ตอนที่419 แกะดำอย่าเอาไว้   1/    
已经是第一章了
ตอนที่419 แกะดำอย่าเอาไว้
ตอนที่419 แกะดำอย่าเอาไว้ เวลานี้เองปรียสยังคงไม่คิดว่าทางทีมกองถ่ายและเค.เอฟกำลังเตรียมตัวจะเปลี่ยนตัวเขา เขาไม่ได้ฉลาดเหมือนนวาระ ตอนที่วางแผนเล่นงานนั้นก็ไม่ได้รู้อะไรเลยว่าคนที่จะทำให้เขาไม่พอใจนั้น เป็นถึงคนในวงการบันเทิงที่ไม่ควรจะหาเรื่องเขามากที่สุด คืนนั้น หลังจากที่จิดาภาทำอาหารให้ว่างให้กับท่านเดชเสร็จแล้วนั้น ก็เตรียมตัวจะไปที่กองถ่ายเพื่อไปดูคนอื่นๆถ่ายทำกัน แต่กลับถูกท่านเดชรั้งตัวเอาไว้เสียก่อน "สองวันนี้เธอพักไปก่อนแล้วกัน หลังจากที่ปรียสไปแล้ว เธอยังจะต้องถ่ายทำฉากก่อนหน้านี้อีก" จิดาภาขมวดคิ้ว หันกลับมามองท่านเดช "ท่านชลธี ท่านหมายความว่า....." "ในเมื่อมีคนเล่นแผนการอะไรแบบนี้อยู่เบื้องหลัง ก็จะต้องชดใช้กับสิ่งที่ตัวเองทำ หรือว่าเธอไม่รู้ว่าคนที่ปล่อยข่าวลือพวกนั้นออกไปคือปรียส?" ท่านเดชหยิบถ้วยและตะเกียบขึ้นมา ใบหน้าไม่มีรอยยิ้มปรากฏออกมา แต่ในใจนั้นกลับพอใจกับอาหารว่างมือค่ำนี้เป็นอย่างมาก "ผู้กำกับจะเปลี่ยนตัวคุณปรียส แล้วหาพระเอกใหม่หรือคะ?" "เขาถูกกิเลสความโลภเข้าครอบงำ โดยไม่ได้คำนึงถึงว่าเขาทำเช่นนี้มีแต่จะดึงทั้งกองถ่ายให้ลงน้ำไปกับเขาเพื่อที่จะทำร้ายเธอ เอาเขาไว้ จะทำให้ปัญหาที่ยากๆจบลงได้ง่ายขึ้น" ท่านเดชชิมกับข้าวที่เธอทำ แล้วเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเบาๆ "ถ้าเขารู้ข้อบกพร่องของตัวเอง หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งที่แล้ว เขาก็ควรที่จะตั้งใจทำหน้าที่ถ่ายงานในส่วนของตัวเองให้ดี แต่เขานั้นโลภเกินไป ไม่รู้อะไรดีหรือไม่ดี คนที่มีจิตใจคดเคี้ยวเช่นนี้ไม่ควรค่าแก่การเป็นนักแสดง กระแสความนิยมของวงการบันเทิงควรจะมีคนออกมาดูเสียบ้างตั้งนานแล้ว! ไม่อย่างนั้น เส้นทางของตระกูลปรีดาอัครกุลคงจะถูกคนพวกนี้ทำให้เขวไปได้เหมือนกัน" "อะไรนะคะ?" จู่ๆท่านเดชก็รู้สึกว่าอีกนิดเดียวเขาจะหลุดพูดอะไรออกไปแล้ว จึงรีบเบี่ยงประเด็นออกไป "เอาล่ะ ถึงอย่างไรก็ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องปรียสอีกแล้วกัน ถ่ายทำละครในช่วงกลางคืนก็ต้องดูแลสุขภาพด้วย อย่าคิดว่าเหนื่อยแล้วจะมาบอกปัดงานเป็นผู้ช่วยของฉันได้" จิดาภาได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้ารับ "ฉันเข้าใจแล้วค่ะ" ที่ท่านเดชบอกเรื่องที่จะเปลี่ยนตัวพระเองนี้กับจิดาภา ก็เพื่อจะให้เธอได้หาเวลาพักผ่อนบ้าง เก็บแรงเอาไว้ มิเช่นนั้นอีกไม่กี่วันจะต้องมีภารกิจถ่ายฉากที่ค่อนข้างหนัก เธออาจจะรับไม่ไหว ตอนที่จิดาภาจะออกมาจากที่พักของท่านเดชนั้น มุมปากของเธอปรากฏรอยยิ้มออกมา เธอฉลาดขนาดนั้น ทำไมจะไม่เข้าใจว่าท่านผู้อาวุโสท่านนี้กำลังเตือนให้เธอดูแลสุขภาพตัวเอง ถึงแม้ว่าเขาจะคอยกลั่นแกล้งเธอ แต่คำพูดและน้ำเสียงของเขานั้นบ่งบอกว่ากำลังแนะนำสั่งสอนเธอ จิดาภาเองก็จดจำใส่ใจไว้อย่างละเอียด เพราะหลังจากที่เธอกลับเข้ามาในวงการแล้ว ความนิยมของเธอเพิ่มขึ้นเร็วมาก ราวกับเธอกำลังอยู่ในโลกแห่งความฝัน คนเราหากหุนหันพลันแล่นจนเกินไป ก็มักจะลืมความตั้งใจแรกของตัวเอง การปรากฏตัวของบุคคลอาวุโสท่านนี้นับว่าเป็นการตักเตือนเธอในส่วนนี้นั่นเอง เพื่อการแสดงละคร เธอถึงได้มาทำอาชีพนี้ ไม่ใช่เป็นเพราะลาภยศภาพลวงตาเหล่านั้น จิดาภากลับมายังโรงแรงเพียงลำพัง และเห็นนวาระอยู่เดินอยู่ตรงระเบียง ตอนแรกเธอกะว่าจะเดินผ่านไปเงียบๆ แต่ในเมื่อเจอกันแล้ว คงจะต้องเอ่ยทักทายเธอเสียหน่อย "เขายังคงไม่คิดจะรามือง่ายๆ" "จิดาภา ขอโทษนะคะ....ฉันพยายามเกลี้ยกล่อมเขาแล้ว ไม่คิดว่าเขาจะไม่ยอมจบแบบนี้ ต่อไปฉันจะไม่สนับสนุนให้เขาทำแบบนี้อีกแล้ว เพียงแต่ ที่เขาทำไปทุกอย่างก็เพื่อฉัน" "ฉันจะพยายามชดใช้ให้เท่าที่ฉันสามารถจะทำได้ ฉันได้ให้ผู้ช่วยของฉันเรียกรวมตัวแฟนคลับ เพื่อเป็นพยานให้คุณ ทางฝั่งคุณ...." "ภายนอกต่างก็คิดว่าพวกคุณเป็นสามีภรรยาที่ดีต่อกันมาโดยตลอด ถ้าปล่อยให้เรื่องเป็นแบบนี้ต่อไป อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในสายตาของแฟนคลับที่มีต่อคุณ พวกเขาจะรู้สึกว่าคุณทำผิดต่อคุณจิรภาส ทรยศต่อชีวิตการแต่งงานของพวกคุณ...." "เรื่องบางเรื่อง ไม่ใช่เพียงแค่คำพูดไม่กี่ประโยคก็จะจบลงได้ง่ายๆนะคะ" จิดาภาตอบกลับไปอย่างไม่สะทกสะท้าน มุมปากปรากฏรอยยิ้มบางๆ ไม่เห็นถึงท่าทางความตื่นตระหนกออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว ยิ่งเธอดูเย็นชา นวาระก็ยิ่งดูเธอไม่ออก "เป็นเพราะว่าเบื้องหลังของคุณมีเค.เอฟคอยสนับสนุนอยู่ จึงทำให้คุณอยู่นิ่งกับเรื่องทุกเรื่องได้แบบนี้หรือคะ?" "ไม่ใช่ค่ะ ฉันเพียงแค่เขาใจในเหตุผลหนึ่ง คนที่เดินไปถึงเป็นคนสุดท้ายถึงอย่างไรก็ไม่ใช่คนทรยศค่ะ เราทำอะไรฟ้ารู้ดินรู้ ฉันทำอาชีพนี้มาหลายปี ยังไม่เคยเห็นมีใครที่เล่นแผนสกปรกแล้วจะมีชื่อเสียงขึ้นมาได้ซักคน" นวาระอึ้งไป เธอรู้สึกไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองจิดาภาเลยเสียด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทักษะการแสดง รูปร่างหน้าตา ความคิด....ราวกับเธอจะไม่สามารถเทียบกับจิดาภาได้เลย เพียงแต่ในโลกนี้จะมีคนโชคดีอย่างจิดาภาอยู่จริงๆหรือ ที่จะสามารถข้ามผ่านทุกอย่างไปได้ราบรื่นและปลอดภัยเช่นนี้ "ฉันรู้ว่าคุณปรียสทำไม่ถูก แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่สามารถเห็นเขาต้องสูญเสียทุกอย่างไปเพราะฉันได้ ดังนั้น ฉันก็ยังคงเลือกที่จะปกป้องเขา" พูดจบแล้ว นวาระจึงหันกลับแล้วเดินเข้าห้องตัวเองไป จิดาภาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ดูแล้วนวาระจะยังไม่รู้เรื่องที่ทางทีมงานกองถ่ายกำลังจะเปลี่ยนตัวพระเอก พวกเขาพยายามกันอย่างเต็มที่ แข่งขันแย่งชิงกันไปมา สุดท้ายแล้วจะได้อะไรกัน? หลังจากที่พี่นัฎรู้เรื่องที่จิดาภาขึ้นอยู่ในยอดการค้นหาแล้วนั้น จึงรีบโทรมาหาเธอในทันที "ครั้งนี้เป็นเพราะอะไรอีกกัน? ทำไมพี่ถึงได้เห็นชื่อของเธออยู่ในยอดการค้นหานั้นบ่อยๆ......" "มีคนวางแผนอยู่เบื้องหลังค่ะ" จิดาภาเองก็รู้สึกเลี่ยงไม่ได้ จึงเล่าเรื่องนี้ให้พี่นัฎฟังทั้งหมด พี่นัฎที่อยู่ปลายสายนั้นพอได้ยินเรื่องนี้เข้า เธอก็รู้สึกโมโหเสียจนแทบจะระเบิดออกมา “นี่มันอะไรกัน?พวกเขาเป็นคู่รักกัน คนนึงอยากจะรับบทเป็นพระเอก อีกคนก็อยากจะเป็นนางเอก อาศัยความสามารถตัวเองแย่งชิงมาไม่ได้ ก็คิดหาแผนการเพื่อมาบีบให้เธอออกไปอย่างนั้นหรือ ทำแบบนี้แล้วคิดว่าพวกเขาจะสมหวังกันสินะ!” พี่นัฎพูดมาถึงตรงนี้ แล้วจึงถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด “ตอนนี้พี่ชินไปแล้วล่ะ เหมือนกับว่าไม่ว่าเธอจะไปอยู่ที่ไหน ก็จะเจอแต่เรื่องวุ่นวายแบบนี้ตลอดเลยนะ” “แล้วที่กองเขาว่าอย่างไรบ้าง? คงจะต้องมีวิธีการแก้ปัญหาอยู่แล้วสินะ” “พวกเขาจะเปลี่ยนตัวพระเอกค่ะ” จิดาภาว่า พี่นัฎถอนหายใจออกมา “ก็คงประมาณนี้แหล่ะ....นี่ถ้าพี่ไม่ได้เตรียมตัวสำหรับจะตั้งครรภ์นะ อยากจะไปอยู่กับเธอจริงๆ ผู้ช่วยที่บอสหาให้เธอน่าเชื่อถือได้หรือเปล่า? ทำไมมีแต่ข่าวร้ายแรงแบบนี้ออกมาบ่อยๆ” “พี่เตรียมที่จะตั้งครรภ์ไปเถอะค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉันนะ” “พี่ไม่เป็นห่วงได้รึไง? นักข่าวพวกนั้นเขียนเรื่องราวของเธอกับบอสราวกับว่าเป็นวันสิ้นสุดโลกอย่างไรอย่างนั้น เหมือนกันว่าเธอถูกเค.เอฟปล่อยทิ้งไปตั้งนานแล้ว พี่เห็นแล้วพี่ก็โมโห!” จิดาภารู้ว่าพี่นัฎเป็นห่วงเธอมาก เธอสองคนคุยกันอยู่นาน ถึงได้วางสายกันไป และไม่นาน จิรภาสก็โทรเข้ามาหาเธอ “คุยกับใครอยู่หรือครับ ผมโทรหาคุณตั้งนาน โทรไม่ติดเลย.....” “คุณลองทายดูสิคะ” จิดาภาเอ่ยถามกลับไปด้วยรอยยิ้ม “ดูแล้วช่วงนี้ตฤณคงจะงานเยอะมากเกินไปแล้วสินะครับ ถึงได้ไม่มีเวลาให้ภรรยาของตัวเองเลย พรุ่งนี้ผมจะให้เขาหยุดงาน” “ดึกขนาดนี้แล้ว คุณโทรมามีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?” ลางสังหรณ์ของเธอนั้นมักจะแม่นเสมอ “ครับ เดิมทีเรื่องนี้ได้ถูกควบคุมไว้ได้แล้วล่ะครับ แต่ปรียสยังคงไม่ยอมง่ายๆ เขาไปพูดคำพูดที่ไม่ได้มีอยู่จริงกับพวกนักข่าวนั่นอีก” “เมื่อครู่นี้ฉันก็เจอกับนวาระค่ะ ไม่ว่าจะว่าอย่างไรนั้น ฉันรู้สึกว่าการที่พวกเขาได้มาเดินด้วยกันได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ฉันมองออกค่ะว่านวาระชอบคุณปรียสจริงๆ เพียงแต่เขาจิตใจที่คดเคี้ยวแบบนี้นั้น คุณนวาระก็จนปัญญาเหมือนกันค่ะตอนนี้” “ผมไม่สนหรอกครับว่าพวกเขาจะผ่านเรื่องอะไรกันมายากง่ายแค่ไหน ผมมีเพียงแค่ประโยคเดียวที่จะพูดออกมาว่า ใครหน้าไหนที่มารังแกคุณ นั่นคือเขากำลังรนหาที่ตาย” น้ำเสียงของจิรภาสนั้นทุ้มต่ำลงมาก “ผมส่งคนไปจัดการแล้วครับ คุณไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น ดูแลตัวเองดีๆนะครับ”
已经是最新一章了
加载中