้สึกโมโหขึ้นมาเช่นกัน จึงตะโกนขึ้นมาเสียงดัง “ไม่ใช่ว่าเป็นนักลงทุนคนหนึ่งเท่านั้นเองหรอกหรือ?คิดว่าตัวเองเก่งนักหรือไง?” “ใช่ ฉันเองก็เป็นแค่นักลงทุน แต่ถ้าหากไม่มีฉัน เธอจะมีละครให้ได้เล่นแบบนี้ไหม?” ท่านเดชย้อนกลับไป “ก่อนจะทำอะไร ลองชั่งน้ำหนักดูคุณค่าของตัวเองบ้าง จิดาภาปล่อยพวกเธอไปครั้งนึงแล้ว จะต้องรู้จักสำนึกในบุญคุณเธอสิ มิเช่นนั้น จะกลายเป็นว่าหาเส้นทางตายของตัวเองเสียเปล่าๆ” ครั้งนี้ ท่านเดชเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เย็นชา ทิ้งปรียสไว้ในห้องอาหารด้วยความรู้สึกโมโหเสียจนตัวสั่นเทาไว้เช่นนั้น ชายแก่คนนี้ ทำให้คนรู้สึกเกลียดได้มากกว่าจิดาภาเสียอีก สรุปแล้วเขามีเบื้องหลังอย่างไรกันแน่! ปรียสนั่งพิจารณาอยู่ในห้องอาหารนั้นเป็นเวลานาน รู้สึกว่ายังคงกลืนความรู้สึกนี้ลงไปไม่ได้เสียที จึงโทรออกหาผู้ช่วยของเขาเพื่อมอบหมายบางเรื่องให้ผู้ช่วยของเขาทำ..... ในคืนนั้นเอง ก็มีข่าวที่ว่าจิดาภาถูกบังคับให้ไปทานข้าวกับนักลงทุน ใช้ร่างกายเข้าแลกหลุดออกไป นักข่าวสื่อต่างๆต่างพากันกระหน่ำโทรหาชนุดมและทางทีมงานคนอื่นๆในกองถ่าย ต้องการจะถามข่าวใหม่เรื่องนี้ แน่นอนว่าชนุดมนั้นปฏิเสธทันทีว่าไม่มีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่มีทีมงานบางคนที่ตอบกลับไปในเรื่องที่พวกเขามองเห็นกัน
已经是最新一章了
加载中