ตอนที่418 เปลี่ยนตัวพระเอก

ตอนที่418 เปลี่ยนตัวพระเอก ตามคำพูดของทางทีมงานภายในที่น่าเชื่อถือได้คนหนึ่งกล่าวว่า นอกจากจิดาภาจะถ่ายทำละครแล้ว เธอยังไปทำกับข้าวซักผ้าให้กับนักแสดงเก่าท่านหนึ่งอีกด้วย ประโยคนี้ นักข่าวหลายๆสื่อพากันเริ่มระดมสมอง แล้วแพร่กระจายเรื่องนี้ออกไปอย่างไม่อาจทนดูต่อไปได้ แม้กระทั่งมีข่าวลือที่ว่า เป็นเพราะเรื่องนี้ทำให้จิรภาสกับจิดาภาแอบหย่ากันอย่างลับๆมาตั้งนานแล้ว เพียงเพราะว่าจิดาภายังคงเป็นศิลปินในสังกัดของเค.เอฟอยู่ จึงยังไม่เปิดเผยออกมาเพื่อผลประโยชน์ของบริษัท หลังจากที่ท่านเดชได้เห็นข่าวนี้แล้วนั้น จึงรีบเรียกชนุดมมาหาทันที “พระเอกที่คุณเลือกมานี้ เก่งจริงๆเลยนะ!” ปรียสทำเช่นนี้ เป็นการสร้างความวุ่นวายให้กับกองถ่ายเป็นอย่างมาก ซึ่งถึงแม้ว่าเขายอมจะเปลี่ยนตัวนางเอก ตอนตรวจสอบในช่วงสุดท้าย เค.เอฟก็คงไม่ยอมให้ภาพยนตร์ที่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของพวกเขาเข้าฉายได้อย่างราบรื่นอยู่แล้ว “ท่านเดชครับ ท่านจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรครับ?” “จัดการ? พระเอกแบบนี้ยังจะไม่เปลี่ยนตัวอีกรึไง รออะไรล่ะ?” “ได้ครับ....เปลี่ยนตัว! ผมจะรีบหาคนที่จะมาเป็นพระเอกแทนเขาเดี๋ยวนี้เลยครับ แล้วก็จะให้ภายในกองปิดข่าวลือพวกนี้ไว้ด้วยครับ แต่ว่าท่านจะเปิดเผยฐานะของท่านหรือยังครับ?” “ยังไม่จำเป็น แล้วก็ยังไม่ถึงเวลานั้นด้วย” ท่านเดชหรี่ตาลง “บางคนจะต้องได้รับความลำบากเสียก่อนถึงจะเป็นคนที่ดีขึ้นมาได้ ยื่นมือออกมาตอนนี้ คงจะเป็นการเอาเปรียบเขาเกินไปแล้ว!” ชนุดมเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเรื่องนี้ปรียสเป็นคนผิดตั้งแต่แรก ดังนั้นจากเรื่องราวและความสมเหตุสมผลนั้น เขาเองก็จะไม่ขัดในความต้องการนี้ของท่านเดชด้วยเช่นกัน เนื่องจากข่าวนี้จะต้องถูกทำให้กระจ่างลงในตอนสุดท้ายอยู่แล้ว ถึงตอนนั้นทุกคนจะได้รู้ว่าเป็นเพราะพระเอกของเรื่องอย่างปรียสที่ทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ หากยังคงปล่อยให้พระเอกที่มีพฤติกรรมไม่ดีเช่นนี้อยู่ล่ะก็ มีแต่จะส่งผลเสียกับภาพยนตร์เรื่องนี้! ในฐานะที่เขาเป็นผู้กำกับ แน่นอนว่าไม่สามารถมองดูเรื่องแบบนั้นให้เกิดขึ้นมาได้อยู่แล้ว เดิมทีเรื่องครั้งที่แล้วจิดาภาไม่ได้เอ่ยพูดออกมา ก็ถือว่าเป็นการให้โอกาสพวกเขาแล้ว ยอมปล่อยเรื่องราวให้ผ่านไปแล้ว แต่ปรียสเองที่ไม่เพียงแต่ไม่ซาบซึ้งในบุญคุณ ยังกำเริบเสิบสานหนักขึ้นกว่าเดิม คนที่หาทางตายแบบนั้นไม่สมควรได้รับโอกาสอีก “จริงๆแล้ว....เจ้าเด็กนั้นเมื่อก่อนก็ชอบการแสดง” จู่ๆท่านเดชจึงเอ่ยขึ้นมา “ถ้าไม่ได้เป็นเพราะจะต้องรับช่วงของบริษัทต่อ ในวงการบันเทิงก็คงจะมีนักแสดงที่มีความสามารถเพิ่มมาอีกหนึ่งคน” “ท่านหมายถึง ประธานจิรภาสหรือครับ?” ชนุดมรู้สึกสนใจขึ้นมา “นอกจากเขาแล้ว ยังมีใครอีกหรือ?” ท่านเดชพูดถึงหลานชายของตัวเอง ด้วยน้ำเสียงที่ดูภาคภูมิใจ “ถ้าอย่างนั้นจะพอเป็นไปได้ไหมครับให้เขามาร่วมแสดงกับเรา?” ชนุดมรู้ว่าข้อเสนอแนะของตัวเองในข้อนี้ดูจะใจกล้ามากไปเสียหน่อย แต่ถ้าหากสามารถเชิญจิรภาสได้จริงๆล่ะก็..... “ฝันไปสิ!” ท่านเดชหันหน้ามา “เขามาถ่ายละคร แล้วงานที่บริษัทใครจะทำ?” ชนุดมอึ้งไปซักพักหนึ่ง “ท่านสามารถกลับไปดูแลซักสองสามวันได้หรือเปล่าครับ?” สีหน้าของท่านเดชดูขัดแย้งกันมากขึ้นไปเสียอีก “อย่าแม้แต่จะคิดเลย! เค.เอฟอยู่ห่างจากจิรภาสไปไม่ได้หรอก ฉันอายุขนาดนี้แล้ว แบกรับความเหนื่อยแบบนั้นไม่ไหวหรอก” ล้อเล่นอะไรกัน ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่เขาจะสะบัดทิ้งความรับผิดชอบเหล่านั้นของบริษัทออกไปได้ จะกลับไปอีกได้อย่างไรกัน? ชนุดมยิ้มออกมาแล้วมองเขา ไม่ใช่เป็นเพราะท่านเดชอายุมากแล้ว จึงไม่อยากกลับไปดูแลบริษัท แต่หวังจะให้คนหนุ่มสาวอย่างพวกเขาได้มีช่องว่างที่จะสามารถแสดงความสามารถออกมาเสียมากกว่า อีกทั้งเขาอยากจะมีเวลาว่างออกมาเพื่อทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เช่น งานทางด้านการแสดงนี้ “แต่ ท่านเดชครับ อ้อมมาขนาดนี้แล้ว ท่านทดสอบคุณจิดาภามาสองสามครั้งแล้ว สรุปแล้วท่านยอมรับในตัวหลานสะใภ้คนนี้แล้วหรือยังครับ?” “สองสามครั้ง? แค่สองสามครั้งเอง! เวลายังมีอีกเยอะ....” ท่านเดชเงยหน้าขึ้นแล้วออกแรงโบกพัดในมือของเขา “ต่อไปรอดูการแสดงออกของเธอแล้วกัน” ชนุดมส่ายหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ ท่านเดชคนนี้เป็นคนปากร้ายแต่ใจดี ทั้งๆที่คอยปกป้องจิดาภาอย่างดี แต่กลับปากแข็งไม่ยอมรับเสียอย่างนั้น เขาคุยกับท่านเดชต่ออีกหน่อย แล้วจึงรีบไปจัดการเรื่องเปลี่ยนตัวนักแสดงทันที ......... “ไม่ใช่ว่าหย่ากันนานแล้วหรอกหรือ? เหมือนว่าจะไม่เห็นพวกเขาถ่ายรูปด้วยกันนานแล้ว” “นักแสดงรุ่นเก่าคนนั้นเป็นใครกัน? ทำไมจิดาภาจะต้องไปคอยปรนนิบัติเขาแบบนั้น?” “นี่สินะวงการบันเทิง! ลืมตาดูซะ นางฟ้าเทพธิดาอะไรพออยู่ต่อหน้าคนมีเงินเข้าหน่อยก็เป็นเหมือนกันหมดนั่นแหล่ะ” “ฉันไม่เชื่อ! จิดาภาเป็นบัวในตมมาโดยตลอด เธอจะต้องมีเหตุผลของเธออย่างแน่นอน อีกอย่างพวกเขาไม่ได้ดูเหมือนมีความสัมพันธ์แบบนั้นกันเสียหน่อย” “เค.เอฟไม่ออกมาปฏิเสธแบบนี้ หรือว่าจะเป็นเรื่องจริง.....” ข่าวลือมืดฟ้ามัวดินเหล่านี้ปรากฏเต็มหน้าเว็บไซต์สื่อต่างๆ ข่าวนี้ของจิดาภาเป็นที่รู้กันไปทั่วทั้งหมด ทุกๆวันจะมีนักข่าวที่มาดักรออยู่ทางด้านล่างตึกเค.เอฟ มีเบาะแสร่องรอยใดๆก็ไม่อาจยอมปล่อยให้หลุดมือกันไปได้เลย ถ้าหากใครสามารถรับรู้ถึงความจริงเรื่องนี้ได้ก่อนนั้น นั่นก็เท่ากับว่าจับประเด็นข่าวที่ร้อนแรงที่สุดของปีนี้ได้ จิดาภาจะไม่เคารพตัวเองเพื่อเงินแบบนี้ ยอมทิ้งสามีที่เก่งขนาดนั้น แล้วยอมที่จะไปปรนนิบัติชายแก่คนนั้นอย่างนั้นหรือ? ถูกนักข่าวตามกันเสียจนรู้สึกรำคาญแล้ว ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็ได้ประกาศชี้แจงว่าข่าวเหล่านั้นเป็นเพียงแค่ข่าวลือ ใส่ร้ายป้ายสีกันเพียงเท่านั้น หลังจากที่จิรภาสเห็นข่าวนี้แล้วนั้น สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เป็นเพราะว่าพวกนักข่าวเขียนข่าวกันมั่ว แต่เป็นเพราะไม่คิดว่าท่านเดชรังแกจิดาภาของเขาขนาดนี้! ภรรยาที่เขาทั้งรักและทะนุถนอมไม่คิดเลยว่าจะต้องมาซักผ้า ทำกับข้าวให้กับผู้อาวุโสของตระกูลเขาเช่นนี้...... มีสิทธิอะไรกัน! เขาจะทนไม่ได้แล้ว “ท่านประธานครับ....” ตฤณที่อยู่ข้างๆเมื่อเห็นจิรภาสโมโหขนาดนั้นแล้ว รู้สึกไม่สามารถอธิบายออกมาได้เลย เรื่องนี้เป็นข่าวลือ ในใจของจิรภาสนั้นจะต้องรู้ดีอยู่แล้ว แล้วทำไมเขาต้องโมโห? “ช่างมันเถอะ ผมจะทนไว้” จิรภาสวางโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ตรงข้างๆ “แล้วเรื่องนี้จะจัดการอย่างไรครับ?” ตฤณเอ่ยถาม “สถานการณ์ทางกองถ่ายเป็นอย่างไรบ้าง?” จิรภาสยิ่งอยากรู้เข้าไปอีกว่าทางด้านชนุดมจะใช้มาตรการอะไร ในเมื่อข่าวนี้ออกมาจากกองถ่ายของเขา อีกทั้งคนที่ปล่อยข่าวนี้ออกมานั้นเป็นใคร ในใจของทุกคนนั้นรู้ดีอยู่แล้ว “ผู้กำกับชนุดมจะเปลี่ยนตัวพระเอกครับ ได้ทำการเตรียมคัดเลือกคนมารับบทแทนอย่างลับๆอยู่ครับตอนนี้ เพียงแต่ว่าตอนนี้จะหาคนก็ดูจะฉุกละหุกเกินไปเสียหน่อยครับ แล้วยิ่งไม่สามารถกระจายข่าวออกไปด้วยอีก แล้วประกอบกับตอนนี้นักแสดงชายที่มีความสามารถทางด้านละครแอ็คชั่นก็มีเพียงไม่กี่คน ชั่วโมงกว่าแล้วก็ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้เลยครับ” ตฤณรายงานข่าวและข้อมูลที่เขาไปรวบรวมมาได้ เพียงแต่หลังจากที่รายงานเสร็จแล้วนั้น เขามองดูสีหน้าของจิรภาส แล้วอยากจะบอกออกมาเหลือเกินว่า คนที่ดีที่สุดนั้นมีอยู่แล้ว นั่นก็คือเจ้าตัวอย่างจิรภาสนั่นเอง! แต่เขาไม่กล้าพูดออกไป “คุณปู่ไม่ได้บอกว่าจะให้ใครมาแทนหรอกหรือ?” “ไม่ได้บอกครับ ท่านเดชไม่ได้สนใจเรื่องบทบาทพระเอกของเรื่องนี้ซักเท่าไหร่น่ะครับ” เพียงแค่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ถ่ายทำต่อ ไม่ส่งผลกระทบต่อการถ่ายฉากของเขาและการทดสอบหลานสะใภ้ของเขาก็พอแล้ว “สมภพยังอยู่ในช่วงพักร้อนอยู่ไหม?” “ครับ ต้องการจะติดต่อเขาไหมครับ? แต่คุณผู้หญิงเพิ่งจะร่วมงานไปกับคุณสมภพเองนะครับ ถ้าหากร่วมงานกันอีก จะดูบ่อยเกินไปหรือเปล่าครับ?” ไม่ใช่ว่ากลัวพวกเขาจะมีข่าวลือกัน แต่กลัวว่าจะทำให้คนดูเบื่อเข้าเสียก่อน “ถ้าอย่างนั้นก็ติดต่อนักแสดงต่างประเทศ ผมคิดดูก่อนนะ.....” จิรภาสว่าดังนั้น แล้วหยิบปากกาขึ้นมาเขียนชื่อไว้ เพื่อให้ตฤณเอาไปให้ชนุดมดู แล้วให้เขาเป็นคนตัดสินใจเลือก โดยให้ไปคุยเจรจาโดยเค.เอฟจะเป็นผู้ออกหน้ารับเอง จิรภาสมักจะคำนึงถึงจิดาภาอยู่เสมอ ถ้าหากใช้ดาราจากต่างประเทศ จะถือว่าเป็นการปูทางให้กับจิดาภาเดินเข้าไปสู่วงการภาพยนตร์นานาชาติได้อย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าหากเขาสามารถจะเชิญนักแสดงดังๆมาร่วมงานด้วยก็คงจะยิ่งดี จิดาภาเองก็จะได้เรียนรู้อะไรที่มากขึ้น จะได้ฝึกฝนทักษะการแสดงที่ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วย